สวัสดีครับ วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะมาอธิบาย และแนะนำข้อมูล สำหรับ การเดิมพัน แทงบอลรอบชิง ของรายการฟุตบอลต่างๆ ว่ามีความยากและง่าย อย่างไรบ้าง มีความแตกต่างจากรอบอื่นๆ อย่างไร ซึ่งว่ากันเรื่องการเดิมพัน ไม่ว่าจะเป็นรอบไหนหรือรายการอะไร เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมครับ เพื่อที่จะลดความเสี่ยง ให้ได้มากที่สุด

โดยหวังว่า บทความนี้จะช่วยเพื่อนๆ ให้มีโอกาสทำกำไร จากการแทงบอล ให้ได้มากที่สุดครับ โดยขอแนะนำ ufabet เวปพนันที่ให้เรทราคา และค่าน้ำดีที่สุด มั่นคง ปลอดภัย มากที่สุดครับ

แทงบอลรอบชิง ง่ายและยาก ต่างจากรอบอื่นๆ อย่างไร

ฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เป็นเกมที่แฟนบอล และนักลงทุนต่างตั้งตารอกันอยู่แล้ว ด้วยความสนุก และความน่าลุ้น น่าติดตาม ว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ไปครองได้ จะเป็นทีมไหนที่ได้ชิงชัยกัน แค่นี้ก็น่าติดตามมากแล้ว มาในเรื่องของการ เดิมพัน แทงบอล ความง่าย ไม่มีอะไรง่ายครับ ไม่ว่าจะรอบไหน โปรแกรมการแข่งขันนัดไหน ไม่มีเกมไหนง่ายอยู่แล้ว เพราะเกมฟุตบอลนั้น สามารถพลิกผันกันได้ตลอด สิ่งที่เตรียมพร้อม

สำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศ ไม่ต่างจากนัดอื่นๆ หรือเกมนัดอื่น ต้องดูบทวิเคราะห์ฟุตบอล ว่าแต่ละทีมมีความพร้อมมากแค่ไหน สถิติในรายการนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ฟอร์มการเล่น และปัจจัยอื่นๆ สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมเช่นเคย แต่สิ่งที่ยากคือ ฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เราไม่สามารถเดาทางได้เลยว่าทีมไหนจะมีโอกาสคว้าชัยชนะมากกว่ากัน แม้เราจะรู้ว่าทั้งสองทีมอาจจะมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องของตัวผู้เล่นหรือฟอร์มการเล่น

แต่สำหรับเกมนัดชิงแล้ว ทั้งสองทีมพร้อมสู้กันอย่างถึงที่สุด ในส่วนของราคาก็ต้องดูว่าทีมไหนเป็นทีมต่อ ราคาเท่าไหร่ อัตราการต่อรองสูงไปหรือไม่ หรือทีมรอง ควรรองหรือไม่ ราคาน่ารักน่าลุ้นหรือเปล่า ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัย และฟอร์มการเล่น รวมถึงสถิติผลงานของทั้งสองทีม นั่นเอง

การแทงบอลนัดชิงชนะเลิศ จากประสบการณ์ของทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA หลายท่าน ล้วนบอกว่า เกมนัดชิงชนะเลิศ เป็นเกมที่ยากต่อความคาดเดาอย่างมาก อะไรก็เกิดขึ้นได้ภายใน 90 นาทีหรืออาจจะมีการต่อเวลาพิเศษ ดังนั้นควรดูให้ดีๆ ว่าทั้งสองทีมสภาพตัวผู้เล่นเป็นอย่างไร ผลงานเป็นอย่างไร รวมถึงดูเรทราคาให้ดี โดยเฉพาะชั่วโมงสุดท้าย ต้องจับตาดูราคา และค่อยตัดสินใจในการเดิมพัน ควรดูบทวิเคราะห์ฟุตบอลและสถิติต่างๆ จากสื่อชั้นนำและกูรูฟุตบอล จุดนี้จะช่วยให้ทุกท่านตัดสินใจก่อนเดิมพัน ได้ง่ายขึ้น

โดยเกมนัดชิงชนะเลิศ สำหรับรายการใหญ่ๆ สำหรับสโมสรเช่น เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, โคปา เดล เรย์, เดเอฟเบ โพคา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รายการใหญ่ๆ จะมีบทวิเคราะห์ให้ศึกษากันง่าย เพราะฟุตบอลถ้วยรายการดังๆ จากลีกระดับท็อป จะมีหลายสำนัก ทำบทวิเคราะห์ รวมถึงมีกูรูออกมาให้ข้อมูลอย่างกว้างขวาง สามารถรับชมหรือหาอ่านได้อย่างง่ายดาย รวมถึง ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก หรือ รอบสุดท้าย รายการฟุตบอลยูโร ฟุตบอลโคปา อเมริกา ยัน เอเชี่ยน คัพ มีบทวิเคราะห์ให้หาดูกันเพียบ

แต่ขอเน้นย้ำ แม้ว่า โปรแกรม การแทงบอลรอบชิงชนะเลิศ มีความเสี่ยงอย่างมาก ยิ่งกว่ารอบน็อคเอ้าท์ที่ผ่านมาในนัดอื่นเป็นไหนๆ เพราะฟุตบอล ลูกกลมๆ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ แต่คุณสามารถแทงสวนกันได้ ถ้าหากไม่มั่นใจ ใส่เต็มเกมไปแล้ว อาจใส่ครึ่งหลังเพื่อถอนทุนคืนก็ได้

เพียงแต่ขอให้ทุกท่าน ศึกษาบทวิเคราะห์ฟุตบอล เน้นไปที่ สถิติการลงสนาม เฮ้ดทูเฮ้ด สำหรับสองทีมที่เคยเจอกัน นักเตะรายไหนลงสนามได้บ้าง ไม่ได้บ้าง มีแข้งรายไหน โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานหรือไม่อย่างไร ควรติดตามจนถึงชั่วโมงสุดท้าย เพราะอาจมีนักเตะบาดเจ็บการวอร์ม หรือมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อก่อนจะลงสนาม

ไม่ควรจะกดเดิมพันล่วงหน้า เพราะราคาสำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศ พร้อมผันผวนอยู่ตลอด แนะนำเลย ครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ค่อยตัดสินใจก็ยังทันครับ สังเกตุราคาน้ำไหล ว่าฝั่งไหนค่าน้ำน้อย แปลว่าฝั่งนั้น มีคนเดิมพันเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าเราควรตามน้ำไป

แต่ควรศึกษาด้วยตัวเอง ว่าควรเลือกเดิมพันฝังไหนดีที่สุด ให้เราเลือกด้วยตัวเราเอง แต่ควรหาข้อมูลให้ครบถ้วน สำหรับเกมนั้นๆ ครับ ถ้าหากดูข้อมูลจนครบถ้วนแล้ว เชื่อว่าท่านจะมีโอกาสสร้างกำไรในเกมนัดชิงชนะเลิศ ค่อนข้างแน่นอน แต่ถ้าหากเราเดิมพันโดยไม่รู้ข้อมูลอะไร เท่ากับว่าคุณเสี่ยงดวงมากเกินไป ไม่ต่างอะไรกับการเสี่ยงดวง

ขอย้ำเลยครับ หาบทวิเคราะห์ก่อนเกม และดูบทสัมภาษณ์จาก สำนักต่างๆ จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านได้ดีที่สุดครับ แล้วมาดูราคาสักก่อนเริ่มการแข่งขัน จะพอรู้ภาพรวมว่าจะมีโอกาสเป็นอย่างไร แต่ถ้าไม่มั่นใจ สามารถเดิมพันทีละครึ่ง หรือจะแทงสวนก็ได้ อย่างไรก็ขอให้ทุกท่านโชคดีในการเดิมพัน แทงบอล นัดชิงชนะเลิศครับ

Posted in บทความฟุตบอล

ฟุตบอลยูโร 2020 ใกล้จะได้รู้แล้วว่าใครจะเป็นแชมป์ รวมถึง โคปา อเมริกา 2020 ก็เช่นกัน วันนี้ทีมงาน ufa.soccer จะมาแนะนำทริคเคล็ดไม่ลับที่จะเตรียมตัว ดูบอลนัดชิง ไม่ว่าจะรายการไหนก็ตาม ว่ามีความสนุกน่าติดตามอย่างไร ต้องเตรียมตัวอะไรกันบ้าง

ซึ่งไม่ยากเลยครับ บทความนี้เอาใจทั้งคอบอล คอพนันออนไลน์ ไม่ว่าจะมือใหม่ มือเก่า ครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยเพิ่มอรรถรสของกีฬาฟุตบอลให้ทุกท่าน

การเตรียมตัวและความสนุกของการ ดูบอลนัดชิง

พูดถึงนัดชิงชนะเลิศ ในรายการใหญ่ๆ มักจะมีความสนุกตื่นเต้น ให้ได้ลุ้นกันอยู่แล้ว ว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์ในรายการนั้นๆ ซึ่งลุ้นกันตั้งแต่รอบแรกๆ ว่าใครเชียร์ทีมไหน อยากให้ทีมรักไปไกลได้แค่ไหน จะได้แชมป์หรือเปล่า ซึ่งก็แล้วแต่แฟนบอล คอบอกจะเลือกเชียร์ทีมไหน

เมื่อเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ ย่อมตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ มากกว่าเกมนัดอื่นอยู่แล้ว ยิ่งเป็นทีมที่รักแล้ว ย่อมลุ้นระทึกมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ในส่วนความสนุกเร้าใจ เราจะได้ดูกันว่า เกมนั้นจะเป็นแบบไหน สองทีมที่เจอกัน ชื่อชั้นเป็นอย่างไร มีนักเตะคนไหนเป็นสตาร์ โอกาสทีมไหนจะได้แชมป์มีมากกว่ากัน สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมเป็นอย่างไรบ้าง มีดราม่าอะไรเกิดขึ้นกันบ้าง ยิ่งดูยิ่งได้ลุ้น

มาในส่วนของการเตรียมตัว ไม่มีอะไรยาก ฟุตบอลรายการใหญ่ๆ ในนัดชิง เวลาการแข่งขันจะแตกต่างกันออกไป อันดับแรกพักผ่อนให้เพียงพอครับ เพราะเวลาการแข่งขันอาจจะดึกดื่น จนตื่นไปทำงานไม่ไหวนั่นเอง แต่สำหรับคนว่างๆ ก็ดูกันได้ชิลล์ๆ

ในส่วนต่อมาสำหรับนักลงทุน แน่นอนว่าต้องดูบทวิเคราะห์ฟุตบอล ศึกษา รายละเอียดของทั้งสองทีม ผลงานในทัวร์นาเม้นต์นั้นเป็นอย่างไร ฟอร์มของทีมเป็นอย่างไร สถิติเกมรุกและเกมรับเป็นอย่างไร นักเตะคนไหนฟอร์มดี ทีมเล่นสไตล์ไหน เกมนี้ใครจะมีโอกาสได้ลงสนาม นักเตะรายไหนบาดเจ็บหรือติดโทษแบน

ต่อมาก็ดูเรทราคา ทีมไหนต่อ ทีมไหนรอง ราคาออกหน้าไหน โอกาสเกมนี้จะเป็นอย่างไร นั่นเองครับ ถูกใจทีมไหนก็เลือกจิ้มทีมนั้นได้เลย ซึ่งการชมฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ เป็นเกมที่คอบอลทั่วโลกรอคอยจะชมมากที่สุด แม้สถานการณ์ในปีนี้ จะทำให้อะไรหลายๆ อย่างดูดรอปไปพอสมควร กระแสเงียบไปพอสมควร เห็นได้ชัดจากประเทศไทยของเรา ยูโร2020 กระแสตกไปครับ สถานการณ์แบบนี้ก็พอเข้าใจ

แต่อย่าง ทีมชาติอังกฤษ ที่แฟนบอลชาวไทยเทใจเชียร์เป็นอันดับ 1 ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ แอบไปดูกระแสมาว่า ก็ยังมีคนติดตามเชียร์เยอะ ก็ขอให้ อังกฤษ ผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้ แต่สำหรับ ทีมชาติอิตาลี และ ทีมชาติสเปน ก็มีคนติดตามเชียร์มากเช่นกัน

โดยเฉพาะ อิตาลี ที่ก่อนทัวร์นาเม้นต์ถูกยกให้เป็นเต็ง 8 ที่จะได้แชมป์ แต่ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในรอบรองชนะเลิศ ทำให้คนเชียร์กันเยอะพอสมควร โดยเฉพาะสาวๆ เพราะ นักเตะ อิตาลี ส่วนใหญ่หน้าตาหล่อเหลากันอยู่แล้ว แต่ สเปน ก็ใช่ย่อย โมราต้า สาวๆ กรี๊ดกันอย่างหนัก

เข้าเรื่องกันต่อ สำหรับยูโร ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าใครจะได้แชมป์ ก็ขอให้เชียร์บอลอย่างสนุก ลงทุนกันอย่างระมัดระวัง สามารถดูบทความอื่นๆ ของเวปไซต์เรา จะช่วยเรื่องการแทงบอลและได้รับประโยชน์ มีโอกาสได้กำไรสูงครับ ขอให้เล่นกันอย่างใจเย็น

ส่วน โคปา อเมริกา 2020 นี้ คาดว่าคู่ชิงน่าจะเป็น ทีมชาติ บราซิล กับ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ซึ่งเป็นสองชาติที่แย่งชิงความยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลอเมริกาใต้มาอย่างยาวนาน บราซิล นำโดย เนย์มาร์ สตาร์ดังที่โชว์ฟอร์มแบกทีมชาติ และ เมสซี่ พระเจ้าลูกหนังของวงการฟุตบอลในปัจจุบัน

รายนี้ ผู้คนชอบว่าเขาเล่นกับทีมชาติไม่ดี แต่ถ้าหากเปิดใจลองดู เมสซี่ คือทุกอย่างของ อาร์เจนติน่า แบกจนหลังแอ่น ทัวร์นาเม้นต์นี้ให้ได้ชัดว่าเขายอดเยี่ยมขนาดไหน หวังว่าเกมนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง บราซิล และ อาร์เจนติน่า จะสนุกลุ้นกันจนหยดสุดท้าย ส่วนเรื่องราคาก็ต้องรอดูอีกทีว่า จะออกมาแบบไหน แต่เชื่อว่าไม่ห่างกันมากครับ บราซิล ได้เป็นเจ้าบ้าน อาจจะต่อนิดหน่อย ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไป

ในส่วนรายการใหญ่ๆ อย่างโปรแกรมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ก็ต้องรอปีหน้า ว่าบทสรุปจะเป็นอยางไร เพราะช่วงนี้ ฟุตบอลลีกกำลังพักการแข่งขัน ตอนนี้ก็อย่างที่กล่าวไปด้านบน มี ยูโร 2020 และ โคปา อเมริกา สองรายการใหญ่ระดับทวีปให้ติดตามรับชม โดยสองรายการนี้ มีความสนุกตื่นเต้นเร้าใจอย่างมากครับ

แค่ ยูโร 2020 ก็สนุกกันแทบทุกเกมอยู่แล้ว โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ เราจะได้เห็นนักเตะทุกคนรวมถึงทีมงาน สตาฟโค้ช ข้างสนาม พร้อมจัดเต็ม มีเท่าไหร่ใส่หมดกำลังอยู่แล้ว เตะกันลืมตาย วิ่งกันสุดปอด ส่วนทีมไหนจะได้แชมป์ก็ต้องมาลุ้นกันอีกที

ยิ่งเมื่อสิ้นเสียงหมดเวลาการแข่งขัน เราจะได้เห็นโมเม้นภาพประทับใจ ในรอยยิ้มของผู้ชนะที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ รวมถึงเห็นน้ำตาของผู้แพ้ ที่ทำได้เพียงมองถ้วยแชมป์ในฐานะรองแชมป์ในทัวร์นาเม้นต์นั้น ชาติไหนได้รับความพ่ายแพ้ เรียกว่าเศร้ากันทั้งประเทศ ส่วนชาติที่ได้แชมป์ ก็เฮกันทั้งประเทศ แทบจะปิดเมืองฉลอง นี่คือสิ่งที่น่าจดจำสำหรับทัวร์นาเม้นต์ทุกรายการครับ

ดูอย่าง บียาร์เรอัล ก็ได้ ในศึกยูโรป้า พวกเขาเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งสโมสรจากลาลีกา สเปน ยังไม่เคยคว้าแชมป์ถ้วยรายการใหญ่ๆ ได้เลย ซึ่ง ยูโรป้า ลีก คือถ้วยแรกของพวกเขา เรียกว่าปิดเมืองฉลอง เฮลั่นข้าวของพัง ไม่สนใจโควิดกันเลย

หรืออย่าง เชลซี ที่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนเกม ใครๆ ก็คิดว่าพวกเขา สู้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาสามารถคว้าถ้วยหูใหญ่ เป็นสมัยที่ 2 แฟนบอลสิงห์บลูทั้งโลก รวมถึงประเทศไทย ฉลองกันสุดขีด นี่คือความปลื้มปิติ ความภูมิใจของทีมที่เชียร์ มันคือสิ่งที่เยียวยาหัวใจและเป็นความสุขของแฟนบอลได้เลยครับ

มาถึงเรื่องบอลไทย มันก็นานมากแล้ว ที่เราไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้หรือผ่านเข้ารอบลึกๆ ในรายการสำคัญ ก็หวังว่า สักวันนึง แฟนบอลไทย จะได้สัมผัสกับความสุขกันอีกครั้งครับ สำหรับฟุตบอล บางคนอาจจะเป็นกีฬา ดูเพลินๆ ยามว่าง แต่บางคน ฟุตบอลก็เป็นลมหายใจของเขา

สำหรับสองรายการที่จะชิงชนะเลิศกันเร็วๆ นี้ อย่าง ยูโร และ โคปา อเมริกา ถ้ามีเวลาว่าง ก็อยากให้ดูกันครับ เลือกทีมที่ชอบและคอยเชียร์ เชื่อว่าจะสนุกแน่ๆ แต่ถ้าอยากดูไปด้วย ลงทุนไปด้วย เราขอแนะนำ เวปพนันออนไลน์ ที่ปลอดภัย ให้ราคามากกว่าที่อื่น Ufabet เวปนี้ การันตีคุณภาพครับ ไม่จกตาแน่นอน

Posted in บทความฟุตบอล

ใกล้จะจบแล้วสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป แต่ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2020 จะเกิดขึ้น วันนี้ทีมงาน ufa.soccer จะพาย้อนเวลาไปดู คู่ชิงยูโร เกมนัดชิงชนะเลิศของรายการฟุตบอลระดับชาติ ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ว่ามีใครกันบ้าง ใครได้แชมป์บ้าง โดยบทความนี้สนับสนุนโดย ufabet เวปพนันออนไลน์ ที่มั่นคง ปลอดภัย มากที่สุด พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง

คู่ชิงยูโร ที่ผ่านมามีใครกันบ้าง

ยูโร 1960

เป็นการจัดการแข่งขันครั้งแรก โดยประเทศฝรั่งเศส รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ใช้ชื่อว่า ฟุตบอลยูโรเปี้ยน เนชั่นส์ คัพ มี 4 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน การแข่งขันรอบแรกใช้รูปแบบแข่งเจอกันแบบเหย้า-เยือน ก่อนต่อมาในรอบรองชนะเลิศ ใช้ระบบ น็อกเอาต์ ซึ่งแชมป์ในปีนั้น คือ สหภาพโซเวียต เอาชนะ ทีมยูโกสลาเวีย 2-1

ยูโร 1964

สำหรับการแข่งขันปีนี้ ทีมชาติสเปน เป็นเจ้าภาพ ยังใช้ชื่อ ฟุตบอลยูโรเปี้ยน เนชั่นส์ คัพ ยังมีเพียงแค่ 4 ทีมที่ได้เข้มาทำการแข่งขันและยังใช้ระบบเหมือนปี 1960 นั่นก้คือ รอบแรกใช้ระบบเหย้า-เยือน ส่วนรอบรองชนะเลิศและนัดชิงชนะเลิศใช้ระบบน็อคเอ้าท์ ทีมชาติสเปน เจ้าภาพ คว้าแชมป์ หลังจากเอาชนะ สหภาพโซเวียต แชมป์เก่า 2-1

ยูโร 1968

เจ้าภาพคือประเทศอิตาลี ปีนี้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8 สาย โดยนำเอาแชมป์กลุ่มทั้ง 8 กลุ่ม จะได้เข้ารอบ ต่อมาต้องแข่งขัน 2 นัดก่อนจะเข้าสู่รอบต่อไป โดยนัดชิงชนะเลิศไม่ได้ใช้ระบบต่อเวลาพิเศษ ต้องแข่งกันใหม่ โดยเกมแรก ทีมชาติอิตาลี และ ทีมชาติยูโกสลาเวีย เสมอกัน 0-0 แต่เกมต่อมา ทีมชาติอิตาลี เอาชนะ ทีมชาติยูโกสลาเวีย 2-0

ยูโร 1972

ประเทศ เบลเยี่ยม รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ใช้ระบบการแข่งขันในปี ยูโร ปี 1968 และยังใช้ชื่อ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ โดยแชมป์รอบนี้ตกเป็นของ ทีมชาติเยอรมันตะวันตก สามารถถล่มเอาชนะ สหภาพโซเวียต ท่วมท้น 3-0

ยูโร 1976

รอบนี้ประเทศ ยูโรสลาเวีย เป็นเจ้าภาพ ยึดระบบเหมือนยูโร ปี 1968 และ 1972 ใช้ชื่อรายกา่รแข่งขันเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้มีการใช้ระบบดวลจุดโทษตัดสิน หากเสมอกันในเวลาปกติ โดย เช็กโกสโลวาเกีย ดวลจุดโทษเอาชนะ ทีมชาติเยอรมันตะวันตก ด้วยสกอร์รวม 5-3 หลังจากเสมอในเวลาปกติ 2-2

ยูโร 1980

ประเทศ อิตาลี ได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งหลังจากที่เคยได้เป็นมาแล้วในปี 1968 โดยรอบนี้เปลี่ยนระบบการแข่งขันใหม่ โดยมี 8 ทีมที่จะได้เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายและแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่งแชมป์กลุ่ม จะได้เข้ามาเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ผลกรากฏว่า ทีมชาติเยอรมันตะวันตก เฉือนชนะ ทีมชาติเบลเยี่ยม 2-1

ยูโร 1984

ประเทศ ฝรั่งเศส ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ได้เปลี่ยนระบบการแข่งขันอีกครั้ง โดยให้ 4 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดของทั้งสองกลุ่ม เข้ามาเล่นในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าภาพ สามารถเอาชนะ ทีมชาติสเปน ไปได้ 2-0

ยูโร 1988

รอบนี้ ทีมชาติเยอรมนีตะวันตก แชมป์ 2 สมัยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพกันบ้าง โดยยังใช้ระบบการแข่งขันเหมือนปี 1984 แต่สุดท้ายแล้ว ทีมชาติฮอลแลนด์ สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ สหภาพโซเวียต แบบชิลล์ๆ ด้วยสกอร์ 2-0

ยูโร 1992

ประเทศ สวีเดน รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกันในรอบนี้ โดยปีนี้ก็ยังใช้การแข่งขันเหมือนปี 1984 และ 1988 โดยปีนี้ ทีมชาติเดนมาร์ก ที่ได้สิทธิ์เข้ามาแทน ทีมชาติยูโกสลาเวีย ที่ถูกติดสิทธิ์เนื่องจากมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ สุดท้ายแล้ว ทีมชาติเดนมาร์ก สร้างตำนานบทใหม่ เอาชนะ ทีมชาติเยอรมัน 2-0 คว้าแชมป์ไปในที่สุด

ยูโร 1996

ครั้งนี้ ทีมชาติอังกฤษ ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกันบ้าง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งขาติยุโรป ส่วนรูปแบบการแข่งขัน ได้เปลี่ยนมาเป็น 16 ทีม ที่จะได้เข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยนำเอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มมาเตะรอบ 8 ทีมสุดท้าย นอกจากนี้ยังเอากฏ โกลเด้นโกล์ มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งกฏระบุไว้ว่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ ทีมไหนทำประตูได้จะชนะทันที ซึ่งแชมป์ในปีนี้คือ ทีมชาติ เยอรมัน เอาชนะ ทีมชาติเช็กโก 2-1 ซึ่งเวลาปกติเสมอกัน 1-1 แต่ช่วงต่อเวลาพิเศษ เยอรมัน ทำประตูได้และคว้าแชมป์ทันที ตามกฏ โกลเด้นโกล์

ยูโร 2000

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีสองชาติเป็นเจ้าภาพร่วม นั่นก็คือ ประเทศเบลเยี่ยมและประเทศฮอลแลนด์ โดยใช้การแข่งขันรูปแบบเดียวกับปี 1996 โดยแชมป์ตกเป็นของ ทีมชาติฝรั่งเศส สามารถเอาชนะ ทีมชาติอิตาลี 2-1 ด้วยกฏโกลเด้นโกล์ หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 1-1

ยูโร 2004

ประเทศโปรตุเกส รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ การแข่งขันครั้งนี้ได้ยกเลิกกฏโกลเด้นโกล์ หากเสมอกันในเวลา 90 นาที จะต่อเวลาพิเศษ ครึ่งละ 15 นาที ถ้ายังเสมอกันอีก จะทำการดวลลูกจุดโทษเพื่อตัดสิน โดยครั้งนี้มีประวัติศาสตร์เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจาก เดนมาร์ก เคยทำได้ในปี 1992 โดย ทีมชาติกรีซ หักปากกาเซียน สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ ทีมชาติโปรตุเกส เจ้าภาพไปได้ 1-0

ยูโร 2008

ครั้งนี้เป็น ประเทศออสเตรียและประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ใช้ระบบเดียวกับปี 2004 โดยการแข่งขันปีนี้สนุกตื่นเต้นเร้าใจอย่างมาก สุดท้ายแล้ว ทีมชาติสเปน เป็นแชมป์ หลังจากเอาชนะ ทีมชาติเยอรมัน ไปได้ 1-0

ยูโร 2012

หลังจากประสบความสำเร็จในการมีเจ้าภาพร่วม ครั้งนี้ ประเทศโปแลนด์และประเทศยูเครน รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยแชมป์ก็ยังเป็น ทีมชาติสเปน ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ถล่มชนะ ทีมชาติอิตาลี 4-0 เป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดในรอบชิงชนะเลิศ

ยูโร 2016

ประเทศฝรั่งเศสรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพแด่เพียงผู้เดียว โดยเปลี่ยนระบบการแข่งขัน เพิ่มมาเป็น 24 ทีมจาก 16 ทีม แบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยนำเอาสองอันดับแรกแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปและนำเอาสามอันดับที่ดีที่สุด 4 ทีมเข้ารอบไปด้วย โดยทีมชาติโปรตุเกส สามารถล้มเจ้าภาพ ทีมชาติฝรั่งเศส 1-0 โดยได้ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์ไปครอง

Posted in บทความฟุตบอล