เพื่อนบ้านน่ารำคาญ ทีมร่วมเมือง เมื่อมาเจอกันในรายการใดก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่มักใส่กันยับ เพราะศักดิ์ศรีมันยอมกันไม่ได้ หากทีมไหนได้รับชัยชนะในศึก ดาร์บี้แมตช์ ตัวอย่างเช่น ลอนดอนดาร์บี้ แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ หรือ เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ วันต่อมาแฟนบอลทีมนั้น เรียกว่าคุยยับ บลัฟหนักหน่วงแทบทั้งวัน ส่วนทีมที่แพ้ก็แทบแทรกแผ่นดินหนี แทบไม่ทัน อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว

แต่วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง ลอนดอนดาร์บี้ ซึ่งมีหลายทีมอย่างมากในกรุงลอนดอน มาดูกันว่า ทำไมศึกนี้ถึงมีหลายเกม เพราะเหตุใด

ลอนดอนดาร์บี้ ทำไมถึงมีเยอะ

ส่วนใหญ่เกมการแข่งขันต่างๆ ทีมร่วมเมือง มีไม่กี่ทีม เต็มที่ก็สองสามทีม ยกตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล, แอตเลติโก มาดริด และ เรอัล มาดริด

ซึ่งตัวอย่างที่ยกมา เป็นสองทีมยักษ์ใหญ่ และต่างชิงชัยกัน ในการแย่งความเป็นใหญ่ โดยทั้งสองทีม ที่เป็นคู่อริร่วมเมือง ต่างแข่งกัน ทำผลงาน ในเกมลีกให้ดี และต้องการทำอันดับ ให้เหนือกว่า ทีมเพื่อนบ้านน่ารำคาญ ให้ได้

โดยพวกเขา ต่างเอาแรงผลักดัน ของผลงานทีมเพื่อนบ้าน พยายามก้าวแซง และก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ ยิ่งอันดับในลีกเหนือกว่า ยิ่งบลัฟกันยับ และในเกมที่ต้องเจอกัน ไม่ว่าจะรายการไหน ก็แล้วแต่ ทั้งสองทีมในศึกดาร์บี้ ก็พร้อมสู้ถวายหัว เพื่อคว้าชัยชนะ เหนือทีมอริร่วมเมือง ให้จงได้

เพราะไม่ใช่แค่เรื่อง ผลแพ้ชนะเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของจิตใจ และเรื่องของการแสดง ให้รู้ว่าทีมไหน เหนือกว่ากันนั้นเอง ซึ่งแฟนบอลต่างเฝ้ารอ และเชียร์สุดใจ เพื่อให้ทีมรักของตนเอง เอาชนะทีมอริร่วมเมือง ให้ได้

แฟนบอลบางราย แทบจะไม่คุยกันด้วยซ้ำ หรือ จากปกติที่พูดคุยกัน แต่เมื่อเกมดาร์บี้แมตช์ มาถึง อาจจะด่ากันเลย ก็ยังมี เพราะเชียร์คนละทีม แต่ทว่าทางฝั่ง กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ดินแดนแห่ง ต้นกำเนิดฟุตบอล มีหลายทีม ที่อยู่พื้นตั้งในกรุงลอนดอน อย่างมากมาย

มีหลายทีม ยังอยู่บนลีกสูงสุด อย่าง พรีเมียร์ลีก อีกด้วย เช่น เชลซี ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, อาร์เซนอล, คริสตัล พาเลซ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นี่ยังไม่รวมหลายทีม ในศึกลีกล่างๆ เช่น ฟูแล่ม, ควีน พาร์ค เรนเจอร์ส เป็นต้น

โดยการเจอกัน ของทีมในกรุงลอนดอน ก็จะถูกเรียกได้ว่า ลอนดอนดาร์บี้ แต่ทว่าความเข้มขน การเกลียดขี้หน้า การถูกมองว่า เป็นคู่อริ ที่ต้องการก้าวผ่านไปให้ได้ แม้หลายทีม จะอยู่ในกรุงลอนดอน เช่นกัน

แต่เนื่องจาก ทีมและสโมสร มีตั้งอยู่ทั่วกรุงลอนดอน ดังนั้น ทีมไหนที่อยู่ใกล้กัน ก็จะเกลียดขี้หน้า มีการบลัฟกัน อย่างรุนแรง หรือถึงขั้น มีการยกพวกตีกัน เป็นประจำ ก็มีออกบ่อย โดยทีมที่อยู่ใกล้เคียงกัน แน่นอนว่า พวกเขาไม่มีใครยอมใคร

ยกตัวอย่างเช่น สเปอร์ส กับ อาร์เซนอล ที่เรียนตามตรง ตีกันยับ แม้จะไม่มี การแข่งขัน ที่ต้องหวดแข้งกัน แฟนบอลนอกสนาม เรียกว่า ใส่เสื้อทีมรัก ไปเดินเพ่นพ่าน แถวแหล่งทีมอริคู่ตรงข้าม ไม่ได้เลย

สาเหตุที่สโมสรหลายทีม ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เพราะว่ากันว่า เมืองนี้เป็นเมืองหลวง ของประเทศอังกฤษ ทำให้มีความเจริญ เป็นอันดับหนึ่ง ของประเทศ อันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องของธุรกิจ และจำนวนประชากร ไม่แปลกที่เมืองนี้ จะมีแฟนฟุตบอลมากมาย อันเป็นที่มา ของการมีหลายทีม อยู่ในกรุงลอนดอน

ดังนั้น เมื่อมีข่าวว่าทีมนั้น ตั้งสโมสรฟุตบอล ตรงพื้นที่ส่วนอื่น ก็ตั้งตามมากัน ตามๆ กันไปนั่นเอง โดยก็เริ่มจากการร่วมตัวของกลุ่มคนหลากหลายอาชีพ หลากหลายแขนง ก็สุดแล้วแต่ที่จะตกลงกันตั้งสโมสร ซึ่งหลายทีมก็มีอายุร้อยกว่าปีกันเลยทีเดียว มีตำนานและประวัติศาสตร์อย่างมากมาย

ปัจจุบันมีสโมสรที่มีถิ่นฐานอยู่ในกรุงลอนดอนไม่ต่ำกว่า 20 สโมสร ทั้งลีกสูงสุด ไปจนถึงรายการสมัครเล่น ทำให้ปรากฎ เกมลอนดอนดาร์บี้ อยู่บ่อยครั้ง ต่างจาก ดาร์บี้แมตช์เมืองอื่นๆ ที่หนึ่งฤดูกาล อาจจะมีเต็มที่ 3-4 หนเท่านั้น

Posted in บทความฟุตบอล

ในการซื้อ-ขายนักเตะ มีเรื่องมากมาย ให้พูดถึง ทั้งสื่อที่ต่างเขียนข่าวกัน ไม่เว้นแต่ละวัน ว่าทีมไหนสนใจนักเตะรายไหน ความคืบหน้าเป็นอย่างไร โดยลักษณะสัญญา ในการซื้อ-ขาย ของนักเตะแต่ละราย และแต่ละทีม มีความแตกต่างกันออกไป บางดีลก็จะมีออฟชั่นแปลกๆ อย่างเช่น ออฟชั่นซื้อกลับ

โดยวันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะเจาะจง การซื้อขาย แบบมีการซื้อกลับ โดยจะขยายความ ในแบบฉบับ ที่เข้าใจง่าย ในสไตล์ของพวกเราเช่นเคย

ออฟชั่นซื้อกลับ คืออะไร มีความจำเป็นหรือไม่?

สำหรับออฟชั่นซื้อกลับ ถามว่ามีความจำเป็น หรือไม่ ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับสโมสร และทีมงานบอร์ดบริหาร รวมถึงเฮ้ดโค้ช แม้ว่าจะต้องการปล่อยตัว ผู้เล่นรายนั้นออกไป แต่จะต้องการ ที่จะใส่ออฟชั่นซื้อขาย หรือไม่นั่นเอง

แต่ก็ต้องดูทางสโมสรคู่ค้า ว่าพวกเขาต้องการให้มี ออฟชั่นดังกล่าว ระบุลงในสัญญาด้วยหรือไม่ ถ้ากรณีที่ต้องตกลง ก็มีการพูดคุยกันอีกที ว่าจะใส่ราคาซื้อกลับ เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ ตามที่สองสโมสร พึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย

ถ้าหากอีกสโมสร ไม่ยินยอมตกลง ที่จะให้ใส่ออฟชั่นซื้อกลับ เผลอๆ ดีลนั้น อาจจะมีการล้มโต๊ะเจรจา กันไปเลยก็ได้ โดยเป้าหมายของทีม ที่ต้องการใส่ออฟชั่นซื้อกลับ คืออาจจะหวังว่า ในอนาคต ผู้เล่นรายนั้น จะทำผลงาน กับต้นสังกัดใหม่จนดิบดี และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ก็จะทำการยื่นซื้อ กลับมาร่วมทีม ตามที่ในสัญญาระบุ ออฟชั่นนี้ไว้นั่นเอง

โดยออฟชั่นนี้ มักจะเกิดกับ สโมสรใหญ่ๆ ที่จะปล่อยตัวนักเตะ ไปให้กับสโมสรเล็กกว่า นั่นก็มีเหตุมาจาก สโมสรใหญ่ๆ เหล่านั้น มักมีอำนาจการต่อรอง ที่สูงกว่า สโมสรเล็กๆ อยู่แล้ว หากอยากได้นักเตะข้าไปร่วมทีม ก็จงยอมใส่ออฟชั่นนี้ซะ อะไรแบบนี้ครับ

ซึ่งก็ถือว่า เป็นการวางแผน อนาคตของทีมได้ดี และป้องกัน การเสียนักเตะที่คาดว่าจะเป็น ซูเปอร์สตาร์ในอนาคต ได้อีกด้วย แต่หากว่า นักเตะรายนั้น ไปไม่สุดกับต้นสังกัดใหม่ ทีมที่ใส่ออฟชั่นซื้อกลับ ก็ไม่มีความจำเป็น ต้องยื่นข้อเสนอ ซื้อตัวกลับมา ก็เป็นได้ หรือถ้าอยากให้กลับมา ก็สามารถใช้เงื่อนไข ตามสัญญาระบุได้นั่นเอง

ก็ถือว่าสโมสรที่ใช้ออฟชั่นนี้ ก็ได้วางเป้าหมายแผนการทำทีม แผนการเสริมทัพนักเตะได้ดีพอสมควร โดยเป็นแผนการที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ในการเสริมทัพนักเตะนั่นเอง ซึ่งปัจจุบัน ออฟชั่นซื้อกลับ ไม่ค่อยมีการนิยมใช้กันแล้ว

เนื่องจากสโมสรที่ซื้อตัว มองว่า พวกเขาเสียเปรียบเกินไป หากนักเตะรายนั้น โชว์ฟอร์มได้ดีกับทีม เป็นกำลังสำคัญ ที่พาทีมทำผลงานได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องโดนเงื่อนไข ออฟชั่นซื้อกลับ ทำให้ต้องขายนักเตะรายนี้ แบบจำใจ เพราะอยู่ในสัญญาเงื่อนไข

จึงทำให้ ทีมที่ซื้อนักเตะ ส่วนมากจะไม่ตกลงปลงใจให้มี ออฟชั่นซื้อกลับ แต่ส่วนมากจะพยายามเลี่ยงเป็น ให้สโมสรที่ขาย มีสิทธิ์แรกในการสอบถาม ความเป็นไปได้ ในการจะซื้อนักเตะรายนั้น กลับมาค้าแข้ง เสียมากกว่า ซึ่งก็ต้องว่ากันไป ตามเงื่อนไขสัญญา และตามที่สองสโมสรตกลงกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ออฟชั่นการซื้อกลับ ก็ถือว่า ทีมที่ขายได้เปรียบกว่า ทีมที่ซื้ออย่างมาก เพราะทีมที่ขาย หากนักเตะรายนั้น ทำผลงานโชว์ฟอร์ม ได้อย่างประทับใจ กับต้นสังกัดใหม่ และเป็นตำแหน่งที่ทีมที่ขาย ขาดไปหรือต้องการเสริมทัพ ตำแหน่งนั้นๆ ให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ก็สามารถใช้ออฟชั่นซื้อกลับ เจรจาดึงนักเตะรายนั้น กลับมาเล่นให้กับทีมได้

โดยที่สโมสรที่ซื้อไป ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่มองตาปริบๆ แต่ถ้าหากว่า นักเตะรายนั้น ไม่ต้องการกลับไปเล่น ให้กับสโมสรที่ขายเขามา ก็ทำได้เช่นกัน ตรงนี้จุดสำคัญ ก็ขึ้นอยู่กับตัวนักเตะเองด้วย ว่าต้องการอย่างไร มีการตัดสินใจกันอย่างไร

ส่วนสุดท้ายแล้ว ออฟชั่นซื้อกลับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองสโมสร รวมถึงเอเย่นต์ตัวแทนของนักเตะ มีความยินดี ที่จะระบุเงื่อนไขนี้ ลงในสัญญาด้วยหรือไม่ ซึ่งถ้าตกลงปลงใจ ก็มีโอกาสเหมือนกัน ที่จะได้เห็น แข้งที่ถูกขายออกไป กลับมาทีมเก่าในไม่กี่ฤดูกาล

หรือ ก็มีโอกาสเหมือนกัน ที่แข้งรายนั้นไม่ย้าย อยู่กับทีมที่ซื้อตัวเขาต่อไป หรือ ไม่ก็ยายไปทีมอื่น ซึ่งวงการฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แถมสโมสรหลายสโมสร ก็เป็นทีมชั้นนำ มีการจัดการบริหารสโมสรที่ดี เป็นทีมใหญ่ พร้อมทำการแข่งขัน และมีความเป็นมืออาชีพอย่างสูง

ซึ่งเอาง่ายๆ แค่ ศึกพรีเมียร์ลีก ที่แฟนบอลชาวไทย ให้ความสนใจมากที่สุด เตะกันไม่กี่นัด ก็เจอ ลอนดอนดาร์บี้ กันแล้วและส่วนใหญ่ ใส่กันเต็มเหนี่ยว เล่นกันสนุกอีกด้วย นี่คือหนึ่งสเน่ห์ ในรายการพรีเมียร์ลีก และวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่ทำให้ลีกนี้ มีความนิยมมากที่สุดในโลกของฟุตบอล

Posted in บทความฟุตบอล

ตัวเต็งเก้าอี้ตก ตัวเต็ง ตกเก้าอี้ ถูกแล้ว! ไม่ได้หมายความว่า เป็นคนที่ล้มจากเก้าอี้ แต่ศัพท์ในวงการฟุตบอล หมายความว่า เป็นกุนซือ เฮ้ดโค้ช ของสโมสรและทีมชาติ ที่ส่อแววจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยลีกต่างๆ แม้จะเพิ่งเปิดฤดูกาล กันไปไม่นาน แต่ก็มีการคาดหมาย ตัวเต็งที่จะถูกปลดจากตำแหน่งกันเสียแล้ว

วันนี้ วิเคราะห์บอล UFA จะชวนเพื่อนๆ มาคิดไปพร้อมๆ กัน ว่าการที่ กุนซือ คนใดคนนึง ถูกคาดหมายว่า จะเป็นคนที่จะโดนไล่ออกก่อนใครเพื่อน นั้นแสดงให้เห็นถึงอะไรบ้าง และแฟนบอลควรเป็นห่วงหรือไม่

ตัวเต็ง ตกเก้าอี้ บอกอะไรเราได้บ้าง

ตัวเต็ง ตกเก้าอี้ หมายความว่า เฮ้ดโค้ชหรือกุนซือ ที่คุมทีมอะไรก็แล้วแต่ ในวงการฟุตบอล จะสโมสร หรือระดับทีมชาติ ส่อแวว มีสิทธิ์ถูกปลด ออกจากตำแหน่ง ซึ่งสาเหตุ ของการมีโอกาส ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

นั่นก็คือ ตัวเฮ้ดโค้ชเอง ไม่สามารถพาทีม ทำผลงาน ได้ตามเป้าหมาย แพ้เยอะเกินไป ทำทีมแบบไร้ทรง ไร้คุณภาพ ไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จ ตามที่ทีม วางเป้าหมายไว้ได้ นั่นเอง

ซึ่งสำหรับ วงการฟุตบอล ระดับสโมสร ก็มีกุนซือโดนปลด เป็นว่าเล่นทุกปี ตัวอย่างก็ บอลไทยลีก ของบ้านเรา ที่แต่ละปี จะมีการเปลีย่นแปลงกุนซือ กลางฤดูกาล กันเป็นประจำ เรียกได้ว่า คนที่จะคุมทีมครบฤดูกาล ยังมีสัดส่วนที่น้อยกว่าอีกครับ

ซึ่งก่อนจะโดนปลด ผลงานของทีมนั้น เรียกได้ว่าย่ำแย่ อย่างมาก มีสัญญาณได้ชัดเจนว่า กุนซือรายนั้น เก้าอี้กำลังร้อน โดยรูปทรง และรูปแบบการเล่น ส่วนมากจะไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งทีมเล่นแบบไม่ได้ลุ้น เล่นแบบรอรับ ความพ่ายแพ้ จนโดนวิจารณ์กันสนั่น และ กระแส ของแฟนบอล มีแต่ด้านลบ จนผลงานไม่มีกระเตื้อง

พอผ่านไปได้ไม่นาน กุนซือรายนั้นก็ถูกปลด ซึ่งเป็นเรื่องปกติในวงการฟุตบอล แต่กระแสตัวเต็ง ของกุนซือ ที่ส่อแววจะโดนตะเพิด ออกจากตำแหน่ง กุนซือของทีม บ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง

ขั้นแรกเลย ที่เห็นได้ชัดเจน จับต้องได้มากที่สุด ก็คือ การทีมทำผลงาน ได้อย่างย่ำแพ้ ไม่ชนะใครติดต่อกัน หลายต่อหลายเกม รวมถึงทรงฟุตบอล ไม่มี ระบบแบบแผน ไม่สามารถต่อกรคู่แข่งได้ แม้กระทั่งได้เล่นในบ้าน ต่อหน้าแฟนบอล ก็ไม่สามารถคุมทีม ทำผลงานได้ดีขึ้นเลย

ต่อมา อาจเป็นเรื่อง ของการจัดการ ภายในสโมสร ทั้งเรื่องแทคติกส์ การวางแผน การจัดการ ดูแลลูกทีม สื่อสาร และทำความรู้จักกับลูกทีมไม่ดีพอ คุมสถานการณ์ไม่อยู่ จัดการภายในห้องแต่งตัวไม่ได้ ลูกทีมไม่เชื่อฟัง ก็ส่อแววถูกปลดออกจากตำแหน่ง ได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งภาพที่เห็นได้ชัด ว่าทีมไหน กุนซือรายนั้น ส่อแววถูกตะเพิด ออร่าราศีมันก็บ่งบอกได้ชัด ถึงความหม่น บรรยากาศของทีม ที่ไม่สู้ดีนัก เล่นแบบไร้ทรง ไร้แรงจูงใจ ยิ่งเห็นแบบนี้แล้ว ยิ่งเป็นผลดีกับทีมคู่แข่ง ที่รอกระหน่ำซัด ให้สถานการณ์ของทีม แย่กว่าเดิมเข้าไปอีก

เมื่อตัวเฮ้ดโค้ช ไม่สามารถพาทีม ทำผลงานได้ดี หรือไม่สามารถวางหมาก พลิกสถานการณ์ภาพรวม ของทีมให้ดีได้ มีแต่ถอยหลังลงคลอง ก็ต้องถูกปลด ออกจากตำแหน่ง ไปในที่สุด เพื่อกุนซือคนใหม่ ที่พร้อมกว่า เข้ามากอบกู้สถานการณ์ได้

ยิ่งกับทีมที่สุ่มเสี่ยง ที่จะตกชั้น ส่วนมากจะแก้ปัญหา อย่างรวดเร็ว ด้วยการหากุนซือคนใหม่ เข้ามารีบทำผลงาน ให้กระเตื้องขึ้นมา จากนั้นปัญหาภายในสนาม และนอกสนาม อาจจะกลับสู่โมเมนตัมที่ดีได้

แต่บางทีม ก็ยังจมปรัก ใช้เฮ้ดโค้ชคนเดิม เพราะความเชื่อมั่น และไว้วางใจ แต่ตรงกันข้าม กับผลงานของทีม ที่มีแต่สาละวันเตี้ยลง ตรงนั้นก็แล้วแต่ บอร์ดบริหารของแต่ละสโมสร จะจัดการกันอย่างไร

ผลสุดท้ายแล้ว กระแสการปลดโค้ช และตัวเต็งที่เฮ้ดโค้ชของทีมนั้น มีโอกาสที่จะถูกปลดอย่างสูง ก็บอกอะไรได้ชัดเจน ว่าทีมนั้น ทำผลงานได้ย่ำแย่ กว่าที่ควรจะเป็น และไม่มีทีท่าว่า จะขึ้นแต่อย่างใด

ตรงนี้มีทั้งสื่อข่าววงใน และวงนอก เขียนข่าวกัน ไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งทำให้สถานการณ์ ของทีมนั้น ดูย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม ผลสุดท้ายเมื่อไม่มีอะไรดีขึ้น ทางสโมสร หรือทีมชาติ ก็ต้องเลือกกุนซือคนใหม่ เข้ามาแก้ไขปัญหา พาทีมทำผลงานให้ดีขึ้น กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นให้จงได้

Posted in บทความฟุตบอล

การจะเป็น ตำนานสโมสร นั้น ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เพราะนักเตะคนนั้น ต้องทำผลงาน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง หลายต่อหลายอย่าง ซึ่งมาดูกันว่า คุณสมบัติ ในการเป็น ตำนานของสโมสร นั้นควรจะมีอย่างไรบ้าง และเป็นยากแค่ไหนอย่างไร

โดยบทความนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ตั้งใจสร้างสรรค์ผลงาน มาฝากเพื่อนๆ เช่นเดิมครับ

ตำนานสโมสร เป็นยากแค่ไหน

นักเตะทุกราย ล้วนมีความใฝ่ฝัน อยากจะประสบความสำเร็จ ให้ได้มากที่สุด สำหรับการลงแข่งขันฟุตบอล ได้คว้าแชมป์ มีเกียรติประวัติความสำเร็จติดตัว ช่วยทีมต้นสังกัด ให้ประสบความสำเร็จ มากที่สุด เป็นที่พูดถึง เป็นซูเปอร์สตาร์ และ เป็นตำนาน ของวงการฟุตบอล ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เพราะมีแค่นักเตะไม่กี่คน เท่านั้น ที่ไปถึงตำแหน่งนั้น โดยเฉพาะกับการ ก้าวไปเป็นตำนานสโมสร ที่ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นแชมป์ ช่วยทีมคว้ารางวัลเป็นว่าเล่น หรือยิงหลักร้อยประตู แอสซิสต์หลักร้อยประตู เพราะการเป็นตำนานสโมสร นั้นมันมีอะไรที่ยิ่งกว่าความสำเร็จและสถิติส่วนตัว โดยคุณสมบัติ ของตำนานสโมสร

แน่นอนว่า ต้องอยู่กับทีม อย่างยาวนาน และเป็นกำลังสำคัญ ของทีมมาโดยตลอด โดยไม่ต้องเป็น ตำแหน่งกองหน้า ที่คอยถล่มประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่น ก็ได้ แต่เป็นนักเตะตำแหน่งใดก็ได้ ที่มีอิมแพ็คต่อทีม และลงสนามช่วยทีม ผ่านประสบการณ์ ทั้งร้อนและหนาว ของทีม มาอย่างโชกโชน เป็นนักเตะฟันเฟืองสำคัญของทีม

โดยเป็นนักเตะ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ ได้รับการยอมรับจากแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม เป็นนักเตะตัวหลัก ที่ได้ลงสนามให้ทีมบ่อยๆ โดยแทบจะเป็น นักเตะที่ขาดไม่ได้ด้วยซ้ำ และที่สำคัญต้องอยู่กับทีม นานพอสมควร แทบจะเป็นคีย์แมน เป็นส่วนสำคัญในการช่วยทีม ทำให้ผลงาน ได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นแข้งที่โดดเด่น และเป็นที่รักของแฟนบอล

และที่สำคัญ ต้องอยู่กับทีม ไม่ว่าสถานการณ์ของทีม จะเป็นยังไง ไม่ว่าจะดี หรืออยู่ในช่วงเลวร้าย พวกเขาเหล่านั้น ก็มักจะอยู่เคียงข้างกับทีม เรียกได้ว่า ไม่มีการสละเรือ ในยามที่ทีม ประสบกับความยากลำบาก ผู้เล่นบางคน ยอมลดค่าเหนื่อย หรือยอมไปเล่น ในดิวิชั่นรอง ก็มีอยู่เช่นกัน

คุณสมบัติที่ว่ามานี้ น้อยคนนักที่จะก้าวไปถึงตำแหน่งนั้นได้ โดยหลายแข้ง แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์ของทีม แต่ก็ไม่ได้ถูกนับเป็นตำนานของสโมสรแต่อย่างใด เพียงแต่จำได้ว่า ครั้งนึงเจ้าตัว เคยสวมเสื้อให้กับทีมนั้น และลงเล่น เพื่อทำผลงานในสนาม ตามปกติเท่านั้น

ซึ่งความเป็นตำนานของสโมสร ในยุคปัจจุบัน ถือว่าหายากมาก จะว่ากันตามตรง ด้วยยุคสมัย ที่เปลี่ยนแปลงไป นักเตะหลายราย ไม่อยู่กับสโมสรใดสโมสรหนึ่ง นานเกินไป เว้นแต่ว่าเป็นดาวรุ่ง เป็นเยาวชนของสโมสร

โดยปัจจุบัน นักเตะมาเล่นให้ไม่นานก็ย้ายสังกัด เพื่อความก้าวหน้าของอาชีพหรือต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ หาความท้าทายใหม่ แม้ว่าแข้งรายนั้นจะทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัดใหม่ ถ้าไม่ได้แบกทีมจนหลังแอ่นทุกฤดูกาล เป็นนักเตะที่สโมสรไม่สามารถขาดได้เลย ก็ไม่ถูกนับว่าเป็นตำนาน

ไม่เหมือนยุคก่อน ที่แข้งตัวหลักของทีม จะอยู่สู้กับทีมอย่างยาวนาน พร้อมอยู่กับทีมในวันที่แย่และก้าวผ่านไปด้วยฟอร์มที่ดีผลงานที่ดีในบั้นปลาย เรียกได้ว่าร่วมหัวจมท้ายกับทีม นี่ก็คือว่าถูกนับเป็นตำนานได้เช่นกัน

คำว่า ตำนานสโมสร ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ เลย แม้กระทั่งแข้งหลายราย ที่ไม่ได้อยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ แต่ก็อยู่กับทีมมาโดยตลอด ไม่หนีไปไหน พร้อมเป็นตัวหลักคนสำคัญให้กับทีมได้ตลอด ก็ถูกนับว่าเป็นตำนานได้เช่นกัน

แต่ส่วนใหญ่ นักเตะที่ถูกกล่าวขาน ให้เป็นตำนานของสโมสร มักจะเป็นตำนานศูนย์หน้า ที่ใส่สกอร์ให้กับทีมได้เป็นกอบเป็นกำ เป็นนักเตะ ติดทำเนียบ ดาวซัลโว ของสโมสร เพราะผลงาน ของกองหน้า มักเห็นได้ชัดเจน มากกว่าตำแหน่งอื่นๆ แค่ยิงประตูให้ได้เยอะๆ เป็นนักเตะที่ยิงประตูสำคัญ ให้กับทีมสม่ำเสมอ ก็เป็นขวัญใจแฟนบอลได้ไม่ยาก

แต่ว่าตำแหน่งอื่นๆ ที่ถูกขนานนามให้เป็นตำนานของสโมสร ก็มีความสำคัญ และคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ไม่แพ้กันเลย ทั้งกองหลัง ที่เป็นตัวหลัก เป็นแนวรับที่ไว้ใจได้ เป็นหัวใจของแนวรับของทีม พร้อมมีส่วนสำคัญ ในการช่วยป้องกันประตูต่างๆ รวมถึงผู้รักษาประตู ที่คอยเซฟจังหวะสำคัญ โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอ ลงเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งของทีม ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

ส่วนตำแหน่งแผงมิดฟิลด์ต่างๆ ก็ถือว่าโดดเด่นตามตำแหน่งที่ลงเล่น ไม่ว่าจะเป็น เพย์เมกเกอร์ ที่เป็นหัวใจหลักในเกมรุกของทีม ตำแหน่งปีก ไม่ว่าจะปีกซ้ายปีกขวา จะมีสกิลการจ่ายบอล เลี้ยงบอล ลากเลื้อยกระชากทำประตู มีโมเม้นต์ความประทับใจให้แฟนบอลพูดถึงได้ตลอด

หรือจะเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ที่คอยสกรีนบอลไม่ให้ทะลุไปแดนหลัง หรือจะมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์หรือตำแหน่งอื่นๆ ก็สามารถเป็นตำนานได้เช่นกัน

แม้ว่าคำว่านักเตะตำนานของสโมสรในยุคปัจจุบัน ว่ากันตามตรง แทบจะไม่ได้รับความสนใจมากแล้ว เพราะผู้คนมักจดจำผู้เล่นคนนี้ ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ เป็นแข้งเบอร์ต้นๆ ของโลกมากกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ตำนานของสโมสร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นแข้งที่คนทั่วโลกจดจำมากที่สุด แต่ก็เป็นแข้งที่แฟนบอลของสโมสรนั้นจดจำไว้ตลอดกาล ว่าเขาเคยเป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญของทีมมากขนาดไหนในอดีต ให้ลูกให้หลานได้พูดถึงกันต่อไป ตราบนานเท่านาน

Posted in บทความฟุตบอล

เมื่อการแข่งขันแบบ ทัวร์นาเมนต์ หากทั้งสองทีม เสมอกันในเวลาปกติ ทำให้ยังไม่สามารถตัดสิน หาผู้แพ้ชนะได้ บางรายการ ก็มีการต่อเวลาพิเศษ หรือดวลจุดโทษ ซึ่งสิ่งที่แฟนบอลลุ้นกันมากที่สุด และตื่นเต้นที่สุด นอกจากการแข่งขันเวลาปกติ นั่นคือ การดวลจุดโทษ ยิ่งกับ รอบชิงชนะเลิศ ด้วยแล้ว เรียกว่าแทบหยุดหายใจเลยทีเดียว

วันนี้ วิเคราะห์บอล UFA พาไปดูกัน ว่าการดวลจุดโทษ สนุกและเร้าใจ ได้มากแค่ไหน

การดวลจุดโทษ สนุกและเร้าใจแค่ไหน

สำหรับการแข่งขันฟุตบอล การจะมีการต่อเวลาพิเศษ หรือการดวลลูกจุดโทษ เลยนั้น ส่วนมากจะเป็นรายการทัวร์นาเมนต์ รอบลึกๆ ขึ้นไป หรือ รายการฟุตบอลถ้วย ที่ต้องการหาผู้แพ้ชนะในเกมนั้นเลย

ซึ่งบางรายการ ก็จะมีการต่อเวลาพิเศษกันก่อน หากในช่วงเวลาปกติยังเสมอกัน แต่หากช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมยังหาผู้แพ้ชนะกันไม่ได้ ก็จะต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษเพื่อหาผู้แพ้ชนะ แต่บางรายการก็มีการตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษกันเลย

หากทั้งสองทีมยังเสมอกัน ในเวลาช่วงปกติ ซึ่งการดวลลูกจุดโทษ เรียกได้ว่าเป็นการตัดสินหาผู้แพ้ชนะ ที่นอกจาก นักฟุตบอลเอง ยังเครียด กดดันมากอยู่แล้ว แฟนบอลและผู้ชมในสนาม รวมถึงการรับชม ตามสื่อต่างๆ ก็ได้ลุ้น สนุก ตื่นเต้น เครียด กดดัน ตามกันไป

เพราะอยากให้ทีมที่เชียร์ สามารถเอาชนะไปได้ในการดวลลูกจุดโทษ ซึ่งยิ่งเป็นรอบลึกๆ รอบน็อคเอ้าท์ ของรายการฟุตบอลต่างๆ ยิ่งตื่นเต้นในชนิดที่เรียกได้ว่า แทบจะเกือบลืมหายใจได้เลย

เพราะการดวลลูกจุดโทษ มีความสนุกและตื่นเต้นเร้าใจ อย่างมาก แม้จะไม่ใช่แฟนบอล หรือนักเตะในทีม ที่กำลังดวลลูกจุดโทษ เพราะรวมถึงแฟนบอลทั่วไป หรือ ผู้เล่นที่รับชมการแข่งขันฟุตบอลเพลินๆ ในช่วงยามว่าง ยังได้ลุ้นและดื่มด่ำบรรยากาศ การดวลลูกจุดโทษ แบบใจจดใจจ่ออีกด้วย

ซึ่งแค่การแข่งขันในช่วงเวลาปกติ ในทัวร์นาเม้นต์ หรือ ฟุตบอลถ้วย รายการแข่งขันต่างๆ ก็นับว่าสนุกอย่างมาก และควรค่าแก่การรับชมอยู่แล้ว แต่การดวลจุดโทษ เพื่อตัดสินหาผู้ชนะ เป็นอะไรที่สนุก และได้ลุ้นกันมากกว่านั้น อีกเท่าตัว เพราะการแข่งขันจนถึงกับต้องตัดสินฎีกา ในการดวลจุดโทษ ทำให้เกิดการได้ลุ้นอย่างมาก

โดยทุกการแข่งขัน ที่ต้องตัดสินกันในถึงการดวลจุดโทษ เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ ล่าสุด ในศึก ฟุตบอลยูโร ครั้งล่าสุด หรือ ยูโร 2021 ที่ผ่านมานี้เอง

อย่างการดวลจุดโทษ ในนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง อังกฤษ และ อิตาลี เป็นอะไรที่กดดันอย่างมากและไม่มีใครคาดเดาได้ ว่าทีมไหน จะมีโอกาสสังหารจุดโทษได้เหนือกว่ากัน แม้ว่า สถิติทางทีมชาติอิตาลี จะทำได้ดีกว่า อังกฤษ ก็ตาม

ผลสุดท้ายแล้ว ก็เป็น อิตาลี ที่ชนะการดวลจุดโทษต่อ ทีมชาติอังกฤษ และได้รับแชมป์ยูโรไปครอง ซึ่งช่วงระหว่างที่มีการดวลจุดโทษ ทั้งทีมฟุตบอลของทั้งสองชาติ แฟนบอลในสนาม และ ผู้ชมทางบ้าน ได้ลุ้นกันตัวโก่ง แทบลืมหายใจ ทั้งตื่นเต้น กดดันอย่างที่สุด

ซึ่งการดวลจุดโทษ ก็ถือเป็นการตัดสิน ที่เที่ยงตรงและยุติธรรม ในการหาทีมชนะ มากที่สุดในวงการฟุตบอล และมักจะมีเรื่องราวคลาสสิคให้พูดถึงเสมอ ยิ่งกับรายการสำคัญ รายการใหญ่ด้วยแล้วล่ะก็ นับว่าเป็นการเล่าขาน ที่เป็นประวัติศาสตร์กันไปตลอดกาล

คล้ายกับ กรณี การดวลลูกจุดโทษ ของ ลิเวอร์พูล กับ เอซี มิลาน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่ อิสตันบูล ประเทศอิสราเอล ซึ่ง แข่งในเวลาแข่งขันช่วงปกติ ก็พีคแล้ว เพราะ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ เอซี มิลาน 3-3 หลังจากโดนนำไปก่อน 0-3 แถมช่วงต่อเวลาพิเศษก็ลุ้นกันตัวโก่ง จนถึงขั้นต้องดวลด้วยลูกจุดโทษ

ซึ่งกลายเป็น ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอซี มิลาน คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ พลิกความคาดหมาย ราวกับ ปาฏิหาริย์ นั่นเอง ซึ่งการดวลจุดโทษ เป็นอะไรที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ สำหรับการชมฟุตบอลมากที่สุดแล้ว ยิ่งกับทีมที่เชียร์ด้วยแล้ว เรียกว่าเครียด ลุ้นกันเหนื่อยเลยทีเดียว หากใครก็ตาม ที่ยิงไม่เข้า แฟนบอลและผู้ชม แทบจะไรเดอร์คิ๊กใส่ทีวีของตัวเองกันเลยทีเดียว

แต่ถ้าอยากลุ้นไปด้วยและได้เงินไปด้วย ก็ต้อง Ufabet เวปดี ที่เราขอรับประกันความมั่นคงและปลอดภัย พร้อมบริการให้ท่านตลอด 24 ชั่วโมง สนใจ แค่พิมพ์คำว่า Ufabet และเข้าไปสมัครสมาชิก รับโปรโมชั่นดีๆ กันได้เลย รับรอง ว่าไม่มีผิดหวัง

Posted in บทความฟุตบอล

ก่อนจะเข้าสู่การแข่งขัน แต่ละรายกันนั้น จะต้องมีการเปิดเผยรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงกันก่อน ซึ่งการประกาศ รายชื่อตัวจริง จะมีประมาณก่อนการแข่งขัน กี่ชั่วโมง และมีความสำคัญต่อการ วิเคราะห์บอล อย่างไร

ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ได้เตรียมข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ต่อสายเดิมพันฟุตบอลออนไลน์ ไว้เรียบร้อยแล้ว เชิญอ่านกันอย่างเพลิดเพลินได้เลยครับ

รายชื่อตัวจริง มักจะออกตอนไหน สำคัญยังไงกับการ วิเคราะห์บอล

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง ส่วนใหญ่แล้ว จะมีการเปิดเผยขึ้น ในช่วงเวลา ก่อนการแข่งขัน เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง นั่นเอง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก กับการวิเคราะห์บอล

เพราะสำหรับ นักเดิมพัน ควรจะรู้รายชื่อ ผู้เล่นได้ที่ได้ลงสนาม ทั้ง 11 คน ก่อนทำการแข่งขัน เพราะจะทำให้ ทราบข้อมูล ว่าผู้เล่นคนไหน ได้ลงสนามบ้าง

ทีมนั้น ที่ต้องการเดิม พันลงทุน ได้ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ทั้งหมดหรือไม่ มีใครขาดหายไปบ้าง ตำแหน่งไหนขาด มีตัวเจ็บ ติดโทษแบน อดลงสนามหรือไม่

เพราะบางครั้ง นักเตะอดลงสนาม ด้วยสาเหตุที่ไม่คาดคิด หลายอย่าง เนื่องจาก อาจมีอาการบาดเจ็บ ระหว่างฝึกซ้อม ก่อนลงสนาม ตอนวอร์ม และเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ อีกมากมาย ที่พร้อมเกิดได้ทุกเมื่อ ก่อนการแข่งขัน

พอทราบว่า ใครจะได้ลงสนามบ้าง ก็สามารถเช็คราคา ได้อย่างสบายใจ แต่ก็ต้องมาดูราคา และสถานการณ์ ก่อนการแข่งขัน จะเริ่มอีกครึ่งชั่วโมง จะเป็นอะไรที่ชัวร์ และเพิ่มเติมความมั่นใจ ได้มากที่สุด

อย่างที่บอกไป อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก่อนการแข่งขัน จะเริ่มขึ้น ตรงนี้นอกจาก ดูรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง ที่จะได้ลงสนาม ในเกมนั้นแล้ว ก็ต้องมาวิเคราะห์ ด้วยว่า สถิติการลงสนาม ของทั้งสองทีม เป็นอย่างไร

ผลงานในช่วงนั้น เป็นอย่างไร ใครเล่นเป็นเจ้าบ้าน ใครเป็นทีมเยือน สถิติการเจอกัน เป็นอย่างไรบ้าง ฟอร์มในบ้าน และฟอร์มการออกไปเยือน ของทั้งสองทีม มีสถิติอะไรกันบ้าง ตรงนี้ก็จะช่วยได้ ในการตัดสินใจ

ประกอบกับ การรู้รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงแล้ว ก็มาดูที่ราคา ว่าต่อเยอะไปไหม หรือน่าจะพอดีคำ หรือจะเล่นทีมรองดีกว่า ซึ่งก็บวกกับ ราคาค่าน้ำ กันอีกที ซึ่งตรงนี้ จะช่วยลดความเสี่ยง ที่จะหูฉีก ได้อย่างมาก

เพราะการรู้ข้อมูล ก่อนการเดิมพัน มันช่วยให้ โอกาสได้รับทรัพย์ มีสูงขึ้น กว่าการที่ ไปกดหน้างาน ตามใจชอบ เพราะการทำแบบนั้น ไม่ต่างอะไร กับการที่หลับตา เสี่ยงทาย โดยไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย แม้แต่น้อย

ดังนั้น ควรหาข้อมูล ก่อนเกมการแข่งขัน ว่า 11 รายชื่อตัวจริง ของทีมที่สนใจจะเดิมพัน ใครได้ลงสนามบ้าง ยิ่งกับทีมใหญ่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มเติม เสริมความมั่นใจ ได้มากขึ้น ยิ่งเป็นเกมที่ ทีมใหญ่เจอทีมเล็ก และได้บู๊เต็มสูบ

ยิ่งทีมใหญ่ ได้เล่นในบ้าน แบบฟูลทีม ยิ่งได้เปรียบ แต่ก็ต้องดูว่า ทีมเยือนผลงาน เป็นอย่างไร เล่นได้เหนียวแน่นไหม สถิติทีมเยือนดีไหม ทีมต่อเล่นในบ้าน เป็นอย่างไร ยิ่งได้เยอะไหม ฟอร์มช่วงนั้น กำลังทำผลงานได้ดี หรือไม่

ตรงนี้ก็ต้องดูสถิติ และการวิเคราะห์ จาก กูรู เวปไซต์ที่น่าเชื่อถือได้ เพราะจะให้ข้อมูล แม่นยำอย่างยิ่ง ช่วยเพิ่มการวิเคราะห์ และการตัดสินใจ ให้ผู้ที่มีใจรักการเดิมพัน ฟุตบอลออนไลน์ มีโอกาสได้รับผลกำไร แบบเสี่ยงน้อยที่สุด

ยิ่งรู้เยอะยิ่งดี เพราะดีกับตัวเราเอง และช่วยลดความเสี่ยง ได้อย่างมาก สังเกตุได้เลย รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง จะเปิดเผยขึ้น ก่อนการแข่งขันประมาณ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยสามารถหาข้อมูลได้ ตามเพจของสโมสรในเฟซบุ๊ค

หรือจะเป็นเวปไซต์ ที่น่าเชื่อถือหลายเวป เช่น Livescore เป็นต้น แต่ถ้าหากทุกท่าน หาข้อมูลการวิเคราะห์บอล ก่อนการเดิมพันแล้ว แต่ยังไม่สามารถหา เวปไซต์เดิมพัน ที่ให้อัตราต่อรองที่ยอดเยี่ยม และพร้อมจ่ายสูงกว่าใคร พร้อมบริการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปพนันออนไลน์ที่ดีที่สุด รับรองไม่มีผิดหวังครับ

Posted in บทความฟุตบอล

เข้าสู่การแข่งรายการชิงแชมป์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมส รระดับทวีปยุโรป หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยถ้วยรางวัลหูใหญ่ใบนี้ เป็นถ้วยที่แต่ละสโมสรที่ได้เข้าแข่งขัน ต่างมีเป้าหมาย ที่จะเป็น แชมป์ UCL สูงสุด

แต่ วิเคราะห์บอล UFA พาไปดูกันว่า ประวัติศาสตร์ของถ้วยนี้ สโมสรใด ได้แชมป์มากที่สุด โดยเราคัดมาเฉพาะๆ เนื้อๆ เน้นๆ ให้คุณผู้อ่าน ได้เสพย์กันอย่างเพลิดเพลินในยามว่าง

แชมป์ UCL สูงสุด มีใครบ้าง

ก่อนที่จะไปดูว่าทีมแชมป์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีทีมไหนบ้างที่ได้จับถ้วยนี้ไปประดับตู้ของสโมสร ทางเราขอแนะนำ หนึ่งเวปไซต์เดิมพันออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและไม่อั้นราคา พร้อมเปิดอัตราการต่อรองสูงที่สุด

คือเวปไซต์ Ufabet เวปเดียว ที่รับจบทุกการเดิมพัน ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย เดิมพันฟุตบอลออนไลน์ กีฬา อื่นๆ เกม และ คาสิโน เรามีครบให้ทุกท่าน เหมือนยกคาสิโนมาไว้เพียงแค่ปลายนิ้วมือของท่านเท่านั้น

สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษได้ที่ Ufabet ที่เดียวเท่านั้น เสิร์ชเลย มาต่อกันที่ทำเนียบแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาดูกันว่า ทีมไหนจะเป็นแชมป์สูงสุด โดยทางเราจะนับตั้งแต่ สโมสรที่ได้แชมป์ 3 ครั้งขึ้นไป เริ่มตั้งแต่

7. อินเตอร์ มิลาน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ 3 สมัย

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน สามารถคว้าแชมป์ไปได้ 3 สมัย โดยสองสมัยแรก เป็นช่วงที่สโมสรกำลังเริ่มเป็นพี่เบิ้มของวงการฟุตบอลอิตาลี โดยคว้า 2 สมัย ติดกัน ในปี 1964 และ 1965 ส่วน ครั้งที่ 3 ย้อนไปเมื่อปี 2010 ขุนพลงูใหญ่สามารถคว้าแชมป์มาได้อย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียวและเป็นช่วงก่อนที่สโมสรตกต่ำลง จนในที่สุดพวกเขากลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงปัจจุบัน ส่วนทาง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าไป 3 สมัย โดยได้จาก 1968 ซึ่งเป็นช่วงที่สโมสรกำลังเข้าสู่ช่วงที่ยิ่งใหญ่ และอีกสองสมัยได้จาก การทำทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชายที่น่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดของปีศาจแดง โดยคว้าได้ในปี 1999 แบบสุดช็อคโลกและปี 2008 แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เคยเฉียดที่จะได้ถ้วยนี้เลยสักครั้ง มาดูกันว่าขุนพลอสูรยุคใหม่ของ กุนน่าร์ โอเล่ โซลชา จะทำได้หรือไม่

6. อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าแชมป์ 4 สมัย

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เคยมีช่วงเวลาดั่งทองในปี 1970 โดยพวกเขาแชมป์รายการนี้ได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ในปี 1971, 1972 และ 1973 โดยการนำทัพของ โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะเทวดา ที่เปรียบเสมือนเป็นบุคคลในตำนานของวงการฟุตบอลทั่วโลก และ อีก 1 สมัย ได้ในปี 1999 ซึ่งขุนพลชุดนั้น ยังเป็นดาวรุ่งผสมกับแข้งตัวเก๋า ก่อนที่จะกลายเป็นแข้งดาวดังหลายราย ตั้งแต่ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, แพทริก ไคล์เวิร์ต หรือ คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ และ แฟร้งก์ ไรจ์การ์ด เป็นต้น

5. บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ 5 สมัย

แม้ว่าจะเป็นสโมสรโด่งดังและตัวเอ้ของวงการฟุตบอลสเปนและวงการฟุตบอลระดับโลกมาอย่างยาวนาน แต่ว่ากันตามตรง บาร์เซโลน่า มาพีคสุดในช่วงหลังนี้เอง ด้วยกา่รร่ายมนต์ของ เมสซี่ และ เพื่อนร่วมทีมอย่าง เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ บุสเกสต์, อันเดรส อินิเอสต้า และ ชาบิ เอร์นานเดซ ซึ่งช่วยกันคว้าแชมป์นี้ถึง 4 สมัย ในปี 2009, 2011 และ 2015 ส่วนในปี 1992 ก็คว้าสมัยแรกของสโมสร โดยการนำทัพของ ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ, โรนัลด์ คูมันน์ และ ไมเคิ่ล เลาด์รูป ส่วนปี 2005 ก็คว้าได้อีกสมัย โดยชุดนั้นสามารถแซง อาร์เซนอล คว้าแชมป์ไปได้ นำทัพโดย โรนัลดินโญ่

3. บาเยิร์น มิวนิค, ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ 6 สมัย

“เสือใต้” โคตรทีมแห่งเมืองเบียร์ ประเทศเยอรมัน เริ่มคว้าแชมป์ได้ 3 สมัยติดต่อกัน ในปี 1974, 1975 และ 1976 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ตามด้วยปี 2001 ลบภาพฝันร้ายจากปี 1999 ที่ได้เพียงแค่รองแชมป์ ต่อมาก็มาได้เพิ่มอีกในปี 2013 และล่าสุดในปี 2020 ที่ต้องจดจำ เพราะเล่นได้เหนือกว่าทุกทีมในปีนั้น ครองแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่มาครอง โดยปัจจุบัน บาเยิร์น มิวนิค ยังเป็นทีมหนึ่งในตัวเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์ถ้วยหูใหญ่แทบทุกปี

ต่อด้วย ลิเวอร์พูล โคตรทีมแห่งเกาะอังกฤษ ในสมัยเครื่องจักรสีแดง พวกเขาโคตรอันตราย คว้าแชมป์สองสมัยติดในปี 1977 และ 1978 ตามด้วยปี 1984 ก่อนที่จะเว้นมาอย่างยาวนานและในปี 2005 พวกเขากลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งอย่างน่าจดจำในคืนอิสตันบูล และเมื่อไม่นานมานี้ ก็คว้าแชมป์ได้ในปี 2019 อย่างยิ่งใหญ่ ปัจจุบันพวกเขาเป็นอีกทีมที่เป็นแนวหน้าในยุโรป

2. เอซี มิลาน คว้าแชมป์ 7 สมัย

“ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน เป็นหนึ่งสโมสรที่เคยโด่งดังและเป็นมหาอำนาจลูกหนังของโลกในช่วงหนึ่ง โดยเริ่มต้นได้แชมป์ในปี 1963 ตามด้วย 1969 ตามด้วยการคว้าแชมป์สองปีติดในปี 1989 และ 1990 ตามด้วย 1994 ก่อนจะเว้นไปสักพักและกลับมาคว้าแชมป์ในปี 2003 โดยชุดนั้นนำด้วยนักเตะระดับพระกาฬอย่าง อังเดร เชฟเชนโก้ ตามด้วย อันเดรีย ปิร์โล่ และ คราเลนซ์ ซีดอฟ เป็นต้น ก่อนที่ ปี 2007 จะคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง จากการล้างแค้น เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้สำเร็จ แต่จนถึงปัจจุบัน พวกเขาเพิ่งจะได้กลับมาเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง โดยมาเรื่มนับหนึ่งกันใหม่

1. เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ 13 สมัย

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด สโมสรที่มีเกียรติประวัติอย่างมากมาย เป็นสโมสรมหาอำนาจของโลกลูกหนัง และพวกเขาก็คว้าแชมป์ถ้วยนี้ไปถึง 13 สมัย โดยเริ่มตั้งแต่การเริ่มคว้าแชมป์ได้ 5 สมัยติด ในปี 1956, 1957, 1958, 1959 และ 1960 และตามด้วยการคว้าแชมป์อีกในปี 1966 หลังจากนั้นเว้นเวลาไปนานกว่าสามสิบปี ก็สามารถคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ใน ปี 1998 ตามด้วยปี 2000 และ 2002 หลังจากนั้นเว้นไปอีกนานเป็นเวลา 12 ปี พวกเขาก็กลับมาทำผลงานได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์ได้อีกในปี 2014 และกลายเป็นทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ หลังจากเปลี่ยนชื่อจาก ยูโรเปี้ยน คัพ และเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ปี ติด โดยทำได้ในปี 2016, 2017 และ 2018

Posted in บทความฟุตบอล

เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างมาก เมื่อรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง ได้เปิดโผออกมาก่อนเกมการแข่งขัน ซึ่งทั้งแฟนบอล กูรู และนักวิจารณ์ ก็เตรียมใส่กันเต็มเหนี่ยว ว่าทำไมคนนั้นได้ ลงคนนี้ไม่ได้ลง คนนั้นหายไปไหน บลาๆ ซึ่งแน่นอนว่าการเลือก 11 ตัวจริง ในการลงสนาม การแข่งขัน ตามโปรแกรมการแข่งขัน ของทุกรายการ มีความสำคัญขนาดไหนต่อทีม วิเคราะห์บอล UFA พามาดูกันครับ

11 ตัวจริง สำคัญแค่ไหน สำหรับการแข่งขันนัดทางการ

ก่อนอื่นนั้น ขอแนะนำ Ufabet เวปพนันออนไลน์ ที่กล้าให้ อัตราการต่อรอง ที่มากกว่าที่อื่น พร้อมกับยก กีฬา เกม คาสิโน แบบครบวงจรพร้อมเสิร์ฟให้คุณ อย่าพลาดกับ โอกาสดีๆ แบบนี้ เสิร์ชเลยที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ห้ามพลาด!

11 ตัวจริง ทื่ได้รับโอกาสลงสนามก่อนใครเพื่อน เป็นนักเตะที่กุนซือ และทีมงานสตาฟโค้ช ใส่รายชื่อเพื่อลงสนาม หวังสร้างผลการแข่งขันที่ดีเข้าสู่ทีมให้ได้

แน่นอนว่า ทุกการแข่งขัน ในโปรแกรมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทุกทีมหวังจะคว้าชัยชนะกันให้ได้อยู่แล้ว ดังนั้น ขั้นตอนการเลือกนักเตะชุดใหญ่ที่จะได้ลงสนามในเกมนั้นๆ ล้วนมีความสำคัญอย่างมาก

โดยนักเตะ จะต้องเป็นแข้ง ที่มีฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์ ในตำแหน่งนั้น หรือมีฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด ในตำแหน่งนั้นๆ โดยกุนซือและทีมงานสตาฟโค้ช จะเลือกดูนักเตะจากการฝึกซ้อม รวมถึงนักเตะที่มีคุณภาพฝีเท้าดีที่สุด

ต่อมาก็ดูเรื่องความฟิต ความพร้อมในการลงสนาม รวมถึงต้องดูว่า ควรจัดนักเตะรายไหนลงในเกมนั้นๆ เพราะโปรแกรมการแข่งขัน มีหลายรายการ มีให้สู้กันทั้งฤดูกาล ที่เรียกว่าใช้เวลาอย่างยาวนานและหนักหน่วง

ดังนั้น การสลับสับเปลี่ยน ผู้เล่น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเช่นกัน อย่างรายการ ฟุตบอลถ้วยเล็กๆ แน่นอน 11 ตัวจริง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ชุดหลักเสมอไป เก็บผู้เล่นตัวหลัก ไว้รักษาความฟิต และ ส่งผู้เล่นชุดสำรอง ผสมกับดาวรุ่ง ที่มีแววดี ให้สัมผัสกับเกมลูกหนังในสนามจริง ให้เก็บประสบการณ์และโอกาสกันบ้าง

ส่วนรายการสำคัญ แน่นอนว่า ตัวกุนซือ ต้องจัดผู้เล่นชุดที่ดี่ที่สุด ในการลงเป็น 11 ตัวเลือกแรก แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ไม่มีสามารถใช้ตัวผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เพราะนักเตะบางราย มีอาการบาดเจ็บรบกวน ตามด้วย อาจมีนักเตะติดโทษแบน ความฟิตไม่ถึง หรือเหตุผลอื่นๆ

แต่อย่างใดก็ตาม 11 ตัวจริงในสนาม ก็ถือว่าเป็นผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดในเกมนั้น โดยนักเตะที่ได้รับเลือกในการลงสนาม ก็ต้องทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะมาให้ได้ เพราะการแข่งขันแต่ละนัด ยิ่งกับเฉพาะบอลลีก ถือว่ามีความหมายและความสำคัญของทีมอย่างยิ่งยวด

หากทำผลงานไม่ได้ คว้าชัยชนะไม่ได้บ่อยๆ ก็แทบหมดลุ้นแชมป์ หรือไม่สามารถทำผลงาน ที่ทางสโมสร และทีมบริหาร มุ่งหวังไว้ได้ โดยนักเตะแต่ละราย ที่ได้รับลงสนาม แน่นอนว่าพวกเขา ต้องทำผลงานให้เต็มที่ หากแข้งรายไหน เล่นไม่ดี เกมนัดต่อไป อาจโดนดรอปไว้ที่ม้านั่งสำรองก็เป็นได้

ส่วนตัวกุนซือเอง ก็มีส่วนสำคัญในการวางแผน วางรูปแบบ การเล่น และแทคติกส์ เพื่อทำให้ทีม ก้าวไปประสบความสำเร็จ หรือ คว้าชัยชนะในเกมการแข่งขันนัดนั้น นอกจาก 11 ตัวผู้เล่น ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง ที่ต้องทำผลงานให้ดีที่สุด ตัวกุนซือของทีมก็ถือว่าเป็นส่วนที่ต้องทำงานหนัก ในเรื่องการวางแผนการเล่นเช่นเดียวกัน

ดังนั้น ต้องจุดนี้ ก็ต้องควบคู่กันไป หากว่าทีมไหน เจอปัญหา นักเตะประสบปัญหา อาการบาดเจ็บ หลายราย ก็อาจทำให้ทีมเป๋ได้เลย เพราะมีไม่มีทีม ที่มีคุณภาพของตัวผู้เล่นทั้งตัวจริง และตัวสำรองที่มีฝีเท้าไม่แตกต่างกัน

แต่หลายทีม ทั้งตัวม้านั่งสำรอง ก็แข้งสำรองและแข้งดาวรุ่ง ประดับไว้ รอคอยโอกาสในการเล่น ไม่แปลก ที่ทีมต่างๆ ก็พยายามดูแลให้นักเตะตัวหลัก นักเตะทีมชุดใหญ่ มีความพร้อมที่จะลงสนาม มากที่สุดนั่นเอง

เพราะทุกทีม ย่อมแทบจะมี 11 ผู้เล่นตัวจริงกันอยู่แล้ว แต่หากขาดหายไปสักราย ก็อาจส่งผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้เลย แต่ความเป็นจริงแล้ว การที่แฟนบอล จะได้เห็น ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีมนั้นๆ ได้ลงสนามพร้อมกัน เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน เพราะทั้งอาการบาดเจ็บ การติดโทษแบนและปัจจัยหลายๆ อย่างด้วยกัน

แต่ทว่า 11 ตัวจริงที่ได้ลงสนามในแต่ละเกม ก็ผ่านการประเมิน ของทีมงานสต๊าฟโค้ช และเฮ้ดโค้ชแล้วว่า สมควรลงเป็นตัวจริง เพื่อสู้ในรายการนั้นๆ ซึ่งท้ายที่สุด ฟุตบอลเล่นกันเป็นทีม ใครก็ตามที่ได้ลงสนาม เป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง ก็มีสำคัญกันทั้งหมดนั่นเอง

Posted in บทความฟุตบอล

หลังจากที่พูดถึงมุมมองแฟนบอล ต่ออาการบาดเจ็บ ที่เกิดขึ้นกับนักฟุตบอล ว่าส่งผลกระทบกับตัวนักเตะเองแค่ไหน วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึงว่า การที่ นักเตะบาดเจ็บ จะส่งผลให้กับทีมขนาดไหน และมีผลเสียโดยตรงที่ส่งถึงด้านใดกันบ้าง?

นักเตะบาดเจ็บ ส่งผลกับทีมแค่ไหน

นักเตะบาดเจ็บ แค่คำนี้ เมื่อได้ยิน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแล้ว ไม่ว่าจะเจ็บพักนิดเดียว เจ็บพักปานกลาง หรือ แข้งรายไหนดวงแตก พักไปครึ่งเทอมหรือเต็มฤดูกาล ก็ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วง ต่อตัวนักเตะเอง

ที่แน่นอนว่า ต้องเกิดสภาวะเครียด จากอาการบาดเจ็บ ต้องผ่าตัด ต้องพักรักษาตัว ต้องทำกายภาพบำบัด กลับมาเรียกความฟิต จับจังหวะในสนาม กว่าจะดีได้เหมือนเดิม เรียกว่าต้องใช้เวลากันยกใหญ่ นี่ยังไม่รวมถึงแข้งบางราย ที่เจ็บเรื้อรังตรงที่เดิม เป็นขาดๆ หายๆ ตรงนี้ก็น่าหงุดหงิดใจ แทนนักเตะรายนั้น อยู่ไม่น้อย

ส่วนต่อมา สำหรับอาการบาดเจ็บ ของนักเตะ ว่าส่งผลกระทบ ต่อทีมขนาดไหน แน่นอนว่า แต่ละทีม ก็มีจำนวนผู้เล่น ที่ถูกส่งลงทะเบียน มาในรายการแข่งขัน นั้นๆ ได้ครบโควต้า

แต่การที่ นักเตะขาดหายไป สักรายสองราย ก็เป็นอะไรที่น่ากังวลใจ ไม่น้อยเลย กับต้นสังกัดของพวกเขา ยิ่งกับการ ที่ทีมต้องเสียนักเตะตัวหลัก จากอาการบาดเจ็บ หากเป็นแข้งซูเปอร์สตาร์ หรือแข้งหัวใจหลัก คนสำคัญของทีม สักราย

บอกได้คำเดียวเลยว่า ชิบและหาอะไรไม่เจอ แน่ๆ เพราะมันเป็นการ ส่งผลร้ายแรง กับทีมอย่างหนัก เสียหายถึงขั้น ส่งผลโดยตรง ต่อผลงานของทีม ได้เลยทีเดียว

เพราะการขาดแข้งคนสำคัญ บางทีมเหมือนแทบขาดใจ ยิ่งกับทีมเล็ก ที่อาจจะมี สตาร์ดาวเตะ ตัวความหวังของทีม เพียงแค่รายเดียว แล้วดันเจอ อาการบาดเจ็บ แล้วล่ะก็ สามารถทำให้ทีม ผลงานย่ำแย่ลงได้เลย

ดังนั้นแต่ละทีม พยายามประคบประหงม นักเตะชุดหลัก นักเตะชุดใหญ่ และนักเตะระดับ ซูเปอร์สตาร์ของทีม อย่างเต็มที่แน่นอน เพื่อให้แข้งเหล่านั้น สามารถเล่นกับทีม ได้มากที่สุด และมีสภาพร่างกาย ที่พร้อมจะลงสนาม กรำศึกหนักที่โปรแกรมให้ได้

แต่ไม่ว่าสโมสร จะพยายามมากขนาดไหน เรื่องอาการบาดเจ็บ ของนักฟุตบอล สามารถเกิดขึ้นได้เวลา ไม่เว้นแม้แต่ การแข่งขันจริง การซ้อมปกติ การวอร์ม หรือ อุบัติเหตุต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นได้เสมอ นั่นจึงทำให้ ไม่สามารถคาดการณ์ อะไรได้เลย

บางครั้งบางทีม เสียนักเตะตัวหลัก 4-5 คน จนทำทีมเป๋ ผลงานย่ำแย่กันไปยาวๆ กว่านักเตะจะเริ่มหายเจ็บ กลับมาได้ ก็ไม่ทันการณ์แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ลิเวอร์พูล ที่ฤดูกาลที่แล้ว เจอปัญหากองหลัง ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง บาดเจ็บทั้งซีซั่น เล่นเอาเสียชื่อ แชมป์เก่าในศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากแข้งตัวหลักหลายราย เข้าโรงหมอกันไม่มีพัก

โดยเฉพาะ การขาดหายไปของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ในแผงเกมรับ หลังจากที่เขาบาดเจ็บ ผลงานของทีม เรียกได้ว่าย่ำแย่อย่างมาก เกมรับที่เคยนิ่งๆ กลายเป็นลนลานไปหมด

นี่แค่แข้งตัวเดียว ยังส่งผลได้ขนาดนี้เลย เพราะเขาเป็นซูเปอร์สตาร์ของทีม และเป็นกำลังสำคัญ ที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จ อย่างมากในช่วงหลัง เพียงแค่แข้งรายเดียว ที่ขาดหายไป จากอาการบาดเจ็บ ก็สามารถส่งผลกระทบ ต่อผลงานในสนาม ได้อย่างรุนแรงอย่างมาก

หากสโมสรไม่มีนักเตะ ที่หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกัน ได้ลงอย่างลงตัว ก็สามารถทำให้ ผลงานของทีม ย่ำแย่ลงได้ทุกเวบา เช่นเดียวกัน หากนักเตะ ไม่สามารถทดแทนกันได้ เพราะไม่มีนักเตะรายไหน ยืนระยะ และลงเล่นได้ทุกเกม ตลอดทั้งฤดูกาล และทุกการการแข่งขันได้

นักเตะก็ต้องดูแล รักษาร่างกายให้พร้อม และได้รับการพั กจากการลงสนาม อย่างเหมาะสม จากทีมงาน และสตาฟโค้ช รวมถึงเฮ้ดโค้ช ที่เป็นคนตัดสินใจ และที่ขาดไม่ได้ คือคำแนะนำของทีมแพทยท์

ดังนั้นก็จะมีการพูดคุย ประชุม หารือร่วมกัน โดยแน่นอนว่า สโมสรก็ย่อมต้องดูแลรักษานักเตะ ให้มีความพร้อม ที่จะลงได้มากที่สุด และเสียงต่ออาการบาดเจ็บ ให้น้อยที่สุด

ส่วนตัวนักเตะเอง ก็ต้องดูแลสภาพร่างกายให้ดีที่สุด รักษาความฟิตไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ในโลกของฟุตบอล ทั้งอาการบาดเจ็บที่ไม่คาดคิด ที่พร้อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นอาการบาดเจ็บ ยิ่งเกิดกับนักเตะคนสำคัญด้วยแล้ว ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อทีมอย่างมาก

แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่านักเตะรายไหน มีอาการบาดเจ็บขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่จะลดอาการบาดเจ็บคือการเล่นของนักฟุตบอล ต้องเล่นแบบ แฟร์เพลย์ เน้นเล่นฟุตบอลไม่เน้นเล่นคนนั่นเอง

รวมถึงการดูแลตัวเอง การฝึกซ้อมที่ดี การทำงานและรับฟัง คำแนะนำของทีมแพทย์ และรักษาสภาพความฟิต ให้ดีเยี่ยม เพียงเท่านี้ก็ช่วยลด อาการบาดเจ็บ ที่ไม่คาดคิดได้บ้าง ส่วนทางสโมสร ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรักษานักเตะเอาไว้

แต่สิ่งที่น่าเห็นใจ สำหรับทีมระดับสโมสร เมื่อมีนักเตะติดทีมชาติ ได้เดินทางไปแข่งขัน และกลับมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บ ทางสโมสรเอง ก็ต้องเป็นคนที่รับผิดชอบ ทั้งหมด แม้จะมีการชดเฉยจากทางฟีฟ่า แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ดี

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

สำหรับอาชีพนักฟุตบอล เป็นอาชีพที่กอบโกยเงินได้เป็นกอบเป็นกำ หากแข้งรายนั้น ทำผลงานได้โดดเด่นและรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม มีความสม่ำเสมอในการเล่น มีส่วนช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ แต่ทว่า สิ่งที่พรากอาชีพนักฟุตบอลและเป็นที่นักฟุตบอล หวาดกลัวมากที่สุด นั่นก็คือ อาการบาดเจ็บ

ซึ่งวันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะชวนทุกท่านมาดูประเด็นในฐานะแฟนฟุตบอลกันว่า อาการบาดเจ็บเป็นปัญหาใหญ่ของนักฟุตบอลอย่างไร

อาการบาดเจ็บ อุปสรรคสำคัญของนักฟุตบอล

อาการบาดเจ็บของนักฟุตบอล เป็นปัญหาที่ยิ่งที่สุดอย่างมากของตัวนักเตะอยู่แล้ว แข้งดาวรุ่งหรือแข้งมีแววจะทำผลงานได้ดีหลายราย กลับไปไม่ถึงดวงดาวเพราะเจออาการบาดเจ็บมานักต่อนัก

ยิ่งเป็นอาการบาดเจ็บที่ยาวนานยิ่งแล้วใหญ่ เพราะพักรักษาตัวกันอย่างยาวนาน ต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกาย ทำกายภาพบำบัด ทำตามโปรแกรมของแพทย์อย่างเคร่งครัด ถึงจะสามารถทำการฝึกซ้อมได้

ซึ่งก็ต้องเริ่มซ้อมเบาๆ ก่อนที่จะแยกซ้อมเดี่ยว เมื่อทีมแพทย์ของสโมสรลงความเห็นว่า สามารถซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ก็จะสามารถออกไปซ้อมได้ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ กว่านักฟุตบอลคนนึงจะผ่านมาได้ มันเป็นอะไรที่ไม่ง่ายดาย

เพราะมันมีผลกระทบเรื่องของร่างกายและจิตใจโดยตรง หากใครใจไม่แข็งแกร่งพอ ไม่สามารถต่อสู้กับการรักษาและการทำกายภาพ เพื่อที่จะกลับมาลงสนามได้ ก็มีแข้งหลายรายที่เจออาการบาดเจ็บหนัก เล่นงาน จนต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรมานักต่อนัก

โดยจังหวะของการเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะหนักหรือเบา สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุทางลูกหนัง จังหวะการเข้าปะทะ จังหวะการทิ้งน้ำหนักลงผิดที่ สูญเสียการทรงตัว หรือ เกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก และยังมีอีกมากมายที่จะเกิดความบาดเจ็บได้

ทุกเกมและทั้งเกม เหตุการณ์คาดฝัน มักพร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อยู่ที่นักเตะคนไหนจะดวงแตก เจออาการบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเพียงเท่านั้น แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแค่อุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว

แต่สไตล์การเล่นของนักเตะเอง ก็มีส่วนเหมือนกัน ยิ่งกับนักเตะสายบู๊ นักเตะตัวรุก ที่มีความเร็วจัดจ้าน มีเทคนิคแพรวพราว ย่อมเป็นแข้งที่เรียกตีนจากทีมฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ จะต้องเจอการเข้ากระแทก เสียบสกั๊ด เพื่อหยุดหยั้ง ไม่ให้แข้งสายจี๊ด ผ่านไปได้

ซึ่งจังหวะที่ตามมา ก็มีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสูง แถมหลายครั้งด้วยการที่ต้องเข้าบอลอย่างหนักหน่วงและเป็นจังหวะที่ผู้เล่นที่มีความเร็วสูงกำลังวิ่งอย่างสุดกำลัง พอเกิดการปะทะก็จะเป็นการปะทะที่รุนแรง ดังนั้นสไตล์การเล่นของนักเตะก็มีผลอย่างมาก ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อความบาดเจ็บ

ต่อมา การดูแลรักษาสุขภาพ ร่างกายให้ดี ก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก ที่จะลดอัตราเกิดอาการบาดเจ็บ การดูแลตัวเอง หมั่นฝึกซ้อม อย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นผลที่ดีอย่างมากกับตัวนักเตะเอง

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่มีความฟิตซ้อมอย่างมาก จนได้รับยอมรับทั่ววงการฟุตบอล ว่า โรนัลโด้ ที่แม้จะอายุถึง 36 ปี แต่ก็ยังดูแลรักษาสภาพร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เล่นได้ไม่ต่างกับนักเตะรุ่นน้อง เผลอๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

ด้วยการซ้อมอย่างหนักและมีวินัยกับตนเอง เจ้าตัวไม่เคยที่จะพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บอย่างยาวนาน แถมกลับมาฟิตเปรี๊ยะได้ตลอดอีกด้วย เป็นหนึ่งคนที่นักฟุตบอลและสายเฮลตี้ ที่รักสุขภาพควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เช่นเดียวกันกับ ลิโอเนล เมสซี่ เห็นแบบนี้ เจ้าตัวก็มีการฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งสไตล์การเล่นที่แทบจะเปลี่ยนไปทุกปี ตามอายุขัย ซึ่งเขารู้ดีว่า แม้จะยังมีความสามารถในการฉีกกระชากคู่แข่งเป็นชิ้นๆ ได้เหมือนเดิม

แต่ทว่าการยืนระยะต่อเกมและอาการบาดเจ็บ น่าจะถามหาเขาไวกว่าปกติ เพราะอายุอานามที่มากขึ้นแล้ว ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น โดยเน้นลงมาเชื่อมเกม เป็นศูนย์หน้าตัวต่ำมากขึ้น วิ่งทำทางเพื่อจ่ายบอลให้เพื่อน และ หาโอกาสและจังหวะที่ดีในการทำประตู รวมถึงเล่นลูกนิ่งได้ดีอีกด้วย

พยายามไม่วิ่งกวดเลี้ยงบอล หรือกระชากหนีคู่แข่งหากไม่จำเป็น และไม่เข้าไปฝ่าดงสตั๊ดของทีมคู่แข่ง เพื่อเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ เมสซี่ ก็ยังคงเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้อีกเช่นเคย แม้จะพริ้วน้อยลงกว่าเดิมก็ตาม แต่ก็มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นและที่สำคัญ

ทำให้เขาเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อยลงอีกด้วย แต่ เมสซี่ ก็เคยมีช่วงบาดเจ็บอย่างหนักเช่นกัน แต่ก็เป็นเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้น เรียกได้ว่า กับแข้งมหัศจรรย์รายนี้ เจ็บน้อยขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นนักเตะที่ดูแลตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างมาก

หรือยกตัวอย่างนักเตะที่เจ็บหนักเกือบร้อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่กลับมาเขาก็ยังทำผลงานได้ดี นั่นก็คือ อาเยน ร็อบเบน ปีกท่าสูตรชาวฮอลแลนด์ ที่ปัจจุบันแขวนสตั๊ดไปแล้ว โดยเจ้าตัวเป็นหนึ่งผู้เล่นที่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เอาชนะอาการบาดเจ็บหายมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมได้เสมอ

การเล่นไม่มีแผ่วเหมือนคนไม่เคยบาดเจ็บแต่อย่างใด ลีลากระชากลากเลื้อย แถมจังหวะการเลี้ยงตัดเข้าในแล้วใส่สกอร์ เรียกได้ว่าหาคนที่จะหยุดยั้งได้ยาก แต่สุดท้ายเมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็โรยราไปตามวัย แม้จะดูแลสภาพร่างกายดีแค่ไหน

แต่เมื่อถึงแก่เวลา ก็ต้องแขวนสตั๊ด อย่างไรก็ตาม ผลงานและการเอาชนะอาการบาดเจ็บของ ร็อบเบน ก็เป็นอะไรที่น่ายกย่องอย่างมาก แต่ก็มีนักเตะหลายรายที่น่าเสียดายเหลือเกิน หากไม่เจ็บหนักก็น่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้

ยกตัวอย่าง แจ็ค วิลเชียร์ อดีตมิดฟิลด์ของ อาร์เซนอล ที่ครั้งนึงเขาเคยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นความหวังในทีมชาติ แต่ทว่า ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันเกินเหตุ บวกกับเมื่อมีอาการบาดเจ็บก็ไม่มีวินัยในการฟื้นฟูร่างกาย ผลสุดท้ายก็ไปไม่สุด ไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่น ก็เจ็บหนักเข้าไปอีก ตอนนี้กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด

ส่วนอีกรายก็เป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มมาๆ หายๆ เจ็บออดๆ แอดๆ ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด ผลสุดท้ายก็ไปไม่สุดสักทาง พอร่างกายกลับมาฟิต ก็กลับมาเจ็บกันต่อ เป็นแบบนี้วนไป

ซึ่งสุดท้ายแล้ว อาการบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่นักฟุตบอลไม่อยากเจอ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อบาดเจ็บแล้ว ก็ต้องดูแลฟื้นฟูร่างกายตามที่ทีมแพทย์สั่ง แต่บางรายก็น่าเห็นใจ เพราะเคสบาดเจ็บหนักหน่วงโดยที่ไม่ต้องให้ตัวอย่าง ก็เรียกได้ว่าอันตรายและกว่าจะหายกลับมา ก็มีโอกาสสูงที่จะทำผลงานให้ดีไม่ได้เหมือนเดิม

สุดท้ายแล้วในมุมมองของแฟนบอล ก็อยากให้นักฟุตบอลทุกท่าน ไม่ต้องเจออาการบาดเจ็บหนัก เจ็บพักเดียวเดี๋ยวหาย ได้ลงสนามร่ายมนต์เพลงแข้งให้แฟนบอลรับชมและร่วมเชียร์กัน ส่วนท่านไหนเจออาการบาดเจ็บจากเวปเดิมพันไร้คุณภาพ ทางเราขอแนะนำ Ufabet เวปนี้เวปเดียว ที่กล้าจ่ายมากกว่าที่อื่น พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง สนใจสมัครเลยที่ Ufabet

Posted in บทความฟุตบอล