โควิด ระบายก็เครียดพอแล้ว แต่ว่า ผลการแข่งขันทั้งสองนัดล่าสุดที่ผ่านมา ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ของ ทีมชาติไทย ทำให้กระแสโซเชี่ยลรุกฮือเป็นไฟ แฟนบอลต่างผิดหวังกันทั้งประเทศ เพราะทีมชาติไทย ตกรอบอย่างแน่นอนแล้ว ทั้งที่ครั้งก่อน ทีมชาติไทย สามารถทะลุถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย มาแล้ว

ความผิดหวังครั้งนี้ สาเหตุเกิดจากอะไร การวางแผน แทคติกที่ผิดพลาด ของ อากิระ นิชิโนะ หรือ การติดโควิดของบุคลากรในการเข้าแคมป์ทีมชาติ จนเสียเวลาถึง 14 วัน หรือ นักเตะของเราไม่ดีพอ ตรงนี้หลายท่านก็ทราบกันอยู่บ้าง

แต่วันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน ส่งผลกระทบต่อ ทีมชาติไทย ครั้งนี้อย่างไร

ผลกระทบจากการขาดสองนักเตะเจลีก ต่อ ทีมชาติไทย

ชนาธิป สรงกระสินธ์

นับว่าเป็นเรื่องที่เสียหายครั้งใหญ่ ทั้งที่มีข่าวดีว่า เจ้าเจ ได้ตกลงมาร่วมแคมป์ทีมชาติ ทว่าเกิดบาดเจ็บซ้ำขึ้นระหว่างการซ้อม ต้องพักฟื้นตัวประมาณสองสัปดาห์ ซึ่งความจริงแม้ว่าเกมแรกที่ ไทย พบ อินโดเนเซีย ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มิดฟิลด์วัย 23 ปีจาก เลสเตอร์ ซิตี้ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างดี แต่เอาเข้าจริง ธนวัฒน์ เองเพิ่งเข้าแคมป์ทีมชาติเป็นครั้งแรก ทำให้หลายจังหวะ ยังไม่เข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม แม้ผลงานส่วนตัวในสนาม จะโชว์ฟอร์มแบบเหนือคลาส มากกว่าเพื่อนร่วมทีมก็ตามแตกต่างจาก เจ้าเจ ที่แม้เอาเข้าจริง การจ่ายบอล การออกบอล ก็ไม่ได้เหนือกว่า มิดฟิลด์จากเลสเตอร์ ซิตี้ มากนัก ทว่า เจ เอง รับใช้ชาติมาพอสมควร ผ่านประสบการณ์มาอย่างมาก ทำให้พอรู้นิสัย ใจคอเพื่อนร่วมทีม ว่าแข้งรายไหน มีนิสัยอย่างไร การเล่นในสนามเป็นอย่างไร ไม่ต้องปรับตัว มาพร้อมกับการที่ เจ้าตัวสามารถดึงตัวประกบได้อีกด้วย พร้อมสกิลเลี้ยงบอลแบบทะลุทะลวง อีกทั้งยังมีทีเด็ดจากแถวสอง ซึ่งสองเกมที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ขาดตรงนี้อย่างมาก ไม่มีเพย์เมกเกอร์ ที่สร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างเต็มที่ พร้อมลูกทีเด็ด เฉพาะทาง รวมถึงจังหวะยิงไกล ทำให้ การสร้างสรรค์เกมรุกของทีมชาติไทย ด้อยประสิทธิภาพอย่างมาก นี่ยังไม่พูดถึง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ร้างกายไม่ฟิตสมบูรณ์ ทำให้เกมรุกย่ำแย่ไปอีก การขาดนักเตะประสบการณ์สูง ยิ่งกับทัวร์นาเม้นต์สำคัญแบบนี้ ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ อย่างไรก็ตาม ทัพนักเตะไทย ที่ได้รับใช้ชาติชุดนี้ ก็ทำผลงานได้อย่างเต็มที่แล้วครับ แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ แต่ก็ต้องเชียร์กันต่อไป

ธีราทร บุญมาทัน

ตรงนี้ผู้เขียนคิดว่า หนักกว่าการขาดหายไปของ เจ ชนาธิป สงกระสินธ์ เพราะลางมาไม่ได้ดีตั้งแต่ โปรแกรมอุ่นเครื่องแล้ว เกมรับรั่วเหลือเกิน รั่วจนแบบต้องอุทานว่า อะไรกันครับเนี่ย!! นอกจาเซ็นเตอร์ที่โคตรเหวอ ตำแหน่งที่เป็นปัญหาอันใหญ่หลวง เรียกได้ว่า เป็นบ่อน้ำมันชั้นดี จนประเทศอาหรับยังอาย นั่นก็คือแบ็คซ้ายนั่นเองครับ แมตช์ แรก อากิระ นิชิโนะ ได้ใช้ เอร์เนสโต้ ภูผา แบ็คซ้ายสมุทรปราการ ซิตี้ ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทัพ บีจี ปทุม เอฟซี โชว์ฟอร์มได้โคตรย่ำแย่ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมเสียประตูโดยเฉพาะแมตช์แรก ที่เจอกับ อินโดนีเซีย เรียกได้ว่า ชิบหายกันเลยครับท่าน ไม่รู้จะตื่นสนามไปไหน ยืนตำแหน่งมั่วหมด ถึงขั้นโดนเปลี่ยนออกช่วงครึ่งหลัง แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ใจจริงไม่อยากจะโทษอะไรเจ้าตัวมากครับ แต่เกมแบบนี้ ไม่น่าจะพลาด ทั้งที่เป็นตัวหลักตลอดในการสวมเสื้อ สมุทรปราการ ซิตี้ แท้ๆ ซึ่งตำแหน่งนี้เอาเข้าจริง ยังมี เจ้าพี ศศลักษณ์ ไหประโคน แต่ นิชิโนะ กลับไม่ใช้งานเสียอย่างนั้น แบบนี้เราจะไม่นึกถึง ธีราทร บุญมาทัน ได้อย่างไร เพราะสกิลของเขา คลาสของเขา เรียกได้ว่าเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยในตำแหน่งแบ็คซ้าย เป็นแข้งเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย ประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึงครับ เคยเจ็บหนักมาก่อน แต่น่าเสียดาย ที่เจ้าตัวเป็นห่วงเรื่องอนาคตของตัวเองระหว่างสโมสร รวมถึงครอบครัวด้วย ตรงนี้อยากให้แฟนๆ เข้าใจครับ แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ ไม่อย่างนั้นผลการแข่งขันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ เพราะทีเด็ดเรื่องการออกบอล จ่ายบอลตัดผ่านแนวรับ รวมถึงลูกเซ็ตพีทต่างๆ เจ้าตัวทำได้ดีอย่างมากครับ แถมอ่านเกมขาด นิ่งอย่างมาก ถ้าติดทีมชุดนี้ ก็เป็นกัปตันนั่นเอง นำน้องๆ ฝ่าฟันในศึกสำคัญครั้งนี้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ครั้งหน้าค่อยว่ากันใหม่ สุดท้าย ผิดหวังกันไปครับ กับ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งนี้ รอไปกันไปอีกแล้ว

บทสรุป

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องร่วมส่งแรงใจเชียร์กันต่อไปครับ ไม่ใช่ว่าเรามาผิดที่ผิดทาง หากไม่ดูผลงานแค่ในสนาม ดูผลงานนอกสนาม ถือว่าสมาคมกำลังปรับเปลี่ยนให้มันถูกต้อง เข้าที่เข้าทางมากขึ้น อย่าสักแต่ด่าครับ อดีตก็คืออดีต แถมเป็นอดีตที่ฉาบฉวยครับ ตอนนั้นด่าสาปส่งกัน ตอนนี้มาคิดถึง ผู้เขียนคิดว่ามันแปลกประหลาด และ คิดว่า ข้อมูลหลายๆ อย่าง มันชัดเจนมากครับ ว่าอะไรเป็นอะไร

อย่างไรก็ตาม อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปครับ แต่ถ้ามันย่ำแย่จริงๆ จะดราม่า เดือดดาล ก็คงไม่แปลก แต่อยากให้อยู่ในขอบเขต ช่วงนี้ สถานการณ์มันแย่ไปหมดครับ เก็บเน็ตไว้อย่างอื่นดีกว่า หรือเก็บเน็ตเปลี่ยนจากแรงด่ามาเข้าเวป ufabet ดีกว่า คุณจะมีโอกาสได้รับทรัพย์ ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าไปพ่นมลพิษบนโลกโซเชียลครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ รายการฟุตบอลยูโร เป็นการแข่งขันรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญที่สุดในทวีปยุโรปนั่นเอง โดยจัดการแข่งขันขึ้นทุกสี่ปี เริ่มแข่งขันตั้งแต่ปี พศ. 2503 หรือ คส. 1960 โดยรายการนี้แฟนบอลให้ความสนใจรองจากรายการศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลยทีเดียว ก่อนที่รายการจะเปิดฉากขึ้นกลางเดือนนี้ ทีมงานจะพาเพื่อนๆ มาทำให้ความรู้จักกับ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร รอบสุดท้าย ว่ามีความเป็นมาอย่างไรและรายละเอียดอย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม แม้การแข่งขันรอบนี้แลดูจะเงียบเหงา ไม่ค่อยคึกคัก เพราะการระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ตาม จากทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA เช่นเคย

ลักษณะ การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

สมัยก่อนจะมีการเลือกการแข่งขัน ในลักษณะ ยุคแรกเริ่ม มี 4 ทีม, 8 ทีม และ 16 ทีม ซึ่งจะขอย้อนตอนเป็น 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเริ่มต้นในปี 1996 โดยมี 16 ทีมที่เข้ามาในรอบสุดท้าย ซึ่งแบ่งออกเป็นทีมละ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยเอา 2 อันดับแรกในแต่ละกลุ่ม เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งเคยมีการใช้กฏโกลเด้นโกล์อีกด้วย ทว่าหลังจากนั้นก็ยกเลิกไปในปี 2004 และระบบการคัดเลือก 15 ทีมสุดท้าย ต่อมาแข่งขันล่าสุดในปี 2016 ซึ่งเป็นครั้งที่ 16 ครั้งนี้มีการเพิ่มเป็น 24 ทีม ซึ่งมี 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม นอกจาก 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มจะผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว ครั้งนี้ยังมีการใช้ระบบ อันดับ 3 ที่ดีที่สุด จาก 4 กลุ่ม จะสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปอีกด้วย

ซึ่งครั้งนั้นเป็น โปรตุเกส ที่จบอันดับที่ 3 ของกลุ่ม เอฟ สามารถคว้าแชมป์ยูโรได้ในบั้นปลายอีกต่างหาก ซึ่งระบบนี้จะถูกใช้การแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูโร 2020 ที่จะถึงอีกเร็วๆ นี้อีกด้วย ซึ่งสำหรับปีนี้ การแข่งขันจะมี 6 กลุ่มด้วยกัน โดยจะขอจำแนกว่าแต่ละทีมมีชาติไหนบ้างและอยู่กลุ่มไหน

ดั้งเดิมการแข่งขัน ทุกทีมที่เข้าร่วมในรอบสุดท้าย จะไปรวมตัวแข่งกันในประเทศที่ทำหน้าที่เจ้าภาพ แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการแบ่งการแข่งขันไปในหลายประเทศ

กลุ่มรายการ ฟุตบอล ยูโร 2020

  • กลุ่มเอ

กลุ่มนี้จะเตะกันที่สนาม สตาดีโอโอลิมปีโก กรุงโรม ประเทศอิตาลี และ สนามกีฬาโอลิมปิกบากู เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน โดยกลุ่มนี้มี ประเทศตุรกี, ประเทศอิตาลี ประเทศเวลส์ และ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมสาย

  • กลุ่มบี

กลุ่มนี้จะเตะกันที่สนาม สนามกีฬาเครสตอฟสกี เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย และ สนามกีฬาพาร์เคน กรุงโคเปเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยกลุ่มนี้มี ประเทศเดนมาร์ก, ประเทศฟินแลนด์, ประเทศเบลเยี่ยม และประเทศรัสเซีย ร่วมสาย

  • กลุ่มซี

กลุ่มนี้เตะกันที่สนาม ปุชกาชออเรนอ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี และ สนาม โยฮัน ครัฟฟ์ อาเรน่า เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยกลุ่มนี้มี ประเทศเนเธอร์แลนด์, ประเทศยูเครน, ประเทศออสเตรีย และประเทศมาซิโดเนียเหนือ

  • กลุ่มดี

กลุ่มนี้เตะกันที่สนาม เวมบลี่ย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และ สนาม แฮมป์เดนพาร์ก เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โดยกลุ่มนี้มี ประเทศอังกฤษ, ประเทศโครเอเชีย, ประเทศสกอตแลนด์ และ สาธารณรัฐเช็ก ร่วมสาย

  • กลุ่มอี

กลุ่มนี้เตะกันที่สนาม สนามกีฬาลาดาร์ตูฆา เมืองเซบีย่า ประเทศสเปน และสนาม อารีน่าเนชั่นเนล่า กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย โดยกลุ่มนี้มี ประเทศสเปน, ประเทศสวีเดน, ประเทศโปแลนด์ และประเทศสโลวาเกีย ร่วมสาย

  • กลุ่มเอฟ

กลุ่มนี้เตะกันที่สนาม อัลลีอันทซ์อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน และ ปุชกาชออเรนอ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยกลุ่มนี้มี ประเทศเยอรมัน, ประเทศฮังการี, ประเทศฝรั่งเศส และ ประเทศโปรตุเกส ร่วมสาย

กฏการเข้ารอบ ฟุตบอล ยูโร

ซึ่ง 2 อันดับแรกของทุกกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ส่วนสามอันดับที่ดีที่สุดจะคัดเลือก 4 ทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุด เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยมีการนับจากคะแนน, ผลต่างประตูได้เสีย การชนะและแฟร์เพลย์ ซึ่งจะมีการไขว้ในการเลือกทีมที่เข้ารอบต่อไป โดยโปรแกรมนัดแรกจะเริ่มการแข่งขันวันที่ 12 มิถุนายนนี้ เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ทีมชาติเยอรมัน และทีมชาติสเปน เป็นชาติที่ได้แชมป์ ศึกฟุตบอล ยูโร มากที่สุดเท่ากันที่ 3 สมัย และการแข่งขันครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ใช้ 11 ประเทศเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ซึ่งแต่ละกลุ่มในรอบ 24 ทีม จะแบ่งสองประเทศในการใช้สนามเจ้าภาพ มีเพียงกลุ่มซีและกลุ่มเอฟ ใช้สนาม ปุชกาชออเรนอ กรุงบูดาเปสต์ สองกลุ่ม ส่วนรอบอื่นๆ จะวนสนามจาก 11 สนามในการหมุนเวียนกันแข่งต่อไป โดยนัดชิงชนะเลิศจะเตะกันที่สนาม เวมบลี่ย์ ประเทศอังกฤษ

Posted in ทีเด็ดบอลเต็ง, ราคาบอล, วิเคราะห์บอลวันนี้

ต้องบอกว่า ลีกเอิง 2020-2021 ลุ้นระทึกกันยันนัดสุดท้าย และแล้วแชมป์ก็เปลี่ยนมือครับ ฤดูกาลนี้ “ตราหมา ลีลล์ ผงาดคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ หลังจากคว้าได้สมัยล่าสุดเมื่อฤดูกาล 2010/11 คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่เหนือ แชมป์เก่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ก่อนหน้านี้จะไปสามสมัยซ้อนได้สำเร็จ ด้วยขุนพลวัยรุ่นผสมกับแข้งวัยเก๋า ภายใต้การคุมทีมของ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ กุนซือวัย 54 ปี

สามารถพาทีมเถลิงแชมป์ได้อย่างไร พวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง รวมถึงทีมไหนได้สิทธิ์ไปลุยถ้วยยุโรป ถ้วยเล็ก ถ้วยใหญ่กันบ้าง ทีมไหนน้ำตาร่วงต้องตกชั้น วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA มาเสนอบทสรุปและภาพรวมของ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ว่าซีซั่นนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง

แชมป์ ลีกเอิง 2020-2021

“ตราหมา” ลีลล์ สามารถคว้าแชมป์ได้อย่างสุดยอดในเกมสุดท้ายของฤดูกาล โดยกุนซือ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ เน้นให้รู้ทีมใช้ระบบ 4-4-2 เป็นหลัก โดย 38 นัด พวกเขาเก็บได้ 83 แต้ม เหนือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์เก่า เพียงแต้มเดียวเท่านั้น ชนะ 24 นัด เสมอ 11 นัดและแพ้เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น ยิงได้ 64 ประตูและเสียไป 23 ประตู ซึ่งน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของลีก ดาวซัลโวของทีมเป็น บูรัค ยิลมาซ ศูนย์หน้าตัวเก๋าชาวตุรกี ด้วยการผสมผสานระหว่างดาวรุ่งและแข้งตัวเก๋า ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด แต่หลายเกมก็พลาดเสมอเยอะไปเหมือนกัน เพราะด้วยความกดดันด้วย แต่ทีมอื่นก็มักจะพลาดรอพวกเขาเสมอ แต่ส่วนยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ไปไกลได้เพียงรอบ 32 ทีมสุดท้ายเท่านั้น โดยตกรอบให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-2 ส่วนฟุตบอลถ้วย กุปเดอฟร็องส์ จอดอยู่รอบ 16 ทีม พ่ายให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 0-3 อย่างไรก็ตาม แชมป์ลีกก็ถือว่าพวกเขายินดีและดื่มด่ำกับความสำเร็จได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว แต่ที่น่าเศร้าใจ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ ได้ลาออกจากตำแหน่งไปเสียแล้ว

ทีมที่สมหวัง ได้ไปลุยฟุตบอลยุโรป

1. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ทีมแรกแน่นอนว่าเป็น “ตราหมา” ลีลล์ ส่วนโควต้าอันดับที่ 2 เป็น “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เปลี่ยนตัวกุนซือจาก โธมัส ทูเคิ่ล ที่คุมทีมเกือบครึ่งฤดูกาล เปลี่ยนมาเป็น เมาริซิโอ ปอร์เช็ตติโน่ ปีนี้พลาดแชมป์อย่างน่าผิดหวัง แต่ยังได้แชมป์ กุปเดอฟร็องส์ มาเชยชมหลังชนะ โมนาโก สบายๆ 2-0 และคว้าแชมป์ โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ โดยชนะ “โอเอ็ม” โอลิมปิก มาร์กเซย 2-1 คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ในปีนี้ ส่วนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมจากกรุงปารีส ตกรอบรองชนะเลิศ โดยแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผลสกอร์ 2 นัด 1-4 ส่วนทีมอันดับที่ 3 โควต้าเป็นของ โมนาโก ที่พลังอาวุโสสอดแทรกดาวรุ่งประปราย ซีซั่นนี้ทำได้ดีเกินคาด เก็บได้ 78 แต้ม ได้โควต้ารอบคัดเลือกไปครองแบบไม่มีอะไรต้องเสียใจ

2. ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

สองโควต้านี้ตกเป็นของทีมอดีตเคยปัง “โอแอลโอลิมปิก ลียง ที่เก็บได้ 76 คะแนน ซึ่งเอาตามจริงน่าผิดหวัง เพราะซีซั่นนี้พวกเขาไม่ได้ไปลุยถ้วยยุโรปสักรายการ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ส่วนอีกทีมก็คือ “โอเอ็ม โอลิมปิก มาร์กเซย เก็บได้ 60 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดแล้ว เพราะสโมสรกำลังประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนักหน่วง พอผลงานแย่หนักๆ แฟนบอลก็มาประท้วงกันอีก กว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ ถือว่าไม่น่าเกลียดเลยสักนิด

3. ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก

1 โควต้านี้ ตกเป็นของทีมอันดับที่ 6 แรนส์ เก็บชัยชนะได้ในนัดสุดท้าย แซง ล็องส์ ขึ้นมาอยู่อันดับที่หก ได้โควต้าในรายการนี้ไป ถือว่าผลงานน่าพอใจในระดับนึง เสียดายที่พวกเขาขาดเรื่องความสม่ำเสมอในผลงาน แต่โดยรวมเกาะกลุ่มหัวตารางได้ก็ถือว่าไม่แย่

ทีมตกชั้น

มีทีมที่สมหวัง กลับกันก็ต้องมีทีมที่ต้องอกหักตกชั้นเป็นของคู่กัน ซึ่งลีกเอิงมีทีมตกชั้นอัตโนมัติ 2 ทีม คือทีมในอันดับที่ 19 และ 20 ส่วนทีมอันดับที่ 18 ต้องไปเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3 จากลีกรอง

1. เริ่มจากทีมบ๊วยอันดับที่ 20 ที่ต้องปลิวก่อนใครเพื่อน เริ่มจาก ดิฌง ที่เจียนมาเจียนไปตั้งแต่ปีก่อน ปีนี้กลายเป็นทีมแจกแต้มตั้งแต่หัววัน เรียกได้ว่าทั้งฤดูกาล พวกเค้าเริ่มต้นจากทีมโซนตกชั้น จนจบฤดูกาลแล้ว พวกเค้าก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นได้ ตกชั้นไปตั้งแต่เหลือโปรแกรมอีก 4 นัด

2. ต่อกันที่ทีมอันดับรองบ๊วยที่ 19 อย่าง นีมส์ ที่จบอันดับ 19 พวกเค้าตายตกตามกันกับทางบ๊วยไปไม่นาน โดยพวกเค้าออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการครองจ่าฝูง แต่หลังจากนั้นก็สาละวันเตี้ยลงจนมาจบอยู่ในต่ำแหน่งนี้

3. ส่วนอันดับ 18 อย่าง น็องต์ พวกเค้ายังดีที่เกมชี้ชะตา สามารถเอาชนะ ตูลูส ได้ในการเพลย์ออฟ ด้วยสกอร์รวม 2-2 แต่พวกเค้านั้นทำประตูทีมเยือนได้ถึงสองประตู เลยทำให้พวกเค้าเอาชนะด้วยกฎประตูทีมเยือน ทำให้ปีหน้ายังสามารถโลดแลนอยู่บนลีกสูงสุดต่อไป

บทสรุป

สำหรับภาพรวมของ ลีกเอิง 2020-2021 หลักๆ แล้ว ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ควรจะได้แชมป์ แต่พวกเขาเจอปัญหาการขาดหายของนักเตะหลายราย ทั้งบาดเจ็บและติดโควิด รวมถึงเกมรับที่ไม่แข็งแกร่งพอสมควร เลยโดน ลีลล์ ที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอกว่าแซงคว้าแชมป์ในบั้นปลาย ส่วนทีมอื่นๆ อย่าง โมนาโก ก็มีลุ้นบ้างในช่วงนึง ส่วน โอลิมปิก ลียง หรือ โอลิมปิก มาร์กเซย ยังดูจะต่อกรในการลุ้นเบียดแย่งแชมป์กันยาก

แต่อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ทีมแชมป์ได้เปลี่ยนมือแล้ว ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าซีซั่นหน้าจะเป็นเช่นไร ส่วน ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะคอยอัพเดท ข่าวสาร บทความ รวมถึง การวิเคราะห์บอล พร้อมราคาโดนๆ ให้ทุกท่านที่เปรียบเสมือนเพื่อนของเราต่อไป อย่างไรฝากติดตามกันด้วยครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

เชลซี กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก เรียกว่าพลิกโผใช่ย่อย สำหรับตำแหน่งจ้าวยุโรปในซีซั่นนี้ ซึ่งหลายท่านทราบกันดีว่า “สิงโตน้ำเงินครามเชลซี สามารถคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรปอย่าง UEFA CHAMPIONS LEAGUE มาครองได้สำเร็จ

รอบรองชนะเลิศ เชลซี คว้าแชมป์เหนือทีม “เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ไม่ต้องต่อเวลาพิเศษ

คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์สโมสร ซึ่งสร้างความชื่นมื่นให้กับสาวกสิงห์บลูกันอย่างถ้วนหน้า ลอนดอนกลายเป็นสีน้ำเงินทั่วผืนกันเลยทีเดียว โดยวันนี้ วิเคราะห์บอล UFA จึงขอนำเสนอ เส้นทางการเป็นแชมป์ของ เชลซี ว่าพวกเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง ซึ่งซีซั่นนี้พวกเขาเจอความยากลำบากอย่างมาก กว่าจะผ่านมาถึงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างมากมาย เรามาดูกันว่า กว่าที่พวกเขาจะมาถึงจุดนี้ ต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง เชิญอ่านกันได้เลยครับ

เส้นทางสู่ชัยชนะของ เชลซี กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก

ขอย้อนไปซีซั่นก่อน ฤดูกาล 2019/20 ด้วยการนำทัพคุมทีมของกุนซือผู้เป็นนักเตะโคตรตำนานของสโมสร นั่นก็คือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด สามารถพาสโมสรต้นสังกัดจบอันดับ 4 ได้ผ่านเข้ามาเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่น 2020/21 ได้สำเร็จ

แถมฤดูกาลนั้นพวกเขาโดนแบนเรื่องการซื้อขายด้วย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาจอดแค่รอบชิงชนะเลิศในศึกเอฟเอ คัพ อย่างไรก็ตามนับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ

ซูเปอร์แฟร้งค์

โดยซีซั่น 20/21 เชลซี ได้เสริมทัพนักเตะที่น่าสนใจหลายราย เพื่อสู้ทุกศึกในซีซั่นดังกล่าว อาธิ

  • ติโม แวร์เนอร์
  • ไค ฮาเวิร์ตซ์
  • อาคิม ซีเย็ค
  • เบน ชิลเวลล์
  • เอดูอาร์ เมนดี้
  • ติอาโก้ ซิลวา

ที่เซ็นมาฟรี ส่วนผลงานในลีกจะขอข้ามครับ มากันที่รอบแบ่งกลุ่มกันก่อน

รอบแบ่งกลุ่ม

เชลซี อยู่กลุ่ม อี โดยมี เซบีย่า ยอดทีมจากลาลีกา สเปน, คราสโนดาร์ จากรัสเซีย และ แรนส์ ทีมจากลีกเอิง ฝรั่งเศส ร่วมกลุ่มอยู่ด้วย

โดยตอนนั้น ด้วยการคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างสวยงาม สามารถเป็นแชมป์กลุ่ม ด้วยสถิติ ชนะ 4 นัด เสมอ 2 นัด ไม่แพ้เลยแม้แต่นัดเดียว ยิงได้ 14 ประตู เสีย 2 ประตูเท่านั้น ผ่านเข้ารอบต่อไป โดยเจอกับ “ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ทีมจอมแทคติกจาก ลาลีกา สเปน

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

รอบนี้ตัว แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถูกปลดไปแล้วหลังจากทำผลงานในลีกได้อย่างน่าผิดหวัง ตอนนี้เป็น โธมัส ทูเคื่ล อดีตกุนซือของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้าคุมทีมแทนที่

ซึ่งเมื่อเจ้าตัวเข้ามารับงานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ผลงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดครับ เจ้าตัวมาในระบบ 3-4-3 ครับ เกมเลกแรก ไปเยือนของแข็งอย่าง แอตเลติโก มาดริด แต่พวกเขาเหนือกว่าเหลือเกิน การยืนเพลสซิ่ง ทำได้ดีมาก จนแข้งตราหมีทำอะไรไม่ได้เลย โดยเกมนั้น เชลซี ชนะไปก่อน 1-0 กุมความได้เปรียบอย่างมาก ก่อนกลับมาเล่นในบ้านของตัวเอง ต่อมาเกมเลกสอง ทีนี้เล่นในบ้าน ยังโชว์เหนืออีกครั้งกด ตราหมี แทบทั้งเกมและเอาชนะอย่างไม่ยากเย็นด้วยสกอร์ 2-0 รวมผลสองนัด ชนะ 3-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ในชนิดที่ว่า ยอดทีมจากสเปนเสียรังวัดไปเหมือนกัน

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

รอบนี้เหมือนจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก เมื่อเจอกับ ปอร์โต้ ยอดทีมแห่งโปรตุเกส ทีมที่ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเป็นเลิศ มีทีเด็ดหลายอย่าง แต่เกมนัดแรก เชลซี ผู้ที่ต้องออกไปเยือนก่อน ก็เล่นได้อย่างเหนียวแน่น มีระเบียบดีเหลือเกิน แม้ทางเจ้าบ้าน จะได้โอกาสพังประตู แต่ก็ไม่เฉียบคมพอ

เกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะของ เชลซี ซัดไป 2-0 ก่อนที่เกมเลกสอง เล่นในบ้าน แต่เกมนี้เหมือนนักเตะจะเล่นติดประมาทไปบ้าง แพ้คาบ้านให้กับ ปอร์โต้ ผู้ที่มาบุกยับๆ แต่ทำได้เพียงชนะแค่ 1-0 ทำให้ผลสกอร์สองนัด เชลซี เข้ารอบอย่างหวุดหวิด ด้วยสกอร์ 2-1

รอบ 4 ทีมสุดท้าย

รอบรองชนะเลิศนี่ล่ะครับของจริง แฟนบอลสิงห์บลูลุ้นกันฉี่แทบราด เมื่อต้องมาเจอ โคตรทีมอย่าง “ราชันชุดขาวเรอัล มาดริด ที่ผลงานในแชมเปี้ยนส์ลีกมาแรงเหลือเกิน เป็นทีมที่อันตรายและเป็นทีมเต็งแชมป์อีกต่างหาก อย่างไรก็ตามเกมนั้น ในการออกไปเยือนท่ามกลางสายฝนที่ตกทั้งเกม เชลซี ทำได้ดีกว่าครับและน่าจะชนะได้ด้วยแต่ทว่า เรอัล มาดริด ยันอยู่ จบเกมเสมอกันไปก่อน 1-1 ก่อนที่ยกที่สอง โธมัส ทูเคิ่ล ปล่อยของร่วมกับนักเตะของทีมที่พร้อมเล่นตามแทคติกเป๊ะๆ ทำให้ เชลซี ชนะ เรอัล มาดริด ได้สบายๆ 2-0 รวมผลสองนัด ชนะ 3-1 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังใกล้เข้ากับแชมป์สมัยที่สอง เหลือเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ปล. ก็องเต้ ได้รับ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ สองนัดติดอีกต่างหาก

รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2020-2021

สองทีมจากเกาะอังกฤษเจอกันเองอีกครั้ง โดย เชลซี พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยสถิติ 2 นัดหลังสุด โธมัส ทูเคิ่ล พาทีมชนะ แมนซิตี้ ได้ทั้งหมดอีกด้วย เกมนี้เมื่อนกหวีดเป่าขึ้น แน่นอนว่าเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ครองบอลมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถทำอะไร เชลซี ได้ถนัดนัก ซึ่งต้องยอมรับว่า แท็คติกของ ทูเคิ่ล นั้นได้ผลอย่างมาก รวมถึงต้องยอมรับขุมกำลัง 11 คนตัวจริงในเกมนี้ ที่เล่นได้ตามตำราเป๊ะๆ โดยเฉพาะกองหลังอย่าง รูดิเกอร์ ที่เป็นหัวใจในเกมรับยิ่งกว่าใครๆ และที่สำคัญคือ ก็องเต้ ที่กัดไม่ปล่อย เจ้าตัวอยู่ในทุกที่ของสนาม ไม่ปล่อยให้แผงมิดฟิลด์ เรือใบสีฟ้า ทำอะไรได้ถนัดนัก และช่วงท้ายครึ่งแรก ไค ฮาเวิร์ตซ์ วิ่งฝ่ากับดักล้ำหน้าหลุดไปยิงอย่างง่ายดาย และนี่คือสกอร์เดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีโอกาสกันมากนัก แม้ทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะโหมบุกแค่ไหนก็ตาม แต่แนวรับของ เชลซี แข็งแกร่งดังภูผา ไม่ปล่อยให้ เมนดี้ นายทวารต้องเจองานยากเลย มีเพียงจังหวะก่อนหมดเวลา ที่ โฟเด้น ยิงข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดจบเกม เป็นชัยชนะ ของ เชลซี และเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 2 ของสโมสรอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่ปลด แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยังมีคำถามถึงเสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช อย่างมากมาย แต่ตอนนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว ว่านี่คือตัวเลือกที่ถูกต้อง เพราะเพียงเวลาร่วม 4 เดือนกว่า เทรนเนอร์ชาวเยอรมันเข้ามาคุมทีม ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าเสียดายที่พวกเขาดันอดถ้วย เอฟเอ คัพ และยังโชคดีที่จบที่ 4 ได้หลังจากต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้าย น่าสนใจเลยทีเดียว่าฤดูกาลนี้พวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนกับทีมพลังหนุ่มชุดนี้ ฤดูกาลหน้าเราจะมาติดตามกันอีกครั้ง

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

วิเคราะห์บอลเต็ง ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ขอเสนอ ทีเด็ดบอลวันนี้ สำหรับนักลงทุน สายบอลเต็ง บอลเดี่ยว กันอีกเช่นเคย โดยวันนี้ จะเป็นเกมกระชับมิตรของทีมชาติ ซึ่งจะเป็น ฟุตบอลอุ่นเครื่อง ก่อนที่หลายทีมจะเข้าสู่ การแข่งขัน ฟุตบอลยูโร รอบสุดท้าย ที่เลื่อนมาจากปีที่แล้ว ซึ่งเกมนี้เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติสโลวาเกีย เปิดสนาม จอสโก อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติบัลแกเรีย โดยทั้งสองทีมแข่งขันกันในคืนวันอังคารที่ 1 มิถุนายน เวลา 23.00 น. ณ เมืองรี้ด ประเทศออสเตรีย สามารถพบกับ บทวิเคราะห์ ทีเด็ดบอลเต็ง ได้ทุกวัน ที่ ufa.soccer

วิเคราะห์บอล สโลวาเกีย vs บัลแกเรีย ทีเด็ดบอลวันนี้

  • สโลวาเกีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือนามว่า สเตฟาน ทาร์โควิช ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สามารถพาชาติบ้านเกิด ผ่านเข้ารอบศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ในรอบเพลย์ออฟ 2-1 ผ่านเข้าไปร่วมกลุ่ม E กับ ทีมชาติสวีเดน, ทีมชาติโปแลนด์ และ ทีมชาติสเปน ซึ่งเป็นกลุ่มที่งานหินใช่ย่อย ส่วนโปรแกรมการแข่งขันนัดล่าสุด พวกเขาสามารถเอาชนะ ทีมชาติรัสเซีย ได้ 2-1 โดยสถิติการลงสนาม 5 นัดหลังสุด ชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 1 นัด ส่วนทัพนักเตะชุดนี้ก่อนลุยบอลยูโร ตัวเด่นๆ ตัวดังๆ ก็จะมี มิลาน สคริเนียร์ กองหลังจาก “งูใหญ่อินเตอร์ มิลาน ตามด้วย ออนเดรย์ ดูด้า แข้งตัวรุกจาก “แพะบ้าโคโลญจน์
  • บัลแกเรีย โดยการคุมทีมของ ยาเซน เปตรอฟ กุนซือวัย 52 ปีที่เพิ่งเข้ามาคุมบังเหียนเมื่อเดือนมกราคมต้นปีที่ผ่านมา ผลงานของพวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน จอดอยู่แค่รอบคัดเลือกศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย โดยจบอันดับที่ 4 ของกลุ่มซี เท่านั้น ส่วนผลงานในเนชั่นส์ลีก ก็จบอันดับบ๊วยของลีกบี ทำให้ครั้งหน้า ต้องหล่นไปเล่นในลีกระดับซี โดยผลงานการลงสนามนัดล่าสุด เจ๊ากับ ไอร์แลนด์เหนือ แบบไร้สกอร์ สถิติการลงสนาม 5 นัดหลังสุด ไม่ดีเสียเลย โดยชนะใครไม่ได้ เสมอ 2 นัดและแพ้ถึง 3 นัด ส่วนขุมกำลังนักเตะชุดนี้ มีแข้งดาวเด่น นำทัพโดย อังเดร กาลาบินอฟ กองหน้าจาก สเปเซีย และ วาเลนติน อันตอฟ กองหลังดาวรุ่งจากสโมสร โบโลญญ่า

วิเคราะห์บอลทีเด็ดบอลวันนี้

ทั้งสองชาติเคยเจอกันในเกมอย่างเป็นทางการ ที่ได้รองรับจากฟีฟ่า 3 นัดด้วยกัน โดยเป็น สโลวาเกีย ชนะ ได้ 2 นัด และ บัลแกเรีย ชนะได้ 1 นัด ส่วนเกมนี้เป็นนัดอุ่นเครื่อง สำหรับ สโลวาเกีย จะเป็นการทดลองใช้งานผู้เล่นก่อนสู้ศึกจริงในศึกยูโร ที่จะรูดม่านเปิดฉากกลางเดือนหน้า โดยพวกเขาเป็นทีมที่ไม่ค่อยเน้นบุกอะไรมากมาย อาศัยความเขี้ยวและเน้นแทคติกครับ ลูกกลางอากาศถือว่าทำได้ดี แต่ความคล่องตัวของนักเตะยังมีน้อยไปหน่อย จุดเด่นคือแผงมิดฟิลด์นั่นเอง ส่วน บัลแกเรีย คุณภาพนักเตะดูเป็นรอง แข้งส่วนใหญ่ยังเล่นอยู่แต่สโมสรเล็กๆ เกมนี้คงไม่มีอะไรมากนอกจากให้ตัวกุนซือได้ลองแทคติก ปรับแต่งแผนการเล่น เพื่อรอโปรแกรมอื่นๆ ต่อไป ส่วนเกมนี้คาดว่า สโลวาเกีย ดีพอทีจะชนะ บัลแกเรีย แบบไม่ยากเย็น แต่ไม่น่าจะยิงกันเยอะครับ ดังนั้นสกอร์ต่ำจะได้ลุ้น หรือ เดิมพันทีมเต็งกับ สโลวาเกีย ส่วนต่อไปเราจะมาดูราคากันนะครับ ว่าทิศทางจะเป็นแบบไหน เพื่อช่วยทุกท่านในการตัดสินใจกันอีกที

ทรรศนะบอล ทีเด็ดบอลเต็ง สโลวาเกีย vs บัลแกเรีย

สำหรับ อัตราต่อรอง ของบอลคู่นี้ อิงจากเว็ป ufabet เปิด ราคาบอล ที่ ทีมชาติสโลวาเกีย เป็นทีมต่อ อยู่ที่ 0.5 หรือ ครึ่งลูก นั่นเอง ราคายั่วๆ เลยครับแบบนี้ ซึ่งองค์ประกอบทุกอย่างเอื้ออำนวยให้ สโลวาเกีย เป็นต่อครับ ทั้งฟอร์มการเล่น 5 นัดที่ผ่านมา คุณภาพของนักเตะ แต่เกมนี้น่าจะหมุนทัพปรับแต่งกันพอสมควรครับ แต่คิดว่าไม่ยากที่จะผ่าน ทีมชาติบัลแกเรีย ไปได้ แต่อย่างที่บอก สกอร์น่าจะไม่ยิงกันเยอะครับ คงไม่มีสกอร์ถล่มทลายหรือขาดลอยอะไรขนาดนั้น แต่โอกาสที่ สโลวาเกีย จะชนะมีสูงเหลือเกินครับ แม้จะเตะในสนามกลางก็ตาม ฝีเท้านักเตะเหนือกว่ากันเยอะครับ ดังนั้น  วิเคราะห์บอล UFA ขอย้ำความมั่นใจและผลกำไรที่จะตามมาให้ เพื่อนๆ รับทรัพย์กันในช่วงนี้ จัดเลยครับ จิ้มกดเลย บอลเต็ง คู่นี้ จัด ทีมชาติสโลวาเกีย เลยครับ ราคาเล่นง่าย โอกาสได้มีสูง โอกาสบ้งมีน้อยครับ ลุยเลยครับ วันจันทร์นี้ เต็งรอไว้เลย แล้วกลับมาพบกันใหม่กับบทความ ทีเด็ดบอลวันนี้ ได้ทุกวันที่ ufa.soccer เช่นเดิมครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

ปีนี้แชมป์สคูเด็ตโต้เปลี่ยนมือใหม่กันใหม่กันบ้าง ฤดูกาลนี้ กัลโช่ เซเรีย อา กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง ทำให้ความนิยมมีเพิ่มขึ้นด้วยครับผม ซึ่งลีกนี้ไม่ใช่ไก่กาแน่นอน แม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนยุค 90s ก็ตาม ซึ่งเช่นเคยครับ แม้ว่าลีกใหญ่ๆ จะทยอยปิดฤดูกาลไปแล้ว แต่ทางเวป Ufabet ซึ่งเป็น เว็บไซต์เดิมพันฟุตบอลออนไลน์ ที่น่าเชื่อถือที่สุด ยังเอาใจ  นักลงทุน และ แฟนบอล ที่เป็น เซียนบอล หรือ กูรูฟุตบอล เช่นเคยครับ ยังมีโปรแกรมฟุตบอลอีกมากมาย รอให้คุณเข้าไปโกยผลกำไรในยุคที่อะไรก็ยากลำบากเหลือเกิน ซึ่งช่องทางนี้ หากศึกษาดีๆ จากเวปข่าวสารที่เที่ยงตรง ข้อมูลลึก และ เวปไซต์เดิมพันที่ชัวร์ เล่นจริงได้จริง ก็ผลกำไรย่อมออกดอกออกผลได้ทันตา ขอฝากเวป Ufabet ด้วยนะครับ วนวันนี้นี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA มาเสนอบทสรุปและภาพรวมของ กัลโช่ เซเรีย อา ให้ได้อ่านกันแบบเพลินๆ เช่นเคย

ทีมแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา

งูใหญ่อินเตอร์ มิลาน โดยการนำทัพคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ พาทีมฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ โดยมี 91 แต้ม เหนือทีมร่วมสนาม เอซี มิลาน ที่รั้งรองจ่าฝูงถึง 12 แต้ม โดย อินเตอร์ มิลาน แข่ง 38 นัด ชนะ 28 นัด เสมอ 7 นัดและแพ้ 3 นัด ยิงได้ 89 ประตู เสีย 35 ประตู โดยมี โรเมลู ลูกากู เป็นซัลโวของทีม กดไป 24 ประตู ส่วนผลงาน โคปา อิตาเลีย จอดที่รอบรองชนะเลิศ แพ้ให้กับ ยูเวนตุส ส่วนผลงานศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จบที่ตำแหน่งบ๊วยของกลุ่ม บี แต่อย่างไรก็ตามการคว้าแชมป์สคูเต็ตโต้ มาครองได้สำเร็จ นับเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ แต่ล่าสุด คอนเต้ อำลาทีมไปแล้ว ก็ต้องดูว่าใครจะเข้ามาแทนที่

ทีมที่สมหวัง ได้ไปลุยฟุตบอลยุโรป

1. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอินเตอร์ มิลาน ได้โควต้าที่แรกจากการเป็นแชมป์ลีก ตามด้วย “ปีศาจแดงดำเอซี มิลาน ที่ปีนี้เซอไพรส์ขึ้นมาอยู่หัวตารางอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็ประคองตัวจบอันดับสองของลีกจนได้ ตามด้วยทีมจอมบุกอย่าง “เทพธิดาอตาลันต้า ก็ยังเกาะกลุ่มหัวตาราง ตามมาเป็นอันดับที่สาม และสุดท้าย “ม้าลายยูเวนตุส แชมป์เก่า ที่แซงขึ้นมาจบอันดับสี่ ได้อย่างหวุดหวิด ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งล่าสุด อันเดรีย ปิร์โล่ โดนปลดจากผลงานที่สุดแสนจะน่าผิดหวัง ตามที่หลายคนคาดหมาย

2. ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก – ทีมแรกเป็นทาง นาโปลี หล่นมาเป็นอันดับที่ห้า อดไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก แบบน่าเจ็บใจ ทำให้ เจนาโร่ กัตตูโซ่ ประกาศอำลาทีม ส่วนอันดับที่หก เป็นทีมเงินน้อยแต่ยังเกาะกลุ่มไว้ได้อย่าง “อินทรีฟ้าขาวลาซิโอ ได้สิทธิ์อีกทีม แต่ ซิโมเน่ อินซากี้ ก็อำลาทีมออกไปเช่นกัน

3. ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก – ปีนี้เป็นของทีมอันดับที่เจ็ด “หมาป่ากรุงโรมโรม่า ซึ่งล่าสุดได้ โฆเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีม ก็น่าสนใจว่าพวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหน กับการแข่งขันที่จัดขึ้นครั้งแรกในซีซั่นหน้า

ทีมที่ต้องอกหัก ตกชั้น

มาต่อกันที่ทีมที่ผิดหวังต้องตกชั้น เริ่มจากอันดับที่ 18 เบเนเวนโต้ ตกชั้นจนได้หลังจากแพ้รัวๆ มีเพียง 33 คะแนนตามหลังทีมอันดับที่ 17 ถึง 4 คะแนน ร่วงตกชั้นอย่างเศร้าสร้อย โดยกุนซือ ฟิลิปเป้ อินซากี้ ก็ประกาศอำลาทีมเรียบร้อย ส่วนอันดับที่ 19 รองบ๊วยเป็นอีกทีมน้องใหม่ โครโตเน่ ก็รีบมารีบไป มี 23 คะแนนเท่านั้นจาก 38 นัด แต่ยังไม่แย่เท่าทีมบ๊วย ซึ่งน่าเศร้าใจเหลือเกินกับ “จัลโล่บลูปาร์ม่า ปีนี้ตกชั้นจนได้ เซ็งเลยทีเดียว มีเพียง 20 คะแนนเท่านั้น แผ่วปลายแพ้กันรัวๆ จนทีมแทบเจ๊ง

สำหรับปีนี้ กัลโช่ เซเรีย อา หลายทีมเริ่มขยับตามกันขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะในส่วนกลุ่มหัวตาราง 6 อันดับแรก แต่ละทีมต่างแข่งกันทำผลงานได้ดี บางทีก็สะดุดกันตามกันไป ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับขาลงทุน นักเดิมพันทั้งหลายครับ ได้ตามติดลุ้นกันต่อ ส่วนในแง่ของการชมฟุตบอล ก็เป็นเรื่องดีที่ลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี เริ่มกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง แต่สำหรับนักลงทุนต้องระวัง ยังมีราคาแปลกๆ อยู่บ้างครับ หักปากกาเซีนหลายทีแล้ว อย่างไรก็ตามคอยติดตามเวปไซต์ของเราด้วยนะครับ  ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ก็จะยังคงจะนำเสนอ ข่าวสาร, บทความ และการ วิเคราะห์บอล อื่นๆ เพื่อเป็นเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านเป็นประจำเช่นเคยครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่ครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

ได้ตื่นเต้นกันจนนัดสุดท้ายสำหรับ ลาลีกา สเปน ลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งวันนี้ทีมงานจะสรุปให้นักอ่าน นักลงทุน และ แฟนบอล ได้รับทราบกันว่าผลงานแต่ละทีมเป็นอย่างไรบ้าง ใครแชมป์ ใครได้โควต้าลุยถ้วยยุโรป ใครตกชั้น ส่วนทางด้าน ทาง นักลงทุน และ แฟนบอล ที่เป็น เซียนบอล หรือ กูรูฟุตบอล ไม่ต้องห่วงครับ แม้ลีกใหญ่หลายลีกจะปิดซีซั่นไปแล้ว แต่ทางเวป Ufabet ซึ่งเป็น เว็บไซต์เดิมพันฟุตบอลออนไลน์ ที่น่าเชื่อถือที่สุด ยังมีโปรแกรมฟุตบอลลีกรองหรือจะเป็นโปรแกรมทีมชาติ รอให้ทุกท่านเข้าไปจิ้มเลือกเดิมพันกันอย่างเพลิดเพลินแบบไม่มีพักเช่นเคยครับ อย่างไรฝากไว้ด้วยนะครับ เว็ปนี้การันตีเรื่องความปัง ส่วนวันนี้นี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA มาเสนอบทสรุปและภาพรวมของลาลีกา สเปน ให้ได้อ่านกันแบบเพลินๆ เช่นเคย

ทีมแชมป์ ลาลีกา สเปน

ตราหมีแอตเลติโก มาดริด โดยมีกุนซือยอดแทคติกอย่าง ดิโอโก้ ซิเมโอเน่ คุมบังเหียน สามารถพาทีมได้แชมป์ลีกในซีซั่นนี้อีกครั้ง หลังจากเคยคว้าได้ 1 สมัยในฤดูกาล 2013/14 โดยซีซั่นนี้ต้องลุ้นเยี่ยวเล็ดกันนัดสุดท้าย โดยพวกเขาสามารถเอาชนะ เรอัล บายาโดลิด ด้วยสกอร์ 2-1 คว้าแชมป์เหนืออริร่วมกรุง “ราชันชุดขาวเรอัล มาดริด ไปได้ โดยมีแต้ม 86 คะแนน คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดย หลุยส์ ซัวเรส แข้งส่วนเกินของ บาร์เซโลน่า เป็นดาวซัลโวของทีมกดไป 21 ประตู เรียกว่ายื่นหอกให้ศัตรูโดยแท้จริง ส่วนรายการอื่น จบเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากพ่ายให้กับ เชลซี และตกรอบ โกปา เดล เรย์ ให้กับทีมรองบ่อนอย่าง คอร์เนลล่า 0-1 แต่อย่างไรก็ตาม แชมป์ลีกก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งแล้ว

ทีมที่สมหวัง ได้ไปลุยฟุตบอลยุโรป

1.ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก – แน่นอนว่า แอตเลติโก มาดริด ที่คว้าแชมป์ลีกไปได้แล้ว ได้โควต้าเป็นทีมแรก ส่วนอันดับสองเป็นของ เรอัล มาดริด ตามด้วย บาร์เซโลน่า ที่แผ่วปลายจนร่วงมาอันดับที่ 3 ส่วนอันดับที่ 4 เป็น เซบีย่า ที่เกาะกลุ่มได้อย่างเหนียวแน่น โดยปีนี้ ลาลีกา สเปน ได้ไป 5 ทีมเพราะ บียาร์เรอัล ที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ได้สิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่ม แถมยังอยู่ในโถ 1 อย่างสวยงาม

2. ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก – เรอัล โซเซียดาด ที่เคยเป็นจ่าฝูงในช่วงต้นฤดูกาล แต่หลังจากนั้นร่วงมาจบในอันดับที่ 5 หลังจากฟอร์มร่วงกราวในช่วงกลางฤดูกาล ได้สิทธิ์ไปเล่นในรายการนี้อีกครั้ง ตามด้วย เรอัล เบติส อันดับที่ 6 ซึ่งซีซั่นนี้ พวกเขาเล่นได้ดี เกมรุกสนุกสุดมัน เกมรับอัพเวล กลายเป็นทีมเสียประตูยาก แต่ปีนี้จะไม่มีทีมจากสเปนได้ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก รายการใหม่ถอดด้ามของทางยูฟ่า เนื่องจากอันดับ 7 อย่าง บียาร์เรอัล ได้โควต้าพิเศษไปเล่นในถ้วยใหญ่แทน

ทีมที่ต้องอกหัก ตกชั้น

สำหรับลาลีกา สเปน ซีซั่นนี้ มีน้องใหม่ตกชั้นทีมเดียว นั่นก็คือ อูเอสก้า ซึ่งจบอันดับที่ 18 ของตาราง มี 34 คะแนน ซึ่งน่าเสียดายเพราะสองเกมหลังพวกเขาหาชัยชนะไม่ได้ โดน เอลเช่ ทีมเพื่อนน้องใหม่ด้วยกันแซงหนีตกชั้นในบั้นปลาย ส่วนอันดับที่ 19 เป็น เรอัล บายาโดลิด ซึ่งน่าผิดหวังมากๆ เพราะตัวนักเตะและขุมกำลังไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใด แต่พวกเขามีเพียง 31 คะแนนเท่านั้น 4 เกมหลังสุด แพ้รวดอีกต่างหาก นักเตะเตรียมย้ายแทบยกชุด ส่วนทีมบ๊วยอันดับที่ 20 กลายเป็น “ช่างปืน เออิบาร์ ที่ซีซันนี้ไปไม่รอด มีเพียง 30 คะแนนเท่านั้น 3 เกมหลังสุดชนะใครไม่ได้ตกชั้นไปตามระเบียบ

สำหรับซีซั่นนี้จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ทำให้อะไรก็ยากลำบาก แฟนบอลไม่สามารถเข้าชมได้ ซึ่งอีกไม่นานอะไรก็เริ่มดีขึ้น มีการฉีดวัคซีน เดี๋ยวหลายๆ อย่างก็กลับมาปกติ ซึ่งก็ติดตามเชียร์กันต่อไป ส่วน ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ก็จะยังคงจะนำเสนอ ข่าวสาร, บทความ และการ วิเคราะห์บอล อื่นๆ เพื่อเป็นเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านเป็นประจำเช่นเคยครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่ครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

สุดท้ายแล้วแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2020-2021 ก็รู้ผลกันแล้ว ซึ่งก็เป็นทาง “เรือดำน้ำสีเหลืองบียาร์เรอัล จากศึกลาลีกา สเปน สามารถดวลจุดโทษเอาชนะ “ปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด 11-10 (ช่วงเวลาปกติ เสมอ 1-1) คว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งแรกเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จึงขอย้อนรอยเส้นทางสู่แชมป์ของสโมสรจากประเทศสเปน กว่าจะคว้าถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก มาครอง พวกเขาเจออะไรมาบ้าง ซึ่งมีสถิติน่าสนใจอย่างมาก

ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

บียาร์เรอัล โดยการคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ กุนซือสัญชาติสเปนที่กลับมาคุมสโมสรบ้านเกิดอีกครั้ง มีฉายา เจ้าพ่อยูโรป้าอีกด้วย ซึ่งเพิ่งเข้ามาคุมก่อนซีซั่น 2020/21 จะเริ่มต้นขึ้น โดยรายการนี้พวกเขาอยู่กับกลุ่ม H สายเดียวกับ ชีวาสสปอร์ ทีมจากประเทศตุรกี, มัคคาบี้ เทล อาวีฟ ทีมจากประเทศอิสราเอล และ คาราบัค ทีมจากประเทศอาเซอร์ไบจาน โดย บียาร์เรอัล จบอันดับแชมป์กลุ่ม โดยชนะ 5 นัด และ เสมอ 1 นัด ด้วยกัน มี 16 แต้ม ยิงได้ 17 ประตู เสีย 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในรอบนี้และของทีม ซึ่งแม้อยู่ในสายที่ไม่แข็งมากแต่พวกเขาก็ไม่พ่ายให้กับใครแม้แต่นัดเดียว อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่ใช่ทีมเต็งในเวลานี้

เส้นทางในรอบน็อคเอาท์

รอบ 32 ทีม

พวกเขามีคิวเจอกับ เร้ดบลู ซัลบวร์ก โคตรทีมครองลีกแห่งประเทศออสเตรีย แต่ทว่า บียาร์เรอัล ก็ยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย โดยเกมแรกบุกไปสร้างความได้เปรียบอย่างมาก ด้วยการชนะถึงถิ่น 2-0 ก่อนที่จะกลับมาเล่นในบ้าน เน้นเล่นแบบรัดกุมเอาตัวรอดชนะไปได้ 2-1 อย่างสวยงาม รวมสกอร์ 2 นัด ชนะ 4-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

รอบ 16 ทีม

รอบนี้พวกเขาเจอทีมจากประเทศยูเครน ดินาโม เคียฟ ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มา แต่พลพรรคเรือดำน้ำสีเหลือง ก็สามารถผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็น โดยเกมแรก บุกไปชนะถึงถิ่นต่อหน้าแฟนบอล 12751 คน ด้วยสกอร์ 2-0 และ กลับมาเล่นในบ้านก็ชนะได้อย่างง่ายดาย 2-0 รวมผลสกอร์สองนัด 4-0 ดูเหมือนว่าพวกเขาเริ่มเป็นหนึ่งทีมที่จะคลาดสายตาไปไม่ได้เสียแล้ว

รอบ 8 ทีม

พวกเขาเจอทีมม้ามืดจากโครเอเชีย อย่าง ดินาโม ซาเกร็บ ที่เพิ่งล้ม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกหนึ่งทีมเต็งมาหมาดๆ แต่ด้วยแทคติกของ อูไน เอเมรี่ และ ขุนพลนักเตะที่เล่นตามโค้ชแบบเป๊ะๆ ทำให้ เกมนัดแล้วพวกเขาบุกไปเฉือนชนะในบ้าน ซาเกร็บ 1-0 และกลับมาชนะในบ้านตัวเองชิลล์ๆ 2-0 ณ รวมผลสองนัด 3-0 ตอนนี้ บียาร์เรอัล ขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมเต็งอย่างเต็มตัว

รอบรองชนะเลิศ

ในรอบนี้ อูไน เอเมอรี่ ได้เจอทีมเก่า ที่ทำให้เขาเสียสถิติแพ้นัดชิงชนะเลิศรายการนี้ นั่นก็คือ อาร์เซน่อล นั่นเอง โดยเกมแรกพวกเขาได้เล่นในบ้าน ทำได้ดีกว่า เบียดเอาชนะไปได้ 2-1 ก่อนที่จะไปเยือนถิ่นลอนดอนและยันเสมอแบบไร้สกอร์ ผลสองนัดรวม 2-0 ทำเอาสโมสรเก่าเจ็บช้ำขั้วหัวใจ เข้าไปชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจุดนี้ จะเรียกว่าพวกเขาเป็นเต็งหนึ่งก็ยังได้

รอบชิงชนะเลิศ

ที่สนาม สตาดิโอน เอเนอร์ก้า กดังส์ค ณ ประเทศ โปแลนด์ ซึ่งเป็นเกมสำคัญของทั้ง บียาร์เรอัล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมเริ่มมา แน่นอนว่าเป็น ปีศาจแดง ได้ครองบอลมากกว่า ทว่านาทีที่ 29 เคราร์ด โมเรโน่ ทำประตูจากลูกเตะมุมทำให้ เรือดำน้ำสีเหลืองออกนำไปก่อน ทว่าหลังจากนั้น เป็น ปีศาจแดง บุกได้มากกว่า จนมาได้ประตูในครึ่งหลังจากการซ้ำจังหวะเก็บตกของ เอดิสัน คาวานี่ ในนาทีที่ 55 จากนั้น แมนยูฯ บุกได้มากกว่า แต่ไม่สามารถทำอะไร บียาร์เรอัล ได้เลย เพราะเล่นตามแทคติกอย่างเหนียวแน่น ยันต่อเวลาพิเศษ 120 นาทีก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ที่สำคัญ บียาร์เรอัล ยิงประตูตรงกรอบครั้งเดียวตลอดทั้งเกม จนมาถึงจังหวะดวลจุดโทษ ดาบิด เด เกอา ยิงไปติดเซฟ เกโรนิโม รุลลี ทำให้ บียาร์เรอัล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษที่ 11-10 ส่วนช่วงเวลาปกติเสมอกัน 1-1 คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เป็นสมัยแรกของสโมสร แถมยังมีสถิติสุดเหลือเชื่อ เพราะ บียาร์เรอัล ไม่แพ้ให้ใครเลยในรายการนี้ คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่และเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ของ อูไน เอเมอรี่ เป็นสมัยที่ 4 จากการเข้าชิงชนะเลิศ 5 นัดอีกด้วย ทำให้ บียาร์เรอัล ได้สิทธิ์ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกแบบอัตโนมัติในซีซั่นหน้าอีกด้วย

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

ปิดม่านกันแล้วครับ สำหรับฤดูกาลสุดยากลำบาก กับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งช่วงท้ายฤดูกาลสนุกเข้มข้นเหลือเกิน ได้ลุ้นกันสนุกยันนัดสุดท้าย แน่นอนว่า มีทีมที่สมหวังและผิดหวังกันอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากนี้ ทางลีกจะพักผ่อนประมาณร่วมสองเดือน ทาง นักลงทุน และ แฟนบอล ที่เป็น เซียนบอล หรือ กูรูฟุตบอล จะขาดลีกใหญ่ในการ เดิมพันฟุตบอลออนไลน์ อีกด้วยครับ ถือว่าเหงาหงอยกันไปสักพัก ถือว่าได้พักสมองกันบ้างครับ แต่สำหรับนักลงทุนตัวยง ทางเวป Ufabet ซึ่งเป็น เว็บไซต์เดิมพันฟุตบอลออนไลน์ ที่น่าเชื่อถือที่สุด ยังมีเกมฟุตบอลทุกลีกให้ลงทุนกันต่อครับ แบบจุใจเช่นเคยครับ ที่สำคัญเดือนหน้าก็เป็นช่วงเวลาของ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป ที่เลื่อนมาเตะปีนี้ และ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ส่วนวันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ขอนำเสนอบทสรุป และภาพรวมของหนึ่งในลีก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่า แชมป์ตกเป็นของทีมใด, ทีมไหนบ้างที่ได้ไปบอลยุโรป และทีมใดตกชั้นบ้าง

ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บัลลังก์แชมป์ ด้วยการมี 86 แต้มเหนือรองจ่าฝูงทีมอริร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 12 คะแนน คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ รวมแล้วคว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 7 ของสโมสร ยิงได้ 83 ประตู มากที่สุดในลีก เสีย 32 ประตู น้อยที่สุดของลีก ชนะ 27 นัด เสมอ 5 นัดและแพ้ 6 นัด ส่วนถ้วยอื่นๆ ก็สามารถคว้าแชมป์ลีก คัพ โดยเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่ เอฟเอ คัพ ไปได้ไกลที่สุดแค่รอบรองชนะเลิศเท่านั้น ส่วนอีกถ้วยที่มีลุ้นซึ่งเป็นรายการที่พวกเขารอคอยมาโดยตลอด นั่นก็คือ ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเข้าไปชิงชนะเลิศกับทีมร่วมลีก เชลซี นั่นเอง ทำให้พวกเขามีลุ้นคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ และน่าจะเป็นการอำลาทีมที่สวยงามสำหรับ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ กองหน้าตำนานของทีมอีกด้วย ส่วนผลงานในลีกซีซั่นนี้ มาเงียบๆ อย่างสม่ำเสมอ แต่ช่วงต้นซีซั่นพวกเขามีปัญหาเรื่องเกมรับ ทั้งที่เซ็น นาธาน อาเก้ แต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรได้ จนการเข้ามาของ รูเบน ดิอาซ ก็พลิกโฉมแนวรับของพวกเขา ไม่ว่ากองหลังรายนี้ยืนคู่กับใคร ก็ทำให้ฟอร์มดีไปด้วย ทีนี้เลยบินไกลยาวๆ ส่วนแนวรุกและแดนกลางเล่นกันได้ดีอยู่แล้ว ไม่มีใครแบกใคร แข้งรายหลากผลัดกันโชว์ฟอร์มเก่ง ในยามที่ทีมต้องการประตู ไม่ว่าจะเป็น สเตอริ่ง, มาเรซ และ โฟเด้น ดาวรุ่งลูกหม้อของทีมที่ซีซั่นนี้เด่นมากๆ น่าจะได้รางวัลส่วนตัวติดมือ ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ ซีซั่นเจ็บนานไปหน่อยเลยเงียบไปบ้าง เช่นเดียวกับ อเกวโร่ ที่โรยราเต็มที่ แต่ก็กดสองประตูในเกมสุดท้าย ปิดฉากเกมลีกอย่างยิ่งใหญ่ ทีมของยอดกุนซือ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ก็สามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

ทีมที่สมหวัง ได้ไปลุยฟุตบอลยุโรป

1.ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก – ชัดเจนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บโควต้าทีมแรก ตามด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกาะรองจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น แต่ก็ไม่ดีพอที่จะเบียดแซงคว้าแชมป์ อันดับสามเป็น ลิเวอร์พูล ที่มาแรงในช่วงปลายฤดูกาล ซึ่งจากชัยชนะนัดสุดท้าย ทำให้พวกเขาแซงขึ้นมาจบในอันดับ 3 แบบให้แฟนๆ อย่าง เดอะ ค็อปส์ ได้ชื่นใจหลังจากเหนื่อยมาทั้งฤดกาล ส่วนอันดับ 4 อย่าง เชลซี ที่แม้ช่วงหลังจะฟอร์มแผ่วไปมาก เกมสุดท้ายดันพ่ายแต่ผลคู่อื่นเป็นใจทำให้พวกเขาจบอันดับที่ 4 ซึ่งฉิวเฉียดเหมือนกัน สรุปแล้วทั้ง 4 สโมสรได้โควต้าแบบสมศักดิ์ศรีและซีซั่นหน้าก็มีลุ้นว่าพวกเขาจะทำได้ดีจะไปได้ไกลแค่ไหน เพราะดูแล้วยุคนี้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก กลับไปเขย่าถ้วยยุโรปอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง

2. ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก – แต่ละทีมที่ได้สิทธิ์ไปเล่น ล้วนแต่เป็นทีมเต็งในซีซั่นหน้าได้เลย เริ่มจากทีมอันดับที่ 5 โดยมีเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย นั่นก็คือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เกมนัดท้ายดันพ่าย เลยตกจากอันดับที่ 4 มาอยู่อันดับที่ 5 แบบเศร้าใจ น่าเสียดายที่พวกเขาเกาะท็อปโฟร์มาเป็นเวลานานแต่สุดท้ายก็ยื้อไม่ไหว ส่วนอันดับที่ 6 เป็น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งน่าสนใจมากๆ เพราะซีซั่นนี้ทีมย่านลอนดอนทำผลงานได้ดีมาก จนขึ้นมาอยู่อันดับนี้ได้อย่างน่าภูมิใจ

3. ยูฟ่า คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก – เป็นรายการใหม่ของทาง ยูฟ่า โดยให้ทีมอันดับที่ 7 ได้ไปแข่ง นั่นก็คือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมส่งท้ายก็ทำให้พวกเขาอยู่อันดับที่ 7 โดยมีคะแนนนำหน้าทีมอันดับที่ 8 โจทย์รักอย่าง อาร์เซน่อล ซึ่งพวกเขามีอันดับเหนือกว่าอีกแล้ว ก็สะใจกันไปตามสูตร

ทีมที่ต้องอกหัก ตกชั้น

สำหรับพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ทีมน้องใหม่มีเพียง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เกาะอันดับที่ 9 ของตารางอย่างสวยงาม ทว่า ฟูแล่ม โดยการคุมทีมของ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ จบอันดับที่ 18 มี 28 คะแนน และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ของกุนซือ แซม อัลลาไดซ์ ไม่สามารถพาทีมหนีตกชั้นแถมยังเสียสถิติส่วนตัว พาทีมจบอันดับที่ 19 มี 26 คะแนน ตกชั้นกันไปหลังจากเพิ่งขึ้นมาซีซั่นเดียว ส่วนทีมที่แย่ที่สุดตกชั้นไวสุดแบบน่าผิดหวัง ทั้งที่ซีซั่นก่อนทำได้ดีอย่างมาก นั่นก็คือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จบบ๊วยของลีก มี 23 คะแนนเท่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่าตกไปลีกรองแล้วพวกเขาจะพลิกฟื้นกลับมาใหม่ได้หรือไม่ อย่างไรก็ต้องคอยเอาใจช่วยกันต่อไป

สำหรับซีซั่นนี้เป็นอะไรที่ยากลำบากต่อเนื่อง โควิดยังระบาดทั่วโลก โปรแกรมปั่นป่วน การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป บางทีถ้าสถานการณ์ปกติ ก็น่าคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ เพราะแฟนบอลเข้ามาเชียร์กันในสนามได้ ทำให้นักเตะมีกำลังใจ ผิดกับตอนที่ผลงานแย่ หันไปมองบนสแตนด์ มีเพียงแต่ความว่างเปล่า แต่อย่างไรชีวิตก็ต้องดำเนินกันต่อ มีทั้งสมหวัง ผิดหวัง ปะปนกันไป ตราบใดที่ทุกฤดูกาลยังเริ่มต้นใหม่ได้ ก็ต้องมาสู้กันใหม่ ส่วน ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ก็จะยังคงจะนำเสนอ ข่าวสาร, บทความ และการ วิเคราะห์บอล อื่นๆ เพื่อเป็นเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านเป็นประจำเช่นเคยครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

และแล้วโปรแกรมฟุตบอลลีกทั้ง 5 ลีกใหญ่ของยุโรปก็ได้ปิดม่านกันไปแล้วครับ ซึ่งก็ทราบดีว่าทีมไหนเป็นแชมป์กันไปแล้ว แต่ส่วนรายการถ้วยยุโรป ยังมีให้ลุ้นกันต่อครับ โดยตอนนี้ รายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เราทราบกันแล้วว่า บียาร์เรอัล ทีมดังจากลาลีกา สเปน จะตัดสินแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจแฟนบอลทั่วโลกจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในคืนวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนจะถึงวันนั้น วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะขอพาย้อนรอยเส้นทางของทั้งสองทีมก่อนจะมาถึงนัดชิงชนะเลิศ ว่าผ่านด่านฝ่าอะไรกันมาได้จนถึงนัดชิงชนะเลิศ

ความพร้อมของทั้งสองทีมในรอบชิง ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

บียาร์เรอัล

ยอดทีมจากสเปน ทำผลงานได้อย่างสุดปังปุริเย่ โดยพวกเขาอยู่กลุ่ม I ร่วมกับ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ, ชีวาสสปอร์, คาราบัค โดย บียาร์เรอัล เก็บได้ถึง 16 คะแนน โดยไม่แพ้ใคร จบจ่าฝูงของตาราง เข้ารอบ 32 ทีมเจอกับ เร้ดบลูส์ ซัลบวร์ก และเข้ารอบด้วยผลสกอร์ 4-1 ต่อด้วยรอบ 16 ทีม เจอ ดินาโม เคียฟ ก็เข้ารอบด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-0 ต่อมารอบ 8 ทีมสุดท้าย ล้ม ดินาโม ซาเกร็บ ทีมม้ามืดด้วยสกอร์ 3-1 ส่วนรอบ 4 ทีมสุดท้าย อูไน เอเมอรี่ พาเรือดำน้ำสีเหลือง ล้มอดีตทีมเก่าของตนอย่าง “ไอ้ปืนใหญ่อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-1 หยุดความฝันทีมอังกฤษเข้าชิงกันเองแบบเจ็บแสบ รวมแล้วรายการนี้ บียาร์เรอัล ไม่พ่ายให้ใครแม้แต่นัดเดียว เป็นผลงานที่สุดยอดมากๆ โดย อูไน เอเมอรี่ เองมีประวัติส่วนตัว พาสโมสรเข้าชิงชนะเลิศได้ 5 ครั้ง ซึ่ง 3 ครั้งเจ้าตัวได้แชมป์กับ เซบีย่า ส่วนกับ อาร์เซน่อล ทำได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น น่าสนใจเลยทีเดียวว่ายอดทีมจากแคว้นบาเลนเซีย จะสัมผัสถ้วยแชมป์ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าทำได้ จะเป็นแชมป์แรกของประวัติศาสตร์ของสโมสรเลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้ทีมชุดนี้เป็นตำนานเล่าขานของสโมสรอย่างแน่นอน คาดว่าเกมนี้พวกเขาสู้สุดสู่หัวใจอย่างแน่นอน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โคตรทีมอดีตมหาอำนาจลูกหนังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเล่นรอบนี้หลังจาก ตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยจบอันดับที่ 3 ของกลุ่ม เอช ก่อนที่จะหล่นมาเล่นรอบ 32 ทีมสุดท้าย ในยูโรป้า โดยพวกเขาฝ่าด่านหินมากมากมาย ผ่าน เรอัล โซเซียดาด ด้วยสกอร์สองนัด 4-0 ต่อมาที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ล้ม “ปีศาจแดงดำเอซี มิลาน ด้วยสกอร์ 2-1 ตามด้วยรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอาชนะ กรานาด้า 2 นัด รวมสกอร์ 4-0 ก่อนที่รอบ 4 ทีมสุดท้าย จะเอาชนะ “หมาป่ากรุงโรมโรม่า ด้วยสกอร์ 2 นัดสุดมโหฬาร 8-5 ผ่านเข้าสู่รอบชนะเลิศในฐานะเต็ง 1 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี หลังจากเคยได้แชมป์ในปี 2017 ที่สำคัญ ยังเป็นรอบชิงชนะเลิศนัดแรก ในฐานะการคุมทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ อีกด้วย ซึ่งก็น่าสนใจว่ากุนซือชาวนอร์เวเจี้ยน จะนิ่งพอที่จะสามารถคว้าโทรฟี่แรกในฐานะการคุมทีมของปีศาจแดงได้หรือไม่ ซึ่งว่ากันตามตรง พวกเขาถือไพ่เหนือกว่าคู่ต่อสู้อยู่แล้ว เพราะทั้งชื่อชั้นและคุณภาพของนักเตะเหนือกว่ามาก แต่ถ้าประมาทก็จบเห่

เกล็ดที่น่าสนใจ

ทั้งสองทีมเคยดวลแข้งกัน 4 นัด ซึ่งทั้งหมดเป็นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งสถิติน่าสนใจ โดยเสมอกันทั้ง 4 นัด ด้วยสกอร์ 0-0 หมายความว่าเกมนี้จะมีผู้ชนะอย่างแน่นอน ซึ่งนัดชิงชนะเลิศอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ส่วน อูไน เอเมอรี่ เคยคุมทีมเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 นัด ชนะได้เพียง 1 นัด ที่เหลือ เสมอ 3 นัดและแพ้ 2 นัด แถมทุกเกมยังเก็บคลีนชีทไม่ได้ ส่วน โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เคยดวลกับ อูไน 3 นัด ชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัดและแพ้ 1 นัดด้วยกัน ตอนนี้ราคาจากเวป ufabet เปิดให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมต่อ 0.5 หรือ ครึ่งลูก ซึ่งน่าสนใจเลยทีเดียว ว่าวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ที่สนาม สตาดิโอน มีจสกี้ ในเมืองกดัญสก์ ประเทศโปแลนด์ ทีมไหนจะได้แชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ไปครอง ส่วนขาบอลเต็ง บอลเดี่ยว บอลชุด สายเดิมพัน สามารถติดตามข่าวสารได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน จากทีมงาน ufa.soccer คุณภาพ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลเสมือนเพื่อนกันครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้