หลังจากที่พูดถึงมุมมองแฟนบอล ต่ออาการบาดเจ็บ ที่เกิดขึ้นกับนักฟุตบอล ว่าส่งผลกระทบกับตัวนักเตะเองแค่ไหน วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึงว่า การที่ นักเตะบาดเจ็บ จะส่งผลให้กับทีมขนาดไหน และมีผลเสียโดยตรงที่ส่งถึงด้านใดกันบ้าง?

นักเตะบาดเจ็บ ส่งผลกับทีมแค่ไหน

นักเตะบาดเจ็บ แค่คำนี้ เมื่อได้ยิน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแล้ว ไม่ว่าจะเจ็บพักนิดเดียว เจ็บพักปานกลาง หรือ แข้งรายไหนดวงแตก พักไปครึ่งเทอมหรือเต็มฤดูกาล ก็ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วง ต่อตัวนักเตะเอง

ที่แน่นอนว่า ต้องเกิดสภาวะเครียด จากอาการบาดเจ็บ ต้องผ่าตัด ต้องพักรักษาตัว ต้องทำกายภาพบำบัด กลับมาเรียกความฟิต จับจังหวะในสนาม กว่าจะดีได้เหมือนเดิม เรียกว่าต้องใช้เวลากันยกใหญ่ นี่ยังไม่รวมถึงแข้งบางราย ที่เจ็บเรื้อรังตรงที่เดิม เป็นขาดๆ หายๆ ตรงนี้ก็น่าหงุดหงิดใจ แทนนักเตะรายนั้น อยู่ไม่น้อย

ส่วนต่อมา สำหรับอาการบาดเจ็บ ของนักเตะ ว่าส่งผลกระทบ ต่อทีมขนาดไหน แน่นอนว่า แต่ละทีม ก็มีจำนวนผู้เล่น ที่ถูกส่งลงทะเบียน มาในรายการแข่งขัน นั้นๆ ได้ครบโควต้า

แต่การที่ นักเตะขาดหายไป สักรายสองราย ก็เป็นอะไรที่น่ากังวลใจ ไม่น้อยเลย กับต้นสังกัดของพวกเขา ยิ่งกับการ ที่ทีมต้องเสียนักเตะตัวหลัก จากอาการบาดเจ็บ หากเป็นแข้งซูเปอร์สตาร์ หรือแข้งหัวใจหลัก คนสำคัญของทีม สักราย

บอกได้คำเดียวเลยว่า ชิบและหาอะไรไม่เจอ แน่ๆ เพราะมันเป็นการ ส่งผลร้ายแรง กับทีมอย่างหนัก เสียหายถึงขั้น ส่งผลโดยตรง ต่อผลงานของทีม ได้เลยทีเดียว

เพราะการขาดแข้งคนสำคัญ บางทีมเหมือนแทบขาดใจ ยิ่งกับทีมเล็ก ที่อาจจะมี สตาร์ดาวเตะ ตัวความหวังของทีม เพียงแค่รายเดียว แล้วดันเจอ อาการบาดเจ็บ แล้วล่ะก็ สามารถทำให้ทีม ผลงานย่ำแย่ลงได้เลย

ดังนั้นแต่ละทีม พยายามประคบประหงม นักเตะชุดหลัก นักเตะชุดใหญ่ และนักเตะระดับ ซูเปอร์สตาร์ของทีม อย่างเต็มที่แน่นอน เพื่อให้แข้งเหล่านั้น สามารถเล่นกับทีม ได้มากที่สุด และมีสภาพร่างกาย ที่พร้อมจะลงสนาม กรำศึกหนักที่โปรแกรมให้ได้

แต่ไม่ว่าสโมสร จะพยายามมากขนาดไหน เรื่องอาการบาดเจ็บ ของนักฟุตบอล สามารถเกิดขึ้นได้เวลา ไม่เว้นแม้แต่ การแข่งขันจริง การซ้อมปกติ การวอร์ม หรือ อุบัติเหตุต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นได้เสมอ นั่นจึงทำให้ ไม่สามารถคาดการณ์ อะไรได้เลย

บางครั้งบางทีม เสียนักเตะตัวหลัก 4-5 คน จนทำทีมเป๋ ผลงานย่ำแย่กันไปยาวๆ กว่านักเตะจะเริ่มหายเจ็บ กลับมาได้ ก็ไม่ทันการณ์แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ลิเวอร์พูล ที่ฤดูกาลที่แล้ว เจอปัญหากองหลัง ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง บาดเจ็บทั้งซีซั่น เล่นเอาเสียชื่อ แชมป์เก่าในศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากแข้งตัวหลักหลายราย เข้าโรงหมอกันไม่มีพัก

โดยเฉพาะ การขาดหายไปของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ในแผงเกมรับ หลังจากที่เขาบาดเจ็บ ผลงานของทีม เรียกได้ว่าย่ำแย่อย่างมาก เกมรับที่เคยนิ่งๆ กลายเป็นลนลานไปหมด

นี่แค่แข้งตัวเดียว ยังส่งผลได้ขนาดนี้เลย เพราะเขาเป็นซูเปอร์สตาร์ของทีม และเป็นกำลังสำคัญ ที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จ อย่างมากในช่วงหลัง เพียงแค่แข้งรายเดียว ที่ขาดหายไป จากอาการบาดเจ็บ ก็สามารถส่งผลกระทบ ต่อผลงานในสนาม ได้อย่างรุนแรงอย่างมาก

หากสโมสรไม่มีนักเตะ ที่หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกัน ได้ลงอย่างลงตัว ก็สามารถทำให้ ผลงานของทีม ย่ำแย่ลงได้ทุกเวบา เช่นเดียวกัน หากนักเตะ ไม่สามารถทดแทนกันได้ เพราะไม่มีนักเตะรายไหน ยืนระยะ และลงเล่นได้ทุกเกม ตลอดทั้งฤดูกาล และทุกการการแข่งขันได้

นักเตะก็ต้องดูแล รักษาร่างกายให้พร้อม และได้รับการพั กจากการลงสนาม อย่างเหมาะสม จากทีมงาน และสตาฟโค้ช รวมถึงเฮ้ดโค้ช ที่เป็นคนตัดสินใจ และที่ขาดไม่ได้ คือคำแนะนำของทีมแพทยท์

ดังนั้นก็จะมีการพูดคุย ประชุม หารือร่วมกัน โดยแน่นอนว่า สโมสรก็ย่อมต้องดูแลรักษานักเตะ ให้มีความพร้อม ที่จะลงได้มากที่สุด และเสียงต่ออาการบาดเจ็บ ให้น้อยที่สุด

ส่วนตัวนักเตะเอง ก็ต้องดูแลสภาพร่างกายให้ดีที่สุด รักษาความฟิตไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ในโลกของฟุตบอล ทั้งอาการบาดเจ็บที่ไม่คาดคิด ที่พร้อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นอาการบาดเจ็บ ยิ่งเกิดกับนักเตะคนสำคัญด้วยแล้ว ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อทีมอย่างมาก

แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่านักเตะรายไหน มีอาการบาดเจ็บขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่จะลดอาการบาดเจ็บคือการเล่นของนักฟุตบอล ต้องเล่นแบบ แฟร์เพลย์ เน้นเล่นฟุตบอลไม่เน้นเล่นคนนั่นเอง

รวมถึงการดูแลตัวเอง การฝึกซ้อมที่ดี การทำงานและรับฟัง คำแนะนำของทีมแพทย์ และรักษาสภาพความฟิต ให้ดีเยี่ยม เพียงเท่านี้ก็ช่วยลด อาการบาดเจ็บ ที่ไม่คาดคิดได้บ้าง ส่วนทางสโมสร ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรักษานักเตะเอาไว้

แต่สิ่งที่น่าเห็นใจ สำหรับทีมระดับสโมสร เมื่อมีนักเตะติดทีมชาติ ได้เดินทางไปแข่งขัน และกลับมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บ ทางสโมสรเอง ก็ต้องเป็นคนที่รับผิดชอบ ทั้งหมด แม้จะมีการชดเฉยจากทางฟีฟ่า แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ดี

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

สำหรับอาชีพนักฟุตบอล เป็นอาชีพที่กอบโกยเงินได้เป็นกอบเป็นกำ หากแข้งรายนั้น ทำผลงานได้โดดเด่นและรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม มีความสม่ำเสมอในการเล่น มีส่วนช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ แต่ทว่า สิ่งที่พรากอาชีพนักฟุตบอลและเป็นที่นักฟุตบอล หวาดกลัวมากที่สุด นั่นก็คือ อาการบาดเจ็บ

ซึ่งวันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะชวนทุกท่านมาดูประเด็นในฐานะแฟนฟุตบอลกันว่า อาการบาดเจ็บเป็นปัญหาใหญ่ของนักฟุตบอลอย่างไร

อาการบาดเจ็บ อุปสรรคสำคัญของนักฟุตบอล

อาการบาดเจ็บของนักฟุตบอล เป็นปัญหาที่ยิ่งที่สุดอย่างมากของตัวนักเตะอยู่แล้ว แข้งดาวรุ่งหรือแข้งมีแววจะทำผลงานได้ดีหลายราย กลับไปไม่ถึงดวงดาวเพราะเจออาการบาดเจ็บมานักต่อนัก

ยิ่งเป็นอาการบาดเจ็บที่ยาวนานยิ่งแล้วใหญ่ เพราะพักรักษาตัวกันอย่างยาวนาน ต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกาย ทำกายภาพบำบัด ทำตามโปรแกรมของแพทย์อย่างเคร่งครัด ถึงจะสามารถทำการฝึกซ้อมได้

ซึ่งก็ต้องเริ่มซ้อมเบาๆ ก่อนที่จะแยกซ้อมเดี่ยว เมื่อทีมแพทย์ของสโมสรลงความเห็นว่า สามารถซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ก็จะสามารถออกไปซ้อมได้ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ กว่านักฟุตบอลคนนึงจะผ่านมาได้ มันเป็นอะไรที่ไม่ง่ายดาย

เพราะมันมีผลกระทบเรื่องของร่างกายและจิตใจโดยตรง หากใครใจไม่แข็งแกร่งพอ ไม่สามารถต่อสู้กับการรักษาและการทำกายภาพ เพื่อที่จะกลับมาลงสนามได้ ก็มีแข้งหลายรายที่เจออาการบาดเจ็บหนัก เล่นงาน จนต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรมานักต่อนัก

โดยจังหวะของการเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะหนักหรือเบา สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุทางลูกหนัง จังหวะการเข้าปะทะ จังหวะการทิ้งน้ำหนักลงผิดที่ สูญเสียการทรงตัว หรือ เกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก และยังมีอีกมากมายที่จะเกิดความบาดเจ็บได้

ทุกเกมและทั้งเกม เหตุการณ์คาดฝัน มักพร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อยู่ที่นักเตะคนไหนจะดวงแตก เจออาการบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเพียงเท่านั้น แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแค่อุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว

แต่สไตล์การเล่นของนักเตะเอง ก็มีส่วนเหมือนกัน ยิ่งกับนักเตะสายบู๊ นักเตะตัวรุก ที่มีความเร็วจัดจ้าน มีเทคนิคแพรวพราว ย่อมเป็นแข้งที่เรียกตีนจากทีมฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ จะต้องเจอการเข้ากระแทก เสียบสกั๊ด เพื่อหยุดหยั้ง ไม่ให้แข้งสายจี๊ด ผ่านไปได้

ซึ่งจังหวะที่ตามมา ก็มีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสูง แถมหลายครั้งด้วยการที่ต้องเข้าบอลอย่างหนักหน่วงและเป็นจังหวะที่ผู้เล่นที่มีความเร็วสูงกำลังวิ่งอย่างสุดกำลัง พอเกิดการปะทะก็จะเป็นการปะทะที่รุนแรง ดังนั้นสไตล์การเล่นของนักเตะก็มีผลอย่างมาก ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อความบาดเจ็บ

ต่อมา การดูแลรักษาสุขภาพ ร่างกายให้ดี ก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก ที่จะลดอัตราเกิดอาการบาดเจ็บ การดูแลตัวเอง หมั่นฝึกซ้อม อย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นผลที่ดีอย่างมากกับตัวนักเตะเอง

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่มีความฟิตซ้อมอย่างมาก จนได้รับยอมรับทั่ววงการฟุตบอล ว่า โรนัลโด้ ที่แม้จะอายุถึง 36 ปี แต่ก็ยังดูแลรักษาสภาพร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เล่นได้ไม่ต่างกับนักเตะรุ่นน้อง เผลอๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

ด้วยการซ้อมอย่างหนักและมีวินัยกับตนเอง เจ้าตัวไม่เคยที่จะพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บอย่างยาวนาน แถมกลับมาฟิตเปรี๊ยะได้ตลอดอีกด้วย เป็นหนึ่งคนที่นักฟุตบอลและสายเฮลตี้ ที่รักสุขภาพควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เช่นเดียวกันกับ ลิโอเนล เมสซี่ เห็นแบบนี้ เจ้าตัวก็มีการฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งสไตล์การเล่นที่แทบจะเปลี่ยนไปทุกปี ตามอายุขัย ซึ่งเขารู้ดีว่า แม้จะยังมีความสามารถในการฉีกกระชากคู่แข่งเป็นชิ้นๆ ได้เหมือนเดิม

แต่ทว่าการยืนระยะต่อเกมและอาการบาดเจ็บ น่าจะถามหาเขาไวกว่าปกติ เพราะอายุอานามที่มากขึ้นแล้ว ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น โดยเน้นลงมาเชื่อมเกม เป็นศูนย์หน้าตัวต่ำมากขึ้น วิ่งทำทางเพื่อจ่ายบอลให้เพื่อน และ หาโอกาสและจังหวะที่ดีในการทำประตู รวมถึงเล่นลูกนิ่งได้ดีอีกด้วย

พยายามไม่วิ่งกวดเลี้ยงบอล หรือกระชากหนีคู่แข่งหากไม่จำเป็น และไม่เข้าไปฝ่าดงสตั๊ดของทีมคู่แข่ง เพื่อเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ เมสซี่ ก็ยังคงเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้อีกเช่นเคย แม้จะพริ้วน้อยลงกว่าเดิมก็ตาม แต่ก็มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นและที่สำคัญ

ทำให้เขาเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อยลงอีกด้วย แต่ เมสซี่ ก็เคยมีช่วงบาดเจ็บอย่างหนักเช่นกัน แต่ก็เป็นเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้น เรียกได้ว่า กับแข้งมหัศจรรย์รายนี้ เจ็บน้อยขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นนักเตะที่ดูแลตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างมาก

หรือยกตัวอย่างนักเตะที่เจ็บหนักเกือบร้อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่กลับมาเขาก็ยังทำผลงานได้ดี นั่นก็คือ อาเยน ร็อบเบน ปีกท่าสูตรชาวฮอลแลนด์ ที่ปัจจุบันแขวนสตั๊ดไปแล้ว โดยเจ้าตัวเป็นหนึ่งผู้เล่นที่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เอาชนะอาการบาดเจ็บหายมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมได้เสมอ

การเล่นไม่มีแผ่วเหมือนคนไม่เคยบาดเจ็บแต่อย่างใด ลีลากระชากลากเลื้อย แถมจังหวะการเลี้ยงตัดเข้าในแล้วใส่สกอร์ เรียกได้ว่าหาคนที่จะหยุดยั้งได้ยาก แต่สุดท้ายเมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็โรยราไปตามวัย แม้จะดูแลสภาพร่างกายดีแค่ไหน

แต่เมื่อถึงแก่เวลา ก็ต้องแขวนสตั๊ด อย่างไรก็ตาม ผลงานและการเอาชนะอาการบาดเจ็บของ ร็อบเบน ก็เป็นอะไรที่น่ายกย่องอย่างมาก แต่ก็มีนักเตะหลายรายที่น่าเสียดายเหลือเกิน หากไม่เจ็บหนักก็น่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้

ยกตัวอย่าง แจ็ค วิลเชียร์ อดีตมิดฟิลด์ของ อาร์เซนอล ที่ครั้งนึงเขาเคยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นความหวังในทีมชาติ แต่ทว่า ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันเกินเหตุ บวกกับเมื่อมีอาการบาดเจ็บก็ไม่มีวินัยในการฟื้นฟูร่างกาย ผลสุดท้ายก็ไปไม่สุด ไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่น ก็เจ็บหนักเข้าไปอีก ตอนนี้กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด

ส่วนอีกรายก็เป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มมาๆ หายๆ เจ็บออดๆ แอดๆ ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด ผลสุดท้ายก็ไปไม่สุดสักทาง พอร่างกายกลับมาฟิต ก็กลับมาเจ็บกันต่อ เป็นแบบนี้วนไป

ซึ่งสุดท้ายแล้ว อาการบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่นักฟุตบอลไม่อยากเจอ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อบาดเจ็บแล้ว ก็ต้องดูแลฟื้นฟูร่างกายตามที่ทีมแพทย์สั่ง แต่บางรายก็น่าเห็นใจ เพราะเคสบาดเจ็บหนักหน่วงโดยที่ไม่ต้องให้ตัวอย่าง ก็เรียกได้ว่าอันตรายและกว่าจะหายกลับมา ก็มีโอกาสสูงที่จะทำผลงานให้ดีไม่ได้เหมือนเดิม

สุดท้ายแล้วในมุมมองของแฟนบอล ก็อยากให้นักฟุตบอลทุกท่าน ไม่ต้องเจออาการบาดเจ็บหนัก เจ็บพักเดียวเดี๋ยวหาย ได้ลงสนามร่ายมนต์เพลงแข้งให้แฟนบอลรับชมและร่วมเชียร์กัน ส่วนท่านไหนเจออาการบาดเจ็บจากเวปเดิมพันไร้คุณภาพ ทางเราขอแนะนำ Ufabet เวปนี้เวปเดียว ที่กล้าจ่ายมากกว่าที่อื่น พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง สนใจสมัครเลยที่ Ufabet

Posted in บทความฟุตบอล