ควันหลงจากเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่สนาม ที่สนาม อัล-มัคตูม สเตเดียม ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ตกรอบไปแล้ว ซึ่งเกมนี้ สกอร์จบลงที่ 2-2 ซึ่งนับเป็นความเสียหายอย่างหนักต่อทีมชาติไทยของเรา เพราะลงแข่งไปแล้ว 6 นัด มี 9 คะแนน อยู่อันดับที่ 3 เป็นรอง ยูเออี เจ้าภาพสนามกลางและ ทีมชาติเวียดนาม ที่สำคัญยังมีแต้มเท่ากับทีมชาติมาเลเซีย อีกต่างหาก ซึ่งทำให้หลังเกมแฟนบอลทีมชาติไทยผิดหวังตามๆ กันไป โวยวายเต็มโซเชี่ยลมีเดีย ระอุเดือดกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทย ของเรา ยังมีโอกาสที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะขอนำเสนอความเป็นไปได้ในการเข้ารอบ กับอีกสองโปรแกรมที่เหลือ โดยหวังว่าทีมชาติไทยของเราจะผ่านเข้ารอบไปได้ แต่อย่างไรก็ตามหนทางปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่ทีมเราเพียงอย่างเดียว ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น มารับรู้ข้อมูลพร้อมกันได้เลยครับ

2 นัด ที่เหลือ ของ ทีมชาติไทย

1. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 7 มิถุนายน 2564

โปรแกรมนัดต่อไปของทัพช้างศึก เจองานหินเมื่อต้องพบกับ เจ้าภาพในรอบนี้ ซึ่งต้องมาเตะสนามกลางเพราะปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยจะพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นทีมแข็งที่สุดในกลุ่มจี

ปัจจุบัน ยูเออี รั้งอันดับที่ 2 ของตาราง ด้วยการมี 9 คะแนน จากการลงสนาม 5 นัด ชนะ 3 นัดและแพ้ 2 นัด ด้วยกัน ส่วนข่าวดี โดยรอบนี้พวกเขาเคยบุกมาแพ้ทีมชาติไทย ด้วยสกอร์ 1-2 อย่างไรก็ตามเกมนัดล่าสุด ยูเออี โชว์โหด ถล่ม ทีมชาติมาเลเซีย 4-0 ซึ่งดูเหมือนฟอร์มของพวกเขาเมื่อเทียบกับ ไทย เราแล้ว ดูดีกว่ากันพอสมควร แดนหน้าของพวกเขามีความอันตรายและคล่องตัวสูง โดยเฉพาะตำนานอย่าง อาลี มับคุต ที่ตะบันประตูได้นัดที่แล้ว 2 ลูกด้วยกัน

แตกต่างจากทีมชาติไทยในเกมนัดที่แล้ว แนวรับมีปัญหาอย่างมาก รั่วยิ่งกว่าบ่อน้ำมัน ซึ่ง อากิระ นิชิโนะ น่าจะปวดหัวน่าดู ต้องปรับทัพกันยกใหญ่ อาจจะมีการเปลี่ยนผู้เล่น 11 ตัวจริงหลายราย ส่วนเกมรับยังขาดในเรื่องจังหวะสุดท้าย

แต่สิ่งที่น่ากังวลคือเกมนัดที่แล้ว ไทย เราเน้นเกมกลางอากาศมากเกินไป แม้จะสร้างจังหวะในการทำประตูได้เยอะ แต่ยิงเข้ากรอบได้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น น่าเสียอย่างยิง อย่างไรก็ตามเงื่อนไขเดียวของทีมชาติไทย คือต้องชนะให้ได้ ไม่อย่างนั้นเตรียมโบกมือบ๊ายบายได้เลย ยังไงเกมนี้ก็ต้องสามแต้มเท่านั้น

ส่วนโปรแกรมอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ทีมชาติเวียดนาม จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่ง ไทย เราต้องลุ้นให้อินโดนีเซียยันให้อยู่เหมือนทีมชาติไทย แต่เวียดนามยุคนี้ไม่หมู เกมรับเหนียวแน่น วิ่งไล้เพรสในแดนตัวเองและใช้จังหวะไม่มากนักในการสวนกลับ ถ้า เวียดนาม เอาชนะ อินโดเนเซีย ได้แล้ว ทีมชาติไทยเรายิ่งกดดันและต้องชนะยูเออี ให้ได้ แม้จะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม

ซึ่งเกมนี้เป็นเกมชี้ชะตาอนาคตการเข้ารอบของทีมชาติไทยได้เลย ที่สำคัญยังต้องลุ้นให้ ยูเออี ทำแต้มหลุดมือในทุกเกมที่เหลือหลังจากเจอ ทีมชาติไทย อีกด้วย แต่ถ้า ยูเออี ไม่พลาดเลย เราก็ต้องลุ้นให้ ทีมชาติเวียดนาม ทำแต้มหล่นไปเองกับอีกโปรแกรมที่เหลือของทัพดาวทอง

2. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย 15 มิถุนายน

สำหรับโปรแกรมนัดนี้ ขอย้อนไปเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เราพลาดท่าพ่ายให้กับ ทีมชาติมาเลเซีย 1-2 ที่สนามบูกิตจาลิล ซึ่งสนามนี้ขลังจริงๆ ไทย เราบุกไปไม่ค่อยจะชนะเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเกมนั้น ทำให้แฟนบอลชาวไทยผิดหวังพอสมควร ทั้งที่ออกนำไปก่อน ซึ่งปัญหาก็คือเกมรับ ที่ยังแก้ไขได้ยากเหลือเกิน จนแมตช์เมื่อคืนก็ยังไม่มีทีที่ว่าจะดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ ไทย เราต้องลุ้นเหนื่อยหนักขนาดนี้

มาว่ากันต่อในโปรแกรมส่งท้ายของรอบนี้ ไทย พบ มาเลเซีย เตะกันที่สนามกลางที่ยูเออี เช่นเคย โดยเกมนี้ถ้าหากนัดที่แล้วทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ ยูเออี ทำให้ความหวังในการเข้ารอบของไทยยังมีอยู่เต็มเปี่ยม เกมนี้ ไทย เราต้องชนะให้ได้อีกเช่นเคย โดยต้องยิงให้ได้เยอะที่สุด เพื่อลุ้นจบอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ซึ่งปีนี้ เอาเข้ารอบถึง 5 ทีมด้วยกัน จริงๆ รู้สึกเสียดาย เพราะถ้าสลับจากเกมที่ต้องเจอ ยูเออี มาเป็น มาเลเซีย ก่อน ก็น่าจะดีกว่านี้ เพราะทัพมาเล ชุดนี้ ดูจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก จากเกมที่แล้วที่ต่อกรกับ ยูเออี ไม่ได้เลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมชาติไทย ก็สภาพไม่ต่างกัน แถมสถิติการเจอกันในช่วงหลังยังสูสีกันอีก ส่วน มาเลเซีย ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบเช่นเดียวกับไทย แต่พวกเขายังต้องเอาชนะ ทีมชาติเวียดนาม ให้ได้ ซึ่งถ้าทำได้เกมนี้ก็มีลุ้นสนุกเหมือนกัน แต่ถ้าทั้งไทยและมาเลเซีย พร้อมใจกันแพ้ในโปรแกรมก่อนหน้าทั้งคู่ เกมนี้เท่ากับว่าไม่มีความหมายอะไรสำหรับทั้งสองชาติอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคอาเซียน แต่ละชาติย่อมไม่มีใครยอมใคร ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ เตะกันลืมตายแน่นอน โดยเฉพาะจังหวะนอกเกม มีแจก มีแถมกันตลอด

บทสรุป

สุดท้ายนี้ ในฐานะแฟนบอลทีมชาติไทยคนนึง ก็หวังว่า ทุกท่านจะลดคำด่าทอและการระบายอารมณ์ชั่ววูบต่างๆ ในโลกโซเซียล เพราะมันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยและอดทนใจเย็นๆ บ้าง อะไรหลายต่อหลายอย่างมันต้องใช้เวลา เรื่องผิดหวังมันเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์ตึงเครียดกันหนักหน่วงอยู่แล้ว

เรามาเปลี่ยนพลังด้านลบเป็นด้านบวก ร่วมส่งใจเชียร์อย่างสร้างสรรค์ อวยพรให้ ทัพนักเตะและทีมงาน สต๊าฟโค้ช ทุกท่าน คว้าชัยชนะได้ทั้งสองนัดและพาทีมชาติไทยเข้ารอบต่อไปให้ได้กันดีกว่าครับ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับความเป็นจริง ลุกขึ้นมาเรื่มกันใหม่ได้ทุกวัน แล้วกลับมาพบกันใหม่ครับ

Posted in บทความฟุตบอล

นับเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ สำหรับแฟนบอลชาวไทย และทีมงานฟุตบอลทีมชาติไทย ที่กำลังประสบปัญหาหลากหลายด้าน จากวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่กีฬาเองก็ตาม แม้ว่าบอลสโมสรจะมีช่วงพักรบ ให้นักเตะอาชีพได้กลับมารับใช้ชาติ บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง อย่างไรก็ตามปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลไปในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะ ทำให้เกิดปัญหาให้นักเตะตัวหลัก ไม่สามารถเดินทางมารับใช้ชาติ ได้ตามปกติ การที่นักเตะตัวหลักที่อยู่ภายในประเทศ ต้องกรำศึกหนักมาติดต่อกัน ทั้งๆ ที่ร้างสนามกันไปนาน แต่กลายเป็นว่ากระทบต่อ นักลงทุน และ แฟนบอล ที่เตรียมเดิมพันกับชาติบ้านเกิดอีกด้วย วันนี้ทางทีมงาน Ufafootball จะมาพูดถึงปัจจัยที่ทำให้ ทีมชาติไทย ใน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ได้รับผลกระทบกับวิฤติรอบนี้ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดบ้าง

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับการเดินทาง

จากผลกระทบของ โควิด-19 ทำให้ทีมชาติไทยและคู่แข่ง ไม่สามารถลงเล่นโปรแกรมในบ้านแบบเหย้าเยือนได้ แถมยังต้องกักตัวกันอีกต่างหาก ซึ่งอีก 3 นัดที่เหลือ จะเตะสนามกลางที่ประเทศ ยูเออี โดยโปรแกรมทีมชาติไทยจะลงแข่งวันที่ 3,7 และ 15 เดือนมิถุนายน นี้ ก่อนหน้านี้ก็ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนจะเดินทางไปยัง ยูเออี อีกต่างหาก ต้องกักตัว วุ่นวายกันเลยทีเดียว แถมยังโชคร้ายที่ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่ง ไม่สามารถเดินทางร่วมทัพช้างศึกได้ เนื่องจากติดภารกิจรับใช้สโมสร โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในเจลีก เพราะทางประเทศญี่ปุ่น ได้มีการยกระดับการป้องกัน และมีการกำหนดการกักตัวไว้ ถึง 14 วัน หากเดินทางไปๆ มาๆ ก็อาจจะต้องเสียเวลา พลาดโอกาสช่วยต้นสังกัด ไปอีกหลายนัด แต่ดีที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สามารถมาร่วมทีมได้ เนื่องจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกมที่ ฮอกไกโด คอนซาโดล่ ซัปโปโร เสมอกับ โชนัน เบลมาเร่ และเจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงเรียกความฟิต อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุปสรรคในการเดินทาง รวมถึงไม่ได้ลงเล่นในบ้านตัวเอง ก็เป็นความเสียเปรียบอยู่ไม่ใช่น้อย ทั้งภูมิอากาศและการอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งทราบกันดีว่า ผลงานทีมชาติไทยยามออกไปเยือนย่ำแย่แค่ไหน แถมสถานการณ์ลุ้นเข้ารอบต่อไปยังยากลำบากอีก ซึ่งต้องเก็บ 9 คะแนนเต็มในการลุ้นเข้ารอบต่อไป

นักเตะทีมชาติ ติดโควิด

เรียกได้ว่าวุ่นวายกันไปยกใหญ่ หลังทีมชาติชุดใหญ่ของไทยเรา มีนักเตะติดโควิดกันหลายคน ทำให้มีการเรียกทีมชาติไทยชุดที่ 2 เข้ามาซ้อม ส่วนชุดแรกก็ต้องเสียเวลาซ้อมไปฟรีๆ แถมกำหนดการเข้าแคมป์ก็ต้องยกเลิกไปชั่วคราว จนต้องมีการเตรียมผู้เล่นหลายสิบคน ที่ไม่มีชื่อเตรียมไว้เป็นการพิเศษ เพราะหากในท้ายที่สุดแล้ว เหล่าผู้เล่นตัวหลักเกิดไม่พร้อม ก็ต้องมีการเสริมทีม ด้วยผู้เล่นชุดรองลงไป อย่างที่เรียนไปให้ทราบ เรียกได้ว่าวุ่นวายกันสุดๆ ทั้งในสนามและนอกสนาม แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และหากเกิดไปติดเชื้อเมื่อบินไปถึงที่นู่น ก็อาจจะต้องใช้นักเตะในรายชื่อเหล่านั้น ลงสนามแทน เคราะห์ดีที่การตรวจครั้งล่าสุด ก่อนจะบินลัดฟ้าไปเตรียมตัวแข่ง พวกเค้าตรวจไม่พบเชื้อแม้แต่รายเดียว ถึงอย่างไรก็ย่อมส่งผลต่อจิตใจไม่มากก็น้อย นักเตะที่เคยติดไป ก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลระยะยาวต่อการเล่นหรือเปล่า เรียกได้ว่าน่าปวดหัวพอสมควร กับทีมชาติไทย ในยุคปัจจุบัน ที่กำลังดีวันดีคืน แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้นักเตะและทีมงานสตาฟโค้ช และเทรนเนอร์แดนอาทิตย์อุทัย อากิระ นิชิโนะ จะสามารถพาทีมเข้ารอบต่อไปและเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย ไร้โควิด-19 รบกวน

ผลกระทบต่อสโมสรในไทยลีก

ในระหว่างการเดินทางและการแข่งขัน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้นไปอีก เพราะเจ้าโควิด-19 พัฒนาสายพันธุ์อย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเมื่อนักเตะเดินทางกลับมา ช่วงแรกอาจจะไม่ติดเชื้อ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่สำคัญพอนักเตะแยกย้ายไปรับใช้สโมสร ถ้าหากติดเชื้อ ก็อาจจะทำให้บุคลากรของทีมติดเชื้อเพิ่มไปอีก ซึ่งเป็นอะไรที่น่าหดหู่ใจที่สุด หากจำกันได้ ครั้งแรกที่เจ้าไวรัสตัวร้าย กระทบกับเกมฟุตบอลในประเทศไทย ทำให้ปฏิทินการแข่งขันเดิม ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคม ไปจนจบในเดือนตุลาคม ต้องเปลี่ยนมาแข่งคร่อมปี เหมือนกับในฝั่งยุโรป ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับโควต้า ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ว่าท็อปโฟร์ของฤดูกาล 2020-2021 จะได้ไปเล่นบอลทวีปในปี 2022 แทน โดยฤดูกาลล่าสุดของฟุตบอลไทย เพิ่งจะปิดฉากกันไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ส่วนบอลถ้วยกว่าจะจบได้ ก็เข้าสู่เดือนเมษายนกันแล้ว ไม่ต้องสืบเลยว่า โปรแกรมของพวกเค้าที่ผ่านมา อัดแน่นแค่ไหน กับการที่พวกเค้า ห่างหายกับเกมไปอย่างยาวนาน พอกลับมาที ก็ต้องเตะกลางสัปดาห์ มาทุกสัปดาห์ แล้วตบท้ายด้วยฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ แล้วไหนจะเรื่องสัญญา ที่เดิมทีเซ็นกันไว้จบกันเป็นปีปกติ แต่หากนักเตะที่ถือสัญญาเดิมนั้น จะหมดลงในช่วงเดือน ตุลาคม-ธันวาคม ซึ่งก็เป็นเพียงกลางฤดูกาลของไทยลีกเท่านั้น แถมโปรแกรมไทยลีกฤดูกาลใหม่ ก็กำลังจะเปิดฉากขึ้นในเดือนกรกฎาคม จุดนี้จึงเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ที่จะจัดการ ผิดกับนักเตะที่ไปค้าแข้งในต่างประเทศ ที่ได้รับการดูแลที่พร้อมกว่า แต่ก็ไม่สามารถบินไปช่วยทัพ ช้างศึก ลงเล่นเกมชี้ชะตาที่จะเกิดขึ้น

Posted in ทีเด็ดบอลเต็ง