เมื่อการแข่งขันแบบ ทัวร์นาเมนต์ หากทั้งสองทีม เสมอกันในเวลาปกติ ทำให้ยังไม่สามารถตัดสิน หาผู้แพ้ชนะได้ บางรายการ ก็มีการต่อเวลาพิเศษ หรือดวลจุดโทษ ซึ่งสิ่งที่แฟนบอลลุ้นกันมากที่สุด และตื่นเต้นที่สุด นอกจากการแข่งขันเวลาปกติ นั่นคือ การดวลจุดโทษ ยิ่งกับ รอบชิงชนะเลิศ ด้วยแล้ว เรียกว่าแทบหยุดหายใจเลยทีเดียว

วันนี้ วิเคราะห์บอล UFA พาไปดูกัน ว่าการดวลจุดโทษ สนุกและเร้าใจ ได้มากแค่ไหน

การดวลจุดโทษ สนุกและเร้าใจแค่ไหน

สำหรับการแข่งขันฟุตบอล การจะมีการต่อเวลาพิเศษ หรือการดวลลูกจุดโทษ เลยนั้น ส่วนมากจะเป็นรายการทัวร์นาเมนต์ รอบลึกๆ ขึ้นไป หรือ รายการฟุตบอลถ้วย ที่ต้องการหาผู้แพ้ชนะในเกมนั้นเลย

ซึ่งบางรายการ ก็จะมีการต่อเวลาพิเศษกันก่อน หากในช่วงเวลาปกติยังเสมอกัน แต่หากช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมยังหาผู้แพ้ชนะกันไม่ได้ ก็จะต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษเพื่อหาผู้แพ้ชนะ แต่บางรายการก็มีการตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษกันเลย

หากทั้งสองทีมยังเสมอกัน ในเวลาช่วงปกติ ซึ่งการดวลลูกจุดโทษ เรียกได้ว่าเป็นการตัดสินหาผู้แพ้ชนะ ที่นอกจาก นักฟุตบอลเอง ยังเครียด กดดันมากอยู่แล้ว แฟนบอลและผู้ชมในสนาม รวมถึงการรับชม ตามสื่อต่างๆ ก็ได้ลุ้น สนุก ตื่นเต้น เครียด กดดัน ตามกันไป

เพราะอยากให้ทีมที่เชียร์ สามารถเอาชนะไปได้ในการดวลลูกจุดโทษ ซึ่งยิ่งเป็นรอบลึกๆ รอบน็อคเอ้าท์ ของรายการฟุตบอลต่างๆ ยิ่งตื่นเต้นในชนิดที่เรียกได้ว่า แทบจะเกือบลืมหายใจได้เลย

เพราะการดวลลูกจุดโทษ มีความสนุกและตื่นเต้นเร้าใจ อย่างมาก แม้จะไม่ใช่แฟนบอล หรือนักเตะในทีม ที่กำลังดวลลูกจุดโทษ เพราะรวมถึงแฟนบอลทั่วไป หรือ ผู้เล่นที่รับชมการแข่งขันฟุตบอลเพลินๆ ในช่วงยามว่าง ยังได้ลุ้นและดื่มด่ำบรรยากาศ การดวลลูกจุดโทษ แบบใจจดใจจ่ออีกด้วย

ซึ่งแค่การแข่งขันในช่วงเวลาปกติ ในทัวร์นาเม้นต์ หรือ ฟุตบอลถ้วย รายการแข่งขันต่างๆ ก็นับว่าสนุกอย่างมาก และควรค่าแก่การรับชมอยู่แล้ว แต่การดวลจุดโทษ เพื่อตัดสินหาผู้ชนะ เป็นอะไรที่สนุก และได้ลุ้นกันมากกว่านั้น อีกเท่าตัว เพราะการแข่งขันจนถึงกับต้องตัดสินฎีกา ในการดวลจุดโทษ ทำให้เกิดการได้ลุ้นอย่างมาก

โดยทุกการแข่งขัน ที่ต้องตัดสินกันในถึงการดวลจุดโทษ เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ ล่าสุด ในศึก ฟุตบอลยูโร ครั้งล่าสุด หรือ ยูโร 2021 ที่ผ่านมานี้เอง

อย่างการดวลจุดโทษ ในนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง อังกฤษ และ อิตาลี เป็นอะไรที่กดดันอย่างมากและไม่มีใครคาดเดาได้ ว่าทีมไหน จะมีโอกาสสังหารจุดโทษได้เหนือกว่ากัน แม้ว่า สถิติทางทีมชาติอิตาลี จะทำได้ดีกว่า อังกฤษ ก็ตาม

ผลสุดท้ายแล้ว ก็เป็น อิตาลี ที่ชนะการดวลจุดโทษต่อ ทีมชาติอังกฤษ และได้รับแชมป์ยูโรไปครอง ซึ่งช่วงระหว่างที่มีการดวลจุดโทษ ทั้งทีมฟุตบอลของทั้งสองชาติ แฟนบอลในสนาม และ ผู้ชมทางบ้าน ได้ลุ้นกันตัวโก่ง แทบลืมหายใจ ทั้งตื่นเต้น กดดันอย่างที่สุด

ซึ่งการดวลจุดโทษ ก็ถือเป็นการตัดสิน ที่เที่ยงตรงและยุติธรรม ในการหาทีมชนะ มากที่สุดในวงการฟุตบอล และมักจะมีเรื่องราวคลาสสิคให้พูดถึงเสมอ ยิ่งกับรายการสำคัญ รายการใหญ่ด้วยแล้วล่ะก็ นับว่าเป็นการเล่าขาน ที่เป็นประวัติศาสตร์กันไปตลอดกาล

คล้ายกับ กรณี การดวลลูกจุดโทษ ของ ลิเวอร์พูล กับ เอซี มิลาน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่ อิสตันบูล ประเทศอิสราเอล ซึ่ง แข่งในเวลาแข่งขันช่วงปกติ ก็พีคแล้ว เพราะ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ เอซี มิลาน 3-3 หลังจากโดนนำไปก่อน 0-3 แถมช่วงต่อเวลาพิเศษก็ลุ้นกันตัวโก่ง จนถึงขั้นต้องดวลด้วยลูกจุดโทษ

ซึ่งกลายเป็น ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอซี มิลาน คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ พลิกความคาดหมาย ราวกับ ปาฏิหาริย์ นั่นเอง ซึ่งการดวลจุดโทษ เป็นอะไรที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ สำหรับการชมฟุตบอลมากที่สุดแล้ว ยิ่งกับทีมที่เชียร์ด้วยแล้ว เรียกว่าเครียด ลุ้นกันเหนื่อยเลยทีเดียว หากใครก็ตาม ที่ยิงไม่เข้า แฟนบอลและผู้ชม แทบจะไรเดอร์คิ๊กใส่ทีวีของตัวเองกันเลยทีเดียว

แต่ถ้าอยากลุ้นไปด้วยและได้เงินไปด้วย ก็ต้อง Ufabet เวปดี ที่เราขอรับประกันความมั่นคงและปลอดภัย พร้อมบริการให้ท่านตลอด 24 ชั่วโมง สนใจ แค่พิมพ์คำว่า Ufabet และเข้าไปสมัครสมาชิก รับโปรโมชั่นดีๆ กันได้เลย รับรอง ว่าไม่มีผิดหวัง

Posted in บทความฟุตบอล

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ได้รูดม่านปิดฉากลงไปแล้ว จบลงด้วย พลพรรค “อัซซูรี่” ทีมชาติอิตาลี จากทีมเต็ง 7 ผงาดก้าวมาเป็นแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากชนะในการ ดวลจุดโทษ ทีมชาติอังกฤษ ด้วยสกอร์ 3-2 หลังจากเสมอกันในเวลาปกติรวมช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-1 โดยชนะได้ถึง เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม สนามในถิ่นลอนดอน ประเทศอังกฤษ กันเลยทีเดียว เรียกว่าหลังจากจบเกมฮูลิแกนแผลงฤทธิ์กันยับ

แต่วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง การดวลจุดโทษของอังกฤษ ซึ่งพวกเขาไม่ค่อยจะสมหวังเท่าไหร่นัก เรามาดูกันว่า รายการทัวร์นาเม้นต์สำคัญ อังกฤษ ผลงานการดวลจุดโทษของทีมชาติอังกฤษเป็นอย่างไรกันบ้าง

ผลงาน ดวลจุดโทษ ทีมชาติอังกฤษ

ถือว่าน่าผิดหวังสุดๆ หากดูสถิติ ดวลจุดโทษ ทีมชาติอังกฤษ เมื่อผลงาน 10 ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาดวลจุดโทษชนะเพียงแค่ 3 ครั้ง แต่แพ้ไปถึง 10 ครั้งด้วยกัน โดยเราจะขอย้อนสถิติสำหรับรายการใหญ่ๆ ด้วยกัน 7 ครั้ง ทั้งรายการ ฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร และ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

ฟุตบอลโลก 1998

อริตลอดกาลอีกหนึ่งชาติ สำหรับ อังกฤษ นั่นก็คือ เยอรมัน ซึ่งดราม่าคนสงสัยว่าทำไมสองชาตินี้ไม่ค่อยถูกกัน เหตุการณ์มันเกิดจากตอนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต่างมองว่าเป็นศัตรูของกันและกัน แต่ปัจจุบันก็ได้เพลาๆ ลงไปเยอะแล้ว เพราะ อังกฤษ แพ้ เยอรมัน มากกว่านั่นเอง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในศึก ยูโร 1996 ที่ อังกฤษ เป็นเจ้าภาพ ดวล เยอรมัน รอบรองชนะเลิศ อังกฤษ นำโดย อลัน เชียร์เรอร์, พอล อินซ์, พอล แกซคอยน์, โทนี่ อดัมส์, เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม, รอบบี้ ฟาวเลอร์ และ แกเร็ธ เซาธ์เกต ส่วน เยอรมัน ตอนนั้นมี มาร์คุส บับเบิ้ล, อันเดรส โมลเลอร์, เมห์เม็ต โชล และ สเตฟเฟน ฟรอนด์ โดยเกมนี้ อังกฤษ นำไปก่อนจาก อลัน เชียร์เรอร์ แต่ต่อมา สเตฟเฟ่น คุนซ์ ตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่ทั้งสองทีมจะทำอะไรกันไม่ได้ทั้งเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ จึงต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่าดวลกันสนุก สุดท้ายแล้ว เยอรมัน เอาชนะ อังกฤษ 7-6 โดยคนที่ยิงพลาดคนเดียว นั่นก็คือ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ซัดพลาดคนเดียว เป็นตราบาปกันไปเลย

ฟุตบอลยูโร 1996

อังกฤษ ดวลกับ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยขุนพลทรีไลอ้อนส์ ชุดนั้น ประกอบไปด้วย นักเตะชั้นนำมากมาย ทั้ง อลัน เชียร์เรอร์, ไมเคิ่ล โอเว่น ที่กำลังมาแรง, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, แกรี่ เนวิลล์ และ แกเร็ธ เซาท์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ คนปัจจุบัน ส่วน อาร์เจนติน่า มี กาเบรียล บาติสตูต้า, ดิเอโก้ ซิเมโอเน่, เซบานเตียน เวรอน, ฮาเวียร์ เซเน็ตติ, เอร์นาน เคสโป และ โรเบร์โต้ อยาล่า โดยเกมเวลาปกติมีดราม่ามากมาย บาติสตูต้า ทำประตูให้ อาร์เจนติน่า นำไปก่อน ทว่า อังกฤษ ได้สองประตูรวดจาก เชียร์เรอร์ และ โอเว่น ซัดคนละตุง ทว่าท้ายครึ่งแรก เซเน็ตติ ทำประตูตีเสมอ ส่วนครึ่งหลัง เบ็คแฮม โดนใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ รวมต่อเวลาพิเศษ จึงต้องตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ ผลปรากฏว่า อาร์เจนติน่า เอาชนะ อังกฤษ ไปได้ 6-5 ในการดวลลูกจุดโทษ

ฟุตบอลยูโร 2004

โปรตุเกส กับ อังกฤษ เกมนี้คือจุดเริ่มต้นของความดราม่าเช่นกัน ในศึกยูโร 2004 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษ ชุดนี้เต็มเปี่ยมด้วยสตาร์ดัง นำโดย เวร์น รูนี่ย์, ไมเคิ่ล โอเว่น, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, พอล สโคลล์, เดวิด เบ็คแฮม เป็นต้น ส่วน โปรตุเกส นำโดย หลุยส์ ฟีโก้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เดโก้, คอสตินญ่า, รุย คอสต้า และ เดเนี่ยล คาวัลโญ่ โดยเกมนี้ อังกฤษ นำไปก่อนจาก ไมเคิ่ล โอเว่น ส่วน โปรตุเกส ตีเสมอจาก เอลเดอร์ ปอสติก้า จบเวลาปกติเสมอ 1-1 ช่วงต่อเวลาพิเศษ โปรตุเกส นำได้จาก รุย คอสต้า ส่วนอังกฤษ ไล่เสมอจาก จอห์น เทอร์รี่ จบเวลาต่อเวลาพิเศษ ต้องดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า ดวลกันสุดมัน โดย โปรตุเกส ชนะ อังกฤษ 8-7 เป็นอีกครั้งที่ อังกฤษ ต้องพบความผิดหวัง ทั้งที่มีนักเตะระดับสตาร์เต็มทีมไปหมด

ฟุตบอลโลก 2006

รอบนี้ อังกฤษ มีคิวดวลกับ โปรตุเกส รอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมนี้ดราม่าอีกแล้ว อังกฤษ ชุดนี้ มีนักเตะดังๆ ประดับทีมคับคั่ง นำโดย เวร์น รูนี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิ่ล โอเว่น, ริโอ เฟอร์ดินาน, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เนวิลล์ และ แอชลี่ย์ โคล รวมถึง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก็ติดทัพ ดวลกับ โปรตุเกส นำโดย หลุยส์ ฟีโก้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมนิเช่, เดเนี่ยล คาวัลโญ่, เปาเลต้า, เดโก้ และ ซิเมา โดยทั้งเกม 90 นาทีและช่วงต่อเวลาพิเศษไม่มีทีมไหนทำประตูกันได้ แต่ในเกมใส่กันยับ มีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ เวร์น รูนี่ย์ โดนใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม แถมมีภาพว่า โรนัลโด้ เพื่อนร่วมสโมสรยิ้มอย่างรู้ใจให้กับเพื่อนร่วมชาติ ตอนนั้นมีข่าวหนักหน่วงว่าทั้งคู่บาดหมางกันในๆ ในตอนกลับไปรับใช้สโมสร เข้าเรื่องกันต่อ ผลสุดท้ายต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งโปรตุเกส เอาชนะ อังกฤษ 3-1 โดย อังกฤษ ยิงเข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ตกรอบแบบเซ็งๆ

ฟุตบอลยูโร 2012

อังกฤษ ในชุดนี้เริ่มเป็นชุดเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ รอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษ พบ อีตาลี โดย อังกฤษ นำโดย เวร์น รูนี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล และ แดนนี่ เวลเบ็ค ส่วน อิตาลี จัดเต็ม ขุมกำลังดูดีกว่า นำโดย มาริโอ บาโลเตลลี่, อันเดรีย ปิร์โล่, เด รอสซี่, จานลุยจิ บุฟฟ่อน, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ โดยเกมนี้ อิตาลี เหนือกว่า อังกฤษ อย่างมาก แต่ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ ทั้งเวลาปกติ 90 นาทีและช่วงต่อเวลาพิเศษ ผลสุดท้ายต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษกัน ซึ่งแน่นอนว่า อิตาลี เอาชนะ อังกฤษ ไปได้ 4-2 เรยีกว่า อิตาลี เป็นเต้ยในการดวลจุดโทษกันอยู่แล้ว อีกครั้งที่ อังกฤษ ต้องอกหักปาดน้ำตาตกรอบกันไป

ฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2018/19

เป็นศึกชิงอันดับที่ 3 โดยเกมนี้ ทีมชาติอังกฤษ พบ กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนต์ อังกฤษ ในยุคสายเลือดใหม่ นำโดย แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ริ่ง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แฮร์รี่ แม็คไกว์ เป็นต้น ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ นี่ก็คือชุดที่ดีที่สุดของพวกเขา นำโดย เซอร์ดาน ชากีรี่, กรานิต ชาก้า, ฮาริส เซเฟโรวิช, ยานน์ ซอมเมอร์ ผลปรากฏว่าทั้งเวลาปกติ 90 นาทีและช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสูสี กินกันไม่ลง เสมอกันไป 0-0 จึงต้องตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ ซึ่ง ครั้งนี้ อังกฤษ ทำได้ เอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ไปได้ 6-5 โดย อังกฤษ ยิงไม่พลาดเลยแม้แต่คนเดียว ดูเหมือนว่ายุคใหม่ของพวกเขากำลังไปได้ดีในการดวลลูกจุดโทษ

ฟุตบอลยูโร 2020

ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ กับความเจ็บปวดที่รวดร้าวสุดแสนสาหัส ของ อังกฤษ รวมถึงดราม่าน่ารังเกียจมากมายหลังจบการแข่งขันนี้ อังกฤษ ที่เพรียบพร้อมทุกอย่าง บททุกอย่างที่ผ่านมา ดูเหมือนจะทำให้พวกเขาน่าจะก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์ ทั้งนัดชิงที่ได้เล่นในบ้านเกิดของตัวเอง ทว่าเกมนี้ พวกเขา เจอกับ อิตาลี ทีมมาแรงแซงทางโค้ง ด้วยสไตล์การเล่นเน้นเกมรุก สุดเร้าใจ ขุนพลของ อังกฤษ นำโดย แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ริ่ง, ลุค ชอว์, คาลวิน ฟิลิปป์, แฮร์รี่ แม็คไกว์ เป็นต้น ส่วน อิตาลี นำโดย ชิโร่ อิมโมบิเล่, จอร์จินโญ่, มาร์โก้ แวร์รัตติ, จอร์จิโอ คิเอลเลนี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชิ และ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เกมนี้ อังกฤษ เปิดตัวได้สวย ได้ประตูนำไวจาก ลุค ชอว์ ทว่า อังกฤษ ยิ่งเล่นยิ่งแผ่ว อิตาลี มาแรงกว่า จนได้ประตูตีเสมอจาก โบนุชชี่ จบเกม 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ช่วงเวลาต่อพิเศษ ทั้งสองทีมก็ทำอะไรไม่ได้จึงต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า อิตาลี พลิกมาชนะ อังกฤษ 3-2 โดย สามคนหลังของอังกฤษ มาร์คัส แรซฟอร์ด, จาดอน ซานโช่ และ บูกาโย่ ซาก้า ยิงพลาดหมด เรียกได้ว่าโคตรดราม่า อังกฤษ ก็ยังไม่สามารถเป็นแชมป์ยูโรได้เลยสักครั้ง ผิดหวังกันทั้งประเทศ

Posted in บทความฟุตบอล

เมื่อเกมภายใน 90 นาที จบลงแต่หาผู้ชนะไม่ได้ จึงต้องมีการต่อเวลาพิเศษ เมื่อต่อเวลาพิเศษจบลง ผลการแข่งขันยังเสมอกันอยู่ จึงต้องมีการตัดสินด้วยการ ดวลจุดโทษ สำหรับรายการทัวร์นาเม้นต์หรือฟุตบอลถ้วยในรอบน็อคเอ้าท์ จะใช้กฏนี้กันอย่างแพร่หลายสากล การดวลจุดโทษคือการตัดสินผลแพ้-ชนะ ที่บีบหัวใจนักเตะ แฟนบอล รวมถึงนักลงทุนมากที่สุด วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA เราจะมาอธิบายว่าการดวลจุดโทษคืออะไร มีต้นกำเนิดที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง

ประวัติของการ ดวลจุดโทษ

การตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ คือสเน่ห์ของฟุตบอลอย่างแท้จริง ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มักถูกนำมาพูดถึงและเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์อยู่เสมอ การดวลลูกจุดโทษ ความหมายคือ การยิงประตูจากจุดโทษในระยะ 12 หลานั่นเอง

โดยวงการฟุตบอลได้เริ่มต้นนำมาใช้ขึ้นในค.ส. 1970 ส่วนฟุตบอลโลก ได้นำกฏการดวลลูกจุดโทษมาใช้ในปี 1978 โดยวิธีนี้ใช้เพื่อตัดสินหาผู้ชนะในรายการแข่งขันนั้นๆ สำหรับรายการน็อคเอ้าท์ หากยังหาผู้ชนะในช่วงเวลาปกติ 90 นาทีหรือในช่วงต่อเวลาพิเศษไม่ได้ ก็จะต้องตัดสินเพื่อดวลลูกจุดโทษกัน

โดยกฏนี้แตกต่างจากการยิงลูกจุดโทษ เพราะการยิงลูกจุดโทษจะเกิดขึ้นในเกมปกติหรือเกมต่อเวลาพิเศษ หากมีผู้เล่นทำฟาวล์กันในกรอบเขตโทษและดุลยพินิจของกรรมการเป่าฟาวล์ให้เป็นลูกจุดโทษนั่นเอง การดวลลูกจุดโทษเพื่อตัดสินหาผู้ชนะ จะใช้ฝั่งละ 5 คนในการตัดสิน ถ้าหากว่า 5 คนยังดวลลูกจุดโทษสกอร์เสมอกัน ก็จะดวลลูกจุดโทษกันต่อจนกว่าจะมีผู้ชนะ

ซึ่งหลังจาก 5 คนแรกของทั้งสองทีมได้ดวลลูกจุดโทษ คนต่อไปจะเป็นการยิงจุดโทษแบบ “ซัดเดน เดธ” (Sudden Death) คือฝั่งไหนยิงพลาด แล้วอีกฝั่งทำประตูได้ จะเป็นผู้ชนะไปเลยทันที ซึ่งกฏนี้ยังคงนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน มาว่ากันเรื่องสถิติกันบ้าง การดวลจุดโทษสำหรับนักเตะหลายคน นิยามแตกต่างกันไป บ้างก็ว่า ลุ้นยิ่งกว่าการเสี่ยงโชค บ้างก็ว่าขึ้นอยู่ก็ความพร้อมในการฝึกซ้อม

ปัจจุบันสำหรับหลายทีม มีการเตรียมตัวในการซ้อมการยิง และการเซฟลูกจุดโทษกันอยู่แล้ว โค้ชผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตู จะศึกษาร่วมกันว่า คู่แข่งรายไหนเป็นมือสังหารจุดโทษ และมักจะยิงบริเวณไหนบ้าง คู่แข่งมีใครรับหน้าที่ดวลจุดโทษบ้าง ลักษณะการยิงเป็นอย่างไร เป็นต้น เพื่อรับมือกับการตัดสินดวลลูกจุดโทษ และการยิงลูกจุดโทษ หากเสียฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ในเวลาการแข่งขันปกตินั่นเอง

ส่วนผู้รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ส่วนมาก 5 รายแรก ก็จะซ้อมกันอย่างเข้มข้น บ้างครั้งนักเตะอาจจะสมัครใจขอรับหน้าที่สังหารประตูเอง บางทีมทางสตาฟโค้ชก็เลือกนักเตะไว้สังหารลูกจุดโทษกันอยู่แล้ว ดูสถิติการเซฟของผู้รักษาประตูคู่แข่งและปฏิกิริยาต่างๆ เห็นได้ชัดในทัวร์นาเม้นต์หรือรายการช่วงหลังๆ ผู้รักษาประตูเซฟกันได้ดีขึ้น

รวมถึงมีทริค แปะรายชื่อตัวสังหารจุดโทษของทีมคู่แข่งไว้บนขวดน้ำหรือผ้าเช็ดหน้า ส่วนผู้รับหน้าที่สังหารลูกจุดโทษ ก็ต้องยิงให้เสียบมุมหรือรายไหนสภาพจิตใจนิ่ง ก็วัดใจผู้รักษาประตูด้วยการยิงกลางประตู หลอกหน้าเท้าหรือ ปาเนก้า เป็นต้น

ส่วนสถิติตำแหน่งที่ถูกยิงมากที่สุด Opta บริษัทเก็บข้อมูลกีฬาลูกหนัง ได้เปิดเผยว่า คนเตะนิยมเตะไปทางมุมซ้ายล่างของผู้รักษาประตู ส่วนตำแหน่งที่ไม่ควรเตะมากที่สุดคือการยิงเรียดกลางประตู เพราะมีโอกาสสำเร็จเพียง 55 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยหากจะเล็งกลางประตู ต้องยิงให้สูงเข้าไว้ เพราะจากที่เคยยิงมุมนั้นกันมา 15 ครั้ง ยังไม่มีผู้รักษาประตูป้องกันได้แม้แต่ครั้งเดียว

ส่วนอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจคือ คนที่ออกมายิงเป็นคนที่ 8 จากการดวลสลับกันฝั่งละ 5 คนมักจะมีเปอร์เซ็นต์พลาดสูงที่สุด คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ หรือยิง 5 ครั้ง จะติดเซฟหรือไม่เข้ากรอบเสีย 2 ครั้ง นั่นก็เป็นเพราะคนยิงจุดโทษรายหลังๆ ไม่ใช่นักยิงลูกจุดโทษตัวหลักของทีม และเป็นช่วงที่สถานการณ์กำลังบีบคั้นถึงขีดสุดนั่นเอง

นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่หลายคนมองว่า การดวลจุดโทษ ก็เหมือนการวัดดวง จากการเสี่ยงทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกลำดับการยิงลูกจุดโทษ ซึ่งตามกฎแล้ว หลังจากกัปตันทีมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะการเสี่ยงทายเหรียญแล้ว จะเลือกว่าตัวเองจะยิงก่อน หรือให้ฝ่ายตรงข้ามยิงก่อน

โดยลำดับการยิงจะเริ่มจากผู้เล่นคนที่ 1 ของทีม A ต่อด้วยผู้เล่นคนที่ 1 ของทีม B จากนั้นจึงเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของทีม A แล้วผู้เล่นคนที่ 2 ของทีม B เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ กัปตันมักจะเลือกให้ทีมตัวเองยิงก่อน เพราะความกดดันน้อยกว่า ทีมที่ต้องมายิงจุดโทษทีหลัง ซึ่งมีความตึงเครียดมากกว่าเยอะ

เพราะถ้าหากทีมแรกยิงเข้าไปก่อน เท่ากับสกอร์นำ แต่ถ้าทีมที่ได้ยิงต่อ ยิงพลาด ก็เท่ากับว่าตามหลังไปอีก ซึ่งโอกาสที่จะตึงเครียดจนคนต่อไปมีโอกาสยิงพลาด ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นการตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ

สุดท้ายแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับความเตรียมพร้อ มและสถานการณ์นั้นๆ ของแต่ละทีม สำคัญที่สุดคือสภาพจิตใจ ซึ่งการดวลจุดโทษทุกครั้งโดยเฉพาะรายการใหญ่ๆ มักบีบหัวใจกันอยู่เสมอ นี่คือการตัดสินที่เป็นสเน่ห์อย่างมาก แห่งวงการฟุตบอล และมันจะยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ขอฝากเวป ufabet เวปพนันออนไลน์ที่ดีที่สุด เรามีทุกอย่างให้เดิมพัน ทั้ง ฟุตบอล กีฬา เกม คาสิโน เรียกว่าครบจบในเวปเดียว ติดต่อได้เลยครับ ไม่มีผิดหวัง แล้วพบกันใหม่ ในบทความหน้า

Posted in บทความฟุตบอล