เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รายการแข่งขันของสโมสรในทวีปเอเชีย ที่ใหญ่ที่สุด เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้วในวันที่ 22 มิถุนา นี้ โดยมี 4 ทีมไทยใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจะต้องพบกับยอดสโมสรต่างๆ จากประเทศในโซนเอเชีย เข้าแข่งขันชิงความเป็นจ้าวสโมสรแห่งเอเชีย ซึ่งไทยลีกของประเทศไทย

ครั้งนี้ ได้เข้าไปลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มถึง 4 สโมสรด้วยกัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยคอบอล นักเดิมพัน ร่วมเชียร์ส่งกำลังใจกันได้ครับ วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาทุกท่าน แนะนำให้รู้จักกับ 4 สโมสรไทยลีก ที่กำลังจะลุยถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียกันครับ

4 ทีมไทยใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

1. “กระต่ายแก้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากเป็นแชมป์ไทยลีก 2020 โดยคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ความพร้อมของทีมก่อนลุยถ้วยนี้ พวกเขาได้เปลี่ยนตัวโค้ชจาก ดุสิน เฉลิมแสน ที่พาสโมสรได้แชมป์หลังจากเลื่อนชั้นมาได้ เปลี่ยนมาเป็น ออเรลิโอ วิดมาร์ กุนซือชาวออสเตรเลีย เข้ามาคุมทัพแทน เนื่องจากมีโปรไลเซ่นนั่นเอง

ซึ่งกุนซือแดนจิงโจ้เคยคุมทัพกระต่ายแก้ว เมื่อปี 2016 ถึง 2017 มาแล้ว ส่วนการเสริมทัพก่อนลุยรายการนี้ เสริมทัพและปล่อยนักเตะหลายรายเหมือนกัน น่าสนใจสำหรับทีมแชมป์ไทยลีกสมัยล่าสุด ว่าปรับระบบเล่นแบบไหน เพราะการเปลี่ยนโค้ชใหม่ ยังเดาทางยากว่าจะจัดผู้เล่นอย่างไร ส่วนแข่งที่น่าสนใจของทีม มีหลายรายเลยทีเดียว โดยเฉพาะกองกลางที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก

ทั้ง สารัช อยู่เย็น, ธิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย ส่วนกองหน้ามีทั้งโคตรดาวยิงอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต และ ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ก็เป็นแข้งที่ทำผลงานได้ดีในโปรแกรมลีกซีซั่นที่แล้ว

โดย บีจี อยู่กลุ่มเอฟ ร่วมกับ อุลซาน ฮุนได สโมสรจากเกาหลีใต้, เวียดเทล สโมสรจากเวียดนาม และทีมที่ผ่านเข้ารอบ โดยรอบแรกปีนี้แข่งขันกันที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันของกลุ่มเอฟ

2. “ราชันมังกร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ได้สิทธิ์เข้าแข่งกันในรอบเพย์ออฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย โดยพวกเขารั้งอันดับที่ 4 ของไทยลีกเลกแรก แต่พวกเขายังได้รับส้มหล่น เนื่องจาก จียงซู เอฟซี แชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก ตัดสินใจยุบทีม ทำให้กลุ่มจี มีทีมว่างอยู่สองที่

ซึ่งเกมที่ ราชบุรี ต้องเพย์ออฟกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มกันทั้งคู่ โดยนักเตะที่น่าสนใจของ ราชบุรี มีอยู่พอสมควรแม้จะเป็นรองกว่าหลายๆ ทีมที่ได้ลุยถ้วยนี้เหมือนกัน ไล่ตั้งแต่ สตีเว่น ลองจิล, สรรวัชญ์ เดชมิตร, จักรพันธ์ พรใส หรือจะเป็นดีลที่ฮือฮาที่สุดของไทยลีกในตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงนี้ “โตโน่ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ก็มีชื่อติดทีมชุดลุยเอเอฟซีด้วย

โดยตัวกุนซือเปลี่ยนมาใช้ เสกสรร ศิริพงษ์ ซึ่งมีโปรไลเซ่นเข้ามาคุมทัพนักเตะชุดนี้ ส่วน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ อยู่กลุ่ม จี ร่วมกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส สโมสรจากเกาหลีใต้, ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม สโมสรจากมาเลเซีย และ นาโกย่า แกรมปัส สโมสรจากญี่ปุ่น โดยทุกเกมของกลุ่มนี้จะเตะกันที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

3. “กว่างซ้งมหาภัยสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

อดีตแชมป์ไทยลีก 2019 ได้สิทธิ์เข้ามาแข่งรายการนี้ในรอบเพย์ออฟ โดยพวกเขาจบอันดับที่ 3 ของไทยลีก 2020 ในเลกแรก แต่ก็ได้รับส้มหล่นเหมือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

พวกเขาได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจาก ซิดนีย์ เอฟซี, เมลเบิร์น ซิตี้ และบริสเบน โรอาร์ 3 สโมสรจากประเทศออสเตรเลีย ออกมาประกาศถอนทีมจากการแข่งขันในฤดูกาลนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ เชียงรายฯ ได้โควต้ามาอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มทันที

นักเตะชุดนี้ นำทัพโดย พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เอกนิษฐ์ ป้ญญา, ศิวกรณ์ เตียตระกูล และ บิลล์ โรชิมาร์ ส่วนตัวกุนซือยังใช้ เอเมอร์สัน เปไรรา ดา ซิลวา กุนซือชาวบราซิล นำทัพคุมทีมเช่นเคย

โดย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่กลุ่ม ไอ ซึ่งกลุ่มนี้เตะกันที่ประเทศอุซเบกิสถาน ทุกนัด อยู่ร่วมกลุ่มกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรจากเกาหลีใต้, กัมบะ โอซาก้า สโมสรจากญี่ปุ่นและ แทมนิเส โรเวอร์ส สโมสรจากประเทศสิงคโปร์

4. “สิงห์เจ้าท่าการท่าเรือ เอฟซี

รองแชมป์ไทยลีกเลกแรก ของฤดูกาล 2020 ได้ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ ยังใช้งาน “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ นำทัพคุมทีมอยู่เช่นเคย นี่เป็นสโมสรที่รวบรวมแข้งสตาร์ไทยลีกอย่างคับคั่ง นักเตะหลายรายแทบจะเบียดแย่งหาโอกาสในการลงสนาม

แต่สำหรับรายการนี้สามารถส่งรายชื่อได้เพียง 29 รายเท่านั้น ซึ่งมีแต่แข้งที่น่าสนใจหลายราย ที่จะได้ลุยในถ้วยนี้ น่าสนใจว่าสโมสรย่านคลองเตยจะไปได้ไกลขนาดไหน ไล่ตั้งแต่ ฟิลิป โรลเลอร์, ศิวกร จักขุประสาท, โก ซุล-กิ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เซร์คิโอ ซัวเรส และ ชาริล ชัปปุยส์ เป็นต้น

โดย การท่าเรือ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพของกลุ่ม เจ เตะกันที่สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม ทุกนัดของกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยมี กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ สโมสรจากประเทศจีน, คิตฉี สโมสรจากฮ่องกงและ เซเรโซ โอซาก้า สโมสรจากประเทศญี่ปุ่น

บทสรุป

ร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ให้สโมสรจากประเทศไทย ไปได้ไกลที่สุดในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนนักเดิมพัน นักลงทุน ทางเวป Ufabet เวปพนันออนไลน์ ที่มั่งคง อัตราการต่อรองและค่าน้ำ ให้มากที่สุด ก็มีรายการฟุตบอลถ้วยนี้ให้ลงทุน หากำไรกันครับ รับรองไม่มีผิดหวัง

Posted in บทความฟุตบอล

เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก คือรายการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ซึ่งประกอบไปด้วยสโมสรที่เป็นสมาชิกของ เอเอฟซี นั่นเอง ซึ่งวันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพามาทำความรู้จักกับรายการ เอซีแอล ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับ รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของทางฝั่ง ยุโรป โดยเราจะแบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ อธิบายกันแบบเข้าใจง่ายๆ กันครับ

ประวัติของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

รายการนี้เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2510 โดยมีทีมแชมป์จากลีก 8 ประเทศ เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งจัดให้ชิงชัยกันทุกปี จนถึงปี พ.ศ. 2514 ได้เว้นการแข่งขันและเว้นไปหลายปี เนื่องจากไม่ค่อยได้รับความนิยม

แต่ต่อมาก็ได้รับการจัดแข่งขันกันอีกครั้ง แต่แบ่งแยกถึงสามรายการ มีชื่อว่า แชมเปี้ยนส์เอเชียนคัพ, ฟุตบอลเอเชียนคัพวินเนอร์ส, และเอเชียซูเปอร์คัพ โดยปี 2546 ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันมาเป็นรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งรวมสามรายการเข้าด้วยกัน

โดยครั้งนี้ยังเอาทีมที่ได้แชมป์ลีกและแชมป์ฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศ เข้ามาแข่งขัน โดยมี 16 ทีมเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเจ้าภาพในแต่ละสนามจะเป็น หนึ่งสโมสรจากแต่ละกลุ่ม แข่งแบบพบกันหมดในกลุ่มรอบเดียว

โดยแข่งภายใน 1 สัปดาห์ 4 ทีมที่มีคะแนนสุงสุดของแต่กลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะเป็นการแข่งแบบ 2 นัด เหย้า-เยือน

ต่อมาปี 2003/04 ถูกเลื่อนการแข่งขัน ต่อมาได้เปลี่ยนระบบใหม่ มีเพิ่มเป็น 28 สโมสรจาก 14 ประเทศ แบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แบ่งการแข่งขันตามโซนเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันตก เพื่อลดการใช้จ่ายสำหรับค่าเดินทาง แบ่งเป็นการเจอกันเหย้า-เยือน เอาแชมป์กลุ่มเข้าไปเตะรอบต่อไป

โดยรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ เตะกันสองนัด หากเสมอกันทั้งสองนัด จะนับกฏประตูทีมเยือน ถ้ายังเสมอกันอีก จะต่อเวลาพิเศษ และ ดวลลูกจุดโทษ ต่อมาปี 2009 เพิ่มเป็น 32

ซึ่งตรงนี้ เอเอฟซี ได้ตั้งกฏหลายอย่าง ทั้งความพร้อมของแต่ละทีม คลับไลเซ่น ความแข็งแกร่งของลีก สถานะการเงิน คิดเป็นคะแนนค่าสัมประสิทธิ์ ในการให้โควต้าแต่ละประเทศเพื่อเข้ามาทำการแข่งขัน

ส่วนรูปแบบการแข่งขันจะคล้ายเดิม โดยเอาสองทีมคะแนนดีจากทุกกลุ่ม เข้ามาในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปและเตะกันในระบบ เหย้า-เยือน ยันนัดชิงชนะเลิศ ต่อมาปี 2010 ได้เอาทีมที่เข้า 8 ทีมสุดท้ายมาจับฉลาก โดยไม่เอาสโมสรจากประเทศเดียวกันมาเจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ แข่งขันกัน 2 นัดแบบเหย้าเยือนเช่นเคย

ส่วนรอบชิงชนะเลิศ เตะสนามกลาง แข่งนัดเดียว หาก 90 นาทีทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ จะทำการต่อเวลาพิเศษและดวลจุดโทษตามลำดับ โดย ทีมแชมป์จะได้เงินรางวัล 1.5 ล้านดอลล่าร์ และจะได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันในรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ ฟีฟ่าคลับเวิลด์ คัพ ซึ่งเป็นรายการชิงแชมป์ระหว่างทีมสโมสรของแต่ละสมาพันธ์ลูกหนังจาก 6 ทวีปทั่วโลก

ซึ่งนับว่าเป็นรายการชิงแชมป์ระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีโอกาสพบกับยอดทีมของแต่ละทวีปด้วยกัน

สโมสรไทย ใน เอซีแอล

สโมสรแรกในไทยที่ได้ไปลุยรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็คือ บีเอซี เทโรศาสน ในฤดูกาล 2002/03 ซึ่งครั้งแรกก็เกือบก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์ แต่ดันพ่ายให้กับ อัล-อิน สโมสรจาก ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเจอกันเหย้า-เยือน สกอร์สองนัดพ่ายไป 1-2 อดคว้าแชมป์อย่างน่าเสียดาย ซึ่งก็เป็นสถิติที่ดีที่สุดของสโมสรไทยนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ส่วนอีกสโมสรที่เคยไปได้ไกลสุดในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นั่นก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2012/13แต่อกหักด้วยน้ำมือของ เอสเตกัลห์ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-3 ส่วนโควต้าของตัวแทนสโมสรจากไทย เอเอฟซี ได้ปรับโควต้าใหม่ ให้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 2 ทีม

โดยเอา แชมป์ลีก และ แชมป์เอฟเอ คัพ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอีก 2 ทีม จะได้เข้ารอบเพย์ออฟ ซึ่งยกโควต้าให้กับ ทีมรองแชมป์และทีมอันดับที่ 3 ของลีก ทว่าปีนี้พิเศษหน่อย สโมสรจากไทย ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 4 ทีม

เนื่องจาก สมาคมฟุตบอลประเทศออสเตรเลีย ได้ขอถอนทีมออกจากรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2021 เนื่องจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 และสโมสร เจียงซู เอฟซี ได้ยุบทีม ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่สโมสรจากประเทศไทยได้ไปลุยในรายการนี้ถึง 4 ทีมเต็มโควต้า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

โดยฤดูกาลนี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้เข้าไปแข่งขันกับศึกแชมป์จ้าวลูกหนังแห่งทวีปเอเชีย เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย นันทวัฒน์ แทนโสภา เคยคว้ารางวัลดาวซัลโวของรายการนี้มาครอง ในฤดูกาล 2008 ด้วยการซัดไป 9 ประตูจาก 6 นัดที่ลงสนาม โดยเจ้าตัวค้าแข้งให้กับสโมสร ธนาคารกรุงไทย

Posted in บทความฟุตบอล