วันเวลาผ่านไปเร็วมาก เผลอสักครู่เดียว ปี 2020 ก็จะเข้าสู่ทัวร์นาเม้นต์การแข่งขันฟุตบอล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นก็คือ รายการฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่จะจัดขึ้นในประเทศการ์ต้า ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะแข่งขันกันในช่วง เดือนพฤศจิกายน โดยจะมีทีมมาจากทุกทวีป ซึ่งแต่ละทวีป ก็จะมี โควต้าฟุตบอลโลก 2022 ไม่เท่ากัน

และจาก 32 ทีมสุดท้ายที่จะได้ชิงชัยความเป็นเจ้าของฟุตบอลโลก จะมาจากทุกทวีป ทั่วมุมโลก ซึ่งวันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาเพื่อนๆ มาดูกันว่า โควต้าแต่ละทวีปมีกันกี่ทีม

โควต้าฟุตบอลโลก 2022 แต่ละทวีปมีกี่ทีม

ก่อนจะถึงฟุตบอลโลกปีหน้านั้น มาดูข้อมูล นอกจาก โปรแกรมการแข่งขันที่เปลี่ยนไป จากปกติจะเป็นช่วงต้นเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม แต่ปี 2022 ก็อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า จะเตะกันในช่วงเดือน พฤศจิกายน โดยมี 32 ทีมที่จะผ่านเข้ามาสู่รอบสุดท้ายและจะได้ไปแข่งใยประเทศการ์ต้า

โดยก่อนที่จะดูว่า โควต้าตั๋วชิงชัยรอบสุดท้าย ทวีปไหนจะได้โควต้ากี่ทีมนั้น ทางทีมงานขอแนะนำ Ufabet เวปเดียว ครบวงจร เรายกการเดิมพันออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดมาไว้ตรงหน้าคุณแล้ว ด้วยการบริการที่ดีเยี่ยมตลอด 24 ชั่วโมง ฝาก-ถอน ไวไม่ต้องรอนาน มั่งคงเรื่องการเงิน พร้อมอัตราการจ่ายที่สูงกว่าที่อื่น สนใจ เข้าไปสอบถามได้ที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียว

  • โซนเอเชีย

ที่มี เอเอฟซี หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย เป็นองค์กรที่ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลในทวีปเอเชีย ได้โควต้า 4.5 ทีม ไม่นับรวม การ์ต้า เพราะเป็นชาติเจ้าภาพได้แข่งขันอยู่แล้ว โดย จะนำ ทีมแชมป์กลุ่มและรองแชมป์กลุ่ม ของรายการศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 3 จำนวน 4 ทีมผ่านเข้าสู่รายการฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ส่วนอันดับ 3 ของทั้งสองกลุ่ม จะมาแข่งขันกันเองเพื่อหาผู้ชนะ ไปแข่งขันกับตัวแทนจากทวีปอื่น

  • โซนแอฟริกา

มี ซีเอเอฟ หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา เป็นองค์กรที่ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลในทวีปแอฟริกา โดยจะได้โควต้า 5 ทีมในการเข้าไปแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยจะนำเอา 10 ทีมสุดท้ายที่เป็นแชมป์กลุ่มและรองแชมป์กลุ่ม รอบคัดเลือกรอบที่แล้ว มาจับฉลากทำการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน โดยทีมที่ชนะ 5 ทีมจะได้ผ่านเข้าไปทำการแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

  • โซนอเมริกาเหนือ อเมริกากลางและแคริบเบียน

มี คอนคาเคฟ หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน เป็นผู้ดูแล โดยจะได้โควต้า 3.5 ทีม ในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยรอบคัดเลือกรอบที่สองของทวีป จะนำ 3 ทีมของรอบคัดเลือกรอบแรก มาเจอกับ 5 ทีมที่มีคะแนนสูงสุดในการจับอันดับของ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง รวมเป็น 8 ทีม มาทำการแข่งขันพบกันหมด เหย้า-เยือน โดย 3 ทีมที่มีคะแนนสูงสุด จะผ่านเข้าสู่รายการฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมติ ส่วนทีมอันดับที่ 4 จะต้องเข้าไปเล่นในรอบเพย์ออฟกับชาติจากสมาชิกทวีปอื่นต่อไป

  • โซนอเมริกาใต้

มี คอนเมบอล หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ เป็นผู้ดูแล โดยจะได้โควต้า 4.5 ทีม ในการผ่านไปเล่นในรอบสุดท้าย จะโดยจะนำ 10 ชาติ มาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยจะทำการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน พบกันหมด โดย 4 ทีมที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด จะผ่านเข้าสู่รายการฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับที่ 5 จะต้องเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟกับชาติสมาชิกจากทวีปอื่นต่อไป

  • โซนโอชีเนีย

มี โอเอฟซี หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนีย เป็นผู้ดูแลควบคุมการแข่งขันของโซนนี้ โดยจะได้รับโควต้า 0.5 ทีมเท่านั้น โดยจะมีรอบคัดเลือกจนมาถึง รอบสุดท้ายที่จะเหลือ 4 ทีมในทวีป จับฉลากแข่งขันกันแบบเหย้า-เยือน จนหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว โดยจะได้เข้าไปเพลย์ออฟกับชาติสมาชิกจากทวีปอื่นต่อไป

  • โซนยุโรป

มี ยูฟ่า หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป เป็นผู้ดูแลควบคุมการแข่งขันของทวีปนี้ โดยเป็นทวีปที่ได้โควต้ามากที่สุด ถึง 13 ชาติ โดยมีสองรอบคัดเลือก รอบแรก จะแข่งขันออกเป็น 10 กลุ่ม มีกลุ่มละ 5-6 ทีม โดยทีมแชมป์ของทั้ง 10 กลุ่ม จะผ่านไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ส่วนรอบคัดเลือกของทวีปรอบที่สอง จะให้ อันดับ 2 ของแต่ละกลุ่มบวกกับแชมป์กลุ่มที่ทำผลงานได้ดีในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่ไม่ได้เป็นแชมป์กลุ่มหรือรองแชมป์กลุ่มในรอบคัดเลือกรอบแรก จะถูกจับฉลากเป็น 3 กลุ่มย่อย กลุ่มละ 4 ทีม ทำการแข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล ซึ่ง 3 ทีมสุดท้ายที่ทำผลงานได้ดีที่สุด จะได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทันที

Posted in บทความฟุตบอล

หากว่ากันที่ปัจจุบัน ในเวลานี้ นั้นเป็นโปรแกรมการแข่งขัน ของโปรแกรมทีมชาติ หรือ ฟีฟ่าเดย์ โดยตอนนี้ ทั่วโลกคงหนีไม่พ้น ฟุตบอลโลก 2020 รอบคัดเลือก ที่กำลังทำการแข่งขันกัน ก่อนที่จะกลับไปทำการแข่ง ในรายการระดับสโมสร กันต่อในช่วงสุดสัปดาห์หน้า โดยตอนนี้มีทั้งชาติขาใหญ่ และชาติอื่นๆ กำลังฟาดแข้งกันอยู่ กันอย่างเมามัน

ซึ่งทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพามาดูกันว่า ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก มีอะไรน่าสนใจ และน่าลงทุนหรือไม่กันครับ

ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก น่าเดิมพันหรือไม่

ตอนนี้เป็นช่วงโปรแกรมทีมชาติ โดยรายการน่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ คือรายการ ฟุตบอลโลก 2020 รอบคัดเลือก โดยทุกทวีปกำลังทำการแข่งขันกันอยู่ คำถามที่ว่า ฟุตบอลโลก 2020 รอบคัดเลือก น่าเดิมพันหรือไม่

คำตอบคือน่าเดิมพันอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะมีโอกาสได้รับกำไรพอสมควร เพราะชาติใหญ่ๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป อยู่ร่วมกลุ่มกับทีม ที่พวกเขาน่าจะสู้ได้สบาย

ยกตัวอย่างเช่น อิตาลี ร่วมสายกับ สวิตเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์เหนือ, ลิทัวเนีย และ บัลแกเรีย ดูจากตาเปล่าก็รู้ว่า อิตาลี มีโอกาสกินนิ่มในหลายเกม ซึ่งก็ต้องดูกันหน้างาน ว่าคู่ทีมที่ อิตาลี จะเจอด้วย มีอัตราการต่อรองเท่าไหร่ ราคาสูงไปไหมหรือเสี่ยงไปไหม

ส่วนชาติใหญ่ ที่เป็นขาประจำ ในการไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ก็มีหลายทีมให้น่าเดิมพัน โดยรอบนี้ พวกเขาเจองานไม่ยากมาก แต่ขอย้ำว่า ดู ราคาอัตราการต่อรอง ให้ดี ถ้าเจอทีมที่ห่างชั้นกันเกินไป และราคาพอจับต้องได้ ไปไหว ก็ต่อไปเลยยาวๆ รอแค่ยิงประตูให้ถึงเท่านั้น

โดย รายการคัดบอลโล กของโซนทวีปยุโรป น่าลงทุนน่าเดิมพันอย่างมาก แนะนำเลยครับ เพราะทีมชาติใหญ่ๆ มีโอกาสกินนิ่มทีมชาติเล็กๆ ค่อนข้างแน่นอน เพราะทุกแต้มสำคัญ ในการผ่านเข้ารอบต่อไป ทุกทีมใหญ่ๆ ก็อยากจบที่อันดับที่ 1 ของกลุ่ม เป็นธรรมดา

ส่วนในทวีปอเมริกาใต้ ก็อยากให้เกาะ ทีมชาติบราซิล และทีมชาติอาร์เจนติน่า ไว้เช่นเดิม เพราะดูแล้วช่วงนี้ ชาติอื่นในทวีปอเมริกาใต้ ไม่แข็งแกร่งเช่นเดิม น่าจะเป็นช่วงยุคตกต่ ำไปบ้างเหมือนกัน

เว้นแต่ทัพทีมชาติบราซิล และ อาร์เจนติน่า ยังดูดีกว่าทีมชาติอื่นๆ หลายขุม ปัจจัยเดียวที่น่าระวัง คือนักเตะที่พามา อาจจะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด เนื่องจากบางประเทศ มีมาตรการในการป้องกัน โรคโควิด-19

ในส่วนทวีปแอฟริกา ก็สามารถพลิกกันได้ไปเรื่อย ออกแนวบ้านใครบ้านกัน ก็ติดตามชาติหลักๆ อย่าง ไอวอรี่ โคสต์ กันได้ เช่นเดียวกับโซนคอนคาเคฟ ก็ออกแนวบ้านใครบ้านมันเช่นกัน ไม่มีทีมไหนเหนือกว่ากันมากนัก แม้จะมีชาติดังๆ อย่าง เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกาก็ตาม

ในส่วนของทวีปเอเชียนั้น น่าติดตามไม่หยอก โดยเกาะชาติเต้ยๆ ของทวีปอย่าง อิหร่าน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ออสเตรเลีย กันได้ แต่ก็ต้องระวังด้วยในเกมเยือน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ญี่ปุ่น ยังพลาดท่ามาแล้ว

หลักๆ แล้วก็อยากให้ดูเรื่องราคา สภาพความพร้อมของนักเตะ การเตะเหย้าและเยือน เพราะมีผลอย่างมากในการเดิมพัน แม้จะมีหลายคู่ ที่เป็นการเจอทีมที่เกรดห่างชั้นกันมาก

แต่ก็สุดท้ายก็ต้องดูที่ราคากันอยู่ดี ต่อสูงเกินไปก็ไม่แนะนำ เพราะอาจจะยิงไม่ถึง อย่างไรก็ตามเฉลี่ยงบในการเดิมพัน กระจายหลายๆ คู่ ก็เป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก ในการจะได้ผลกำไรเข้ากระเป๋าเรื่อยๆ

เพราะ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก น่าเดิมพันอย่างมาก ควรเดิมพันได้เลย แต่ค่อยลงแบบพอดีๆ ดูราคาที่ใช่ในการเดิมพัน แต่ถ้ายังไม่เจอเวปที่ใช่ เจอเวปที่ออกราคาไม่น่าเดิมพัน

ทางทีมงานขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพัน ที่ครบวงจร โดยเฉพาะกับรายการฟุตบอล มีให้เล่นทุกรายการ ทุกลีกทั่วโลก แถมยังออกราคาที่น่ารัก น่าเดิมพันอย่างมาก แถมให้ค่าน้ำดีกว่าใคร พร้อมกับการบริการตลอด 24 ชั่วโมง ฝาก-ถอน ไวไม่เกิน 5 นาที เชิญสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองที่ Ufabet เท่านั้น

สุดท้ายนี่ขอให้ท่านนักเดิมพัน ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่า ขอให้ประสบความสำเร็จกับการเดิมพัน ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2022 ส่วนบทความหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น โปรดรอติดตามกันได้ครับ ก่อนลากันไปแล้วจริงๆ อยากเดิมพันบอลโลกรอบคัดเลือก จิ้มดูบอลยุโรปครับ โอกาสปังมีสูง สวัสดีครับ

Posted in บทความฟุตบอล

ในวงการฟุตบอล มีนักเตะเก่งกาจมากมาย ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานให้โลกจดจำ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน แต่สายตาทุกคู่ส่วนใหญ่ มักจับตาดูฟอร์มการเล่นและผลงานของตำแหน่งศูนย์หน้าเสียมากกว่า เพราะเป็นตำแหน่งที่ตัดสินใจการทำประตู จังหวะสำคัญและโมเม้นต์ต่างๆ การยิงประตูในนัดสำคัญ ลูกประตูสุดสวย หรือเปลี่ยนสถานการณ์ สร้างตำนาน ประวัติศาสตร์ วันนี้ทีมงาน ufa.soccer ฺจัดอันดับ 10 อันดับนักเตะ ดาวซัลโวทีมชาติ ที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาล ในโปรแกรมทีมชาติที่ได้รับการรับรองจากฟีฟ่า จะเป็นใครกันบ้าง ตามมาดูกันครับ

รายนาม ดาวซัลโวทีมชาติ สูงสุดตลอดกาล

10. คูนิชิเงะ คามาโมโตะ

คูนิชิเงะ คามาโมโตะ กองหน้าตำนานทีมชาติญี่ปุ่น ซัดไป 75 ประตูจาก 76 นัดในนามทีมชาติ เป็นดาวยิงสูงสุดของทีมชาติญี่ปุ่น โดยติดทีมชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 รวมระยะเวลาถึง 13 ปีด้วยกัน ค้าแข้งให้กับสโมสรเดียวยันแขวนสตั๊ด นั่นก็คือ ยันม่าร์ ดีเซล ซึ่งปัจจุบันคือสโมสร เซเรโซ โอซาก้า ยอดทีมในศึกเจลีก 1 นั่นเอง ก่อนจะแขวนสตั๊ดและผันตัวเป็นผู้จัดการทีม ปัจจุบันออกจากวงการฟุตบอลเต็มตัว ด้วยอายุอานามที่มากแล้ว เรียกได้ว่า เขาคือกองหน้าเบอร์ 1 ของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

9. ซานดอร์ คอกซิส

ซานดอร์ คอกซิส กองหน้าทีมชาติฮังการี ที่ทำประตูไปถึง 75 ประตู จาก 68 นัดที่ลงสนามในนามทีมชาติ โดยเริ่มติดทีมชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 ติดทีมชาติเป็นเวลา 8 ปี ส่วนเกียรติประวัติในสโมสรก็ถือว่าเป็นแข้งระดับท็อป เริ่มต้นจากสโมสรในบ้านเกิด ก่อนจะไปโด่งดังกับ บาร์เซโลน่า โคตรทีมจาก ลาลีกา สเปน พร้อมคว้ารางวัลส่วนตัวและรางวัลถ้วยแชมป์กับสโมสร อย่างมากมาย แต่น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 49 ปี เท่านั้น

8. อาลี มับคูต

อาลี มับคูต ชื่อนี้แฟนบอลชาวไทยคุ้นหูกันดี เพราะเวลาเจอกับทีมชาติไทยเมื่อไหร่ มักแผลงฤทธิ์ ทำประตูได้ตลอด กับดาวยิงสูงสุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ยิงได้ถึง 76 ประตูจากการลงสนามให้ในนามทีมชาติ 93 นัด เป็นดาวยิงสูงสุดของชาติ ติดทีมชาติเมื่อปี พ.ศ. 2552 ปัจจุบันอายุ 30 ปี ยังคงโลดแล่นในการติดทีมชาติต่อไปและการเป็นแข้งระดับตำนานของสโมสร อัล จาซิรา สโมสรในลีกของประเทศ ซึ่งเจ้าตัวยังค้าแข้งอยู่ในปัจจุบัน

7. เปเล่

ในโลกของฟุตบอล ไม่มีใครไม่รู้จักชายผู้นี้ ตำนานที่ยังมีลมหายใจ “ไข่มุกดำเปเล่ โคตรกองหน้าแซมบ้าทีมชาติบราซิล จัดการประตูไปถึง 77 ประตู จากการลงสนาม 92 นัด ลงเล่นฟุตบอลโลกถึง 4 สมัยและคว้าแชมป์ได้ 3 สมัย เป็นดาวยิงสูงสุดของทีมชาติบราซิล ว่ากันว่าเจ้าตัวยิงได้ทะลุพันประตู แต่ไม่ได้รับการรองรับหรือมีการบันทึกเอาไว้ ส่วนผลงานในสโมสร โด่งดังกับ ซานโต๊ส เป็นตำนานของสโมสรอีกด้วย คว้าแชมป์มากมายให้กับสโมสร รวมถึงคว้ารางวัลส่วนตัวเต็มตู้ ยิงประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่น ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ที่เคยมีมา

6. ฮุสเซน ซาอีด

ฮุสเซน ซาอีด เจ้าของดาวยิงตลอดกาลของทีมชาติอิรักด้วยผลงานยิงไปถึง 78 ประตูจากการลงสนาม 127 นัด เริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี พ.ศ. 1976 เคยพาชาติไปลุยฟุตบอลโลกในปี 1986 มาแล้วรวมถึง โอลิมปิก เกมส์ ก็ติดถึง 3 ครั้ง ส่วนข้อมูลในสโมสร ลงเล่นให้กับ ทีม อัล-ตาลาบา ปัจจุบันอายุ 63 ปี แต่ในช่วงนั้นเป็นยุคทองของประเทศอิรัก ผลงานระดับชาติ กวาดแชมป์เป็นว่าเล่น เคยเป็นพี่ใหญ่ครองในภูมิภาค ชนิดที่ว่าทีมอื่นตามทันยาก

5. ก็อดฟรีย์ ชิตาลู

ก็อดฟรีย์ ชิตาลู ไม่ใช่แค่เป็นดาวยิงสูงสุดของประเทศแซมเบีย แต่ยังเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดในระดับทีมชาติของทวีปแอฟริกากันเลยทีเดียว ซัดไปถึง 79 ประตู จากการลงสนาม 108 นัด ส่วนผลงานในสโมสรเล่นให้กับ คิตวี ยูไนเต็ด และ คับเว วอร์ริเออร์ แต่น่าเศร้าที่เขาเสียชีวิต ร่วมกับนักเตะทีมชาติแซมเบีย รวมถึงเจ้าหน้าที่และลูกเรือ ในระหว่างการเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 1994 รอบคัดเลือก

4. เฟเรนซ์ ปุสกัส

เฟเรนซ์ ปุสกัส ยอดนักเตะทั้งในนามทีมชาติและสโมสร โดยเขาคือแข้งคนสำคัญของชาติ สังหารไป 84 ประตู จากการลงสนาม 85 นัดให้กับทีมชาติ เริ่มติดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 รวมถึงเคยเล่นให้กับทีมชาติสเปน 4 เกมด้วย ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีกฏอะไรมากมาย ส่วนผลงานกับสโมสร โด่งดังกับ เรอัล มาดริด พร้อมพาสโมสรกวาดแชมป์มากมาย รวมถึงรางวัลส่วนตัวอีกนับไม่ถ้วน รวมถึงชื่อของเจ้าตัว ยังถูกมาใช้ในการแจกรางวัลลูกยิงยอดเยี่ยมประจำปีเป็นรางวัลที่ ฟีฟ่า ได้จัดตั้งขึ้น ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน

3. มอคห์ตาร์ ดาฮารี 

มอคห์ตาร์ ดาฮารี ยอดดาวยิงสูงสุดของทีมชาติ มาเลเซีย เพื่อนบ้านของเรานี่เอง เป็นตำนานของทีมชาติ ยิงไปถึง 89 ประตู จากการลงสนาม 142 นัด เคยพาทีมชาติมาเลเซีย ไปลุยศึกฟุตบอลโอลิมปิก เกมส์ มาแล้วอีกด้วย ผลงานในสโมสร เล่นให้กับ สโมสรเซลังงอร์ ยิงประตูให้กับสโมสรเป็นกอบเป็นกำ รวมถึงลงเล่นให้รายการ เอเชี่ยนคัพ และ รายการอื่นๆ อีกมากมาย

2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้

แ้ม้อายุเข้าวัย 36 ปี แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังโชว์ฟอร์มได้เหมือนวัยแรกรุ่น รักษาสภาพความฟิตดีเยี่ยม โดยล่าสุด เจ้าตัว ยิงได้ 109 ประตู จากการลงสนาม 177 นัด และมีทีท่าว่าจะทำลายสถิติของอันดับที่ 1 ได้ในเร็วๆ นี้ เพราะ โรนัลโด้ สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติโปรตุเกส พาทีมลุยศึกฟุตบอลยูโร 2020 ที่สำคัญ ร่างกายยังฟิตเปรี๊ยะ ยังมีเวลาค้าแข้งอีกนาน ส่วนผลงานในสโมสร ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งการเริ่มโด่งดังกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนย้ายไปเติบโตกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส สโมสรปัจจุบัน รวมถึงเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของโลกฟุตบอล

1. อาลี ดาอี

อาลี ดาอี ยังเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครตามได้ แต่คาดว่าคงจะถูกทำลายเร็วๆ นี้ โดยเขาเป็นตำนานกองหน้าทีมชาติอิหร่านและเป็นดาวยิงสูงสุด จัดการล่าตาข่ายไปถึง 109 ประตู จากการลงสนาม 149 นัด ติดทีมชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ส่วนผลงานในสโมสร เริ่มเล่นให้กับสโมสรภายในประเทศก่อนโด่งดังจนเคยถึงขั้นไปเล่นบุนเดสลีกามาแล้ว โดยเคยเป็นนักเตะของสโมสร บาเยิร์น มิวนิค อีกด้วย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามนี่คือกองหน้าที่ยิงประตูได้สูงสุดในนามทีมชาติ ณ ขณะนี้

Posted in บทความฟุตบอล

ไม่รู้จะอธิบายยังไงกับ ผลงาน ทีมชาติไทย ในรายการ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2022 ที่ ทีมชาติไทย ไปถึงไม่ถึงรอบต่อไป จอดอยู่เพียงแค่รอบ 2 โดยรั้งตำแหน่งรองบ๊วยไปครอง ใจสลายกันทั้งประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นการยกเครื่องกันครั้งใหญ่ หลังจบทัวร์นาเม้นต์นี้

วันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ขอพาทุกท่านย้อนรอย ผลงาน ทีมชาติไทย กับรายการ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โดยจะคัดผลงานปีไหน ทีมชาติไทย เราทำผลงานได้ดีที่สุดหรือแย่ที่สุด ในการแข่งขันปีนั้น

4 อันดับ ผลงาน ทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2

4. ฟุตบอลโลก 2022

อากิระ นิชิโนะ เฮ้ดโค้ชญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เคยคุมทัพทีมชาติญี่ปุ่น ลุยศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เมื่อปี 2018 มาแล้ว ทว่าผลงานกับทีมชาติไทย ออกแนวท่าดีทีเหลว ทั้งปัญหาโควิด-19 ที่ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้คุมทีมชาติ น้อยไปหน่อย รวมถึงกลับมาแข่งขัน ผลงานย่ำแย่ สุดน่าผิดหวัง

โดย ไทย อยู่กลุ่มเดียวกับ เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ซึ่งดูจากสายแล้ว น่าจะผ่านไปได้ไม่ยาก เพียงแต่เป็นรองแค่ ยูเออี เท่านั้น เกมแรก ไทย เปิดบ้าน เสมอกับ เวียดนาม 0-0 ในชนิดที่ว่าน่าจะชนะ เกมที่สองบุกไปถล่ม อินโดนีเซีย 3-0 เกมที่สามสร้างประวัติศาสตร์ แฟนบอลมีเฮลั่น เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ยูเออี 2-1 ทว่าเกมต่อมาดันพลาดท่า บุกไปพ่าย มาเลเซีย 1-2 และปิดท้ายก่อนการแข่งขันถูกพักจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการบุกไปเสมอกับ เวียดนาม แบบไร้สกอร์เช่นเคย รวมผลงาน 5 นัด มี 8 คะแนน ส่วนสามนัดหลังสุด โคตรน่าผิดหวัง เตะสนามกลางที่ยูเออี ทำได้เพียงเสมอ อินโดนีเซีย 2-2 ตามด้วยการแพ้ให้กับ ยูเออี 1-3 และปิดท้ายแพ้ให้กับ มาเลเซีย 0-1 รวมแล้วมี 8 คะแนน หักลบกับโปรแกรมที่แข่งกับ อินโดนีเซีย เนื่องจากเพื่อนบ้านอาเซี่ยนโดนแบนจากฟีฟ่า เหลือ 5 คะแนน ยังดีที่ติดอันดับ 4 ที่ดีที่สุด

ทำให้สามารถได้โควต้าเข้าไปแข่งขัน ในศึก ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบคัดเลือก ได้สำเร็จ แต่ผลงานโดยรวมถือว่าเป็นครั้งที่น่าผิดหวังที่สุด ของ ทีมชาติไทย ในรายการ ฟุตบอลโลก โซนเอเชีย รอบที่ 2

3. ฟุตบอลโลก 1994

รอบนั้น ทีมชาติจากทวีปเอเชีย ได้โควต้าไปลุยศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้น ซึ่งมีทีมที่เข้าแข้งขันทั้งหมด 29 ทีมในรอบนี้ โดย ทีมชาติไทย ในการนำทัพคุมทีมของ ปีเตอร์ สตูบเบ้ กุนซือชาวเยอรมัน

โดยทีมชาติไทย ของเรา อยู่กลุ่ม เอฟ ร่วมกับ ญี่ปุ่น, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี, บังกลาเทศ และ ศรีลังกา โดยนำแชมป์กลุ่มเข้าไปเล่นรอบต่อไป เลกแรก ทำการแข่งขันที่ ประเทศ ญี่ปุ่น ส่วน เลกสอง ทำการแข่งขันที่ ยูเออี ซึ่ง ทีมชาติไทย ของเราเก็บได้ 8 คะแนนจาก 8 นัด รั้งอันดับที่ 3 ตกรอบอย่างไม่ค่อยได้ลุ้นเสียเท่าไหร่ แต่ถือว่าผลงานโดยรวม ทำได้สุดฝีเท้าแล้ว โดยผลงาน เกมแรก ไทย บุกไปแพ้ ญี่ปุ่น 0-1, เกมที่สอง ไทย เฉือนชนะ ศรีลังกา 1-0 เกมที่สาม ไทย แพ้ ยูเออี 0-1 เกมที่สี่ ไทย ถล่ม บังคลาเทศ 4-1 เกมที่ห้า ไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-1 เกมที่ 6 ไทย แพ้ ยูเออี 1-2 เกมที่ 7 ไทย ชนะ ศรีลังกา 3-0 และ เกมสุดท้าย ไทย ชนะ บังคลาเทศ 4-1 ซึ่งดูจากช่วงนั้น ไทย แพ้ ให้กับ ยูเออี และ ญี่ปุ่น แบบฉิวเฉียด

ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะดูเหมือนยุคก่อนทีมชาติไทยของเรา ทำผลงานได้ดีอย่างมาก ทั้งการเป็นเต้ยของ อาเซี่ยน ชนิดที่ชาติเพื่อนบ้านเทียบได้ยาก แต่ปัจจุบันช่างห่างไกลเหลือเกิน

2. ฟุตบอลโลก 2018

น่าจะเป็นครั้งที่ทำให้แฟนบอลชาวไทยใจเต้นมากที่สุด และ น่าจะเป็นครั้งที่มีความสุขมากที่สุด ในวงการฟุตบอล เพราะเป็นช่วงที่โซเชี่ยลสามารถติดตามได้ง่าย วาทะ การคอมเม้นต์ ข่าวคร่าวต่างๆ จึงเป็นกระแสอย่างหนักหน่วงไปพักนึงเลย เป็นช่วงเวลาดั่งฝันแห่ง ฟุตบอลไทย

โดยรอบนี้ ภายใต้การคุมของ “ซิโก้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือที่สร้างกระแสฟุตบอลไทย ให้กลับมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอีกครั้ง สนามแตกแทบทุกนัด โดย ไทย อยู่ กลุ่ม เอฟ ร่วมกับ อิรัก, เวียดนาม, ไต้หวัน และ อินโดนีเซีย แต่ อินโดฯ โดนแบนจากฟีฟ่า ทำให้ไม่ได้เข้ามาแข่งขันด้วย ระบบการแข่งเป็นการพบกันหมดแบบเหย้า-เยือน เช่นเคย ซึ่งทีมชาติไทย ผงาดเป็นแชมป์กลุ่ม ด้วยการมี 14 คะแนน จาก 6 นัด เกมแรก ไทย เปิดบ้านชนะ เวียดนาม 1-0 เกมที่สอง ไทย บุกไปชนะ ไต้หวัน 2-0 เกมที่สาม ไทย เปิดบ้านเสมอกับ อิรัก แบบสุดมัน 2-2 เกมที่สี่ ไทย บุกไปชนะ เวียดนาม 3-0 เกมที่ห้า ไทย เปิดบ้านเอาชนะ ไต้หวัน 4-2 ส่วนเกมสุดท้าย ไทยบุกไปเสมอ อิรัก 2-2

ทำให้ ไทย สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จและสามารถผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม แบบอัตโนมัติในรายการ เอเชี่ยน คัพ ปี 2019 ได้สำเร็จ ทว่าผลงานรอบที่ 3 ไปไม่ถึงฝัน แต่ครั้งนั้นก็ทำให้แฟนบอลชาวไทย ได้ลุ้นพอสมควร

1. ฟุตบอลโลก 2002

นี่คือผลงานที่ดีที่สุดของ ทีมชาติไทย กับรายการ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 โดยนักเตะชุดนั้น มีแต่สตาร์ดัง แข้งทีมชาติ ประดับทีมอย่างมากมาย เป็นตำนานบทใหญ่ของทีมชาติไทยและเป็นความหวังอย่างมาก

ซึ่งรอบนั้น ไทย เราก็ทำได้ ด้วยการคุมทีมของ ปีเตอร์ วิธ กุนซือชาวอังกฤษ พาลูกทีมทำผลงานผงาดก้าวเป็นแชมป์กลุ่ม โดย ไทย อยู่ร่วมสายกับ เลบานอน, ศรีลังกา และ ปากีสถาน โดยเกมแรก ไทย บุกถล่ม ศรีลังกา 4-2 เกมที่สอง ไทย บุกถล่ม ปากีสถาน 3-0 เกมที่สาม ไทย บุกไปเฉือนชนะ เลบานอน 2-1 ซึ่งเป็นการชนะทีมจากตะวันออกกลางครั้งแรก ของ ไทย กับรายการนี้อีกด้วย เกมที่สี่ ไทย เปิดบ้าน ถล่ม ศรีรังกา 3-0 เกมที่ห้า ไทย เปิดบ้านถล่ม ปากีสถาน ยับ 6-0 ส่วนเกมสุดท้าย ไทย เปิดบ้าน เสมอ เลบานอน 2-2 ทำให้ ไทย จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม มี 16 คะแนนจาก 6 นัดที่ลงสนาม ซึ่งเป็นการเก็บแต้มที่มากที่สุด ตั้งแต่ที่ ทีมชาติไทย เคยได้เข้ามาแข่งขันในรอบนี้ด้วย แต่สุดท้ายรอบต่อไป เราก็ไปไม่ถึงฝันอีกเช่นเคย แต่ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับแข้งรุ่นใหม่ จุดความหวังในการมุ่งมั่นกันต่อไป ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ยังคงคลาสสิคสำหรับแฟนบอลชาวไทยรุ่นก่อนอยู่เสมอสุดท้ายแล้ว ปัจจุบัน กลายเป็นว่าเรากำลังถอยหลังลงคลอง ทั้งที่ลีกประเทศเรา ตัวนักเตะ ก็เริ่มมีศักยภาพที่ดีมากขึ้นแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ขาดหายไปหลายอย่าง ซึ่งก็ต้องปรับปรุงกันต่อ ลุกขึ้นมาเดินหน้ากันต่อ หลายสิ่งหลายอย่างต้องใช้เวลา ระบบ แบบแผน คือสิ่งสำคัญ

เชื่อว่านี่ ไม่ใช่ยุคมืดของวงการฟุตบอลไทย เพราะเคยผ่านกันมาแล้ว ในช่วง 10 ปีก่อน แย่กว่าทุกวันนี้เยอะเลยครับ อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องช่วยกันให้กำลังใจกันต่อไปครับ

Posted in บทความฟุตบอล

สถานการณ์ตอนนี้ของฟุตบอล ทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก แน่นอนว่าตกรอบคัดเลือกรายการฟุตบอลโลก ไปอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งปี 2022 เราจะไม่ได้เห็นทีมชาติไทยได้ไปบอลโลก เหมือนที่เคยได้รับความฝันลมๆ แล้งๆ มาตลอด ซึ่งหลังจากเกมกับ มาเลเซีย จบลงไป ทำให้เส้นทางในฟุตบอลโลก รอบ 2 จบลงอย่างเป็นทางการ

วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะสรุปสถานการณ์ ทัพช้างศึก กันครับ

เส้นทางของ ทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

ทัพช้างศึก เริ่มต้นเกมแรกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเค้าทำได้เพียงเสมอกับ เวียดนาม ในบ้านของตัวเอง ยังดีที่เกมต่อมาพวกเค้าสามารถบุกไปเอาชนะ อินโดนีเซีย มา 3-0 ทำให้การออกสตาร์ท 2 นัดแรกคว้ามาได้ถึง 4 คะแนน ซึ่งเป็นการแจ้งเกิดเต็มตัวของ สุภโชค สารชาติ กับทีมชาติไทย อีกด้วยครับ

ส่วนผลงานในเดือนตุลาคม 2562 หากจำกันได้ ทีมชาติไทย นั้นแข่งเพียงเกมเดียวเท่านั้น ซึ่งสามารถเอาชนะ ยูเออี จากประตูของ “เทพมุ้ยธีรศิลป์ แดงดา และวันเดอร์คิดส์อีกคนอย่าง “เจ้าบุ๊คเอกนิษฐ์ ปัญญา ทำให้ในขณะนั้น เส้นทางในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง ของเรานั้นสดใสทันที

แต่เกมในอีกหนึ่งเดือนต่อมานั้น เปลี่ยนโมเมนตัมของเราไปอย่างหมดสิ้น เริ่มต้นด้วยการบุกแพ้ มาเลเซีย ทั้งๆ ที่ออกนำไปก่อนจากประตูของ “เมสซี่เจชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่มาโดนทาง เสือเหลือง ยิงแซงแบบน่าเจ็บปวดใจ ต่อด้วยการบุกเสมอ เวียดนาม 0-0 ทำให้ตอนนี้ ไทย มีเพียง 8 คะแนนจาก 5 นัด เรียกได้ว่างานหยาบ

ก่อนที่โควิดจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายยิ่งขึ้น หลังเกมที่ไทยจะได้เล่นในบ้านทั้งสองนัด ต้องไปแข่งกันที่ตะวันออกกลาง ซึ่งทั้งไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศ ตัวหลักจากเจลีก ทั้งสองคนก็มาไม่ได้ ไหนจะเทพมุ้ยที่สภาพร่างกายโรยรา จนเจ็บอดลงช่วยทีมชาติไทย และที่สำคัญคือความได้เปรียบในการเล่นในบ้านของตัวเอง

ทำให้ 3 นัดที่เหลือของทัพช้างศึกดูจะอาการหนักมา เสมอกับ อินโดนีเซีย ในเกมแรก 2-2 ทำให้โอกาสผ่านเข้ารอบนั้นแทบจะหมดสิ้นไป ครั้นชนะสองนัดที่เหลือ ก็ยังจะต้องลุ้นให้สถานการณ์เป็นใจ โดยต้องให้ทีมนำอย่าง เวียดนาม และ ยูเออี สดุดรัวๆ อีกด้วย

แต่สองเกมที่เหลือ ก็ยับเยินเหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่พ่าย ยูเออี 1-3 ทำให้ความหวังของทีมชาติไทยหมดสิ้นลงไปทันที และเกมสุดท้ายกับ มาเลเซีย ก็ยังจะแพ้อีก 0-1 จากจุดโทษของ ซาฟาวี ราซิด ทำให้ 3 เกมที่เลื่อนมาแข่งในปี 2021 ทีมชาติไทยเก็บได้แต้มเดียว จากการเสมอกับ อินโดนีเซีย ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงคะแนนเดียวที่ อิเหนา เก็บคะแนนได้อีกด้วยครับ

บทสรุปของ ทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

ทีมชาติไทย จบเพียงอันดับที่ 4 ของกลุ่มจี ไม่ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย โดยมีแต้มตามหลัง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แชมป์กลุ่มถึง 9 คะแนนและมีแต้มตามหลัง เวียดนาม อันดับสองอยู่ 8 แต้ม โดยตอนนี้ ไทย มี 9 แต้มเท่าเดิม

ยิ่งการที่แพ้ให้กับ มาเลเซีย ทำให้ตกมาอยู่อันดับที่ 4 โดยมี 5 แต้มตามเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทย ไม่ต้องไปเล่นรายการ เอเชี่ยน คัพ รอบเพย์ออฟ

เพราะเทียบกันแล้ว ไทย เราเองอยู่ในกลุ่มทีมอันดับ 4 ที่ดีที่สุด ทำให้เกมรอบคัดเลือก เอเชียน คัพ ทัพช้างศึก จะได้ไปรอเล่นในเกมรอบคัดเลือกรอบ 3

จากปัจจุบันในการจัดอันดับทีมในรอบคัดเลือกนี้ เราอยู่อันดับ 7 ซึ่งเป็นโถที่ 2 เท่านั้น ดีที่เกมรอบคัดเลือกรอบนี้ไม่หินนัก โอกาสที่จะจบสองอันดับแรก แล้วไปวาดลวดลายในรอบสุดท้าย ยังคงมีความเป็นไปได้อยู่มากครับ

แม้เส้นทางในฟุตบอลโลก 2022 นั้นจบลงไปแล้ว แต่งานของทัพช้างศึกยังคงไม่จบลง แม้จะยังมีบททดสอบอีกมาก แต่ก็จำเป็นที่จะต้องฟันฟ่าไป หากทีมชาติไทย ยังคงหวังในการไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อยู่ละก็ มีแต่ต้องพยายามกันต่อไปครับ

Posted in บทความฟุตบอล

จากจะลุ้นเข้ารอบต่อไป แบบที่เคยทำได้ กลับกลายเป็นว่า ทีมชาติไทย ของเรา ตกรอบเรียบร้อยครับ หมดสิทธิ์เข้ารอบต่อไป หมดหวังจะไปลุยฟุตบอลโลกปี 2022 อย่างเป็นทางการแล้ว ได้แต่มอง เวียดนาม ชาติเพื่อนบ้าน แซงหน้ากันไป แต่อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนัดสุดท้าย ที่ทีมชาติไทย จะฟาดแข้งกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน ที่สนามอัล มัคตูม ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังมีผลต่อ ทีมชาติไทย กับ เอเชียน คัพ อยู่ครับ

ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะขออธิบายให้ฟัง เพื่ออย่างน้อยยังมีแรงใจส่งแรงเชียร์ไปให้ทัพนักเตะไทย ในการแข่งขันนัดสุดท้ายของรายการนี้

ทีมชาติไทย กับ เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก

ไทย กับ มาเลย์ เพื่อนรักกอดคอตกรอบกันไปทั้งคู่แล้ว โดยทั้งสองทีมจะมีโปรแกรมดวลกันในวันที่ 15 นี้ แต่ที่สำคัญยังมีตั๋ว เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก ซึ่งทีมไหนจบอันดับสาม จะได้ตั๋วใบนี้ไปนั่นเองครับ

ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดของทั้งสองทีม ทีมชาติไทย แข่ง 7 นัด มี 9 คะแนน ชนะ 2 นัด เสมอ 3 นัดและแพ้ 2 นัด ยิง 9 เสีย 8 ประตู อยู่อันดับที่ 3 ส่วน ทีมชาติมาเลเซีย มี 9 คะแนน แข่ง 7 นัด ชนะ 3 นัดและแพ้ 4 นัด ยิงได้ 9 ประตู เสีย 12 ประตู เรียกว่าสูสีกันพอสมควร เกมนี้จึง ไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน ด้วยศักดิ์ศรี ฟุตบอลอาเซียน เตะกันลืมตายแน่นอน

เทียบกันแล้วต่างกันด้วยจำนวนประตูได้เสีย ส่วนเกมแรกที่ ไทย เจอ มาเลเซีย ผลปรากฏว่า ทีมชาติไทย แพ้ ทีมชาติมาเลเซีย 1-2 ชนิดที่ว่าช็อค แฟนบอลกันไป ผิดหวังกันทั้งประเทศ

ส่วนเกมนี้ กุนซือ ตัน เชง โฮ ออกมาสัมภาษณ์ว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายในการเจอทีมชาติไทย เพราะพวกเขาได้พักมากกว่าเรา ส่วน ดาตุ๊ก ยูซอฟฟ์ ผู้จัดการทีมชาติมาเลเซีย กล่าวว่า เราต้องโฟกัส เกมที่จะเจอกับทีม เปรียบดั่งภารกิจเสี่ยงตาย ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น

โค้ชต้องเตรียมความพร้อมในนัดนี้และเอาชัยชนะฝากแฟนบอลให้ได้ โดยเราแพ้มาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน รวมแมตช์อุ่นเครื่อง เราต้องการกู้ศักดิ์ศรีของเรากลับคืนมาและต้องการได้ไปเล่นในรายการเอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือก

ส่วนทางฝั่งทีมชาติไทย อากิระ นิชิโนะ ก็นำแข้งช้างศึกลงสนามฝึกซ้อมต่อเน่อง โดยเน้นเกมรุกเป็นพิเศษและการยืนตำแหน่งเกมรับ ที่เป็นปัญหาคาราคาซัง ส่วนการให้สัมภาษณ์ตอนนี้ กุนซือชาวญี่ปุ่น ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

แต่สถานการณ์ล่าสุด นิชิโนะ จะเดินทางกลับญี่ปุ่น เพื่อทำธุระส่วนตัว และจะกลับมาส่งรายงาน สรุปผลงาน ให้กับทางสมาคมต่อไป ทว่า นักฟุตบอลทีมชาติ ในแคมป์บางส่วน ก็อัพเดท ชีวิต พร้อมแคปชั่น ผ่านทางแอ๊คเค้าท์ส่วนตัว แบบไม่หยุดหย่อน

ซึ่งก็ตามไปดูกันได้ครับ ส่วนการทำงานรอบนี้ ถือว่าเงียบ ข่าวคราวไม่ได้ถูกเปิดเผยอะไรมากนัก แต่ผลงานโดยรวมถือว่า น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก

แต่เชื่อว่า ทีมชาติไทยก็หวังชัยชนะในเกมนี้เช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นจะผิดหวังมากไปอีกและอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจากจบรายการนี้ ซึ่งอย่างน้อยควรจบอันดับสาม เพื่อได้สิทธิ์ไปแข่งขันรายการ เอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือกนำมาฝากชาวไทยให้ได้

บทสรุป

ทีมชาติไทย ยังคงต้องหวังผลในเกมกับ มาเลเซีย อยู่ เพราะแม้โควต้าการไปคัดเลือก เอเชียน คัพ รอบ 3 จะได้ไปทั้งอันดับ 3 และอันดับ 4 แต่ผลแพ้ชนะ ยังคงมีผลต่อคะแนน ฟีฟ่าแรงค์กิ้ง ซึ่งจะยังมีผลต่อการจัดอันดับทีมในรอบคัดเลือกอยู่ดีครับ

Posted in บทความฟุตบอล

ฟุตบอลลีก 5 ลีกใหญ่ของยุโรป นำโดย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมัน, กัลโช่ เซเรีย อา และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้ปิดฉากการแข่งขันไปแล้ว รวมถึงลีกเล็กในยุโรปส่วนใหญ่ก็ปิดซีซั่นกันหมด

นับเป็นช่วงเวลาที่ นักลงทุน นักเดิมพัน ทั้งหลาย ไม่ว่าจะบอลเต็ง บอลเดี่ยว บอลสเตป หรืออะไรก็แล้วแต่ เหงากันพอสมควร จนอาจจะต้องไปเดิมพันกับวงการ คาสิโน กันบ้าง

ซึ่งต้องบอกเลยว่า เวป Ufabet พาร์ทเนอร์ผู้น่ารักของเรา ยังมีการเดิมพันที่น่าสนใจและครอบคลุมทั่วจักรวาล รอทุกท่านอยู่ครับ สนใจอยากลองให้เข้าไปทำความรู้จักกันได้ครับ พร้อมบริการ 24 ชั่วโมง

ส่วนตัวผู้เขียนก็เป็นแฟนตัวยงของเวปนี้ครับ ฝาก-ถอน ไวมาก เวปนี้ทำให้ ผู้เขียนอยู่รอดในช่วงโควิด-19 กันสุดแสนน่าเบื่อไปได้เยอะเลยครับ อะไรดีเราบอกต่อ เปรียบเสมือนเพื่อนกันเช่นเคย

เอาล่ะ เข้าเรื่องกันต่อ แม้ว่าลีกใหญ่ๆ จะปิดฤดูกาลแล้ว แต่ช่วงเดือนนี้และเดือนหน้า ยังมีโปรแกรมสำหรับสาย แทงบอล แบบไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน แถมนอกจากการเดิมพันอันน่าเร้าใจ ยังสามารถช่วยเชียร์ ร่วมส่งแรงใจให้ได้ลุ้นอีกด้วยครับ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่อีกต่างหาก

ส่วนมีรายการอะไรบ้าง ทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ได้เตรียมข้อมูลมาให้พวกท่านแล้วครับ

นอกจาก ฟุตบอลลีก แล้วมีอะไรน่าดู

ฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ

ช่วงปิดซีซั่น ส่วนใหญ่จะเป็น ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ดังนั้น โปรแกรมอุ่นเครื่องจึงสำคัญครับ แม้นักเตะจะได้พักผ่อนกันยังไม่ทันหายดีเลยก็ตาม ทั้งบรรดาชาติเล็ก ชาติใหญ่ก็เตรียมความพร้อม เซ็ทระบบ ลองทีม แทคติกตัวผู้เล่น สำหรับทัวร์นาเม้นต์สำคัญต่อไป ซึ่งโปรแกรมทีมชาติก็เริ่มเตะกันมาบ้างแล้วครับ โดยวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ก็มีหลายคู่ให้ติดตามด้วยกันครับ

แม้เวลาจะดึกนิดหน่อย แต่คุ้มค่าสำหรับการลงทุน โดยโปรแกรมจะมีไปจนถึงวันที่ 17 มิถุนายนเลยทีเดียว ซึ่งแปลว่ามีให้เดิมพันทุกวันครับ เลือกคู่ที่ใช่ เลือกราคาที่โดนได้เลยครับ เน้นดูชาติที่แรงกิ้งค์ดีกว่า ฝีเท้าดีกว่า แล้วจะไม่ผิดหวังครับผม

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

รายการนี้สำหรับแฟนบอลชาวไทย กำลังลุ้นใจจดใจจ่อกับ ทีมชาติไทย กับอีกสองนัดที่เหลือครับ ซึ่งจะพบกับ ยูเออี ในวันที่ 6 มิถุนายน และนัดสุดท้ายกับ มาเลเซีย ในวันที่ 15 มิถุนายน นี้ ส่วนโปรแกรมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ตอนนี้กำลังแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ทั้งโซนอเมริกากลางและอเมริกาเหนือที่กำลังจะแข่งขันกันอยู่ รวมถึงโซนอเมริกาใต้ ที่มียักษ์ใหญ่อย่าง บราซิล และ อาร์เจนติน่า รอให้นักลงเดิมพัน ได้เข้าไปกดราคาที่ถูกใจกันอยู่ครับ

ซึ่งโซนทวีปอเมริกา จะเตะถึงวันที่ 9 มิถุนายนนี้ครับ ส่วนโปรแกรมทวีปเอเชียของเรา จะเตะถึงวันที่ 16 นี้ครับผม ไม่ต้องรอกันนาน ช่วงนี้ได้ลงทุนฟันกำไรกันอย่างได้ต่อเนื่องครับผม ใบ้ให้นิดนึง แต่ละคู่ราคาน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะชาติเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ รวมถึง อิหร่าน และ ออสเตรเลีย ราคาน่ารักน่าลุ้นครับ เพราะเจอแต่งานเบาๆ กันทั้งนั้น อย่างไรเลือกเวปที่ใช้ ใส่ราคาที่ชอบกันได้เลยครับ

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020

โยกมาเตะกันในปีนี้สำหรับ ยูโร 2020 ซึ่งโปรแกรมและกำหนดการต่างๆ สามารถทำการแข่งขันกันได้ตามเดิม ซึ่งว่ากันตามตรง ถ้วยนี้ เปรียบเสมือนฟุตบอลโลกกลายๆ เลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละชาติในทวีปยุโรป เป็นชาติมหาอำนาจลูกหนังกันทั้งนั้น

อาทิเช่น อังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน และ เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น แค่เห็นชื่อแต่ละชาติ ก็น่าดูน่าลงทุนแล้วครับ ซึ่งปีนี้เตะกันแบบจุใจ มี 24 ทีมจาก 6 กลุ่ม เริ่มเปิดฉากฟาดแข้งกันตั้งแต่คืนวันที่ 12 มิถุนายน นี้ครับ

โปรแกรมลากยาวไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 12 กรกฎาคม นี้ครับ รวมแล้วเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็มๆ เลยทีเดียว เรียกว่าเล่นกันได้แทบทุกวันครับ แถมยังได้ดูแบบสนุก จุใจอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ปีนี้ ประเทศไทย เจ้าดังต่างๆ ไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาให้ชม อาจจะหาดูยากสักนิดนึงครับ

อย่างไรก็ตาม เรื่องราคาและคู่บอลทุกคู่ของโปรแกรมนี้ เวปไซต์ Ufabet มีให้อยู่แล้วครับ ราคางามๆ กำไรอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แถมค่าน้ำดีอีกด้วย ฝากด้วยครับผม

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปอเมริกาใต้ หรือ โคปาอเมริกา 2020

สำหรับถ้วยนี้ ดูจะลุ้นกันเหนื่อย ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะได้แข่งกันแบบ 100% หรือไม่ หลังจาก โคลอมเบีย และ อาร์เจนติน่า ซึ่งรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ถูกติดสิทธิ์ เนื่องจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่สองประเทศ ไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในความปลอดภัย ที่จะอำนวนความสะดวกในการแข่งขัน

ซึ่งข่าวล่าสุด กลายเป็นประเทศ บราซิล ที่รับหน้าที่เจ้าภาพแต่เพียงผู้เดียว แต่จากข่าวอื่นๆ ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ว่า บราซิล จะเป็นเจ้าภาพประเทศเดียวหรือไม่ ก็ต้องติดตามข่าวสารกันต่อไป

โดยโปรแกรม โคปาอเมริกา 2020 นี้ มี 12 ทีม ในสองกลุ่ม โดยจะเริ่มเปิดฉากทำการแข่งขันในวันที่ 14 มิถุนายน เวลา ตีสี่ครับ อย่างไรก็ตามกดเดิมพันไว้ก่อนได้ครับ ทางเวป Ufabet มีให้เลือกล่วงหน้าได้หลายวัน ซึ่งดีไม่ดี กดก่อนก็ได้ราคาดีก่อนด้วยครับ ตรงนี้ผู้เขียนถูกใจอย่างมาก

ส่วนโปรแกรมจะลากยาวไปถึง วันที่ 11 กรกฎาคม ครับ ซึ่งในช่วงระยะเวลานั้นก็มีพักบ้างวันสองวัน แต่ยังสามารถดูโปรแกรมการแข่งขันถ้วยอื่นได้อีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่ทราบสถานการณ์ว่าถ้วยนี้ในปีนี้ จะได้แข่งขันหรือไม่อย่างไร เพราะทางฝั่งอเมริกาใต้ โควิดระบาดหนักเหลือเกินครับ

บทสรุป

นอกจากโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติ ทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ๆ แล้ว อันที่จริงยังมีบรรดาลีกเล็กลีกน้อยทั่วโลก ให้เดิมพันได้ไม่เว้นกันอยู่แล้วครับ เพียงแต่แอบเล่นยากนิดนึง เพราะหลายท่านจะไม่ค่อยทราบข้อมูล ฟอร์มการเล่น และผลงานเหมือนลีกใหญ่ๆ ที่ข่าวสารจะมีให้เสพเยอะกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ลีกเล็กนี่ล่ะ ที่สามารถสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ ผู้เขียนเห็นมากับตาแล้วครับ แต่ก็ต้องศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะเดิมพันครับ ไม่อย่างนั้นจะหาว่าผู้เขียนไม่เตือนไม่ได้นะครับ ขอเป็นกำลังใจทุกท่านครับ ขอให้เฮงๆ ปังๆ กันในช่วงนี้ เพราะฟุตบอลมีเตะกันหลายคู่อย่างมาก แถมถี่ยิบยิ่งกว่าบอลลีกอีกต่างหากครับ

สำคัญที่สุด ถ้าหากยังไม่เจอเวปที่ใช่ เราขอแนะนำ Ufabet ครับ เวปนี้การันตีคุณภาพครับ นึกอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเล่นคู่ไหนดี ทางเวปนี้มีให้เลือกทุกเวลา ทุกลีก ทั่วทุกมุมโลก มีหมดครับ เล่นกันเพลินๆ ยาวๆ เลยทีเดียว ราคาก็น่าคบหาครับ พร้อมบริการจากแอดมินประดุจญาติมิตรครับผม แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ

Posted in บทความฟุตบอล

หลังจากที่สวมเบอร์สิบ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่นัดแรกที่ติดทัพ ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย แม้ผลการการแข่งขันจะทำให้แฟนบอลผิดหวังไปตามๆกัน หลังทำได้เพียงเสมอกันไป 2-2 แต่ความหวังใหม่ก็ได้เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น เมื่อ “เจ้ากันต์ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดแสนประทับใจ ทั้งการออกบอล การจ่ายบอล การหาช่อง คลาสฟุตบอลของเขาเหนือกว่าเพื่อนร่วมชาติ แม้จะมีอายุเพียง 21 ปี ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวกำลังค้าแข้งให้กับ “จิ้งจอกสีน้ำเงินเลสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก ซึ่งเคยมีชื่อติดบนม้านั่งสำรองในเกมชุดใหญ่ ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว

วันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับมิดฟิลด์อนาคตใหม่ของ ทีมชาติไทย รายนี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง

ประวัติของ “เจ้ากันต์”ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร

ธนวัฒน์ ซึ่งจิตถาวร เป็นคนสุพรรณบุรี ตั้งแต่กำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2000 ก่อนที่ครอบครัวและเจ้าตัวจะย้ายไปอยู่ประเทศฝรั่งเศส ตอนที่มิดฟิลด์รายนี้อายุ 6 ขวบ

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และทางครอบครัวก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งอันที่จริงเจ้าตัวเล่นตั้งแต่สมัยยังอยู่ที่ประเทศไทย จนได้เริ่มต้นได้ลงเล่นระดับเยาวชนกับ อาแอส นอยน์เคิร์ช สโมสรระดับท้องถิ่น

ต่อมาเจ้าตัวทำผลงานได้ดี จนไปเตะตาแมวของจากสโมสร น็องต์ซี่ ทีมระดับ ลีกเดอซ์ ฝรั่งเศส หรือลีกรองสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส ทำให้ทางสโมสรได้เจรจาดึงตัว เจ้ากันต์ มาร่วมทีม

โดยเจ้าตัวค้าแข้งให้กับ น็องต์ซี่ ในชุดเยาวชนเป็นเวลาถึง 7 ฤดูกาล ในช่วงนั้น เจ้ากันต์ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนถึงขั้นติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชน ตั้งแต่ รุ่นอายุ 16 ปี และ 17 ปี

ซึ่งเจ้าตัวเคยได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-17 มาแล้วอีกด้วย หลังจากนั้นเจ้าตัวก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ จนสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมี คุณอัยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เป็นประธานสโมสร ได้ทำการดึงตัวมิดฟิลด์ดาวรุ่งผู้นี้มาร่วมทีมชุดเยาวชน ในปี 2020 นั่นเอง

โดยมิดฟิลด์ร่างเล็กที่อายุได้ 21 ปี ได้เป็นแข้งตัวหลักทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ชุดเยาวชน โดยแข่งขันในพรีเมียร์ลีก 2 (คล้ายลีกสำรองในยุคก่อน) ซึ่งอยู่ในการคุมทัพของ สตีฟ บีเกิ้ลโฮล ซึ่งให้โอกาสมิดฟิลด์สัญชาติไทยได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เกมพรีเมียร์ลีก 2 ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2020 โดย เจ้ากันต์ ซัดสองประตูพาพลพรรคจิ้งจอกชุดเล็ก เอาชนะ ปีศาจแดง ได้ 4-2 อีกด้วย

ซึ่งฟอร์มที่ดีต่อเนื่อง มาพร้อมกับการอ่านเกม อ่านจังหวะได้เด็ดขาด การจ่ายบอลและการสอดขึ้นมาทำประตูได้ ทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือทีมชุดใหญ่ ตัดสินใจมอบโอกาสครั้งสำคัญให้กับ เจ้ากันต์ โดยให้ขึ้นมาซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่อีกด้วย

จนเจ้าตัวมีโอกาสติดชื่อเป็นตัวสำรองในกับที่ เลสเตอร์ ซิตี้ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ปีนี้นั่นเอง สำหรับไอดอลหรือบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าตัว นั่นก็คือ อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์ระดับตำนานของทีมชาติสเปนและสโมสรบาร์เซโลน่า รวมถึง ชนาธิป ทรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเล็ก แข้งรุ่นพี่ทีมชาติไทยและสโมสร คอนซัปโดเล่ ซัปโปโร

ในส่วนของการติดทัพทีมชาติไทยชุดใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อ อากิระ นิชิโนะ เฮ้ดโค้ชชาวญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจเรียก ธนวัฒน์ ซึ่งจิตถาวร ติดธงเป็นครั้งแรก โดยหลังจากการซ้อม นิชิโนะ ได้เอ่ยปากออกมาชื่นชม เจ้ากัน ชนิดที่ว่าแฟนบอลชาวไทยได้ตั้งความหวังไว้สูงที่แล้ว ซึ่งจากเกมที่พบอินโดนีเซีย

แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นดั่งใจ แต่ชาวไทยก็ได้เห็นกับตา ว่ามิดฟิลด์วัย 21 ปีรายนี้ ฝีเท้าเป็นอย่างไร ซึ่งทำให้ความหวังแห่งทีมชาติไทยได้ถือกำเนิดขึ้นมากลายๆ ตรงนี้ก็อยู่ที่ว่า อีกสองโปรแกรมที่เหลือ เจ้าตัวจะยังรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองได้หรือไม่

ที่สำคัญแข้งรายอื่นภายใต้สีเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย จะสามารถเค้นฟอร์มเก่ง คว้าชัยชนะ 2 นัดที่เหลือเพื่อการเข้ารอบต่อไปในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

ซึ่งเราในฐานะชาวไทยก็ร่วมส่งแรงใจช่วยกันเชียร์ เป็นกำลังใจให้นักกีฬา ทำผลงานได้อย่างเต็มที่ นำความสุขกลับคืนสู่บ้านเราในช่วงที่อะไรก็แย่ไปหมดแบบนี้

Posted in บทความฟุตบอล

ควันหลงจากเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่สนาม ที่สนาม อัล-มัคตูม สเตเดียม ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ตกรอบไปแล้ว ซึ่งเกมนี้ สกอร์จบลงที่ 2-2 ซึ่งนับเป็นความเสียหายอย่างหนักต่อทีมชาติไทยของเรา เพราะลงแข่งไปแล้ว 6 นัด มี 9 คะแนน อยู่อันดับที่ 3 เป็นรอง ยูเออี เจ้าภาพสนามกลางและ ทีมชาติเวียดนาม ที่สำคัญยังมีแต้มเท่ากับทีมชาติมาเลเซีย อีกต่างหาก ซึ่งทำให้หลังเกมแฟนบอลทีมชาติไทยผิดหวังตามๆ กันไป โวยวายเต็มโซเชี่ยลมีเดีย ระอุเดือดกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทย ของเรา ยังมีโอกาสที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะขอนำเสนอความเป็นไปได้ในการเข้ารอบ กับอีกสองโปรแกรมที่เหลือ โดยหวังว่าทีมชาติไทยของเราจะผ่านเข้ารอบไปได้ แต่อย่างไรก็ตามหนทางปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่ทีมเราเพียงอย่างเดียว ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น มารับรู้ข้อมูลพร้อมกันได้เลยครับ

2 นัด ที่เหลือ ของ ทีมชาติไทย

1. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 7 มิถุนายน 2564

โปรแกรมนัดต่อไปของทัพช้างศึก เจองานหินเมื่อต้องพบกับ เจ้าภาพในรอบนี้ ซึ่งต้องมาเตะสนามกลางเพราะปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยจะพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นทีมแข็งที่สุดในกลุ่มจี

ปัจจุบัน ยูเออี รั้งอันดับที่ 2 ของตาราง ด้วยการมี 9 คะแนน จากการลงสนาม 5 นัด ชนะ 3 นัดและแพ้ 2 นัด ด้วยกัน ส่วนข่าวดี โดยรอบนี้พวกเขาเคยบุกมาแพ้ทีมชาติไทย ด้วยสกอร์ 1-2 อย่างไรก็ตามเกมนัดล่าสุด ยูเออี โชว์โหด ถล่ม ทีมชาติมาเลเซีย 4-0 ซึ่งดูเหมือนฟอร์มของพวกเขาเมื่อเทียบกับ ไทย เราแล้ว ดูดีกว่ากันพอสมควร แดนหน้าของพวกเขามีความอันตรายและคล่องตัวสูง โดยเฉพาะตำนานอย่าง อาลี มับคุต ที่ตะบันประตูได้นัดที่แล้ว 2 ลูกด้วยกัน

แตกต่างจากทีมชาติไทยในเกมนัดที่แล้ว แนวรับมีปัญหาอย่างมาก รั่วยิ่งกว่าบ่อน้ำมัน ซึ่ง อากิระ นิชิโนะ น่าจะปวดหัวน่าดู ต้องปรับทัพกันยกใหญ่ อาจจะมีการเปลี่ยนผู้เล่น 11 ตัวจริงหลายราย ส่วนเกมรับยังขาดในเรื่องจังหวะสุดท้าย

แต่สิ่งที่น่ากังวลคือเกมนัดที่แล้ว ไทย เราเน้นเกมกลางอากาศมากเกินไป แม้จะสร้างจังหวะในการทำประตูได้เยอะ แต่ยิงเข้ากรอบได้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น น่าเสียอย่างยิง อย่างไรก็ตามเงื่อนไขเดียวของทีมชาติไทย คือต้องชนะให้ได้ ไม่อย่างนั้นเตรียมโบกมือบ๊ายบายได้เลย ยังไงเกมนี้ก็ต้องสามแต้มเท่านั้น

ส่วนโปรแกรมอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ทีมชาติเวียดนาม จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่ง ไทย เราต้องลุ้นให้อินโดนีเซียยันให้อยู่เหมือนทีมชาติไทย แต่เวียดนามยุคนี้ไม่หมู เกมรับเหนียวแน่น วิ่งไล้เพรสในแดนตัวเองและใช้จังหวะไม่มากนักในการสวนกลับ ถ้า เวียดนาม เอาชนะ อินโดเนเซีย ได้แล้ว ทีมชาติไทยเรายิ่งกดดันและต้องชนะยูเออี ให้ได้ แม้จะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม

ซึ่งเกมนี้เป็นเกมชี้ชะตาอนาคตการเข้ารอบของทีมชาติไทยได้เลย ที่สำคัญยังต้องลุ้นให้ ยูเออี ทำแต้มหลุดมือในทุกเกมที่เหลือหลังจากเจอ ทีมชาติไทย อีกด้วย แต่ถ้า ยูเออี ไม่พลาดเลย เราก็ต้องลุ้นให้ ทีมชาติเวียดนาม ทำแต้มหล่นไปเองกับอีกโปรแกรมที่เหลือของทัพดาวทอง

2. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย 15 มิถุนายน

สำหรับโปรแกรมนัดนี้ ขอย้อนไปเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เราพลาดท่าพ่ายให้กับ ทีมชาติมาเลเซีย 1-2 ที่สนามบูกิตจาลิล ซึ่งสนามนี้ขลังจริงๆ ไทย เราบุกไปไม่ค่อยจะชนะเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเกมนั้น ทำให้แฟนบอลชาวไทยผิดหวังพอสมควร ทั้งที่ออกนำไปก่อน ซึ่งปัญหาก็คือเกมรับ ที่ยังแก้ไขได้ยากเหลือเกิน จนแมตช์เมื่อคืนก็ยังไม่มีทีที่ว่าจะดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ ไทย เราต้องลุ้นเหนื่อยหนักขนาดนี้

มาว่ากันต่อในโปรแกรมส่งท้ายของรอบนี้ ไทย พบ มาเลเซีย เตะกันที่สนามกลางที่ยูเออี เช่นเคย โดยเกมนี้ถ้าหากนัดที่แล้วทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ ยูเออี ทำให้ความหวังในการเข้ารอบของไทยยังมีอยู่เต็มเปี่ยม เกมนี้ ไทย เราต้องชนะให้ได้อีกเช่นเคย โดยต้องยิงให้ได้เยอะที่สุด เพื่อลุ้นจบอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ซึ่งปีนี้ เอาเข้ารอบถึง 5 ทีมด้วยกัน จริงๆ รู้สึกเสียดาย เพราะถ้าสลับจากเกมที่ต้องเจอ ยูเออี มาเป็น มาเลเซีย ก่อน ก็น่าจะดีกว่านี้ เพราะทัพมาเล ชุดนี้ ดูจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก จากเกมที่แล้วที่ต่อกรกับ ยูเออี ไม่ได้เลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมชาติไทย ก็สภาพไม่ต่างกัน แถมสถิติการเจอกันในช่วงหลังยังสูสีกันอีก ส่วน มาเลเซีย ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบเช่นเดียวกับไทย แต่พวกเขายังต้องเอาชนะ ทีมชาติเวียดนาม ให้ได้ ซึ่งถ้าทำได้เกมนี้ก็มีลุ้นสนุกเหมือนกัน แต่ถ้าทั้งไทยและมาเลเซีย พร้อมใจกันแพ้ในโปรแกรมก่อนหน้าทั้งคู่ เกมนี้เท่ากับว่าไม่มีความหมายอะไรสำหรับทั้งสองชาติอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคอาเซียน แต่ละชาติย่อมไม่มีใครยอมใคร ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ เตะกันลืมตายแน่นอน โดยเฉพาะจังหวะนอกเกม มีแจก มีแถมกันตลอด

บทสรุป

สุดท้ายนี้ ในฐานะแฟนบอลทีมชาติไทยคนนึง ก็หวังว่า ทุกท่านจะลดคำด่าทอและการระบายอารมณ์ชั่ววูบต่างๆ ในโลกโซเซียล เพราะมันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยและอดทนใจเย็นๆ บ้าง อะไรหลายต่อหลายอย่างมันต้องใช้เวลา เรื่องผิดหวังมันเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์ตึงเครียดกันหนักหน่วงอยู่แล้ว

เรามาเปลี่ยนพลังด้านลบเป็นด้านบวก ร่วมส่งใจเชียร์อย่างสร้างสรรค์ อวยพรให้ ทัพนักเตะและทีมงาน สต๊าฟโค้ช ทุกท่าน คว้าชัยชนะได้ทั้งสองนัดและพาทีมชาติไทยเข้ารอบต่อไปให้ได้กันดีกว่าครับ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับความเป็นจริง ลุกขึ้นมาเรื่มกันใหม่ได้ทุกวัน แล้วกลับมาพบกันใหม่ครับ

Posted in บทความฟุตบอล

นับเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ สำหรับแฟนบอลชาวไทย และทีมงานฟุตบอลทีมชาติไทย ที่กำลังประสบปัญหาหลากหลายด้าน จากวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่กีฬาเองก็ตาม แม้ว่าบอลสโมสรจะมีช่วงพักรบ ให้นักเตะอาชีพได้กลับมารับใช้ชาติ บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง อย่างไรก็ตามปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลไปในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะ ทำให้เกิดปัญหาให้นักเตะตัวหลัก ไม่สามารถเดินทางมารับใช้ชาติ ได้ตามปกติ การที่นักเตะตัวหลักที่อยู่ภายในประเทศ ต้องกรำศึกหนักมาติดต่อกัน ทั้งๆ ที่ร้างสนามกันไปนาน แต่กลายเป็นว่ากระทบต่อ นักลงทุน และ แฟนบอล ที่เตรียมเดิมพันกับชาติบ้านเกิดอีกด้วย วันนี้ทางทีมงาน Ufafootball จะมาพูดถึงปัจจัยที่ทำให้ ทีมชาติไทย ใน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ได้รับผลกระทบกับวิฤติรอบนี้ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดบ้าง

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับการเดินทาง

จากผลกระทบของ โควิด-19 ทำให้ทีมชาติไทยและคู่แข่ง ไม่สามารถลงเล่นโปรแกรมในบ้านแบบเหย้าเยือนได้ แถมยังต้องกักตัวกันอีกต่างหาก ซึ่งอีก 3 นัดที่เหลือ จะเตะสนามกลางที่ประเทศ ยูเออี โดยโปรแกรมทีมชาติไทยจะลงแข่งวันที่ 3,7 และ 15 เดือนมิถุนายน นี้ ก่อนหน้านี้ก็ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนจะเดินทางไปยัง ยูเออี อีกต่างหาก ต้องกักตัว วุ่นวายกันเลยทีเดียว แถมยังโชคร้ายที่ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่ง ไม่สามารถเดินทางร่วมทัพช้างศึกได้ เนื่องจากติดภารกิจรับใช้สโมสร โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในเจลีก เพราะทางประเทศญี่ปุ่น ได้มีการยกระดับการป้องกัน และมีการกำหนดการกักตัวไว้ ถึง 14 วัน หากเดินทางไปๆ มาๆ ก็อาจจะต้องเสียเวลา พลาดโอกาสช่วยต้นสังกัด ไปอีกหลายนัด แต่ดีที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สามารถมาร่วมทีมได้ เนื่องจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกมที่ ฮอกไกโด คอนซาโดล่ ซัปโปโร เสมอกับ โชนัน เบลมาเร่ และเจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงเรียกความฟิต อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุปสรรคในการเดินทาง รวมถึงไม่ได้ลงเล่นในบ้านตัวเอง ก็เป็นความเสียเปรียบอยู่ไม่ใช่น้อย ทั้งภูมิอากาศและการอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งทราบกันดีว่า ผลงานทีมชาติไทยยามออกไปเยือนย่ำแย่แค่ไหน แถมสถานการณ์ลุ้นเข้ารอบต่อไปยังยากลำบากอีก ซึ่งต้องเก็บ 9 คะแนนเต็มในการลุ้นเข้ารอบต่อไป

นักเตะทีมชาติ ติดโควิด

เรียกได้ว่าวุ่นวายกันไปยกใหญ่ หลังทีมชาติชุดใหญ่ของไทยเรา มีนักเตะติดโควิดกันหลายคน ทำให้มีการเรียกทีมชาติไทยชุดที่ 2 เข้ามาซ้อม ส่วนชุดแรกก็ต้องเสียเวลาซ้อมไปฟรีๆ แถมกำหนดการเข้าแคมป์ก็ต้องยกเลิกไปชั่วคราว จนต้องมีการเตรียมผู้เล่นหลายสิบคน ที่ไม่มีชื่อเตรียมไว้เป็นการพิเศษ เพราะหากในท้ายที่สุดแล้ว เหล่าผู้เล่นตัวหลักเกิดไม่พร้อม ก็ต้องมีการเสริมทีม ด้วยผู้เล่นชุดรองลงไป อย่างที่เรียนไปให้ทราบ เรียกได้ว่าวุ่นวายกันสุดๆ ทั้งในสนามและนอกสนาม แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และหากเกิดไปติดเชื้อเมื่อบินไปถึงที่นู่น ก็อาจจะต้องใช้นักเตะในรายชื่อเหล่านั้น ลงสนามแทน เคราะห์ดีที่การตรวจครั้งล่าสุด ก่อนจะบินลัดฟ้าไปเตรียมตัวแข่ง พวกเค้าตรวจไม่พบเชื้อแม้แต่รายเดียว ถึงอย่างไรก็ย่อมส่งผลต่อจิตใจไม่มากก็น้อย นักเตะที่เคยติดไป ก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลระยะยาวต่อการเล่นหรือเปล่า เรียกได้ว่าน่าปวดหัวพอสมควร กับทีมชาติไทย ในยุคปัจจุบัน ที่กำลังดีวันดีคืน แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้นักเตะและทีมงานสตาฟโค้ช และเทรนเนอร์แดนอาทิตย์อุทัย อากิระ นิชิโนะ จะสามารถพาทีมเข้ารอบต่อไปและเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย ไร้โควิด-19 รบกวน

ผลกระทบต่อสโมสรในไทยลีก

ในระหว่างการเดินทางและการแข่งขัน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้นไปอีก เพราะเจ้าโควิด-19 พัฒนาสายพันธุ์อย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเมื่อนักเตะเดินทางกลับมา ช่วงแรกอาจจะไม่ติดเชื้อ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่สำคัญพอนักเตะแยกย้ายไปรับใช้สโมสร ถ้าหากติดเชื้อ ก็อาจจะทำให้บุคลากรของทีมติดเชื้อเพิ่มไปอีก ซึ่งเป็นอะไรที่น่าหดหู่ใจที่สุด หากจำกันได้ ครั้งแรกที่เจ้าไวรัสตัวร้าย กระทบกับเกมฟุตบอลในประเทศไทย ทำให้ปฏิทินการแข่งขันเดิม ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคม ไปจนจบในเดือนตุลาคม ต้องเปลี่ยนมาแข่งคร่อมปี เหมือนกับในฝั่งยุโรป ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับโควต้า ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ว่าท็อปโฟร์ของฤดูกาล 2020-2021 จะได้ไปเล่นบอลทวีปในปี 2022 แทน โดยฤดูกาลล่าสุดของฟุตบอลไทย เพิ่งจะปิดฉากกันไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ส่วนบอลถ้วยกว่าจะจบได้ ก็เข้าสู่เดือนเมษายนกันแล้ว ไม่ต้องสืบเลยว่า โปรแกรมของพวกเค้าที่ผ่านมา อัดแน่นแค่ไหน กับการที่พวกเค้า ห่างหายกับเกมไปอย่างยาวนาน พอกลับมาที ก็ต้องเตะกลางสัปดาห์ มาทุกสัปดาห์ แล้วตบท้ายด้วยฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ แล้วไหนจะเรื่องสัญญา ที่เดิมทีเซ็นกันไว้จบกันเป็นปีปกติ แต่หากนักเตะที่ถือสัญญาเดิมนั้น จะหมดลงในช่วงเดือน ตุลาคม-ธันวาคม ซึ่งก็เป็นเพียงกลางฤดูกาลของไทยลีกเท่านั้น แถมโปรแกรมไทยลีกฤดูกาลใหม่ ก็กำลังจะเปิดฉากขึ้นในเดือนกรกฎาคม จุดนี้จึงเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ที่จะจัดการ ผิดกับนักเตะที่ไปค้าแข้งในต่างประเทศ ที่ได้รับการดูแลที่พร้อมกว่า แต่ก็ไม่สามารถบินไปช่วยทัพ ช้างศึก ลงเล่นเกมชี้ชะตาที่จะเกิดขึ้น

Posted in ทีเด็ดบอลเต็ง