ฟุตบอลไทยลีก 2021 ได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้วในวันที่ 3 กันยายน ปี 2564 หลังจากเลื่อนกันมาอย่างยาวนาน จากการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยคู่แรกเป็นทาง หนองบัว พิชญ ปะทะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทำให้วันนี้ พวกเราจะมาชวนเพื่อนๆ ดูไทยลีก 2021 ไปด้วยกัน

โดยทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพามาแนะนำข้อมูลของไทยลีก 2021 ปีนี้ มีความน่าสนใจหารับชมได้อย่างไร และถ้าหากจะเดิมพัน ควรเดิมพันเวปไหนกันครับ

ดูไทยลีก 2021

ไทยลีกปีนี้ ได้ใช้ชื่อว่า ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021/22 ซึ่งโตโยต้ายังเป็นผู้สนับสนุนหลักเช่นเคย รวมถึงเป็นฤดูกาลแรก ที่โปรแกรมการแข่งขันมีการแข่งขันแบบข้ามปี ส่วนตลาดการซื้อ-ขาย นักเตะ ก็จะเปิดเวลาเดียวกันทางโซนยุโรปอีกด้วย

ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไป ว่าแผนนี้จะมีอะไรที่ดีขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องปรับจูนกันใหม่ เพื่อให้ลีกมีมาตรฐานมากขึ้นและยกระดับมากขึ้นไปอีก ในส่วนของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก ปีนี้เป็น Ais Play ได้ลิขสิทธิ์

โดยสามารถสมัครสมาชิกกันได้ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 199 บาท ส่วนบางคู่ ก็มีการถ่ายทอดสดทางช่องฟรีทีวี เช่น ช่องททบ. 5 HD, PPTV HD และ GMM 25

ส่วนความน่าสนใจในปีนี้ หลายทีมมีการเสริมทัพกันหนักหน่วง ทั้งการนำเข้าแข้งต่างชาติและการเสริมทัพนักเตะไทย โดยทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มีการเสริมนักเตะชาวต่างชาติฝีเท้าดีและการเซ็นนักเตะไทยมาร่วมทีมอย่าง พีรดลย์ ฉ่ำรัศมี เข้ามาเติมเต็มในแดนกลาง

ส่วนแชมป์เก่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็เติมแกร่งผู้เล่นถึงหลายราย รวมถึงตัวโค้ชคนใหม่หน้าเก่าอย่าง วิดมาร์ ก็เพิ่งพาคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ แชมเปียนส์คัพ 2021 หลังจากเฉือนเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เหลือผู้เล่น 10 คนด้วยสกอร์ 1-0 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

และ ทางเฮ้ดโค้ชชาวออสเตรเลีย ก็บอกว่า พวกเขาพร้อมแล้วที่จะสู้ศึกไทยลีกในซีซั่นนี้ ด้านสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แม้จะเสริมทัพไม่หวือหวาแต่ระบบการเล่นถือว่าดี หลังๆ มีแชมป์ติดไม้ติดมือตลอด ก็น่าลุ้นน่าเชียร์

ตามด้วย การท่าเรือ ของ มาดามแป้ง ที่เรียกได้ว่า นักเตะล้นทีม มีแต่สตาร์ดังทั้งไทยและต่างชาติ พร้อมบวกพร้อมชนทุกทีม โดยมีเฮ้ดโค้ชอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน ที่เพิ่งพา บีจี ได้แชมป์ลีกในซีซั่นก่อน เป็นคนกุมบังเหียน ก็มาดูกันว่า ท่าเรือ จะไปได้ไกลถึงตำแหน่งแชมป์หรือไม่

ต่อที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้นักเตะดีกรีทีมชาติไทยอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มาเติมแกร่งแดนกลางให้กับทีม ก็ดูกันว่า ทีมของโค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน จะไปไกลได้ถึงไหน มาถึงสองทีมที่เคยเรียกได้ว่า

เป็นศึก เอล กลาซิโก้ เมืองไทย อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี สองทีมนี้ทุกวันนี้นโยบายใกล้เคียงกัน โดยเน้นการปั้นดาวรุ่งให้โอกาสล้ำค่าในการลงสนาม ซึ่งทั้งสองทีมแม้จะไม่แกร่งเหมือนแต่ก่อน แต่เล่นบอลสนุกเร้าใจ

โดย เมืองทอง ของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ก็เป็นทีมดาวรุ่งต่อบอลสวยงาม ส่วน ชลบุรี ของ โค้ช สะสม พบประเสริฐ ก็เน้นวิ่งสู้ฟัด ใช้ความห้าวของวัยรุ่นในการฮึดสู้ ก็มาดูกันว่าสองทีมที่เคยยิ่งใหญ่มาก่อน จะทำผลงานได้ถึงไหน

ส่วนทีมอื่นๆ อย่าง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี และ สมุทรปราการ ซิตี้ 6 ทีมนี้ก็น่าติดตามกันไม่น้อยเลยทีเดียว

ส่วนน้องใหม่อย่าง หนองบัว พิชญ และ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ขึ้นชั้นไทยลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งก็เป็นทีมภูธร ก็น่าติดตามชมเช่นกัน ว่าน้องใหม่จะจี๊ดแค่ไหน

เช่นเดียวกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่หายจากไทยลีกไปนาน ก็เลื่อนขั้นขึ้นมาได้แล้ว ก็ขอเอาใจช่วยสามทีมทำผลงานได้ดี อยู่รอดปลอดภัยในไทยลีก น่าเสียดายที่ตอนนี้ แฟนบอลยังไม่สามารถชมในสนามได้

โดยมีแค่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แฟนบอลสามารถเข้าชมเกมในสนามได้ 25% โดยต้องมีหลักฐานการฉีดวีคซีนและปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด ซึ่งก็หวังว่าสถานการณ์บ้านเมืองของบ้านเราจะดีขึ้นในเร็ววัน ทุกคนจะได้ทำกิจกรรมปกติกันเสียที

ในส่วนสุดท้ายที่สำคัญ หากต้องการเดิมพัน ฟุตบอลไทยลีก จากเวปที่เปิดอัตราต่อรอง และ ให้ราคา ค่าน้ำ สูงที่สุด ดีที่สุด ก็ต้อง Ufabet ที่เดียวเท่านั้น ครบวงจรทุกการเดิมพัน เรามีครบหมดที่ทุกท่านต้องการ สามารถสมัครสมาชิกกันได้ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ไม่ว่าจะ ฟุตบอล กีฬา เกม คาสิโน เรามีครบ รีบสมัครกันเลย พร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ เพื่อคุณ

Posted in บทความฟุตบอล

ก่อนที่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ที่เลื่อนกันมาสักพักใหญ่ จะเปิดฉากฤดูกาลในเดือนหน้า หลังจากที่ได้เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเป็น AIS นอกจากปัญหาหลายๆ อย่างที่เริ่มคลี่คลายขึ้น วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาทุกท่านมารู้จัก 16 กุนซือไทยลีก ในซีซั่นนี้ ว่าเป็นใครกันบ้าง

16 กุนซือไทยลีก 2021/22 เป็นใครกันบ้าง

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

  • 1. ออเรลิโอ วิคมาร์ กุนซือชาว ออสเตรเลีย วัย 54 ปี

กุนซือชาวออสเตรเลีย เพิ่งจะมาคุม บีจี ในซีซั่นนี้ แต่ในอดีตเขาเคยคุมทีมนี้แล้วในปี 2016 ถึง 2017 โดยเป้าหมายคือพาแชมป์เก่ากลับมาป้องกันแชมป์และพาทีมลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ปัจจุบันเข้าไปถึง 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

  • 2. อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือชาว บราซิล วัย 53 ปี

กุนซือชาวบราซิล ผู้ที่ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดในไทยลีกยุคปัจจุบัน ประสบการณ์โชกโชน คุมหลายทีมในไทยลีกแบบนับไม่ถ้วน โดยปีนี้ เขาหวังนำพา เซาะกราว ทวงบัลลังก์แชมป์กลับคืนมาให้ได้เป็นเป้าหมายหลัก

การท่าเรือ เอฟซี

  • 3. ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือชาว ไทย วัย 51 ปี

ดุสิต อดีตแบ็คซ้ายดาราเอเชีย ที่ฤดูกาลที่แล้ว เขาพา บีจี ก้าวไปถึงแชมป์ลีกแบบยิ่งใหญ่ โดยตอนนี้เขากลายเป็นนายใหญ่แห่งการท่าเรือ โดยเป้าหมาย คือการพา ท่าเรือ ให้คว้าแชมป์ไทยลีกได้สักที หลังจากองค์ประกอบทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแค่เฮ้ดโค้ชอย่างเขา จะทำได้ดีแค่ไหน

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

  • 4. เอเมอร์สัน เปเรย์ร่า กุนซือชาว บราซิล วัย 48 ปี

เปเรย์ร่า เข้ามาคุมทีมเมื่อปลายปีก่อน โดยปีนี้ได้พาทีมไปลุย ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว แต่ทว่าตกรอบ โดยซีซั่นนี้ เป้าหมายของทีมคือการจบอันดับ 1-4 ซึ่งก็เป็นงานที่ไม่ง่ายเลย เพราะแต่ละทีมก็ต่างมุ่งมั่น จัดเต็มยกเครื่องใหม่กันอย่างมาก

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

  • 5. ธชตะวัน ศรีปาน กุนซือชาว ไทย วัย 49 ปี

โค้ชแบน คุม แข้งเทพ เมื่อปลายปีก่อน ซึ่งก็ทำผลงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยซีซั่นนี้ แน่นอนว่า เป้าหมายของทีม ยังต้องการจบอันดับ 1-4 และก็ได้เสริมทัพที่ดูดีเลยทีเดียว โดยสโมสรนี้ยังเป็นสโมสรอีกหนึ่งแห่ง ที่มั่นคงในการเงิน มาดูกันว่า พวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน

สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี

  • 6. มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาว ญี่ปุ่น วัย 54 ปี

กุนซือจากแดนอาทิตย์อุทัย ใช้เวลาครึ่งฤดูกาลในการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นของทีม จนกลายเป็นหนึ่งทีมที่น่าจับตามอง น่าเสียดายที่สโมสร มีปัญหาด้านการเงิน ทำให้พวกเขาต้องเสียตัวหลักไปมากพอสมควร ฤดูกาลนี้พวกเขาจะรักษามาตรฐานเดิมได้หรือไม่ ต้องมารอดูกัน

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

  • 7. มาริโอ ยูรอฟสกี้ กุนซือชาว มาร์ซิโดเนียเหนือ วัย 35 ปี

พี่โอ้ ที่ก้าวมาเป็นกุนซือช่วงเดือนตุลาคมปีก่อน ได้เปลี่ยนแปลงระบบการเล่น ใช้ตัวผู้เล่นดาวรุ่ง ต่อบอลแบบเท้าสู่เท้า เล่นได้อย่างสวยงาม จนทำให้สโมสรนี้มีความหวังอีกครั้ง ด้วยขุมกำลังยังบลัดและกุนซือผู้เป็นตำนานสโมสร ฤดูกาลนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย ว่าพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

  • 8. สมชาย ไม้วิลัย กุนซือชาว ไทย วัย 46 ปี

เรียกว่าเป็นกุนซือที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน แม้จะมีช่วงที่ไม่ได้คุมทีม แต่ก็ยังมีตำแหน่งอยู่ในสโมสร ด้วยความที่รู้จักและผูกพันกับทีมมาอย่างยาวนาน ก็ทำให้เขาน่าจะพาสโมสรเมืองโอ่ง ทำผลงานอยู่ในอันดับเลขตัวเดียวได้อย่างไม่ยากเย็น

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

  • 9. ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือชาว ไทย วัย 43 ปี

กุนซือที่ทำทีมเล่นได้อย่างสนุก ได้ใจแฟนบอล โดยเฉพาะยามเล่นในบ้าน แม้สโมสรจะไม่มีเงินถุงเงินถังสู้ทีมอื่น แต่ระบบการเล่นของเขา ไม่เป็นสองรองใคร ฤดูกาลนี้แน่นอนว่าหนักกว่าเดิม แต่ก็น่าติดตามอย่างมาก ว่าพวกเขาจะทำได้ดีมากแค่ไหน

พีที ประจวบ เอฟซี

  • 10. มาซามิ กากิ กุนซือชาว ญี่ปุ่น วัย 49 ปี

ฤดูกาลนี้ กุนซือชาวญี่ปุ่น จะได้คุมทัพแบบเต็มตัว พาลูกทีมเมืองสามอ่าว หวดทุกรายการ ซึ่งเป้าหมายของทีม คงแค่ไม่ขอตกชั้นเป็นพอ แล้วก็มาดูกันว่า ทีมนี้จะแข็งแกร่งมากขึ้นได้หรือไม่ โดยเฉพาะเกมเยือนที่มีสถิติไม่ดีเท่าไหร่

โปลิศ เทโร เอฟซี

  • 11. รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือชาว ไทย วัย 42 ปี

พี่อ้น ทีมประสบการณ์อย่างเต็มเปี่ยมในการเป็นนักฟุตบอลและตอนนี้ ก็มีประสบการณ์ในการคุมทีมพอสมควร โดยซีซั่นนี้ จะได้แสดงฝีไม้ลายมืออยู่เช่นเคย บวกกับขุมกำลังที่มีแข้งประสบการณ์หลายคน ดูกันว่า พวกเขาจะจบอันดับเลขตัวเดียวได้หรือไม่

ชลบุรี เอฟซี

  • 12. สะสม พบประเสริฐ กุนซือชาว ไทย วัย 53 ปี

น้าเตี้ย ผู้ที่เป็นเฮ้ดโค้ชที่มีเอกลักษณ์และสร้างสีสันวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน ส่วนในการคุม ชลบุรี เขาได้ให้โอกาสดาวรุ่งหลายคน ได้ลงโชว์ฟอร์มลงสนาม นับว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อวงการฟุตบอลไทย และมาดูกันว่า ชลบุรี ของน้าเตี้ย จะไปได้ไกลถึงไหนในซีซั่นนี้

สุพรรณบุรี เอฟซี

  • 13. อเดบาโย กาเดโบ กุนซือชาว ไนจีเรีย วัย 47 ปี

เรียกว่าเก้าอี้แน่นแบบเหลือเชื่อกับ อเดบาโย โดยซีซั่นนี้ เป็นฤดูกาลที่ 3 ที่เขาจะได้พาทีม ช้างศึกยุทธหัตถี ฟาดแข้งลุยศึกไทยลีก ด้วยความที่ทีม ไม่ใช่สโมสรเงินถุงเงินถัง เกือบตกชั้นในซีซั่นที่แล้ว ส่วนฤดูกาลนี้ ดูกันว่า พวกเขาจะทำได้ดีกว่าเดิมหรือไม่

หนองบัว พิชญ เอฟซี

  • 14. ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือชาว ไทย วัย 47 ปี

ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งได้เล่นในศึกไทยลีก เป็นครั้งแรก ของประวัติศาสตร์สโมสร แต่กุนซืออย่าง โค้ชวัง เป็นกุนซือที่คร่ำหวอดวงการฟุตบอลไทยมานาน ประสบการณ์เต็มเปี่ยม หวังว่าทีมน้องใหม่ จะไม่กลายเป็นทีมตกชั้นและทำผลงานได้อย่างดีบนลีกสูงสุด

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

  • 15. สุรพงษ์ คงเทพ กุนซือชาว ไทย วัย 42 ปี

กุนซือชาวไทยรายนี้ เพิ่งได้รับเข้าตำแหน่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แน่นอนว่าเป้าหมายของทีม ของแค่ไม่ตกชั้นเป็นอันใช้ได้ ซึ่งดูแล้วก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็เอาใจช่วย ให้พวกเขามีฤดูกาลที่ดีบนลีกสูงสุดในซีซั่นนี้

ขอนแก่น ยูไนเต็ด

  • 16. คาร์ลอส เปไรร่า กุนซือชาว บราซิล วัย 40 ปี

กุนซือเลือดบราซิเลี่ยน รับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเขา คือการไม่ตกชั้นและอยู่รอดบนลีกสูงสุดให้ได้ ซึ่งดูจากขุมกำลัง ยังถือว่าเป็นรองหลายทีมๆ แต่อย่างไรก็ขอให้พวกเขาโชคดีกับฤดูกาลใหม่นี้

Posted in บทความฟุตบอล

ฮือฮาพอสมควรสำหรับวงการฟุตบอลไทย เมื่อ ลำพูน วอร์ริเออร์ ทีมน้องใหม่แห่งศึกฟุตบอลไทยลีก 2 หรือลีกรองสูงสุดของประเทศไทย ได้จัดการคว้าตัว อาลี ซิสโซโก้ อดีตแข้ง “หงส์แดงลิเวอร์พูล โคตรทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาร่วมทีม โดยแบ็คซ้ายป้ายแดงรายนี้ จะเข้ามาเป็นนักเตะใหม่ของ ลำพูน วอร์ริเออร์ หลังจากกักตัวครบ 14 วันและทำการตรวจร่างกาย ก่อนเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ

โดยวันนี้ ทีมงาน ufa.soccer จะพามาทำความรู้จักอดีตแข้งยอดสโมสรของยุโรป ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ก่อนมาลงเอยค้าแข้งในประเทศไทยของเราครับ

อาลี ซิสโซโก้ อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล กับความเป็นมาเป็นไปของเขา

อาลี ซิสโซโก้ เกิดวันที่ 15 กันยายน ปี 1987 เล่นตำแหน่งแบ็คซ้าย และมิดฟิลด์ตัวรับ รวมถึงเล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลางได้ด้วย เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเตะเยาวชน ของสโมสร เอฟซี กึงยง ก่อนที่จะย้ายข้ามประเทศ ไปเล่นให้กับสโมสร วิตอเรีย เซตูบาล สโมสรจากโปรตุเกส ก่อนโชว์ฟอร์มได้ดี จนได้ย้ายมาสโมสร เอฟซี ปอร์โต้

ต่อมาย้ายกลับประเทศ ไปเล่นให้กับ โอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัวถึง 16.2 ล้านปอนด์ พร้อมสร้างฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนามไปถึง 136 นัด ยิงได้ 2 ประตู แอสซิสต์อีก 11 ลูก จนสามารถติดทัพทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ แต่ไม่เคยได้รับโอกาสในการลงสนาม ในเกมทีมชาติ

ต่อมาได้ย้ายไปเล่นให้กับ บาเลนเซีย สโมสรจาก ลาลีกา สเปน ก็ทำผลงานได้ดี ซึ่งถัดมาเพียงปีเดียว ลิเวอร์พูล ยอดทีมจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ยืมตัวแบ็คซ้ายฝรั่งเศสรายนี้มาร่วมทีม 1 ฤดูกาล

โดยลงเล่นให้ลิเวอร์พูลไปทั้งหมด 19 นัด ทำได้ 2 แอสซิสต์ แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าไม่โดดเด่น และไม่ประสบความสำเร็จ โดยเป็นหนึ่งในแข้งที่ ลิเวอร์พูล พลาดคว้าแชมป์ลีก ทำได้เพียงเป็นรองแชมป์ ในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในฤดูกาล 2013/14

เมื่อสัญญายืมตัวหมดลงเลยย้ายกลับมา บาเลนเซีย แต่แล้วก็ต้องกลับมาอังกฤษ อีกครั้ง เมื่อ แอสตัน วิลล่า ได้ซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ ลงเล่นให้ แอสตัน วิลล่า 58 นัด ทำได้ 1 แอสซิสต์

ก่อนที่จะย้ายในรูปแบบยืมตัวกลับ โอลิมปิก ลียง และ โอลิมเปียกอส ยอดทีมจากกรีซ ก่อนจะหมดสัญญากับ แอสตัน วิลล่า หลังจากนั้นย้ายไปลีกตุรกีเล่นให้กับ มาลัตยาสปอร์ และ อันตาลยาสปอร์ โดยค้าแข้งในประเทศตุรกี 3 ปี ก่อนจะกลับมาฝรั่งเศสบ้านเกิด เล่นให้กับสโมสรเล็กๆ อย่าง เอเอฟซี บลัวส์

เส้นทางใหม่ใน ไทยลีก 2

ก่อนที่ท้ายที่สุดจะลงเอยกับ “ราชันโคขาวลำพูน วอร์ริเออร์ ทีมน้องใหม่แห่งศึกไทยลีก 2 โดยทำการกักตัวให้ครบ 14 วัน ถึงจะทำการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญาร่วมทัพอย่างเป็นทางการต่อไป

โดยทางประธานสโมสร “บอสตาลพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ได้เปิดเผยถึงการเซ็นนักเตะชื่อดังวัย 33 ปีรายนี้ว่า ถือว่าได้เติมเต็มความฝันของตัวเอง ด้วยการดึงนักเตะสโมสรที่ตนเองโปรดปรานมาร่วมทีม แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งที่สโมสรต้องการสำหรับแข้งโควต้าต่างชาติก็ตาม

แต่นักเตะรายนี้ พร้อมจะนำประสบการณ์ในการค้าแข้งระดับโลก พร้อมช่วยเหลือทีมได้อย่างแน่นอน โดยยังเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์อีกด้วย อีกทั้ง ซิสโซโก้ เองเป็นนักเตะไม่ถือตัว พร้อมลุยและเป็นกันเองอย่างมาก เขาบอกมาว่าพร้อมช่วยสโมสรบรรลุความสำเร็จในการคว้าตั๋วเลื่อนชั้น ไม่ได้มาแค่พักร้อนเฉยๆ เพียงเท่านั้น

ส่วนทางเจ้าตัวได้กล่าวว่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเลยแม้แต่น้อย พร้อมช่วยสโมสรอย่างเต็มที่ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่แข้งระดับโลกได้เข้ามาร่วมสโมสรในลีกไทย แถมยังเป็นการย้ายมาร่วมทีมลีกรองสูงสุดของประเทศไทยอีกด้วย

เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่มากมายของนักเตะชาวฝรั่งเศส จะมีส่วนช่วยให้ทีม ลำพูน วอร์ริเออร์ ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ล้ำค้าและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับฟุตบอลไทยให้พัฒนามากขึ้น

ซึ่งก็อย่างที่เห็น เหมือนช่วงนี้จะถอยหลังลงคลองไปมากสำหรับทีมชาติ แต่อย่างไรก็ร่วมส่งแรงใจเชียร์ ถ้าหากเหตุการณ์โควิด-19 ระบาดน้อยลง จนแฟนบอลสามารถเข้าไปชมในสโมสรได้ ก็อยากให้สัมผัสบรรยากาศในสนามกันครับ เพราะฟุตบอลเมื่อไม่มีแฟนบอล ก็ไร้ความหมาย ทุกคนมีส่วนช่วยในการพัฒนาครับ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะไม่ยอมให้เราพัฒนาเสียอย่างนั้น

Posted in บทความฟุตบอล

เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รายการแข่งขันของสโมสรในทวีปเอเชีย ที่ใหญ่ที่สุด เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้วในวันที่ 22 มิถุนา นี้ โดยมี 4 ทีมไทยใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจะต้องพบกับยอดสโมสรต่างๆ จากประเทศในโซนเอเชีย เข้าแข่งขันชิงความเป็นจ้าวสโมสรแห่งเอเชีย ซึ่งไทยลีกของประเทศไทย

ครั้งนี้ ได้เข้าไปลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มถึง 4 สโมสรด้วยกัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยคอบอล นักเดิมพัน ร่วมเชียร์ส่งกำลังใจกันได้ครับ วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาทุกท่าน แนะนำให้รู้จักกับ 4 สโมสรไทยลีก ที่กำลังจะลุยถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียกันครับ

4 ทีมไทยใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

1. “กระต่ายแก้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากเป็นแชมป์ไทยลีก 2020 โดยคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ความพร้อมของทีมก่อนลุยถ้วยนี้ พวกเขาได้เปลี่ยนตัวโค้ชจาก ดุสิน เฉลิมแสน ที่พาสโมสรได้แชมป์หลังจากเลื่อนชั้นมาได้ เปลี่ยนมาเป็น ออเรลิโอ วิดมาร์ กุนซือชาวออสเตรเลีย เข้ามาคุมทัพแทน เนื่องจากมีโปรไลเซ่นนั่นเอง

ซึ่งกุนซือแดนจิงโจ้เคยคุมทัพกระต่ายแก้ว เมื่อปี 2016 ถึง 2017 มาแล้ว ส่วนการเสริมทัพก่อนลุยรายการนี้ เสริมทัพและปล่อยนักเตะหลายรายเหมือนกัน น่าสนใจสำหรับทีมแชมป์ไทยลีกสมัยล่าสุด ว่าปรับระบบเล่นแบบไหน เพราะการเปลี่ยนโค้ชใหม่ ยังเดาทางยากว่าจะจัดผู้เล่นอย่างไร ส่วนแข่งที่น่าสนใจของทีม มีหลายรายเลยทีเดียว โดยเฉพาะกองกลางที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก

ทั้ง สารัช อยู่เย็น, ธิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย ส่วนกองหน้ามีทั้งโคตรดาวยิงอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต และ ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ก็เป็นแข้งที่ทำผลงานได้ดีในโปรแกรมลีกซีซั่นที่แล้ว

โดย บีจี อยู่กลุ่มเอฟ ร่วมกับ อุลซาน ฮุนได สโมสรจากเกาหลีใต้, เวียดเทล สโมสรจากเวียดนาม และทีมที่ผ่านเข้ารอบ โดยรอบแรกปีนี้แข่งขันกันที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันของกลุ่มเอฟ

2. “ราชันมังกร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ได้สิทธิ์เข้าแข่งกันในรอบเพย์ออฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย โดยพวกเขารั้งอันดับที่ 4 ของไทยลีกเลกแรก แต่พวกเขายังได้รับส้มหล่น เนื่องจาก จียงซู เอฟซี แชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก ตัดสินใจยุบทีม ทำให้กลุ่มจี มีทีมว่างอยู่สองที่

ซึ่งเกมที่ ราชบุรี ต้องเพย์ออฟกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มกันทั้งคู่ โดยนักเตะที่น่าสนใจของ ราชบุรี มีอยู่พอสมควรแม้จะเป็นรองกว่าหลายๆ ทีมที่ได้ลุยถ้วยนี้เหมือนกัน ไล่ตั้งแต่ สตีเว่น ลองจิล, สรรวัชญ์ เดชมิตร, จักรพันธ์ พรใส หรือจะเป็นดีลที่ฮือฮาที่สุดของไทยลีกในตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงนี้ “โตโน่ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ก็มีชื่อติดทีมชุดลุยเอเอฟซีด้วย

โดยตัวกุนซือเปลี่ยนมาใช้ เสกสรร ศิริพงษ์ ซึ่งมีโปรไลเซ่นเข้ามาคุมทัพนักเตะชุดนี้ ส่วน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ อยู่กลุ่ม จี ร่วมกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส สโมสรจากเกาหลีใต้, ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม สโมสรจากมาเลเซีย และ นาโกย่า แกรมปัส สโมสรจากญี่ปุ่น โดยทุกเกมของกลุ่มนี้จะเตะกันที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

3. “กว่างซ้งมหาภัยสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

อดีตแชมป์ไทยลีก 2019 ได้สิทธิ์เข้ามาแข่งรายการนี้ในรอบเพย์ออฟ โดยพวกเขาจบอันดับที่ 3 ของไทยลีก 2020 ในเลกแรก แต่ก็ได้รับส้มหล่นเหมือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

พวกเขาได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจาก ซิดนีย์ เอฟซี, เมลเบิร์น ซิตี้ และบริสเบน โรอาร์ 3 สโมสรจากประเทศออสเตรเลีย ออกมาประกาศถอนทีมจากการแข่งขันในฤดูกาลนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ เชียงรายฯ ได้โควต้ามาอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มทันที

นักเตะชุดนี้ นำทัพโดย พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เอกนิษฐ์ ป้ญญา, ศิวกรณ์ เตียตระกูล และ บิลล์ โรชิมาร์ ส่วนตัวกุนซือยังใช้ เอเมอร์สัน เปไรรา ดา ซิลวา กุนซือชาวบราซิล นำทัพคุมทีมเช่นเคย

โดย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่กลุ่ม ไอ ซึ่งกลุ่มนี้เตะกันที่ประเทศอุซเบกิสถาน ทุกนัด อยู่ร่วมกลุ่มกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรจากเกาหลีใต้, กัมบะ โอซาก้า สโมสรจากญี่ปุ่นและ แทมนิเส โรเวอร์ส สโมสรจากประเทศสิงคโปร์

4. “สิงห์เจ้าท่าการท่าเรือ เอฟซี

รองแชมป์ไทยลีกเลกแรก ของฤดูกาล 2020 ได้ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ ยังใช้งาน “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ นำทัพคุมทีมอยู่เช่นเคย นี่เป็นสโมสรที่รวบรวมแข้งสตาร์ไทยลีกอย่างคับคั่ง นักเตะหลายรายแทบจะเบียดแย่งหาโอกาสในการลงสนาม

แต่สำหรับรายการนี้สามารถส่งรายชื่อได้เพียง 29 รายเท่านั้น ซึ่งมีแต่แข้งที่น่าสนใจหลายราย ที่จะได้ลุยในถ้วยนี้ น่าสนใจว่าสโมสรย่านคลองเตยจะไปได้ไกลขนาดไหน ไล่ตั้งแต่ ฟิลิป โรลเลอร์, ศิวกร จักขุประสาท, โก ซุล-กิ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เซร์คิโอ ซัวเรส และ ชาริล ชัปปุยส์ เป็นต้น

โดย การท่าเรือ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพของกลุ่ม เจ เตะกันที่สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม ทุกนัดของกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยมี กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ สโมสรจากประเทศจีน, คิตฉี สโมสรจากฮ่องกงและ เซเรโซ โอซาก้า สโมสรจากประเทศญี่ปุ่น

บทสรุป

ร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ให้สโมสรจากประเทศไทย ไปได้ไกลที่สุดในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนนักเดิมพัน นักลงทุน ทางเวป Ufabet เวปพนันออนไลน์ ที่มั่งคง อัตราการต่อรองและค่าน้ำ ให้มากที่สุด ก็มีรายการฟุตบอลถ้วยนี้ให้ลงทุน หากำไรกันครับ รับรองไม่มีผิดหวัง

Posted in บทความฟุตบอล

โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เพิ่งเข้าเซ็นสัญญากับสโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี สโมสรดังจากศึกไทยลีก เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมกับมีชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะที่จะได้ลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย ซึ่งกระแสส่วนใหญ่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บทวิจารณ์ต่างๆ เต็มโซเชี่ยลแน่นขนัด แต่นี่ไม่ใช่ศิลปิน ดารา นักฟุตบอล รายแรก ที่เคยเซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสรฟุตบอล

เพราะในอดีตมีศิลปิน ดารา และนักแสดง แถมไม่เว้นแม้กระทั่งนักมวย ก็เคยได้เซ็นสัญญาอาชีพกันมาแล้ว ทำไมสโมสรถึงตัดสินใจ ดึงตัว ศิลปิน ดารา มาร่วมทีม เป็นเพราะเหตุใด วันนี้ทีมงาน ufa.soccer มีคำตอบให้ครับ

จุดเริ่มต้น ศิลปิน ดารา นักฟุตบอล

ความจริงแล้ว การดึง ศิลปิน ดารา นักแสดง มาเซ็นสัญญาร่วมทัพกับสโมสรระดับอาชีพ มีมาเนิ่นนานแล้ว อย่างเจ้าที่ดังที่สุดและฝีเท้าดูดีไม่ขี้เหร่เลย นั่นก็คือ “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง นี่เอง

เจ้าตัวเคยค้าแข้งให้กับ ธนาคารกรุงเทพ กับ บีเอซี เทโรศาสน มาแล้ว ตั้งแต่ยุค 90 กันเลยทีเดียว ยังมีโอกาสได้ลงสนามอีกด้วย รวมถึง “หนุ่มศรราม เทพพิทักษ์ ก็เคยเล่นให้กับ ทหารอากาศ ในปี 2541 โดยยังถูกส่งลงสนามอยู่บ้าง

ซึ่งในช่วงนั้น เป็นการเรียกกระแสได้ดีพอสมควร ทำให้มีแฟนคลับตามดู ดาราในดวงใจของตนเอง หลังจากช่วงแรกต่อมาก็เริ่มมีการดึง ศิลปิน ดารา ดึงมาร่วมทีมเรื่อยๆ จนกระทั่งลีกซบเซาลงไป

แต่ถัดมาในช่วงปีหลังๆ มานี้ ลีกของไทยเรา เริ่มมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น สโมสรจากต่างจังหวัด เริ่มทำทีมแบบจริงจัง ทำให้กลุ่มแฟนบอลเหนียวแน่นขึ้นไปใหญ่ รวมถึงสโมสรยักษ์ใหญ่ในอดีต บางทีมมีการขายสโมสรหรือปรับระบบโครงสร้างกันใหม่ และการถ่ายทอดสดที่ดีขึ้น ทำให้ ลีกไทย ได้รับความนิยมระดับประเทศ มีสโมสรเกิดขึ้นใหม่มากมาย

แนวคิดที่จะดึง ศิลปิน ดารา มาเซ็นสัญญากับสโมสร เพื่อเพิ่มฐานการติดตามของแฟนบอล ให้เข้าชมสนาม เริ่มมาเชียร์สโมสรนั้น รวมถึงเป็นการโปรโมตสโมสรไปในตัวว่า ทีมของเราก็มีดารา มาเซ็นสัญญานะ ตรงนี้เป็นผลพลอยได้ของแฟนบอลที่มีโอกาสเจอ ศิลปิน ดารา ที่ชอบ ชื่อเสียงของสโมสรก็มีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

โดยยุคหลัง มีทั้ง ไผ่ พงศธร, วีระยุทธ นานช้า, “โจ๊กธีรดนัย สุวรรณหอม รวมถึงนักมวย อย่าง แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ ที่เซ็นสัญญาร่วมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด และได้แชมป์ในปี 2009 แม้เจ้าตัวแทบจะไม่ได้ลงสนามเลยก็ตาม

สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ก็เรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก ย้ายร่วมสโมสร อาร์แบค เอฟซี ซึ่งเป็นมหาลัยที่เจ้าตัวกำลังศึกษาอยู่แล้ว สุดสาคร ส.กลิ่นมี รายนี้เล่นให้กับหลากหลายสโมสร ดูจะจริงจังกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

รวมถึง สุเชาว์ นุชนุ่ม, ยุทธพงษ์ ศรีละคร และ อิสระพงษ์ ลิละคร ที่สมัยก่อนเป็นนักมวยอาชีพแต่ผันตัวมาเป็นนักฟุตบอล แล้วทำผลงานได้เป็นอย่างดี

แม้การที่สโมสรจะดึงตัว ศิลปิน ดารา มาร่วมทัพ จะดูเป็นผลดีแก่ทีม ทั้งรายได้ ที่อาจจะมีเข้ามาเพิ่มขึ้น เพิ่มความน่าสนใจให้กับแฟนบอลท้องถิ่น ที่เลือกจะเดินทางมาชมเกมถึงสนามเหย้า แทนที่จะดูจากการถ่ายทอดสด การเพิ่มชื่อเสียงให้กับสโมสรเองก็ตาม แต่ผลเสียก็มีเหมือนกัน

อย่างที่หลายท่านได้รับรู้ข่าวสารมาบ้างในช่วงนี้ นั่นก็คือ การถูกปรามาศว่า ศิลปิน ดารา จะเล่นไหวหรือ ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพตั้งแต่แรก ย้ายมาจะได้ลงไหม จะเห็นเจ้าตัวลงสนามได้หรือไม่ ทำไปเพื่ออะไร? เสียโควต้านักเตะคนอื่นๆ

หรือนักเตะเยาวชนในสโมสร ซ้อมแทบตายแต่ไม่มีชื่อ ดันเอาดารามามีชื่อ หรือการโจมตีด้วยคีย์บอร์ด ว่าสโมสรรวมถึงศิลปิน ดารา ต่างๆ นาๆ แต่ก็เข้าใจได้บ้างบางส่วน เพราะสมัยนี้ คนเราติดตามข่าวสารกันได้ง่าย ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นปกติอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม รายล่าสุดอย่าง โตโน่ ด้วยวัย 34 ปี ว่ากันตามจริง ปกติจะเป็นช่วงปลายการค้าแข้งอาชีพของนักฟุตบอลอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆ ท่าน อยากที่จะยลโฉม นักร้องหน้าหล่อ คนนี้ ว่าจะวาดลวดลายบนสนามได้หล่อเท่เหมือนกับที่วาดลวดลายบนเวทีได้หรือไม่

Posted in บทความฟุตบอล

ไทยลีก” ลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของประเทศไทย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าผลักดันเรื่องการเสริมทัพในตลาดนักเตะเหมือนเคย การย้ายเข้า-ออกของแต่ละทีมต้องติดตามกันวันต่อวัน แม้จะมีเป้าที่ตั้งไว้ว่าจะเปิดลีกในช่วงสิ้นเดือนกรกฏาคม แต่ความเป็นจริงแล้วตอนนี้สถานการณ์นั้นสวนทางอย่างมาก อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าวิกฤติโควิด-19 กลับมาเล่นงานประเทศไทยแบบหนักข้อขึ้นทุกวัน ยอดผู้ป่วยโรคนี้พุ่งทะยานขึ้นแบบไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น โดยวิเคราะห์เอาไว้ได้เลยว่า โอกาสที่ฟุตบอลจะเข้าสู่ช่วงซบเซาอีกรอบ ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด ต่อให้สโมสรเดินหน้าพัฒนาทีมตามแผนที่วางไว้ แต่ปัญหาเรื่องงบประมาณที่ไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า อาจทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผนงานกันแบบฉับพลัน วันนี้ทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะนำเสนอความเคลื่อนไหวคร่าวๆ ว่าปัจจุบัน ตลาดนักเตะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดบ้าง การย้ายทีมของใครน่าจับตามองแบบองค์รวม

การย้ายทีมที่น่าจับตามองของ ไทยลีก 2021

แน่นอนว่าดีลใหญ่ๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นอย่าง บาร์รอส ทาร์เดลลี่ ดาวซัลโวที่ยิงไปถึง 25 ประตูในซีซั่นก่อน เป็นประเด็นที่แฟนบอลให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจากเขาตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ การท่าเรือ เอฟซี หนึ่งในทีมที่ได้สิทธิ์ไปลุยศึก ACL ในปีนี้ ซึ่งหากติดตามไทยลีกแบบใกล้ชิด จะรู้ว่าเจ้าของทีมอย่าง มาดามแป้ง นั้นศักยภาพเรื่องการเงินไม่ใช่ปัญหา หากอยากได้ใครต้องได้ แต่ละดีลนั้นไม่เคยธรรมดา ยิ่งตอนนี้ยังไม่ได้เสริมใครเข้ามาสักคน โอกาสที่ดีลนี้จะเกิดขึ้นนั้นดูไม่เกินจริงเลย กระแสรองลงมาที่กำลังเป็นประเด็นในโลกโซเชี่ยลตอนนี้ คือ “เจ้ายิมวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เพลย์เมคเกอร์เด็กปั้นของ “ฉลามชลชลบุรี เอฟซี ที่ตกเป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพของ “ปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ “แข้งเทพทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เพราะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดเดือดในช่วงท้ายซีซั่น เรียกได้ว่าแบกจนกันจนหลังแอ่นเลยทีเดียว แต่ปัญหาตอนนี้หนีไม่พ้น “ค่าตัว” ที่ต้นสังกัดต้องการเงินไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทเลยทีเดียว ด้านทีมแชมป์อย่าง “กระต่ายแก้วบีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีดีลที่น่าสนใจในการคว้าตัว ชิดชนก ไชยเสนสุรินธร แนวรุกสาระพัดประโยชน์มาจาก “สวาทแคทนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และ เควิน อินเกรโซ่ กองกลางตัวหมุนเวียนมาจากอ้อมอกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่สิ่งที่แฟนบอลไทยพันธุ์แท้กลับพุ่งประเด็นไปที่เรื่อง เทรนเนอร์ เพราะต้องปรับเปลี่ยนจาก “โค้ชโอ่งดุสิต เฉลิมแสน ที่พาทีมคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ด้วยความจำยอม เพราะต้องหาโค้ชที่จบระดับ โปร ไลเซนส์ พาทีมลุยศึก ACL ประเด็นสุดท้ายที่หลายๆ คนให้ความสนใจย่อมเป็นเรื่องของสามทีมตกชั้น ระยอง เอฟซี, ตราด เอฟซี และ สุโขทัย เอฟซี ว่าพวกเขาจะเสียตัวหลักออกไปบ้างรึไม่? เนื่องจากมีนักเตะบางรายที่ฝีเท้าดีเกินกว่าจะลดตัวลงไปเล่นในลีกรอง กลายเป็นว่าข่าวที่เป็นทางการ ยังไม่มีดีลใหญ่ๆ เกิดขึ้นเลย แต่เรื่องของการยกเลิกสัญญาปล่อยให้ใครออกจากทีมไป ต้องรอดดูบทสรุปตอนก่อนเปิดฤดูกาลเพียงอย่างเดียว เพราะว่าไทยลีกเป็นลีกที่เซ็นนักเตะกันด้วยสัญญาแบบงงๆ บางคนเซ็นหลักเดือนบางคนเซ็นหลักปี อย่างไรก็ตามชื่อของ จอห์น บาจโจ้ ย่อมเป็นตัวท็อปที่หลายทีมจ้องกันตาเป็นมันอย่างปฏิเสธได้ยาก

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบแบบวงกว้าง ไทยลีก ย่อมไม่มีทางเลี่ยงที่โดนหางเลขเข้าไปด้วยอย่างแน่นอน สโมสรส่วนใหญ่ทำทีมแบบไม่ได้คำนวณความคุ้มค่า ทุ่มเงินจัดซื้อจัดจ้างนักเตะแบบเกินตัว บทเรียนที่ผ่านมาย่อมเป็นกันไปแล้วว่ามีทีมใดบ้าง ที่พอโดนทางสปอนเซอร์ถอนตัวออกไป ไม่สามารถประคองตัวจัดการเรื่องภาระค่าใช้จ่ายได้ ท้ายที่สุดจนต้องลงเอยด้วยการยุบทีมไป สมุทรสงคราม และ โอสถสภา เป็นสองทีมที่แฟนบอลยุคก่อนต่างคุ้นชื่อ แต่กลับอันตรธานหายไปแบบไร้วี่แววคัมแบ็ค ในปัจจุบันทีมที่สุ่มเสี่ยงมากที่สุดที่อาจล้มแบบดื้อๆ คือ “กิเลนผยองเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ไทยลีกที่ภาวะวิกฤติการเงิน กำลังเข้าขั้นน่าเป็นห่วงแบบสุดๆ ล่าสุดไม่สามารถรั้งตัวแบกทีมอย่าง แดร์เลย์ ให้อยู่กับทีมต่อไปได้ แถมช่วงหลังๆ ต้องดันเอาเด็กปั้นของสโมสรขึ้นมาใช้งาน ไร้ชื่อของซูเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ มาค้าแข้งกับทีมเป็นเวลาหลายซีซั่นแล้ว

ฟันธงทีมแชมป์

หากวิเคราะห์จากสถานการณ์เรื่องการเสริมทัพของทีมยักษ์ใหญ่ในปัจจุบัน ผู้เขียนเองขอฟันธงตรงๆ เลยว่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ทีมล่าสุดจะไม่สามารถรักษาแชมป์เอาไว้ได้แน่ๆ สาเหตุที่กล้าวิเคราะห์แบบนั้นเป็นเพราะว่านักเตะของ กระต่ายแก้ว ให้ความเชื่อมั่นในตัวของ โค้ชโอ่ง เป็นอย่างมาก ตัวที่มีอยู่เผลอๆ ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ขุมกำลังเป็นรองทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเชื่อใจกันระหว่างนักเตะและเทรนเนอร์กลับพาทีมบินสูงได้แบบเหลือเชื่อ ตัวเต็งในปีหน้าคงเหลือแค่ทีมเงินหนาที่กล่าวไปแค่ ปราสาทสายฟ้า และ สิงห์เจ้าท่า เท่านั้น เนื่องจากสามารถจ่ายค่าตัวและค่าเหนื่อยนักเตะตามปกติได้ ส่วนทีมอื่นๆ คงเป็นไปได้ว่าจะเจอผลกระทบทีละเล็กทีละน้อย จนต้องเข้าสู่สภาวะรัดเข็มขัดแบบสุดตัว ตามๆ กันไปแบบเลี่ยงไม่ได้ รายได้จากการเข้าชมก็ไม่มี ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดก็ไม่รู้จะขายได้ราคาเท่าเดิมไหม แต่รายจ่ายนั้นทวีคูณมากขึ้นๆ จนบัญชีติดตัวแดงกันเป็นทิวแถว

ท้ายที่สุดแล้วหาก ไทยลีก กลับมาเตะกันได้ตามปกติ แน่นอนว่าทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะมีบทวิเคราะห์วิจารณ์ฟุตบอลมาให้ผู้อ่านได้เสพย์กันเป็นประจำอย่างแน่นอน

Posted in ทีเด็ดบอลเต็ง

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ทำเงินให้กับนักเสี่ยงดวงทั่วโลกมากที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงลีกระดับท็อปของโลกเท่านั้นที่โดนหยิบยกมาวิเคราะห์หาตัวทีเด็ดทำเงินสร้างผลกำไร ซึ่งนักลงทุนแต่ละที่ทั่วโลกต่างมีแนวทางคัดหาแนวทางที่ถนัดไม่เหมือนกัน บทความนี้ทีมงานวิเคราะห์บอล วิเคราะห์บอล UFA จะพานักลงทุนทุกท่านไปรู้จักกับอีกลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมหาตัวทีเด็ดจากชาวไทยอย่างล้นหลามในช่วงหลายปีหลังคือลีกสูงสุดของแดนสยามเมืองยิ้มอย่าง ไทยลีก

ข้อมูลเบื้องต้นของ ไทยลีก

ไทยลีก ในปัจจุบัน(2020) มีสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 ทีมคือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, สมุทรปราการ ซิตี้, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, ตราด เอฟซี และ ระยอง เอฟซี โดยรูปแบบการแข่งขันก็ไม่ได้แปลกไปจากลีกทั่วๆ ไป แต่ละสโมสรจะลงสนามแข่งขันพบกันหมด แบบเหย้า-เยือน ทีมที่เก็บคะแนนได้มากที่สุดหลังจบโปรแกรมการแข่งขัน จะคว้าถ้วยแชมป์ไปครองทันที ส่วนโควต้าไปเล่นบอลถ้วยระดับทวีป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จะได้ตั๋วแบบ 2+2 หรือทีม 4 อันดับแรกนั้นเอง แบ่งเป็นอันดับ 1 และ 2 (รอบแบ่งกลุ่ม) อันดับ 3 และอันดับ 4 (รอบเพย์ออฟ) ด้านทีมตกชั้นจะคัดเอา 3 อันดับสุดท้ายของตารางคะแนน ลงไปเล่น ไทยลีก2 ทันที

สถานการณ์ในฤดูกาลล่าสุด

การแข่งขันฤดูกาล 2020/21 เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของลีกไทย มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งการเปิดตลาดซื้อขายรอบพิเศษ ทั้งทีมที่เพิ่งจะเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง “กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สามารถคว้าแชมป์ลีกไปครองได้แบบขาดลอย แต่น่าเสียดายที่ไปสะดุดแพ้ 1 นัดในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้การคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย ที่จะจารึกไว้ให้ลูกหลานได้เล่าขาน ต้องปลิวหายไปแบบน่าเจ็บใจ แต่ก็เชื่อว่าหากนักลงทุนวิเคระห์บอลเก่งๆ เลือกเต็งบอลไปที่ บีจี ปทุม ในฤดูกาลนี้คงจะรวยแบบอื้อซ่า ด้านสถานการณ์ของทีมแชมป์เก่า สิงห์ เชียงราย แตกต่างจากฤดูกาลที่ผ่านมา ปีนี้เล่นได้ผิดฟอร์มมาเร่งฟอร์มเก่งได้ในช่วงท้ายทำให้คว้าอันดับ 4 ของลีก และมีแชมป์บอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ ติดมือมา จนได้ตั๋วไปเล่นรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยอัตโนมัติตามทีมแชมป์ไป ส่วนอีก 2 ทีมอย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องลงไปเล่นรอบเพย์ออฟ ทางด้านโซนตกชั้น ระยอง และ ตราด เป็นเหมือนทีมแจกคะแนนตกชั้นแบบมีไม่ถึง 20 แต้ม ถือเป็นสองทีมทีเด็ดทำเงินลงเล่นทีไรท่านต่อได้ตังเข้ากระเป๋าแทบตลอด ส่วนอีกทีมที่ต้องตกชั้นน่าผิดหวังสุดๆ คือ สุโขทัย เอฟซี ซึ่งหากย้อนความไปถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาลมี 2 ทีมที่แย่งกันอยู่รอด สุพรรณบุรี กับ สุโขทัย ต้องมาลงดวลแข้งกันเอง และบทสรุปของเกมเป็นฝ่ายเจ้าบ้าน สุพรรณบุรี ที่เปิดบ้านเฉือนชนะได้ 1-0 พลิกจากนรกแซงขึ้นมารอดตายได้แบบหวุดหวิด ถือเป็นจุดพีคสุดมันของบอลลีกไทยเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าบอลลีกของประเทศที่พวกเราคุ้นเคยแบบนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ก็พร้อมจะเลือกมาวิเคราะห์แสดงทัศนะหา ทีเด็ดบอลเต็ง ฝากเพื่อนๆ ทุกคนแบบไม่จัดเต็มอย่างไม่ต้องสงสัย

คาดการทีมทำเงินในฤดูกาลใหม่

แม้บอลลีกไทยยังเหลือเวลาอีกมากกว่าจะกลับมาลงสนามแข่งขันกันในฤดูกาลใหม่ ทางพวกเราวิเคราะห์บอล วิเคราะห์บอล UFA ก็ขอหยิบสโมสรที่น่าสนใจมาวิเคราะห์ฟันธงกันว่าทีมใดมีโอกาสสูงที่จะมาแรงสร้างกำไรให้กับทุกท่านได้ โดยทีมที่น่าสนใจยังขอยกให้สโมสรยักษ์ใหญ่คือ แชมป์ปีล่าสุด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เล่นเกมรับได้อย่างโดดเด่นเหลือเกิน ฟอร์มการเล่นยังไม่มีแผ่วให้เห็น ช่วงตลาดพิเศษทีมก็เหมือนรู้จักจุดด้อยที่ต้องเสริม ลับเขี้ยวเล็บแนวรุกให้อันตรายขึ้น จีงคิดว่าพวกเขาจะเล่นได้ดีอย่างต่อเนื่องไปถึงฤดูกาลหน้า ต่อมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลล่าสุดเล่นได้ผิดฟอร์มสุดๆ แต่ยี่ห้อทีมก็เชื่อว่าจะกลับมาโหดได้เหมือนเดิม ยิ่งช่วงท้ายฤดูกาลที่ได้กุนซือคู่บุญกลับมาคุมทัพ ปราสาทสายฟ้า ก็กลับมาโหดเหี้ยมคว้าชัยได้รัวๆอีกครั้ง ดังนั้นจากการวิเคราะห์แล้ว บุรีรัมย์ เป็นอีกทีมที่น่าลงทุนสำหรับสายบอลเต็ง ปิดท้ายที่ยักษ์หลับ เอสซีจี เมืองทอง ผู้จัดการทีมอาจจะประสบการณ์น้อยไปหน่อย แต่มีแนวทางการเล่นบุกแหลกอย่างชัดเจน แม้ฟอร์มจะแกว่งไปบ้าง แต่นักลงทุนสาย บอลสูง-ต่ำ ก็น่าจะเลือกมองมาที่ทัพกิเลนผยอง เชื่อว่าเงินลงทุนของท่านจะไปอยู่ในแดนบวกมากกว่าแดนลบอย่างแน่นอน

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้