ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว หรือ เจ้าหนึ่ง ดาวรุ่งวัย 20 ปี ตำแหน่งกองกลาง ของสโมสร “ฉลามชลชลบุรี เอฟซี ทีมยักษ์หลับแห่งศึกไทยลีก ได้รับโอกาสในการบินไปทดสอบฝีเท้ากับ อัลคอร์ค่อน ทีมในศึกเซกุนด้า หรือ ลาลีกา 2 ซึ่งถ้าหากทดสอบฝีเท้าผ่าน จะได้รับการเซ็นสัญญาทันที

วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะนำพามารู้จักกับมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง

ประวัติของ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กับเส้นทางที่ไม่เคยง่าย

ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว มีชื่อเล่นว่า หนึ่ง เกิดวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2544 เมื่อเจ้าตัวลืมตาดูโลก ก็พบว่าตนเองเป็นโรค ธาลัสซีเมีย หรือโรคโลหิตจางชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากพันธุกรรม ส่วนอาการก็มีหลากหลายลำดับแตกต่างกันออกไป แต่เจ้าตัวมีอาการรุนแรงปานกลาง ผลที่ตามมาในช่วงวัยเด็ก ร่างกายอ่อนแอ ไม่สบายบ่อยและเหนื่อยง่ายมาก

แต่ครอบครัวและเจ้าตัวก็พยายามที่จะแก้ปัญหาด้วยการ ออกกำลังกาย ทั้งการออกไปวิ่งเล่นและการว่ายน้ำ จนมาถึงการเตะฟุตบอล ในขณะที่ หนึ่ง กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนบุรารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ก็เริ่มเตะฟุตบอลมากขึ้น พัฒนาฟอร์มการเล่น เสริมร่างกายให้แข็งแรง จนฝีเท้าไปเตะตา แมวมองของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งไทยลีก จนได้ถูกให้ไปร่วมทดสอบฝีเท้าในชุดรุ่นอายุ 11 ปี ทั้งที่เจ้าหนึ่งอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น

หลังจากการทดสอบฝีเท้าเสร็จสิ้น เจ้าหนึ่ง ได้รับการเซ็นสัญญากับเมืองทองฯ ในชุดเยาวชน โดยเซ็นสัญญาร่วมทีม 5 ปี ในขณะที่เจ้าตัวศึกษาอยู่ชั้นป. 5 เท่านั้น หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยการขยันซ้อมและการดูแลที่ดีของครอบครัว ทำให้เจ้าหนึ่งหายขาดจากโรคธาลัสซีเมีย ได้สำเร็จ

ต่อมาเมื่อหมดสัญญา 5 ปี เจ้าตัวตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทาง กิเลนผยอง ก่อนจะย้ายมาโรงเรียนท่าข้ามวิทยาคม เป็นหนึ่งในอคาเดมี่ของสโมสรชลบุรี เอฟซี ซึ่งต่อมาด้วยฟอร์มที่โดดเด่น เจ้าตัวกลายเป็นตัวหลักของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง พัฒนาฟอร์มการเล่นได้ดียิ่งขึ้น โดยเล่นตำแหน่งกองกลาง มีสกิลการเลี้ยงที่ดี การจ่ายบอลที่ดี แต่ก็ยังมีจุดอ่อนหลายอย่างเช่นในเรื่องของร่างกายที่ยังบางเกินไปสำหรับนักเตะวัยนั้น

อย่างไรก็ตามในรายการฟุตบอล 7 สี ซึ่งเป็นเวทีฟลอร์หญ้าที่แจ้งเกิดของนักเตะไทยหลากหลายรุ่น เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับโรงเรียน จนสามารถก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุด รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีและรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี แม้ไม่สามารถพาทีมชาติไทย รุ่นอายุ 19 ปี ไปเล่นรายการชิงแชมป์เอเชียได้ หลังจากตกรอบแรก แต่ผลงานการลงสนาม 3 นัด ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดี

หลังจากนั้นเจ้าตัวได้เซ็นสัญญากับ ชลบุรี เอฟซี พร้อมกับลงเล่นในทีมชุดบีไปก่อน สะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ในที่สุด วันที่ 28 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2561 เจ้าตัวได้ลงสนามให้กับ ชลบุรี เอฟซี ชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 18 ปี ในเกมที่เสมอกับ ชัยนาท 0-0

หลังจากนั้นก็ได้ลงสนามในฤดูกาล 2017/18 ประมาณ 4 นัดในเกมลีก ก่อนที่ปีต่อมาได้ลงเล่นน้อยไปเสียหน่อย หลังจากนั้นถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสร บ้านบึง เอฟซี ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ฤดูกาล 2020 “โค้ชเตี้ยสะสม พบประเสริฐ ได้เข้ามาคุมทัพ ฉลามชล

พร้อมกับมีนโยบายที่ตรงใจกับผู้บริหาร และประธานสโมสร ในการส่งเสริมแข้งดาวรุ่งฝีเท้าดี ขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ เพราะเห็นว่า นักเตะในสังกัด ชลบุรี เอฟซี เป็นหนึ่งทีมในไทยลีก ที่มีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีที่สุดในประเทศ ทำให้นักเตะดาวรุ่งติดทีมชุดใหญ่หลายราย

รวมถึง เจ้าหนึ่ง เองก็ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่เต็มตัว พร้อมกับลงสนามในฤดูกาล 2020 รวม 20 นัดในเกมลีก พร้อมกับ ยิง 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์ แม้กระดูกยังดูไม่ค่อยไหว แต่ได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมา

ถือว่าเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ดีเหมาะสมตามวัย พาทีมจบอันดับที่ 12 ของตาราง หนีตกชั้นได้สำเร็จ แม้ผลงานของสโมสรจะน่าผิดหวัง แต่แฟนบอลชาวไทยและกองเชียร์ทีมชลบุรี ก็ได้เห็นแล้วว่านักเตะดาวรุ่งของพวกเขาก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน

ต่อมาเมื่อจบฤดูกาล โอกาสสำคัญยิ่งก็มาถึงเจ้าหนึ่ง เมื่อสโมสร อัลคอร์ค่อน ทีมในศึกเชกุนด้า หรือ ลาลีกา 2 ได้ส่งหนังสือเชิญตัว ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ให้มาเดินทางร่วมซ้อมกับสโมสรในระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน ถึง วันที่ 31 กรกฏาคม นี้ โดยทาง ชลบุรี เอฟซี ยินดีปล่อยตัวให้ไปซ้อมได้อย่างเต็มที่ ส่วนเจ้าตัวก็กล่าวว่าพร้อมจะทำผลงานให้ดีที่สุด ทำให้สุดความสามารถ

ส่วนทาง “โค้ชเฮงวิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค สโมสร ชลบุรี เอฟซี กล่าว อวยพรให้เจ้าตัวโชคดี พร้อมกับบอกอีกว่า การเดินทางครั้งนี้ของเจ้าหนึ่ง จะส่งผลดีอย่างยิ่งต่อตัวนักเตะและทีมชาติไทยในอนาคต

ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักเตะเยาวชนไทยได้รับประสบการณ์ที่ดีและมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง เพราะ หนึ่ง เองก็เป็นนักเตะที่ดี มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยานสูง แตกต่างจากนักเตะหลายๆ คนในชุดเยาวชน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจะทำผลงานได้ดีในการเดินทางไปทดสอบฝีเท้า

ส่วน หนึ่ง ปัจจุบันได้ทำการฝึกซ้อมกับสโมสร อัลคอร์คอน ในรุ่นอายุ 18 ปี อย่างต่อเนื่อง โดยโค้ชก็คือ คาร์ลอส รูบิโอ ซานเชซ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคต่างประเทศ ของสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นั่นเอง

ส่วนการซ้อมมือแรก เจ้าตัวเปิดเผยว่า การทดสอบความฟิตในช่วงวันแรกๆ หนักหน่วงอย่างมาก ที่ดีซ้อมกันเข้มข้นอย่างมาก จนผมแทบจะอาเจียนออกมา ส่วนล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เจ้าหนึ่ง ได้มีโอกาสลงสนามทำการฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ก็ขออวยพรให้ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ทำผลงานได้ดีจนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะของสโมสรอัลคอร์คอน ให้ได้ตามที่ฝันครับ เพื่อเปิดโอกาสที่ดีให้กับตัวเองและเปิดโอกาสอนาคตของนักเตะทีมชาติไทย

Posted in บทความฟุตบอล

เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รายการแข่งขันของสโมสรในทวีปเอเชีย ที่ใหญ่ที่สุด เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้วในวันที่ 22 มิถุนา นี้ โดยมี 4 ทีมไทยใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจะต้องพบกับยอดสโมสรต่างๆ จากประเทศในโซนเอเชีย เข้าแข่งขันชิงความเป็นจ้าวสโมสรแห่งเอเชีย ซึ่งไทยลีกของประเทศไทย

ครั้งนี้ ได้เข้าไปลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มถึง 4 สโมสรด้วยกัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยคอบอล นักเดิมพัน ร่วมเชียร์ส่งกำลังใจกันได้ครับ วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาทุกท่าน แนะนำให้รู้จักกับ 4 สโมสรไทยลีก ที่กำลังจะลุยถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียกันครับ

4 ทีมไทยใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

1. “กระต่ายแก้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากเป็นแชมป์ไทยลีก 2020 โดยคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ความพร้อมของทีมก่อนลุยถ้วยนี้ พวกเขาได้เปลี่ยนตัวโค้ชจาก ดุสิน เฉลิมแสน ที่พาสโมสรได้แชมป์หลังจากเลื่อนชั้นมาได้ เปลี่ยนมาเป็น ออเรลิโอ วิดมาร์ กุนซือชาวออสเตรเลีย เข้ามาคุมทัพแทน เนื่องจากมีโปรไลเซ่นนั่นเอง

ซึ่งกุนซือแดนจิงโจ้เคยคุมทัพกระต่ายแก้ว เมื่อปี 2016 ถึง 2017 มาแล้ว ส่วนการเสริมทัพก่อนลุยรายการนี้ เสริมทัพและปล่อยนักเตะหลายรายเหมือนกัน น่าสนใจสำหรับทีมแชมป์ไทยลีกสมัยล่าสุด ว่าปรับระบบเล่นแบบไหน เพราะการเปลี่ยนโค้ชใหม่ ยังเดาทางยากว่าจะจัดผู้เล่นอย่างไร ส่วนแข่งที่น่าสนใจของทีม มีหลายรายเลยทีเดียว โดยเฉพาะกองกลางที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก

ทั้ง สารัช อยู่เย็น, ธิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย ส่วนกองหน้ามีทั้งโคตรดาวยิงอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต และ ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ก็เป็นแข้งที่ทำผลงานได้ดีในโปรแกรมลีกซีซั่นที่แล้ว

โดย บีจี อยู่กลุ่มเอฟ ร่วมกับ อุลซาน ฮุนได สโมสรจากเกาหลีใต้, เวียดเทล สโมสรจากเวียดนาม และทีมที่ผ่านเข้ารอบ โดยรอบแรกปีนี้แข่งขันกันที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันของกลุ่มเอฟ

2. “ราชันมังกร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ได้สิทธิ์เข้าแข่งกันในรอบเพย์ออฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย โดยพวกเขารั้งอันดับที่ 4 ของไทยลีกเลกแรก แต่พวกเขายังได้รับส้มหล่น เนื่องจาก จียงซู เอฟซี แชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก ตัดสินใจยุบทีม ทำให้กลุ่มจี มีทีมว่างอยู่สองที่

ซึ่งเกมที่ ราชบุรี ต้องเพย์ออฟกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มกันทั้งคู่ โดยนักเตะที่น่าสนใจของ ราชบุรี มีอยู่พอสมควรแม้จะเป็นรองกว่าหลายๆ ทีมที่ได้ลุยถ้วยนี้เหมือนกัน ไล่ตั้งแต่ สตีเว่น ลองจิล, สรรวัชญ์ เดชมิตร, จักรพันธ์ พรใส หรือจะเป็นดีลที่ฮือฮาที่สุดของไทยลีกในตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงนี้ “โตโน่ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ก็มีชื่อติดทีมชุดลุยเอเอฟซีด้วย

โดยตัวกุนซือเปลี่ยนมาใช้ เสกสรร ศิริพงษ์ ซึ่งมีโปรไลเซ่นเข้ามาคุมทัพนักเตะชุดนี้ ส่วน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ อยู่กลุ่ม จี ร่วมกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส สโมสรจากเกาหลีใต้, ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม สโมสรจากมาเลเซีย และ นาโกย่า แกรมปัส สโมสรจากญี่ปุ่น โดยทุกเกมของกลุ่มนี้จะเตะกันที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

3. “กว่างซ้งมหาภัยสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

อดีตแชมป์ไทยลีก 2019 ได้สิทธิ์เข้ามาแข่งรายการนี้ในรอบเพย์ออฟ โดยพวกเขาจบอันดับที่ 3 ของไทยลีก 2020 ในเลกแรก แต่ก็ได้รับส้มหล่นเหมือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

พวกเขาได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจาก ซิดนีย์ เอฟซี, เมลเบิร์น ซิตี้ และบริสเบน โรอาร์ 3 สโมสรจากประเทศออสเตรเลีย ออกมาประกาศถอนทีมจากการแข่งขันในฤดูกาลนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ เชียงรายฯ ได้โควต้ามาอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มทันที

นักเตะชุดนี้ นำทัพโดย พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เอกนิษฐ์ ป้ญญา, ศิวกรณ์ เตียตระกูล และ บิลล์ โรชิมาร์ ส่วนตัวกุนซือยังใช้ เอเมอร์สัน เปไรรา ดา ซิลวา กุนซือชาวบราซิล นำทัพคุมทีมเช่นเคย

โดย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่กลุ่ม ไอ ซึ่งกลุ่มนี้เตะกันที่ประเทศอุซเบกิสถาน ทุกนัด อยู่ร่วมกลุ่มกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรจากเกาหลีใต้, กัมบะ โอซาก้า สโมสรจากญี่ปุ่นและ แทมนิเส โรเวอร์ส สโมสรจากประเทศสิงคโปร์

4. “สิงห์เจ้าท่าการท่าเรือ เอฟซี

รองแชมป์ไทยลีกเลกแรก ของฤดูกาล 2020 ได้ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ ยังใช้งาน “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ นำทัพคุมทีมอยู่เช่นเคย นี่เป็นสโมสรที่รวบรวมแข้งสตาร์ไทยลีกอย่างคับคั่ง นักเตะหลายรายแทบจะเบียดแย่งหาโอกาสในการลงสนาม

แต่สำหรับรายการนี้สามารถส่งรายชื่อได้เพียง 29 รายเท่านั้น ซึ่งมีแต่แข้งที่น่าสนใจหลายราย ที่จะได้ลุยในถ้วยนี้ น่าสนใจว่าสโมสรย่านคลองเตยจะไปได้ไกลขนาดไหน ไล่ตั้งแต่ ฟิลิป โรลเลอร์, ศิวกร จักขุประสาท, โก ซุล-กิ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เซร์คิโอ ซัวเรส และ ชาริล ชัปปุยส์ เป็นต้น

โดย การท่าเรือ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพของกลุ่ม เจ เตะกันที่สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม ทุกนัดของกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยมี กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ สโมสรจากประเทศจีน, คิตฉี สโมสรจากฮ่องกงและ เซเรโซ โอซาก้า สโมสรจากประเทศญี่ปุ่น

บทสรุป

ร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ให้สโมสรจากประเทศไทย ไปได้ไกลที่สุดในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนนักเดิมพัน นักลงทุน ทางเวป Ufabet เวปพนันออนไลน์ ที่มั่งคง อัตราการต่อรองและค่าน้ำ ให้มากที่สุด ก็มีรายการฟุตบอลถ้วยนี้ให้ลงทุน หากำไรกันครับ รับรองไม่มีผิดหวัง

Posted in บทความฟุตบอล

โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เพิ่งเข้าเซ็นสัญญากับสโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี สโมสรดังจากศึกไทยลีก เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมกับมีชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะที่จะได้ลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย ซึ่งกระแสส่วนใหญ่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บทวิจารณ์ต่างๆ เต็มโซเชี่ยลแน่นขนัด แต่นี่ไม่ใช่ศิลปิน ดารา นักฟุตบอล รายแรก ที่เคยเซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสรฟุตบอล

เพราะในอดีตมีศิลปิน ดารา และนักแสดง แถมไม่เว้นแม้กระทั่งนักมวย ก็เคยได้เซ็นสัญญาอาชีพกันมาแล้ว ทำไมสโมสรถึงตัดสินใจ ดึงตัว ศิลปิน ดารา มาร่วมทีม เป็นเพราะเหตุใด วันนี้ทีมงาน ufa.soccer มีคำตอบให้ครับ

จุดเริ่มต้น ศิลปิน ดารา นักฟุตบอล

ความจริงแล้ว การดึง ศิลปิน ดารา นักแสดง มาเซ็นสัญญาร่วมทัพกับสโมสรระดับอาชีพ มีมาเนิ่นนานแล้ว อย่างเจ้าที่ดังที่สุดและฝีเท้าดูดีไม่ขี้เหร่เลย นั่นก็คือ “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง นี่เอง

เจ้าตัวเคยค้าแข้งให้กับ ธนาคารกรุงเทพ กับ บีเอซี เทโรศาสน มาแล้ว ตั้งแต่ยุค 90 กันเลยทีเดียว ยังมีโอกาสได้ลงสนามอีกด้วย รวมถึง “หนุ่มศรราม เทพพิทักษ์ ก็เคยเล่นให้กับ ทหารอากาศ ในปี 2541 โดยยังถูกส่งลงสนามอยู่บ้าง

ซึ่งในช่วงนั้น เป็นการเรียกกระแสได้ดีพอสมควร ทำให้มีแฟนคลับตามดู ดาราในดวงใจของตนเอง หลังจากช่วงแรกต่อมาก็เริ่มมีการดึง ศิลปิน ดารา ดึงมาร่วมทีมเรื่อยๆ จนกระทั่งลีกซบเซาลงไป

แต่ถัดมาในช่วงปีหลังๆ มานี้ ลีกของไทยเรา เริ่มมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น สโมสรจากต่างจังหวัด เริ่มทำทีมแบบจริงจัง ทำให้กลุ่มแฟนบอลเหนียวแน่นขึ้นไปใหญ่ รวมถึงสโมสรยักษ์ใหญ่ในอดีต บางทีมมีการขายสโมสรหรือปรับระบบโครงสร้างกันใหม่ และการถ่ายทอดสดที่ดีขึ้น ทำให้ ลีกไทย ได้รับความนิยมระดับประเทศ มีสโมสรเกิดขึ้นใหม่มากมาย

แนวคิดที่จะดึง ศิลปิน ดารา มาเซ็นสัญญากับสโมสร เพื่อเพิ่มฐานการติดตามของแฟนบอล ให้เข้าชมสนาม เริ่มมาเชียร์สโมสรนั้น รวมถึงเป็นการโปรโมตสโมสรไปในตัวว่า ทีมของเราก็มีดารา มาเซ็นสัญญานะ ตรงนี้เป็นผลพลอยได้ของแฟนบอลที่มีโอกาสเจอ ศิลปิน ดารา ที่ชอบ ชื่อเสียงของสโมสรก็มีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

โดยยุคหลัง มีทั้ง ไผ่ พงศธร, วีระยุทธ นานช้า, “โจ๊กธีรดนัย สุวรรณหอม รวมถึงนักมวย อย่าง แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ ที่เซ็นสัญญาร่วมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด และได้แชมป์ในปี 2009 แม้เจ้าตัวแทบจะไม่ได้ลงสนามเลยก็ตาม

สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ก็เรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก ย้ายร่วมสโมสร อาร์แบค เอฟซี ซึ่งเป็นมหาลัยที่เจ้าตัวกำลังศึกษาอยู่แล้ว สุดสาคร ส.กลิ่นมี รายนี้เล่นให้กับหลากหลายสโมสร ดูจะจริงจังกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

รวมถึง สุเชาว์ นุชนุ่ม, ยุทธพงษ์ ศรีละคร และ อิสระพงษ์ ลิละคร ที่สมัยก่อนเป็นนักมวยอาชีพแต่ผันตัวมาเป็นนักฟุตบอล แล้วทำผลงานได้เป็นอย่างดี

แม้การที่สโมสรจะดึงตัว ศิลปิน ดารา มาร่วมทัพ จะดูเป็นผลดีแก่ทีม ทั้งรายได้ ที่อาจจะมีเข้ามาเพิ่มขึ้น เพิ่มความน่าสนใจให้กับแฟนบอลท้องถิ่น ที่เลือกจะเดินทางมาชมเกมถึงสนามเหย้า แทนที่จะดูจากการถ่ายทอดสด การเพิ่มชื่อเสียงให้กับสโมสรเองก็ตาม แต่ผลเสียก็มีเหมือนกัน

อย่างที่หลายท่านได้รับรู้ข่าวสารมาบ้างในช่วงนี้ นั่นก็คือ การถูกปรามาศว่า ศิลปิน ดารา จะเล่นไหวหรือ ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพตั้งแต่แรก ย้ายมาจะได้ลงไหม จะเห็นเจ้าตัวลงสนามได้หรือไม่ ทำไปเพื่ออะไร? เสียโควต้านักเตะคนอื่นๆ

หรือนักเตะเยาวชนในสโมสร ซ้อมแทบตายแต่ไม่มีชื่อ ดันเอาดารามามีชื่อ หรือการโจมตีด้วยคีย์บอร์ด ว่าสโมสรรวมถึงศิลปิน ดารา ต่างๆ นาๆ แต่ก็เข้าใจได้บ้างบางส่วน เพราะสมัยนี้ คนเราติดตามข่าวสารกันได้ง่าย ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นปกติอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม รายล่าสุดอย่าง โตโน่ ด้วยวัย 34 ปี ว่ากันตามจริง ปกติจะเป็นช่วงปลายการค้าแข้งอาชีพของนักฟุตบอลอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆ ท่าน อยากที่จะยลโฉม นักร้องหน้าหล่อ คนนี้ ว่าจะวาดลวดลายบนสนามได้หล่อเท่เหมือนกับที่วาดลวดลายบนเวทีได้หรือไม่

Posted in บทความฟุตบอล