การที่นักเตะซูเปอร์สตาร์สักคนนึง ย้ายทีม ย่อมมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน วงการฟุตบอลทั้งโลก ต่างให้ความสนใจ รวมถึงนักข่าว พร้อมตีข่าวกันไม่เว้นแต่ละวันและการย้ายทีมของสตาร์ดังรายนั้น ยิ่งเป็นนักเตะเบอร์ต้นๆ สินค้าที่ระลึก ของสโมสรอย่างเช่นเบอร์เสื้อ ก็มีการขายดิขายดีอย่างแน่นอน จนมีคำว่า ขายเสื้อก็คืนทุน เกิดขบึ้ย

แต่จากคำที่ว่า แค่ขายเสื้อก็ของซูเปอร์สตาร์ ก็คืนทุนคืนกำไรแล้ว มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พร้อมจะพาทุกท่านมาทราบกันครับ

ขายเสื้อก็คืนทุน เรื่องจริงหรือขี้โม้

การที่สโมสร จะใช้เงินในการซื้อนักเตะ ส่วนใหญ่มักคิดแล้วคิดอีก ยิ่งกับนักเตะดาวดัง นักเตะที่ได้รับการขนานนาม ว่าเป็นแข้งระดับโลก แน่นอนว่า ราคาย่อมไม่แพงอีกแล้ว แถมสโมสรที่จะอยากจะได้ตัวไปร่วมทีม พวกเขาก็ต้องเป็นทีมใหญ่จริงๆ มีเงินพร้อมจะใช้จ่าย และมีโอกาสที่นักเตะเหล่านั้นจะสนใจย้ายมาร่วมทีม อีกด้วย

นี่คือก็ปัจจัยที่ยกกล่าวมาเบื้องต้นเท่านั้น ทีนี้มาต่อในเรื่องของการใช้เงินซื้อนักเตะของทีม ยกตัวอย่าง สโมสรใหญ่ ที่มีแฟนบอลติดตามกันเนืองแน่น เป็นแฟนพันธุ์แท้ แน่นอนว่ายิ่งเป็นทีมใหญ่ ยิ่งถูกจับตามอง

ทั้งสื่อ กูรู นักวิจารณ์และแฟนบอล ก็ยิ่งให้ความสนใจ และ พร้อมจะมีข่าวสารออกมาให้หาอ่านได้อย่างง่ายดาย เรียกว่า สโมสรจะทำอะไร จัดการเรื่องนักเตะ ไม่ว่าจะเป็น การต่อสัญญา การปล่อยยืม การขายขาด

หรือกระทั่ง กำลังเจรจาดึงตัวใครมาร่วมทีม ก็มีข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งข่าวจริงและข่าวลือ มีเต็มไปหมด แต่เมื่อสโมสรยักษ์ใหญ่ สักทีม ได้ทุ่มงบประมาณมหาศาล ในการคว้าตัวนักเตะมาร่วมทีมสักคน ก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไป ต่างๆ นาๆ

จากทั้งสื่อบางสื่อ และเหล่าแฟนบอล ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลของทีมที่ซื้อมา หรือจะเป็นแฟนบอลคู่อริที่พร้อมทับถมและรอคอยให้ ดีลที่แสนแพงดีลนั้น นักเตะจะโชว์ฟอร์มไม่ออก จะได้ล้อกันต่อ แสดงความคิดเห็นแบบเอามันเข้าว่า ไม่สนใจอะไร

และก็ประโยคเด็ดที่เรียกว่า เมื่อมีนักเตะทีมคู่อริ ซื้อแข้งที่มีราคาแพงหูฉีกมาร่วมทีม ก็ต่างจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้อง … ด้วย ซึ่งก็ไปเติมคำในช่องว่างกันเอาเอง ทีนี้แฟนบอลทีมที่ซื้อนักเตะแพงๆ พวกเขามักจะโต้ตอบ ด้วยประโยคเด็ดที่ว่า แค่ขายเสื้อก็คืนทุนแล้ว

ซึ่ง เราจะตัดประโยคที่ว่า มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ทิ้งไป และ ประโยค ขายเสื้อก็คืนทุน นั่นคือเรื่องจริง หรือเป็นการพูดปลอบใจตัวเอง คำตอบที่ว่านั้นคือ ที่จริงแล้ว หากไม่ใช่สตาร์เบอร์ต้นๆ ของโลกลูกหนังจริงๆ

โอกาสที่จะขายเสื้อจนรายได้ คืนยอดงบ ที่ซิ้อนักเตะรายนั้นมาร่วมทีม หรือจะเลยเถิดไปถึงได้กำไรจนคืนทุน ค่าเหนื่อยในสัญญาทั้งหมดได้นั้น หากเป็นนักเตะที่ไม่ใช่เกรดเอสจริงๆ ถือว่าทำได้ยากอย่างมาก

เพราะนักเตะซูเปอร์สตาร์ นอกจาก ฝีเท้าที่โดดเด่น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รักษามาตรฐานการเล่นได้ตลอดแล้ว บางทีมันก็ต้องมีเรื่องของภาพลักษณ์ ออร่า หน้าตา บุคลิก กันด้วย ที่จะส่งเสริมให้นักเตะเหล่านั้นเป็นซูเปอร์สตาร์

ไอ้เรื่องทุ่มซื้อ สโมสรแต่ละทีมน่าจะคิดดีแล้ว ในการเสริมทัพในจุดที่ต้องการปรับปรุงแก้ไข แต่ก็ใช่ว่า ซื้อมาแพง จะเล่นดี เล่นไม่ดีก็มีถมไป แถมเรื่องขายเสื้อให้ยอดปัง เลิกพูดถึงไปได้เลย

แต่คำว่าขายเสื้อแล้วคืนทุน ไม่มีอะไรที่จะชัดเจนไปกว่า 2 โคตรนักเตะในยุคปัจจุบันอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ออกจากยานแม่ บาร์เซโลน่า มาเล่นให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบไร้ค่าตัว เรียกได้ว่า ดีลนี้ เปแอสเช คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เรื่องสินค้าที่ระลึกและเบอร์เสื้อไม่ต้องห่วง ได้คืนทุนแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม สโมสรนี้ประธานสโมสรรวยอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกังวล ส่วนอีกดีล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ได้สวมหมายเลข 7 กลับมาค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายนี้มีโอกาสคืนทุนอย่างมากและตอนนี้ยอดขายก็พุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ

ซึ่งกล้าพูดได้ว่า ปรากฏการณ์ ขายเสื้อจนได้เงินคืนเท่าทุนหรือมากกว่าที่ทุ่มงบซื้อมา กว่าจะเกิดขึ้นคงอีกนาน เพราะสองแข้งทั้ง เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในโลกนี้ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา แม่เหล็กแห่งความโด่งดัง ดึงดูดให้ ไม่ว่าจะแฟนบอลหรือบุคคลอื่นๆ ต่างมีความสนใจและอยากอุดหนุนเสื้อทีมแข่งที่สกรีนชื่อของสองแข้งรายนี้ทั้งสิ้น

เพราะไม่มีใครคิดว่า วันหนึ่ง เมสซี่ จะย้ายไปสโมสรอื่น นอกจากจะกลับไปบ้านเกิด กับ โรนัลโด้ ที่เอาเข้าจริง ก็เข้าใกล้วัยปลายค้าแข้ง แต่ยังรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างสุดยอด และไม่มีใครคิดเลย ว่า เขาจะกลับมา แมนฯยู อีกครั้ง

เรียกว่า แฟน ปีศาจแดง ฟินน้ำตาแตก แล้วยิ่งมีฐานแฟนคลับเยอะอยู่แล้ว ยอดขายเสื้อก็เลยสูงจนตอนนี้กำไรน่าจะเลยค่าตัวที่ไปคว้าตัว โรนัลโด้ มาแล้ว และที่สำคัญ แม้จะมีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์หลายราย

แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างรู้ดี ว่ายังไม่มีใครเทียบรัศมี สองแข้งนั้นได้ ดังนั้นแม้พวกเขาอาจจะย้ายทีม แต่ยอดของการขายเสื้อคงไม่น่าจะถึงขั้นที่คืนทุนได้ แต่ถามว่า คำว่า ขายเสื้อก็คืนทุนแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้นั้น ทีมงานเชื่อว่า มันก็จริงบางส่วน

ถ้าหากเป็นแข้งที่ดังโคตรๆ ที่การย้ายทีมครั้งนั้น สร้างแรงสะเทือนต่อวงการฟุตบอลจริงๆ ยอดขายอาจจะคืนทุนก็เป็นได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ราคานักฟุตบอลต่างมีราคาที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ยังมีเงื่อนไขอีกหลายอย่าง ที่ทำให้หลายทีมต้องใช้งบที่ดูจะเกินค่าตัวมากเกินไป

แต่ถ้าหากว่า ผู้เล่นเหล่านั้นโชว์ฟอร์มได้เทียบเท่าหรือเหนือกว่า ก็คงไม่มีใครสนใจ ว่าซื้อมาแพงแต่ผลงานแย่ ให้โดนล้อโดนวิจารณ์ แต่ถ้า ซื้อมาแพง แล้วเล่นแย่ แน่นอนว่า แฟนบอลที่ไหนจะซื้อเสื้อที่สกรีนชื่อพ่อหนุ่มคนนั้น เปลืองตังค์เปล่าๆ แล้วถ้าเกิดออกตัวปล่อยวลี แค่ขายเสื้อก็คืนทุนแล้ว ก็แปลว่าพวกเขาก็โม้เหมือนกัน

ดังนั้น มันจึงเป็นการบัฟกันไปกันมามากกว่า ให้อ่านให้ตามให้เพลินๆ แต่ถ้าอยากเดิมพัน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดียวที่ครบวงจร ทั้งฟุตบอล กีฬา เกม คาสิโน มีให้เลือกเดิมพันได้ครบครัน พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง สนใจ เสิร์ชคำว่า Ufabet ใน กูเกิ้ล และสมัครสมาชิกกันได้เลย

Posted in บทความฟุตบอล

กรณีที่นักเตะฝีเท้าดังหลายคน ที่ดังระดับซูเปอร์สตาร์ พวกเขาย่อมใส่ เบอร์เสื้อ ที่ได้รับความนิยมสูง อย่าง เบอร์ 7 เบอร์ 9 เบอร์ 10 เป็นต้น เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมพวกเขาถึงชื่นชอบ หมายเลขเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทีมไหนก็แล้วแต่ ก็จะยังเน้นเบอร์เหล่านั้น ไว้สวมใส่และแฟนบอลก็รู้ได้ว่า นักเตะที่ใส่เบอร์นั้น จะเป็นคนสำคัญของทีมอย่างแน่

โดยวันนี้ วิเคราะห์บอล UFA จะพาเพื่อนๆ มาดูกันว่า เบอร์เสื้อของนักเตะ นั้นมีความสำคัญไฉน ทำไมถึงต้องเลือกใส่เบอร์นั้น

เบอร์เสื้อ มีความสำคัญหรือไม่

นับตั้งแต่ที่มีเบอร์เสื้อกำหนดขึ้น เพื่อแยกว่าผู้เล่นคนนี้เป็นใคร ซึ่งก็มีการลงทะเบียนรายชื่อนักเตะกันอีกด้วย โดยสมัยก่อน เบอร์เสื้อ บ่งบอกแค่ว่า ผู้เล่นคนนี้สวมใส่เบอร์นี้ ชื่อนี้นะ ทำให้แฟนบอลและการพากย์ตามสื่อต่างๆ สามารถดูได้ชัดเจนและระบุชัดเจนว่าใครเป็นใคร

แต่ต่อมากับสโมสรในระดับตำนานที่สร้างประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ผู้เล่นที่ทำผลงานแบกทีม เป็นส่วนสำคัญ ได้รับความชื่นชม นอกจากผู้คนจะจำได้ว่าเขาชื่ออะไร ก็ยังจำได้อีกว่าเขาสวมใส่เบอร์นั้นอีกด้วย

ดังนั้นจึงมีการยึดถือเหมือนกับประเพณีว่า คนที่จะได้สวมใส่เบอร์นี้ จะต้องเป็นแข้งที่มีความสำคัญและคาดว่าจะเป็นยอดแข้งของทีมอย่างแน่

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สืบทอดตำนานเบอร์ 7 อย่างยาวนาน เอายุคไม่เก่าไปมากนัก ก็ เอริค คันโตน่า, เดวิด เบ็คแฮม หรือจะเป็นแข้งเก่าที่ย้ายกลับมาใหม่อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ต่างสวมใส่เบอร์ 7 กันทั้งนั้น

และพวกเขาก็เป็นสตาร์เบอร์หนึ่ง เป็นดาวเตะตัวชูโรงอีกด้วย ซึ่งในช่วงหลัง นอกจากเบอร์สำคัญที่กล่าวมา มันมีเรื่องของธุรกิจและการเสริมสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง เบอร์เสื้อจึงได้รับความนิยมมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ปัจจุบัน ที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้กลับมาสวมใส่เบอร์ 7 อีกครั้ง หลังจาก เอดิสัน คาวานี่ กองหน้าของทีม ใจดีอย่างมาก ที่ยอมมอบหมายเลขอันแสนสำคัญเบอร์นี้ ให้ โรนัลโด้ ได้สวมใส่

โดยตัวเขาเอง โยกไปใส่เบอร์ 21 ที่ แดเนี่ยล เจมส์ ได้ย้ายไปอยู่กับทีมอริตลอดกาลอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด แทน ซึ่งก็เข้ากับกฏของพรีเมียร์ลีกแบบพอดิบพอดี ซึ่งแน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นอกจากจะได้สวมใส่เบอร์ 7 ในตำนานอีกครั้ง พร้อมนำทัพขุนพลปีศาจแดงลุยทุกรายการแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น คำว่า CR7 แค่นี้มันก็เป็นอะไรที่ดึงดูดแฟนฟุตบอลทั่วโลกอยู่แล้ว เชื่อเหลือเกินว่า ขนาดคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องฟุตบอล ก็ย่อมรู้จัก โรนัลโด้ พร้อมกับหมายเลข 7 ดีอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะนำเม็ดเงินมหาศาลมาสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แน่นอน

โดยปัจจุบัน เสื้อเบอร์ 7 ของโรนัลโด้ ภายใต้ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เรียกได้ว่าอีกไม่นานคงได้กำไรเกินค่าตัวค่าเหนื่อยที่ แมนฯยู เซ็น โรนัลโด้ คืนบ้านเก่าอีกครั้งเป็นแน่

แถมตัว โรนัลโด้ เอง ที่เป็นแบรนด์อัมบัสเดอร์ให้กับหลายผลิตภัณฑ์ รวมถึงธุรกิจและลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ของตนเอง ก็ยังได้รับผลประโยชน์ต่อไป เพราะถ้าหาก เจ้าตัวได้ใส่หมายเลขอื่น แม้เสื้อของเขาน่าจะขายได้หมดเช่นเคย แต่เชื่อว่าจะมีผลกระทบตามมาไม่น้อยทั้งเรื่องแบรนด์และเรื่องอื่นๆ อย่างแน่นอน

ดีไม่ดี ในสัญญาที่เซ็นร่วมทัพ ปีศาจแดง อาจมีเงื่อนไขว่า ต้องได้ใส่เบอร์ 7 เท่านั้นด้วย อย่าลืมว่า โลกของเราเปลี่ยนไปทุกวัน สโมสรทุกสโมสร ต่างเจอผลกระทบหนักหน่วงในเรื่องการเงิน และยิ่งโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีกับสโมสรและตัวนักเตะเองด้วย

ขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกประสบปัญหา แต่ตลาดการซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ แต่ละสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก กลับใช้เงินกันสะพัด สวนกระแสกันไปเลย ดังนั้น ทุกอย่างที่เป็นผลประโยชน์ ช่องทางที่จะได้กำไรแบบใสสะอาดไม่มีนอกไม่มีใน ย่อมเป็นผลดียิ่งกับสโมสรเองอยู่แล้ว

ทุกทีมก็เช่นกัน ยิ่งเบอร์เสื้อเบอร์สำคัญ มีผลอย่างมากภาพลักษณ์และการจะได้รับรายได้จากสินค้าที่ระลึกอีกด้วย ดังนั้น เบอร์เสื้อ ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญทั้งตัวนักฟุตบอลและกับสโมสร ทั้งในเรื่องของเบอร์นี้ จะเป็นผู้เล่นเบอร์หนึ่งของตำแหน่งนี้ และเบอร์นี้เป็นเบอร์ประจำของนักเตะรายนี้

ยิ่งมีชื่อเสียง โอกาสที่สโมสรจะได้รับรายได้จากของที่ระลึก รวมถึงกิจกรรม โฆษณา รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริษัทต่างๆ จะเข้ามาให้การสนับสนุนด้วย ก็มีโอกาสอย่างสูง แม้ว่าภายหลัง ความคลาสสิคจะหายไปบ้าง เพราะการที่สโมสรและวงการฟุตบอลทั่วโลก ต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้นทุกปี

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ 1, 4, 7, 8, 9 และ 10 หรือเบอร์สำคัญเบอร์อื่น สำหรับคอแฟนบอล ก็ย่อมรู้ดีว่าเบอร์นั้นมีความหมายมากเพียงใดและจะยังคงเป็นเหมือนวัฒนธรรมและประเพณีที่จะคงอยู่ในโลกของฟุตบอลไปตลอดกาล

Posted in บทความฟุตบอล

ชุดกีฬาฟุตบอล คือชุดที่บ่งบอกว่า ทีมไหนเป็นทีมไหน ทำให้ไม่สับสน สำหรับคู่แข่ง กรรมการ และแฟนบอล ทำให้สังเกตุได้โดยง่าย และสะดวกในการลงเล่น รวมถึง การถ่ายทอดสด อีกด้วย ยิ่งกับทีม ที่มีสีประจำสโมสร ที่เหมือนกัน ก็ทำให้ ไม่สามารถใช้ชุดแข่ง ที่สีเหมือนกัน ในการลงสนามได้ ดังนั้นจึงต้องมี ชุดเยือน เกิดขึ้น

ซึ่งมันสำคัญอย่างไร วิเคราะห์บอล UFA พาไปรู้พร้อมกันครับ

ความจำเป็นของ ชุดเยือน

ชุดเยือน ก็ความหมายตรงตามตัว คือชุดกีฬาฟุตบอล ในการออกไปเยือนทีมคู่แข่ง ซึ่งในสมัยปัจจุบัน ชุดเยือนมีหลากหลายสี ซึ่งบางที ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับสีของสโมสร ที่ใช้ประจำ แต่อย่างใด

โดยมีการดีไซน์ อันเป็นเอกลักษณ์ และสวยงาม ที่แตกต่างกับ ชุดเหย้าพอสมควร ชุดเยือนต้องใส่ ในเวลาออกไปเยือน หรือถ้าบางที ชุดเยือนทีมไหน ดันไปสีคล้ายคลึงกับสีชุดกีฬาทีมเหย้า ของทีมคู่แข่ง ก็ต้องเปลี่ยนมาใส่ ชุดทีมเหย้า หรือชุดแข่ง ชุดที่สามแทน

แต่ส่วนมาก ในวงการฟุตบอลปัจจุบัน ด้วยความทันสมัย และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปมากขึ้น ชุดทีมเยือน จึงไม่ได้ค่อยได้เปลี่ยนแปลงนัก ในการออกไปเยือนนั่นเอง

ซึ่งประโยชน์ของชุดเยือน ก็ทำให้จำแนกสีชุด ของทั้งสองทีม ได้ง่ายขึ้น ว่าทีมไหนเป็นทีมไหน สามารถดูได้ว่า สีนี้เป็นของทีมเหย้า สีนี้เป็นของทีมเยือน มีประโยชน์อย่างมาก สำหรับแฟนบอลในการรับชมในสนาม และ ที่รับชมผ่านทางสื่อ โทรทัศน์ หรือ สื่อต่างๆ นั่นเอง ทำให้จำแนกโดยง่าย

ที่สำคัญ ยังทำให้นักฟุตบอล ไม่เกิดความสับสนอีกด้วย ไม่อย่างนั้น ลองนึกภาพตามว่า ทั้งสองทีม ที่ฟาดแข้งกันในสนาม ใส่ชุดสีเดียวกัน คงงงเป็นไก่ตาแตก เล่นฟุตบอล แทบไม่ถูกเป็นแน่ นี่จึงคือที่มา ของการมีชุดเยือน นั่นเอง

ต่อมา ปัจจุบัน ชุดทีมเยือน ได้รับความนิยม และพยายาม ทำให้มีความสำคัญ มากขึ้น สังเกตุได้จาก วงการฟุตบอลสมัยก่อน ชุดเยือน ไม่ค่อยได้รับความนิยม ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์อะไรให้น่าสนใจ จับจองเป็นเจ้าของ หรือให้แฟนบอล เกิดอยากซื้อมาสวมใส่

เพราะมีการออกแบบ เหมือนขอไปที ให้มันผ่าน ให้มันมีออกมาก็แค่นั้น แต่ลองดูเดี๋ยวนี้ ชุดเยือนแต่ละทีม น่าซื้อสะสมมาสวมใส่ อย่างมาก เพราะมีการออกแบบที่ทันสมัย สวยงามมากเหลือเกิน

บางทีม ชุดเยือนสวยกว่าชุดเหย้า เสียอีก ดังนั้น ไม่ว่าจะชุดเหย้า หริอชุดเยือน ในทุกวันนี้ ความสวยงาม มีไม่ต่างกันเลยทีเดียว ขนาดบางทีม ที่สีเสื้อทีมเยือน แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้อง กับสีของสโมสรก็ตาม แต่ก็ดีไซน์ และออกแบบที่ไม่ดูขี้เหร่เลย แม้แต่น้อย

อีกทั้งบางทีม ใส่เสื้อทีมเยือน มีผลงานการออกไปเยือน ดีกว่าการเล่นในบ้านเสียด้วยซ้ำ แต่บางทีมยามออกไปเยือน ก็มีผลงานไม่ค่อยดี ซึ่งก็มีการพูดถึ งสีเสื้อทีมเยือนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น่าจะเกิดปัจจัยจากสิ่งอื่นๆ มากกว่า

สำหรับ ชุดเยือน ก็มีการพัฒนาและออกแบบชุดใหม่แทบทุกปี ของแต่ละสโมสร โดยแต่ละทีมก็มีความสวย และความน่าสนใจ แตกต่างกันออกไป มีการพยายามปรับปรุงออกแบบ ให้มันโดดเด่น น่าสวมใส่มากขึ้นทุกปี

โดยเฉพาะยิ่งปัจจุบัน แต่ละทีมก็ต้องการเงิน เข้าสู่สโมสรให้มากขึ้น ดังนั้นทั้งแบรนด์ ที่รับหน้าที่ผลิต เสื้อกีฬาฟุตบอล ก็ต่างเค้นไอเดีย เพื่อออกแบบ ชุดกีฬาให้ดีที่สุด สวยงามมากที่สุด เพื่อหวังให้ยอดขาย สูงขึ้นไป เป็นที่นิยมมากกว่าเจ้าอื่น

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ตรงตัวที่สุด ก็คือชุดนี้ เป็นการใส่ของทีม ที่ต้องออกไปเล่นในเกมเยือน นั่นเอง ซึ่งนี่น่า จะเป็นคำตอบ ของคำถามที่ว่า ทำไม ต้องมีชุดเยือน

สุดท้ายแล้ว อยากขอความเห็น ทุกท่านว่า ชุดเยือนทีมไหน สวยมากที่สุด หรือมีความน่าสนใจ มากที่สุด ลองแสดงความคิดเห็นกัน มาได้ครับ

วันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ขอลาเพื่อนๆ ไปก่อน แล้วอย่าลืมติดตาม บทความฟุตบอล ใหม่ๆ ได้ทุกวัน ที่ Ufa.soccer เป็นประจำทุกวัน เช่นเคย

Posted in บทความฟุตบอล

ในโลกของวงการฟุตบอลในปัจจุบัน สิ่งที่ขับเคลื่อนนอกจากผลงานในสนามที่เป็นคำตอบสำหรับคำถามทุกอย่างแล้วนั้น เม็ดเงินในการลงทุน คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญมากที่สุดของสโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้สโมสรก้าวไปข้างหน้า ยิ่งกับสโมสรที่ได้รับความนิยม มีเกียรติประวัติและชื่อเสียง ยิ่งทำให้การลงทุนมีมากขึ้นไปด้วยและยิ่งมีสปอนเซอร์หรือผู้สนับสนุนต่างๆ เข้ามาสนับสนุนสโมสรอย่างแน่นหนา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของพวกเขา ขึ้นอยู่บนจอถ่ายทอดสดของสโมสรต่างๆ โดยสิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือสปอนเซอร์ที่ติดตรงชุดแข่งนั่นเองวันนี้ทีมงาน ufa.soccer จะเผยข้อมูลกันว่า 10 อันดับสโมสรแห่งไหน ที่ได้รับสัญญาจาก สปอนเซอร์ชุดแข่ง แพงที่สุดในวงการฟุตบอล

สปอนเซอร์ชุดแข่ง ต่อปี ที่แพงที่สุดในปัจจุบัน

10. ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์

สโมสรย่านลอนดอนเหนือ ที่สถาปนาตัวเองจนได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากทั่วโลก แม้พวกเขาจะไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ใดๆ ตั้งแต่ปีค.ส. 2007 แต่สโมสรแห่งนี้ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกปี ซึ่งสปอนเซอร์ชุดแข่งของพวกเขา บริษัท เอไอเอ บริษัท ประกันภัยและการเงินข้ามชาติ สัญชาติ ฮ่องกง ที่ใหญ่ที่สุดใน เอเชียแปซิฟิก ได้เข้ามาสนับสนุนและเซ็นสัญญากันตั้งแต่ ปี ค.ส 2013 โดยให้งบสนับสนุน 25 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งสัญญาจะหมดหลังจากจบฤดูกาลนี้ ซึ่งยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าจะมีการต่อสัญญากันหรือไม่

9. อาร์เซน่อล

อีกหนึ่งสโมสรย่านลอนดอนเหนือ ที่เคยครองความยิ่งใหญ่เมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน แต่ทุกวันนี้ก็ตามที่เห็นกัน แต่ด้วยความที่ยังกินบุญเก่า ทำให้มีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสปอนเซอร์คาดอก สายการบิน เอมิเรตส์ สายการบินประจำชาติของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้ามาสนับสนุนสโมสรอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี ค.ส. 2004 จนได้เซ็นสัญญาเพิ่มในการเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกอย่างเป็นทางการในปี ค.ส. 2006 ยาวนานจนถึงปัจจุบัน โดยให้งบสนับสนุนทีมปีละ 26 ล้านปอนด์ อีกทั้ง เอมิเรตส์ ยังเซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ชื่อสนามรังเหย้าของ อาร์เซน่อล อีกด้วย

8. ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล สโมสรชื่อดัง ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทีมที่มีเกียรติประวัติมากมาย หรือ จะเรียกว่าเป็นทีมเบอร์ต้นๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษก็ว่าได้ พวกเขาได้เซ็นสัญญาสปอนเซอร์คาดอกกับ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด บริษัท ธนาคารและผู้ให้บริการทางด้านการเงิน บริษัทที่มีมีถิ่นฐานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเซ็นสัญญากันตั้งแต่ปี ค.ส. 2010 อยู่โยงยาวนานแน่นแฟ้น โดยสัญญาเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยทาง สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ให้เงินทุนสนับสนุนในปีนี้เป็น 28 ล้านปอนด์

7. บาเยิร์น มิวนิค

บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย ทีมที่ครองลีกบุนเดสลีกา เยอรมัน อย่างยาวนาน โดยพวกเขามีสปอนเซอร์คาดหน้าอกคือ T-Mobile แบรนด์เครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ เยอรมัน ที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่ปี ค.ส. 2010 ยันปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นสปอนเซอร์คาดอกกันอยู่ และ ดูเหมือนว่า T-Mobile จะยังเป็นพันธมิตรที่ดีกับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค กันต่อไป

6. แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แม้จะมีข้อกังขาและประเด็นหลายอย่าง แต่เราขอข้ามตรงนั้นไป สปอนเซอร์คาดหน้าอกของ แมนฯ ซิตี้ ทีมที่สถาปนาตัวเองจนเป็นทีมชั้นนำของลีกในปัจจุบัน มีสปอนเซอร์คาดอกเป็น สายการบิน เอติฮัด แอร์ไลน์ โดยสโมสรได้รับเงินสนับสนุนปีละถึง 39 ล้านปอนด์ต่อปี และ ดูเหมือนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ สายการบิน เอติฮัด จะยังคงเป็นพันธมิตรกันอย่างยาวนาน ตราบใดที่เจ้าของสโมสรยังเป็น ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน

5. เชลซี

เชลซี สโมสรหนึ่งสโมสรที่พลิกวงการทุ่มซื้อนักเตะมายันปัจจุบัน เจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ได้เซ็นสัญญากับ 3 หรือ Three เป็นแบรนด์เครือข่ายโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในฮ่องกง, มาเก๊า, ออสเตรีย, เดนมาร์ก, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, สวีเดนและสหราชอาณาจักร โดยได้เซ็นสัญญาให้ทุ่มสนับสนุนสโมสรปีละถึง 40 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว

4. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ยอดทีมจากแดนน้ำหอม ของ ลีกเอิง ฝรั่งเศส สโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้มี แอคคอร์ บริษัท รับของโรงแรมและรีสอร์ทเจ้าใหญ่ของประเทศ ฝรั่งเศส เข้ามาเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกชุดฟุตบอลให้กับ เปแอสเช โดยให้เงินสนับสนุน ปีละ 46 ล้านปอนด์ต่อปี เพื่อต่อยอดสนับสนุนให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พร้อมก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงทำให้แบรดน์ แอคคอร์ เองเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นในระดับโลก

2. บาร์เซโลน่า

โคตรทีมแห่งแดนกระทิงดุ บาร์เซโลน่า ที่ดึงดูดชื่อเสียงให้กับสปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่เข้ามาสนับสนุน ในส่วนของสปอนเซอร์คาดอก เป็น ราคุเทน บริษัท การค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการค้าปลีกออนไลน์ของประเทศ ญี่ปุ่น เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกเสื้อสีน้ำเงินสลับเลือดหมู ตั้งแต่ปี 2017 ด้วยเงินสนับสนุนให้กับสโมสรปีละ 47 ล้านปอนด์

2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อันดับ 2 ร่วม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 20 สมัย เพิ่งเซ็นสัญญากับ ทีมวิลเวอร์ บริษัท เทคโนโลยีระดับโลกทั้งวงการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก้าวมาเป็นสปอนเซอร์คาดอกของชุดแข่งตั้งแต่ฤดูกาล 2021 เป็นต้นไป โดยได้รับเงินสนับสนุนต่อปี ถึงปีละ 47 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

1. เรอัล มาดริด

ไม่มีใครกังขากับอันดับ 1 อย่าง เรอัล มาดริด ยอดทีมเมืองหลวงของประเทศสเปน แห่งศึกลาลีกา พวกเขายังเป็นทีมที่ร่ำรวยและมีสปอนเซอร์ต่างรุมล้อมที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์กับสโมสร เพราะเกียรติประวัติที่สั่งสมมานานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดย เอมิเรตส์ หรือสายการบินประจำชาติของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รับหน้าที่เป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอก โดยให้เงินสนับสนุนทีมชุดขาว ถึงปีละ 60 ล้านปอนด์ เรียกว่ายืนหนึ่งโดยทิ้งห่างอันดับที่ 2 ถึง 13 ล้านปอนด์

Posted in บทความฟุตบอล

ต่อจากบทความชุดฟุตบอลในบทความก่อน วันนี้มาดูกันว่า มี แบรนด์ชุดแข่ง กีฬาระดับโลก แบรนด์ไหนได้ ที่ได้รับความนิยมจวบจนปัจจุบัน

โดยทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง 4 แบรนด์ดังในโลกฟุตบอลปัจจุบัน ว่ามีอะไรกันบ้าง มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไมแบรนด์เหล่านั้นถึงได้รับความนิยมจวบจนปัจจุบัน

แบรนด์ชุดแข่ง ระดับชั้นนำ มีอะไรบ้าง

แต่ละแบรนด์ชุดแข่งขันฟุตบอลและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ล้วนมีเอกลักษณ์ ดีไซน์ ในแบบฉบับของตัวเองที่โดดเด่น แตกต่างกันออกไป โดยเราคัดมาเน้นๆ 4 แบรนด์ ดังนี้

พูม่า

ปัจจุบัน พูม่า ออกแบบเซ็นสัญญาให้กับ 5 สโมสรดัง นำโดย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โคตรทีมแชมป์ลีกสมัยล่าสุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน ทีมอดีตเคยดังจาก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน, “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย ทีมดังจากลาลีกา สเปน

และปิดท้ายกับ “โอเอ็ม” โอลิมปิก มาร์กเซย สโมสรจากลีก เอิง ฝรั่งเศส เป็นต้น ส่วนในนามทีมชาติก็จะมี ประเทศอิตาลี, ประเทศแคเมอรูน, ประเทศชิลี, สาธารณรัฐเช็ก และ ฟิลิปปินส์ ประเทศโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้กับบ้านเรา

โดยรวมแล้ว พูม่า เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ โลโก้เป็นรูปเสือภูเขา โดยมีต้นกำเนิดในปี ค.ส. 1924 จาก สองพี่น้องตระกูลแดสส์เลอร์ อาดิ แดสส์เลอร์ และน้องชาย รูดอล์ฟ แดสส์เลอร์ ในนามของบริษัทอาดิดาสนั่นเอง

ต่อมาเมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว รูดอล์ฟ ดาสส์เลอร์ ตัดสินใจแยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่เอง โดยใช้ชื่อบริษัท พูมาอาเกรูดอล์ฟดาสส์เลอร์สปอร์ต ออกแบบชุดกีฬา อุปกรณ์กีฬาและผลิตรองเท้าต่างๆ รวมถึงสตั๊ด โดยเริ่มมีชื่อเสียงตั้งแต่ก่อตั้ง ตั้งแต่อยู่ที่ประเทศเยอรมัน

ต่อมาได้เพิ่มในการผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ จนได้รับความนิยมไกลไปถึง สหรัฐอเมริกา ในช่วงปีค.ส. 1970 และได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งวงการแฟชั่นและวงการฟุตบอล ต่างเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก รวมถึงมีแบรนด์อัมบัสเดอร์ในวงการฟุตบอลหลายราย อาธิ เช่น เนย์มาร์ นักวิ่งระดับโลกอย่าง ยูเซน โบลต์ หรือจะศิลปินเกาหลีที่โด่งดังระดับโลกอย่าง วง BTS

ปัจจุบันแบรนด์พูม่า เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงและได้รับการยอมรับในผลิตภัณฑ์เสมอมา

ไนกี้

ไนกี้ (เทพปกรณัม) โลโก้รูปปีก หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเบอร์ต้นของโลก ณ ปัจจุบัน กับ ไนกี้ โดยมีจุดเรื่มต้นจาก บิลล์ บาวเวอร์แมน และ ฟิล ไนต์ ที่สหรัฐอเมริกา โดยพวกเขาผ่านอะไรต่ออะไรมาหลายอย่าง ในการปรับปรุงคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักกีฬา

โดย ไนกี้ ครอบคลุมวงการกีฬาหลากหลายชนิด ทั้ง ฟุตบอล บาสเก็ตบอล กอล์ฟ กีฬาวิ่ง เป็นต้น อีกทั้งเป็นแบรนด์ผลิตกีฬารายแรกๆ ที่ตัดสินใจลงทุนทำโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ โดย ไนกี้ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วทั้งใน อเมริกา และลามไปทั่วโลก เป็นหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดทั้งในวงการกีฬาและวงการแฟชั่น

ในส่วนของวงการฟุตบอล ไนกี้ รับหน้าที่เป็นผู้ผลิตและออกแบบชุดแข่งขันฟุตบอลให้กับสโมสรดังระดับโลก เช่น “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากลีกเอิง ฝรั่งเศส, “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ยอดสโมสรจากลาลีกา สเปน, “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรระดับตำนานและ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ยอดทีมย่านลอนดอน จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน โคตรทีมจาก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี สโมสรจากไทยลีก เป็นต้น

ส่วนในนามทีมชาติก็จะมี สหรัฐอเมริกา, ทีมชาติโปรตุเกส, ทีมชาติอังกฤษ, ทีมชาติบราซิล, ทีมชาติฝรั่งเศส และ ทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นต้น ในส่วนของแบรนด์อัมบัสเดอร์ แบรนด์ไนกี้ มีความหลากหลายอย่างมาก แทบจะครอบคลุมทุกวงการ บ่งบอกได้ดีว่าแบรนด์ของพวกเขาได้รับความนิยมมากขนาดไหน

โดยตัวชูโรงของวงการฟุตบอล ก็มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดแข้งที่ดีที่สุดของโลกในปัจจุบัน ตามมาด้วย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช โคตรกองหน้าสายดุดัน วงการกอล์ฟ ไทเกอร์ วูดส์ ตำนานที่ยังมีลมหายใจในวงการกอล์ฟ

กีฬาเทสนิส นำโดย ราฟาเอล นาดาล และ มาเรีย ชาราโปว่า รวมไปถึง แมนนี ปาเกียว ตำนานนักชกชาวฟิลิปปินส์ หรือตำนานวงการบาสเก็ตบอลที่ ไมเคิ่ล จอร์แดน ปัจจุบัน ไนกี้ ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย

อาดิดาส

โคตรแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอีกหนึงแบรนด์ โดยมีต้นกำเนิดจากประเทศเยอรมัน ก่อตั้งโดย อดอล์ฟ ดาสลาร์ ก่อนที่พี่ชาย รูดอล์ฟ แดสส์เลอร์ จะเข้ามาร่วมงานด้วย แต่หลังจากนั้น รูดอล์ฟ ได้ตัดสินใจแยกไปก่อตั้งแบรนด์พูม่า

โดยจุดเริ่มต้นคือการผลิตรองเท้ากีฬาในรูปแบบของเขาเอง ก่อนที่จะพัฒนาและเริ่มออกแบบผลิตภัณฑ์หลายอย่างเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดย อาดิดาส สัญลักษณ์แบรนด์ เป็นแถบสามขีด ซึ่งตอนแรกเพียงแค่ออกแบบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กีฬา

แต่ต่อมาได้เริ่มพัฒนาต่อยอดไปจนถึงการออกแบบเสื้อผ้าลำลอง เสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก ถึงขั้นได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งแบรนด์ อาดิดาส มีความโดดเด่นในเรื่องของแฟชั่น นำความคลาสสิคของยุคก่อนและยุคปัจจุบันนำมารวมกันได้อย่างลงตัว

สำหรับวงการฟุตบอล อาดิดาส ได้เซ็นสัญญาออกแบบชุดแข่งขันฟุตบอล ให้สโมสรชั้นนำมากมาย เช่น “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค โคตรทีมแห่งบุนเดสลีกา เยอรมัน, “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมเมืองหลวงแห่งลาลีกา สเปน, “ม้าลาย” ยูเวนตุส เจ้าของแชมป์ลีกมากที่สุดของกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นต้น

ในส่วนของทีมชาติ อาดิดาส ออกแบบชุดฟุตบอลให้กับ ทีมชาติอาร์เจนติน่า, ทีมชาติเยอรมัน, ทีมชาติสเปน และ ทีมชาติญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ อาดิดาส ได้เซ็นสัญญาจ้างแบรนด์อัมบัสเดอร์ให้กับ นักกีฬาหลายราย หลายวงการ

นำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ยอดแข้งต่างดาวหนึ่งในแข้งที่ดีที่สุดตลอดกาล มานูเอล นอยเออร์ นายทวารจอมหนีบชาวเยอรมัน และ ปอล ป็อกบา กองกลางแชมป์โลกปี 2018 รวมถึง เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือเฮฟวี่เมทัล ที่ปัจจุบันคุมทีมให้กับ ลิเวอร์พูล

นอกจากนี้ยังเคยจ้าง จัสติน บีเบอร์ เป็นแบรนด์อัมบัสเดอร์อีกด้วย ปัจจุบัน อาดิดาส ยังได้รับความนิยมแบบไม่มีแผ่ว แม้ยอดขายโดยรวมยังเป็นรอง ไนกี้ อยู่บ้าง แต่หากนับกันตรงๆ แล้ว พวกเขาก็ถือเป็นสองแบรนด์ที่ตีคู่กันมาตลอดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

นิว บาลานซ์

นิวบาลานซ์ สัญลักษณ์ อักษร NB เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬาที่ก่อตั้งโดย วิลเลียม เจ. ไรลีย์ เมื่อปี ค.ส. 1906 ที่ สหรัฐอเมริกา โดยช่วงแรก นิวบาลานซ์ เน้นผลิตภัณฑ์รองเท้า โดยออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสะดวกสบายสมกับชื่อแบรนด์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา

ต่อได้ขยายตลาดและออกแบบผลิตภัณกีฬาหลายอย่าง จนมาถึงวงการฟุตบอล นิวบาลานซ์ได้เน้นย้ำไปที่การพัฒนาสรรค์สร้างชุดกีฬาฟุตบอลให้มีความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ซึ่งเคยสัญญาออกแบบชุดแข่งขันฟุตบอลให้กับ สโมสรลิเวอร์พูล

โดยคลาสสิคที่สุด ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จหลังจากรอคอยมานาน 30 ปี ซึ่งปีที่ได้แชมป์นั้น เป็นการใช้ชุดแข่งของ นิวบาลานซ์ เป็นฤดูกาลสุดท้ายพอดี

ปัจจุบัน นิวบาลานซ์ ออกแบบชุดกีฬาฟุตบอลให้กับ สโมสรปอร์โต้ ยอดทีมจากโปรตุเกส, แอธเลติก บิลเบา สโมสรจากลาลีกา สเปน, โรม่า ทีมดังจากกัลโช่ เซเรีย อา, ลีลล์ ทีมแชมป์ลีกเอิง สมัยล่าสุด รวมถึง2 สโมสรในเจลีก นำโดย ซางัน โทสุ และ เอฟซี โตเกียว

ส่วนทีมชาติ ก็มี ทีมชาติปานามา และ คอสตาริก้า ส่วนใหญ่ นิวบาลานซ์ จะได้รับความนิยมในเรื่องของรองเท้าลำลองและรองเท้าวิ่ง อย่างไรก็ตาม แบรนด์นี้ถือว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและพร้อมที่จะก้าวไปสู่จุดที่ดีขึ้น เติบโตขึ้นทุกปี ด้วยดีไซน์ที่สวยงามคาดว่า

ในอนาคตแบรนด์นี้จะได้รับความไว้วางใจจากสโมสรชั้นนำในวงการฟุตบอล และ วงการกีฬาทั่วโลกอย่างแน่นอน

Posted in บทความฟุตบอล

ช่วงเวลาซัมเมอร์ หรือ ช่วงปิดฤดูกาล เป็นช่วงเวลาพักผ่อน ของนักเตะ เป็นช่วงเวลาที่ แต่ละสโมสร มีการจัดการต่างๆ ในเรื่องขององค์กร การประชุมทีม สรุปผลประกอบการ และมีการเจรจา ต่อสัญญานักเตะ เจรจาซื้อ-ขาย นักเตะ รวมถึงเรื่อง สปอนเซอร์ต่างๆ แต่ส่วนที่น่าติดตาม ไม่แพ้กัน นั่นคือ ชุดแข่งฟุตบอล

โดยชุดแข่งฟุตบอล ในปัจจุบัน ก็เป็นเรื่องที่ เหล่าบรรดาแฟนบอล ต่างให้ความสนใจกันมากขึ้น ว่าชุดฟุตบอลฤดูกาลใหม่ ทีมไหนจะออกแบบได้สวยงาม น่าสะสม วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพามา ขยายความเรื่อง ชุดแข่งขันฟุตบอล กันครับ

ชุดแข่งฟุตบอล ความหมาย

ชุดแข่งฟุตบอล หรือ เสื้อบอล เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ วงการฟุตบอล มานาน อันดับแรก เพื่อบ่งบอกให้ว่า นี่คือทีมอะไร สโมสรอะไร ใช้ชุดแข่งขันสีอะไร ซึ่งก็ได้รับพัฒนาต่อยอด มาจนปัจจุบัน ซึ่งก็มีทั้งนักสะสม และให้ซื้อเก็บกันทั้งฤดูกาล

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายต่อหลายสโมสร มีการเปลี่ยนแบบเสื้อ เพื่อการแข่งขัน ในฤดูกาลใหม่ แทบทุกฤดูกาล โดยทุกครั้ง ก็จะได้รับการสนใจ ว่าเสื้อลายใหม่ จะมีความสวยงาม มากน้อยเพียงใด

บางสโมสรก็หมดสัญญา กับแบรนด์ผลิตเสื้อเจ้าเก่า เปลี่ยนมาเป็นเจ้าใหม่ ก็ยิ่งน่าติดตามกันมากขึ้นไปอีก ว่าจะมีการออกแบบกันอย่างไร หลายทีมในระดับสโมสร หรือทีมชาติ จะมีการทำเสื้อรุ่นพิเศษ ออกแบบในช่วงเวลาสำคัญ การครบรอบปีของสโมสร ครบรอบการก่อตั้งสโมสร หรือทีมชาติ ก็ยิ่งน่าเก็บน่าสะสม มากขึ้นไปอีก

ยิ่งเสื้อปีเก่าๆ หรือเสื้อฟุตบอลลายสวยๆ รวมถึงเสื้อฟุตบอล ลายที่ทีมชาติ หรือสโมสรนั้นๆ ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์อย่างมาก ยิ่งมีราคาสูง ตามวันเวลานั้นๆ ยิ่งเก่ายิ่งดี ยิ่งมีความหมายยิ่งดี ยิ่งคลาสสิคยิ่งดีนั่นเอง

โดยเสื้อฟุตบอล ได้รับการพัฒนาคุณภาพ กันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการผลิต วัสดุผลิตภัณฑ์ ที่ทำให้นักฟุตบอล สวมใส่สบาย และคล่องตัวมากที่สุด อย่างช่วงยุคก่อน เสื้อฟุตบอลมีขนาดใหญ่จนเกินตัวไปบ้าง

แต่ปัจจุบันชุดแข่งฟุตบอล มีความฟิตเข้ารูปมากยิ่งขึ้น ส่วนนึงนอกจาก ทำให้นักเตะใส่สบายไม่อึดอัด ยังป้อนกันอันตราย จากการถูกทำฟาวล์ ด้วยการดึงเสื้ออีกด้วย ในส่วนของดีไซน์ มีการออกแบบกันแทบทุกปี

สำหรับเสื้อฟุตบอล มีทั้งสวยงาม น่าเก็บสะสม เป็นกระแสฮือฮา เสื้อบางรุ่นเรียกว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่วนบางรายก็ออกแบบได้ย่ำแย่ จนถึงขั้นมีการจัดอันดับชุดแข่งฟุตบอล ที่ย่ำแย่ที่สุดกันเลยทีเดียว

อีกทั้งบางสโมสร ก็มีการออกแบบชุดฟุตบอล ได้แบบเรียกเสียงฮา และน่าสงสารสำหรับนักเตะ ที่ต้องใส่ชุดฟุตบอล ที่ออกแบบได้อย่างน่าขำขัน ส่วนสโมสรใหญ่ ก็มีการออกแบบกัน อย่างปรานีตเต็มที่ เพื่อดึงดูดให้แฟนบอล ที่ติดตามทั้งท้องถิ่น และทั่วโลก จับจองเป็นเจ้าของ

ซึ่งเสื้อฟุตบอล สำหรับสโมสรใหญ่ๆ ก็ได้รับความนิยมกันอย่างมากอยู่แล้ว อยู่ในกระแสและมีการพูดถึง ว่าชุดฟุตบอลปีนี้ เป็นอย่างไร มีการวิจารณ์ และได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง

โดยทุกๆ ปีสโมสร และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ที่สโมสรได้เซ็นสัญญากันไว้ จะมีการคิดออกแบบกัน อย่างหนักหน่วง รวมถึงมีการดีไซน์ และออกแบบให้ ชุดกีฬาฟุตบอล มีความทันสมัย และสวยงามมากที่สุด เพื่อดึงดูดให้แฟนบอล และคนที่สนใจทางด้านแฟชั่น ได้ซื้อมาสวมใส่

เห็นได้ชัดจากแฟชั่นในปัจจุบัน ที่ไม่มีความตายตัว ทุกคนสามารถจับทุกอย่าง มามัดรวมใส่กันได้ ทุกวันนี้ เราจะเห็นคนใส่ชุดกีฬา และชุดฟุตบอล ในทุกโอกาสมากยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้ชุดแข่งฟุตบอล ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ด้วยการดีไซน์ที่สวยงามในปัจจุบัน ที่สโมสรยักษ์ใหญ่ หรือ สโมสรในประเทศไทย ต่างปรับปรุง และพัฒนาให้ชุดแข่งของทีมตัวเอง ออกแบบมาให้ดีที่สุด

ดังนั้นทุกปี ความนิยมของชุดฟุตบอล การพูดถึง และการลุ้นรอชุดฟุตบอล ที่จะออกแบบมาใหม่ เพื่อที่จะให้นักเตะ สวมใส่ในฤดูกาลถัดไป ถูกพูดถึงเสมอ บางครั้งยังไม่ทันจบฤดูกาลเก่า ก็มีภาพหลุด เกี่ยวกับชุดฟุตบอล ออกมาให้เห็นกันแล้ว

ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร ชุดแข่งฟุตบอล จะได้รับความนิยมต่อไปไม่รู้จบ และพร้อมจะเป็นสีสัน ของโลกฟุตบอล ต่อไปตลอดกาล

จบกันไปอีกหนึ่งบทความ สำหรับที่พวกเรา นำมาฝากเพื่อนๆ หากทุกท่าน ไม่อยากพลาด บทความฟุตบอลดีๆ จากพวกเรา ขอให้ติดตามเว็บไซต์ ufa.soccer ไว้ด้วย สำหรับ

Posted in บทความฟุตบอล

ล่าสุด สมาคมฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ออกกฏใหม่ โดยสั่งห้ามทุกทีม ใส่ ชุดแข่งสีเขียว ลงสนาม โดย จะมีผล บังคับใช้ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23 เป็นต้นไป ฤดูกาลถัดไป จากฤดูกาลปัจจุบัน ที่จะถึงนี้ โดยทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะมา อธิบาย ให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจกันว่า ทำไม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ถึง แบนชุดสีเขียว ในฤดูกาลหน้า นั้นมีสาเหตุ มาจากอะไร

ทำไม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ถึง แบนชุดสีเขียว ในฤดูกาลหน้า

สมาคมฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ได้ออกกฏใหม่ ประกาศห้าม สโมสรทุกสโมสร ใช้ชุดแข่งสีเขียว ในการลงแข่งขัน รวมถึง ถุงเท้ าและกางเกง อีกด้วย ซึ่งหากใช้มากกว่า 3 สี จะต้องทำให้สีหนึ่งสี มีความโดดเด่นชัดเจน

โดยให้เหตุผล ที่ว่า การยกเลิก การใช้สีเขียว บนชุดแข่ง มีความกังวล มาจากสถานีโทรทัศน์ หลากหลายช่อง ที่ถ่ายทอดสด ทุกการแข่งขันของ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มองว่า ชุดหรืออะไรต่างๆ ที่เป็นสีเขียว ที่นักฟุตบอล ใช้ในการสวมใส่ มันกลมกลืน กับผืนหญ้าของสนามแข่ง

ทำให้นักเตะ มีปัญหา ในการเล่นฟุตบอล การจ่ายบอล หรืออะไรต่างๆ ที่สำคัญ ยังมีผลกับการถ่ายทอดสด โดยตรง ในการสังเกตุ นักเตะในสนาม ทำให้ดูได้อย่าง ไม่ชัดเจน เพราะสีชุดแข่ง กับพื้นสนาม กลมกลืนกัน มากเกินไป

รวมถึง ผู้ที่มีปัญหาตาบอดสี ก็จะมีปัญหา อย่างหนัก ในการรับชม ฟุตบอลอีกด้วย

โดยทีมที่ดวงซวย เจอผลกระทบ มากที่สุด กับกฏใหม่ ที่จะออกมาใช้ ในฤดูกาล 2022/23 นั่นก็คือ สโมสร ซาสซูโอโล่ ที่ชุดแข่งนัดเหย้าของทีม เป็นสีเขียวสลับดำ ขณะที่ทีมอื่น ๆ ที่ใช้ชุดแข่งสีเขียว ลงเล่นนัดเยือน ในฤดูกาลที่แล้ว ก็มีเพียง ลาซิโอ และ อตาลันต้า เท่านั้น

โดย ซาสซูโอโล่ โดนผลกระทบหนักเต็มๆ เพราะใช้สีเขียว มาตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร เห็นได้ชัดจาก โลโก้สโมสร ก็เป็นสีเขียวสลับดำ ทำให้ผู้บริหารของสโมสร ต้องมีการประชุมด่วน เพื่อหาทางออก สำหรับปัญหานี้ โดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ชุดผู้รักษาประตู แต่ละสโมสร ที่มีการใช้สีเขียว ก็จะต้องเปลี่ยนสี เป็นสีอื่น โดยมีการเสริมอีกว่า รองเท้า กับกางเกงขาสั้น ก็จะไม่สามารถ เป็นสีเขียว ได้เหมือนกัน และหากมีการใช้สี มากกว่า 3 สีแล้วล่ะก็ มันก็ต้องมีสีหนึ่ง ที่ถูกทำให้มีความโดดเด่น มากกว่าสีอื่นเป็นพิเศษ

แต่สำหรับศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 2021/22 จะมีการเปิดฤดูกาลใหม่ แข่งขันนัดแรกในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2564 นี้ โดยจะยังมีการให้ใช้ชุดกีฬาแบบเดิม ไปก่อน ส่วนฤดูกาลหน้า 2022/23 จะบังคับใช้กฏห้ามใช้ชุดกีฬาสีเขียว ในการแข่งขัน

หลังจากที่ผู้บริหารของกัลโช่ เซเรีย อา ได้ประชุมและจะใช้กฏนี้บังคับใช้อย่างแน่นอน ซึ่งก็ต้องตามดูกันต่อไปสำหรับหลายสโมสรว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างไร โดยเฉพาะ ซาสซูโอโล่ สโมสรที่ใช้สีเขียวมาอย่างยาวสำหรับชุดทีมเหย้า โดยสโมสรก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2463

ต้องจับตาดูกันว่า พวกเขาจะจัดการกับปัญหานี้กันอย่างไรอีกที แต่ฤดูกาลนี้จะยังใช้ชุดสีเขียวแบบเดิมกันไปก่อน แต่จะว่าไป กฏนี้ก็ดูจะแปลกประหลาดไปเหมือนกัน ซึ่งน่าจะมีการแก้ปัญหาที่เรียบง่ายและส่งผลกระทบน้อยลงกว่านี้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็น่าติดตามเหมือนกัน ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอย่างไร มารอดูกันครับ

Posted in บทความฟุตบอล