ลิโอเนล เมสซี่

ลิโอเนล เมสซี่ โคตรนักเตะสัญชาติอาร์เจนติน่า คือหนึ่งปรากฏการณ์ของโลกฟุตบอล ด้วยฝีเท้าของเขา ที่พร้อมวาดลวดลายกระชากคู่แข่งเป็นว่าเล่น ความเร็วและเทคนิคการเลี้ยงบอลที่ไม่มีใครจะต้านทาน การยิงประตูที่เฉียบคม ซึ่งแน่นอนว่าทั่วโลกไม่มีใครไม่รู้จักชายคนนี้ เมสซี่ สร้างความตื่นเต้นและผลงานเอาไว้บนโลกฟุตบอลอย่างมากมาย โดยเฉพาะกับในสโมสรบาร์เซโลน่า ที่เจ้าตัวกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น

นี่คือนักเตะที่ได้รับการขนานนามว่า นักเตะที่ดีที่สุดในโลก คว้าแชมป์อย่างมากมายรวมถึงรางวัลส่วนตัว ทั้งรางวัลดาวซัลโวและบังลงดอร์ 6 สมัย มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทว่าตราบาปเดียวของเขาคือแชมป์ระดับทีมชาติ ซึ่งเขาไม่เคยก้าวเป็นแชมป์กับทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่ได้สักที ทำได้เพียงคว้าแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิกในปี 2008 เท่านั้น

วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ได้รวบรวมผลงานของ เมสซี่ กับความเจ็บปวดที่เป็นเพียงพระรองกับการไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศรายการทีมชาติ

ลิโอเนล เมสซี่ กับความพ่ายแพ้ในนัดชิง

ลิโอเนล เมสซี่ ในเรื่องของเกมระดับสโมสร ตั้งแต่เดบิ้วต์ขึ้นชุดใหญ่ของสโมสรบาร์เซโลน่า โคตรทีมจากลาลีกา สเปน เจ้าตัวเป็นส่วนสำคัญให้ทัพอัลซูกราน่า โดยพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ไปถึง 34 ใบ ประกอบไปด้วย ลาลีกา สเปน 10 สมัย, โกปา เดล เรย์ 7 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์คัพ 7 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 3 สมัย และ ฟีฟ่าคลับเวิร์ล คัพ หรือแชมป์สโมสรโลก 3 สมัย

รวมถึงรางวัลส่วนตัว คว้ารางวัลดาวซัลโวของลีกถึง 8 สมัย รวมถึงรางวัลที่ทรงเกียรติสำหรับนักฟุตบอล นั่นก็คือ บัลลงดอร์ คว้าไป 6 สมัย ซึ่งมากที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา แม้ผลงานระดับสโมสร เจ้าตัวจะคว้ารางวัลมาทั้งหมดได้แล้ว เรียกว่าประสบความสำเร็จสุดๆ ในระดับสโมสร แต่ในระดับทีมชาติ เจ้าตัวไม่เคยพาทีมชาติบ้านเกิดไปถึงฝั่งฝันได้เสียที ทำได้ดีที่สุดก็เป็นเพียงแค่รองแชมป์เพียงเท่านั้น

ด้วยเจ้าตัวเก็บความผิดหวังไว้กับผลงานทีมชาติอยู่เต็มอก รอวันที่จะประสบความสำเร็จได้สักที เสียงวิจารณ์ถ่าโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน โดยความสำเร็จต้องย้อนไป ปี 2005 ที่เจ้าตวได้แชมป์กับทีมชาติชุดเยาวชนโลก อายุไม่เกิน 15 ปี และ ฟุตบอลเหรียญทองรายการโอลิมปิกที่ประเทศจีน ในชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในปี 2008 หลังจากนั้นเจ้าตัวไม่เคยประสบความสำเร็จกับทีมชาติชุดใหญ่เลยแม้แต่น้อย

โดยความผิดหวังครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2007 ในศึกโคปา อเมริกา รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับทีมชาติระดับทวีปอเมริกาใต้ ซึ่ง เมสซี่ ตอนนั้นเป็นแข้งดาวรุ่งระดับพระกาฬเริ่มโด่งดังและเป็นความหวังของประเทศชาติไปแล้ว

โดยชุดนั้นของ อาร์เจนติน่า ถือว่าครบเครือง ทั้ง กาเบรียล ไฮน์เซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, คาร์ลอส เตเบซ, ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่ และ เอร์นาน เครสโป แต่ผลสุดท้ายพวกเขาดันพ่ายให้กับอริตลอดกาล บราซิล ที่มีทั้ง กาก้า, โรบินโญ่, ดานี อัลเวส ไปอย่างขาดลอยด้วยสกอร์ 0-3 ในรอบชิงชนะเลิศ ส่งผลให้เป็นรองแชมป์แบบน่าเจ็บปวดตั้งแต่ทัวร์นาเม้นต์แรกที่ เมสซี ได้เล่นในรายการนี้

ต่อมา ในปี 2014 เมสซี่ ในวัย 27 ปี เรียกได้ว่าตอนนั้นเขาเป็นแข้งระดับเบอร์ต้นๆ ของโลก พร้อมร่ายเวทมนต์ในสนามเป็นแข้งเบอร์ 1 ของทีมชาติก็ว่าได้ เป็นทุกอย่างของทีม พาอาร์เจนติน่า ฝ่าฟันจนถึงรอบชิงชนะเลิศ เรียกได้ว่าเล่นเด่นอยู่คนเดียว แบกทีมจนหลังหัก

โดยขุมกำลังตอนนั้นของทีมชาติถือว่าดรอปลงไปอย่างมาก มีแข้งไว้ใจได้ไม่กี่ราย ซึ่งซ้าย-ขวาของ เมสซี่ มี เมซ่า และ ปาวอน ซึ่งต้องถามกันจริงๆ ว่าใครกันเนี่ย ติดทีมชาติมาได้อย่างไร แต่ เมสซี่ ก็พร้อมระเบิดฟอร์ม พร้อมกับโดนเตะเป็นว่าเล่น โดนประกบติดจากคู่ต่อสู้ถึง 3 รายตลอดทั้งเกม

สุดท้ายแล้ว อาร์เจนติน่า มาถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับ เยอรมัน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จาก มาริโอ เกิตเซ่ พลาดท่าคว้าแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย โดยได้รางวัลปลอบใจเป็นรองแชมป์โลก ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งที่สองที่เขาผิดหวัง แถมยังโดนเย้นหยันว่าไม่สามารถก้าวข้าม ดิเอโก้ มาราโดน่า อดีตโคตรนักเตะตำนานทีมชาติอาร์เจนติน่า ไปได้

เท่านั้นยังไม่พอ ในปี 2015 คือปีถัดมานี่เอง ในศึก โคปา อเมริกา ครั้งนี้ ทัพฟ้า-ขาว อาร์เจนติน่า ถือว่าเป็นชุดที่เกมรุกครบเครื่องอย่างมาก เพียงแต่เกมรับไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เมสซี พาทีมเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ

แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับชาติเจ้าภาพ ประเทศชิลี ในการดวลลูกจุดโทษ 1-4 หลังเสมอในเวลาปกติรวมถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-0 โดย เมสซี่ เป็นเพียงผู้เล่นคนเดียวของ อาร์เจนติน่า ที่ยิงจุดโทษเข้า นอกนั้น ยิงพลาดหมด

เท่านั้นยังไม่พอ ในปีถัดมาถือว่าพิเศษอย่างมาก เมื่อ โคปา อเมริกา นาริโอ ซึ่งเป็นรายการที่ฉลองครบรอบ 100 ของสหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้และศึกโค ปา อเมริกา นั่นเอง โดยการแข่งขันนี้ 100 ปีจะจัดหนึ่งครั้ง ถือว่าครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหนๆ

โดยรายการนี้ เมสซี่ และขุนพลนักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มูฟออนจาก โคปา อเมริกา ปีก่อนได้อย่างหมดจด แถม บราซิล ยังชิงตกรอบไปก่อนเสียด้วย จนสุดท้าย อาร์เจนติน่า ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยเจอกับ ชิลิ โจทย์เก่า ซึ่งก่อนเกม อาร์เจนติน่า ถือว่าเป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ เพราะทำผลงานได้ดีมากในทัวร์นาเม้นต์นี้

แต่สุดท้าย พวกเขาก็ทำได้เพียงเสมอกับ ชิลี ในเวลาปกติรวมถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ด้วยสกอร์ 0-0 ก่อนที่จะมีการดวลจุดโทษตัดสินและผลปรากฏว่า อาร์เจนติน่า พ่ายการดวลจุดโทษให้กับ ชิลี 2-4 โดย เมสซี่ ยังเป็นผู้สังหารจุดโทษพลาดอีกด้วย จบเกม เขานั่งร้องไห้แบบไม่อายใคร เป็นภาพที่หดหู่หัวใจอย่างยิ่ง สี่ครั้งกับรายการใหญ่ที่เขาได้รองแชมป์ติดกัน ทั้งตัวเองและทีมชาติอีกด้วย

หลังจากนั้นยังโดนโซเชียลถล่มยับ จนเจ้าตัวประกาศอำลาทีมชาติ โดยเขากล่าวว่า “ทีมชาติกับผมมันจบลงแล้ว นี่คือการพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศครั้งที่สี่ ผมคิดว่าผมได้ตัดสินใจไปแล้ว” เมสซี ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม “ผมได้พยายามมามากแล้ว ความรู้สึกของผมตินนี้คือมันเศร้ามาก มันเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมพลาดจุดโทษ ซึ่งมันสำคัญมาก” นี่เป็นประโยคที่ดูก็รู้ว่าเขาเจ็บปวดหัวใจมากแค่ไหน

แต่ล่าสุด ในศึกโคปา อเมริกา 2020 เมสซี่ และ อาร์เจนติน่า ทำได้สำเร็จ เฉือนชนะ บราซิล อริตลอดกาลและคว้าแชมป์ได้ในที่สุด หยุด 4 ทัวร์นาเม้นต์ดับฝันร้ายลงเสียที เรียกว่าแฟนบอลทั่วโลกต่างสรรเสริญเขารวมถึงคนในชาติ ที่จะได้ฉลองแชมป์หลังจากเศร้าโศรกกันอย่างยาวนาน

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *