พรีเมียร์ลีก อังกฤษ การแข่งขันรายการฟุตบอล ที่ทั่วโลก และนักเดิมพันรอคอย ได้เปิดฉากฟาดแข้งกันแล้ว ซึ่งฤดูกาลนี้ ลีกขวัญใจมหาชน ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ VAR พอสมควร ซึ่ง VAR พรีเมียร์ลีก นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

วันนี้ วิเคราะห์บอล UFA จะขอเอาใจ สาวกพรีเมียร์ลีก โดยการพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่า พวกเค้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หลังจาก มีเสียงวิพากย์วิจารณ์พอสมควร ตั้งแต่มีการทำ VAR มาใช้งานอย่างเป็นทางการ

VAR พรีเมียร์ลีก เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรใน ฤดูกาล 2021-22

จากปัญหาดราม่า Var ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ฤดูกาลที่แล้ว ทำให้หลายทีม เสียผลประโยชน์ และเกิดการวิพากวิจารณ์ กันสนั่นโลกโซเชี่ยล และวงการฟุตบอลอังกฤษ

ทั้งจะหวะล้ำหน้า ที่ไม่มีมาตรฐาน ที่แน่นอน ว่ามันจะต้อง เป็นส่วนไหนของร่างกาย กันแน่ ที่จะถูกตัดสิน ว่าล้ำหน้า จังหวะลูกล้ำหน้า ที่ดูยากเหลือเกิน

การตีเส้น ที่สุดแสนจะงงงวย ที่ไม่มีมาตรฐานวัดอย่างแน่นอน จังหวะใบแดง จังหวะการทำฟาลว์ ที่เกมนั้น เมื่อกรรมการเช็ค Var แล้วตัดสินให้เป็นใบแดง แต่เกมนี้ จังหวะการทำฟาลว์คล้ายกัน แต่กรรมการไม่ได้ตัดสินอะไร

ที่หนักที่สุดคือ จังหวะการทำประตู ซึ่งมีทั้งล้ำหน้าบ้าง ไม่ล้ำหน้าบ้าง ฟาวล์บ้าง ไม่ฟาวล์บ้าง ทีมที่เสียผลประโยชน์ ก็ออกมาบ่นกัน อย่างหัวเสียกัน จากทุกอย่างที่กล่าวมา ส่งผลให้ฤดูกาล 2021/22 มีการเปลี่ยนแปลงกฏ Var พอสมควร

ซึ่ง ไมค์ ไรลี่ย์ หัวหน้า สมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ แห่งประเทศอังกฤษ ได้ออกมาอธิบายถึง Var ของฤดูกาล 2021/22 กับการเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้น เพื่อลดคำวิจารณ์ และให้เป็นมาตรฐาน มากยิ่งขึ้น

โดยหลักๆ จะเน้นการตีเส้น ที่ใช้ในการตัดสิน จังหวะล้ำหน้า จะทำให้หนาขึ้น เพื่อเอื้อประโยชน์ ให้กับทีมรุก ซึ่งฤดูกาลที่แล้ว ตีเส้นได้อย่าง งงงวยอย่างมาก

โดยทีมรุก จะโดนจับล้ำหน้าน้อยลง สามารถเหลื่อมกว่าทีมรับได้มากขึ้น แต่ไม่ถึงกับมากกว่าครึ่งตัว หรือเต็มตัว เพราะต้องเข้าใจว่า การที่ผู้เล่นเกมรุก พยายามพาบอล หรือวิ่งไปข้างหน้า มันยากเหลือเกิน ที่จะควบคุมร่างกาย ให้ไม่ล้ำกับผู้เล่นฝั่งตรงข้าม

แน่นอนว่า มันจะต้องมีการเหลื่อมกันอยู่แล้ว ซึ่ง Var ฤดูกาลนี้ เขาจะเน้นในเรื่องนั้น ต่อมาก็จะมี การพิจารณาการตัดสิน ให้ลูกจุดโทษใหม่อีกด้วย หลังจากฤดูกาลที่แล้ว มีจุดโทษมากขึ้น จนเป็นสถิติใหม่ถึง 125 ครั้ง

โดย ไมค์ ไรลี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เราต้องการ แนวทางที่ดีที่สุด เพื่อให้นักเตะ ได้แสดงความสามารถของตัวเอง ได้อย่างเต็มที่ โดยปล่อยให้ เกมในพรีเมียร์ลีก มีความไหลลื่น และดำเนินได้อย่าง ไม่ต้องติดขัดมากนัก

นั่นหมายความว่า ทีมผู้ตัดสินและ Var จะพยายาม ที่จะปล่อยเกม ให้ไหลลื่นไปตามจังหวะ ไม่พยายามไปเน้นสิ่งผิดพลาด ที่เกิดขึ้นในจังหวะเล็กๆ น้อยๆ ของเกม”

“ส่วนเรื่อง การล้ำหน้าเพียงเล็กน้อย ทางเราได้แก้ไขข้อสงสัย เพื่อให้เกิดประโยชน์ ต่อทีมที่เล่นเกมรุก ในกรณีที่การตัดสินล้ำหน้านั้น มีความใกล้เคียงกันมากๆ ก็จะใช้กฏเดิม เหมือนในฤดูกาลก่อน คือการตีเส้นเปรียบเทียบ ให้หนาขึ้นกว่าเดิม เพื่อหาจุด ที่ล้ำหน้าออกมาให้ได้

ถ้าหากเส้นของผู้เล่นเกมรับ และเส้นของผู้เล่นเกมรุก อยู่ทับกัน เราจะถือว่าจังหวะนั้น ไม่ล้ำหน้า ซึ่งจะทำให้ลดปัญหา จากตรงนี้ได้อย่างมาก หากมีการล้ำหน้า เพียงแค่ปลายเท้า หรือการยื่นออกมาเพียง แค่เล็กน้อย ฤดูกาลนี้ จะถือว่าไม่เป็นการล้ำหน้า อีกต่อไป”

นอกจากนี้ ไมค์ ไรลี่ ยังเสริมอีกว่า ในการสัมผัสกัน ในกรอบเขตโทษ ทาง Var ฤดูกาลนี้ จะตรวจกันเข้มข้นกว่าเดิม และต้องการปล่อยให้มันไหลไป เป็นจังหวะของเกม หากทำฟาวล์ไม่รุนแรง ก็จะไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่งจะเน้นตรงนี้มากขึ้น

โดยหัวหน้าสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศอังกฤษ ได้เปรียบเทียบกับศึกฟุตบอลยูโร 2020 ที่ผ่านมา ว่ามีการจัดการเกี่ยวกับ Var ที่ยอดเยี่ยมและได้นำจากรายการนั้นมาปรับใช้กับพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

Posted in บทความฟุตบอล

การที่ทีมทีมนึง ได้ประตูจากลูกล้ำหน้า โดนเสียบสกัดล้มจนได้จุดโทษ หรือบางทีบอลข้ามเส้นไปแล้วแต่ไม่ได้ประตู เหตุการณ์หลายอย่างที่ผู้ตัดสินมองไม่ทัน เคยได้ถูกบัญญัติว่าเป็น สเน่ห์ของฟุตบอล ทว่านับตั้งแต่มีการใช้ VAR ในการช่วยการตัดสิน ทำให้มีการตัดสินที่เที่ยงตรงขึ้น แม้จะมีการถกเถียงกันอยู่บ้าง แต่วันนี้ขอข้ามเรื่องนั้นไป ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังกันว่า VAR คืออะไร กันครับ

VAR คืออะไร

VAR หรือ Video Assistant Referees คือเทคโนโลยีที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญกับการตัดสินกีฬาหลากหลายชนิด ช่วยให้สะดวกสำหรับการตัดสิน ซึ่งสำหรับกีฬาฟุตบอล มีปัญหาในการตัดสินมาช้านาน ทั้งกรรมการที่มองเหตุการณ์ไม่ทันในหลายจังหวะ ซึ่งฟุตบอลมีความรวดเร็วอย่างมากในการแข่งขัน

ครั้นไลน์แมนข้างสนามบางทีก็ยังมองเห็นเหตุการณ์ไม่ทัน ดังนั้นทางคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งนานาชาติ ได้นำเทคโนโลยี Video assistant referees หรือ VAR เข้ามาเป็น ผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ตัดสินฟุตบอล ช่วยในการทบทวนการตัดสินใจของหัวหน้าผู้ตัดสิน ด้วยการใช้วิดีโอและชุดหูฟังเพื่อการสื่อสาร

ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาทดลองใช้ในหลายๆ การแข่งขันแล้วซึ่ง ลักษณะการทำงานของ VAR จะมีการบันทึกวิดีโออย่างต่อเนื่องตามบริเวณที่สำคัญๆอย่างหน้ากรอบเขตโทษ เพื่อเช็คการล้ำหน้า การทำผิดกฏกติกา ด้วยผู้ตัดสินจะหยุดเกมส์ประมาณ 1-2 เพื่อวิ่งไปดูวิดีโอที่ข้างสนามมาประกอบการตัดสินใจด้วยตัวเอง

แต่ในปัจจุบันจะใช้ชุดหูฟังสื่อสารโดยที่ไม่ต้องวิ่งออกไปข้างสนาม เว้นแต่จะมีจังหวะที่ตัวกรรมการเองต้องการจะดู VAR ก็ต้องทำสัญญาณก่อนที่จะวิ่งไปดู โดยกรรมการในสนามจะดูได้แต่เพียงผู้เดียว ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งนักเตะ สต๊าฟโค้ช จะไม่สามารถไปดูด้วยได้ ไม่อย่างนั้นจะโดนลงโทษเป็นใบเหลืองหรือหนักสุดก็ใบแดง หากมารบกวนในช่วงที่กรรมการกำลังดูวีดีโออยู่นั่นเอง

สำหรับการทดลองใช้ VAR ครั้งแรก ย้อนไปปี 2559 ใช้ในลีก เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ ของสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้ใช้เป็นทางการในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ซึ่งครั้งแรกนี้มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บ้างก็ว่าเสียเวลาและขาดสเน่ห์ในการรับชมฟุตบอล

อีกส่วนนึงก็ว่า เป็นการดีที่นำ VAR มาใช้เพราะเป็นการตัดสินที่เที่ยงตรง ผู้ตัดสินและทีมงานสามารถดูภาพช้าวีดีโอ ในจังหวะสำคัญต่างๆ จนนำมาตัดสินใจอย่างถูกต้อง แต่ก็ไม่ควรลืมว่า VAR มันเป็นเพียง ฟุตบอลดิจิทัล ที่มีการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการตัดสินใจ ให้ชัดเจนมากที่สุด

การเปลี่ยนแปลงจากเกมสุดคลาสสิก เป็น ดิจิทัล อย่างรวดเร็วเกินไปนี้นำมาซึ่ง การหันหลังให้กับ เกมฟุตบอล ของกลุ่มแฟนบอลที่เข้าชมในสนาม เพราะเทคโนโลยี VAR คือตัวทำลายและบั่นถอนจิตใจ ของแฟนบอล เหมือนคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ไม่มีผลอะไรต่อ เกมการแข่งขัน

VAR เป็นเทคโนโลยีที่ จะช่วยผู้ตัดสินในการตัดสินใจที่แม่นยำ ในขณะที่เกมดำเนินไป ผู้ช่วยจะออกมาจากสนาม เพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที และรายงานผ่านชุดหูฟังไร้สาย เพื่อสื่อสารกับกรรมการชี้ขาด ในสนามและปรึกษาหรือให้คำแนะนำในเหตุการณ์ โดย VAR ช่วยเหลือผู้ตัดสินในส่วนหลัก ๆ คือ การตัดสินที่ผิดผลาด การเป่าจุดโทษ การให้ใบแดงและใบเหลือง

แต่ท้ายที่สุดการตัดสินใจของกรรมการในสนาม คือ การตัดสินใจขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตามปัจจุบัน VAR ก็นำมาถูกใช้แพร่หลายทั่วโลกและได้รับการยอมรับมากขึ้น แม้จะมีปัญหาบางจังหวะ เช่นการตีเส้น การกำหนดจุดร่างบริเวณไหนที่ล้ำหน้ากันแน่ ตรงนี้ก็มีการแก้กฏอยู่เรื่อยๆ

เห็นได้ชัดจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ที่เริ่มใช้ VAR ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ก็ยังมีปัญหาหลายต่อหลายเกม ในการตีเส้น ลูกฟาวล์ การถูกทำฟาวล์ ส่วนที่ฮิตที่สุด คือ จังหวะล้ำหน้า ที่มีปัญหาไม่เว้นแต่ละเกมด้วยกัน ซึ่งแม้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างไร ผลสุดท้ายที่สุดในการตัดสิน คือกรรมการและทีมงาน ที่เฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์อยู่ด้านบน

ซึ่งก็มีบางครั้งที่มีการตัดสินพลาดบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่า VAR ก็เข้ามาสร้างความเที่ยงตรง ไม่ให้มีทีมไหนได้เปรียบเสียเปรียบมากไปกว่ากัน คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะอยู่กันอีกนาน และปัจจุบันแฟนบอลก็ยอมรับ VAR มากขึ้น รวมถึงนักเตะและทีมงานสโมสรต่างๆ ก็ด้วย

หากใครเล่นนอกเกมหรือมีจังหวะตุกติกต่างๆ ที่เจตนาทำร้ายคู่แข่ง ก็จะโดนลงโทษทันทีโดยตลอด ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนที่ดี ในการลดการทำร้ายเพื่อนอาชีพด้วยกันเอง ไม่ว่าทางวาจาและร่างกายอีกด้วย

สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาก็ไม่ได้ทำให้เกมการแข่งขันฟุตบอลดูแย่ลง ดูง่ายๆ จาก เทคโนโลยีโกลไลน์ก็ได้ หลายทีมยิงประตูข้ามเส้นไปแล้ว แต่โดนสกัดออกมา ลูกดูไม่ชัดเจนก็ไม่ได้ประตู พลาดโอกาสกันไปนักต่อนัก

แต่ปัจจุบันจะรับรู้กันได้หมดว่าจังหวะไหนเป็นอย่างไร เพียงแต่ราคาค่าใช้จ่ายสำหรับลีกเล็กๆ หรือทัวร์นาเม้นต์ที่ไม่ได้มีผู้สนับสนุนเข้ามาเป็นสปอนเซอร์มากมาย ก็อาจจะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อเกม ที่สูงพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ไทยลีก ของเราก็มีการใช้ VAR ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับสโมสรไทย เพราะที่ผ่านมาก็มีปัญหามากพอสมควร สุดท้ายแล้วสเน่ห์ของฟุตบอลก็ยังไม่ขาดหายไป ทั้งกฏที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ เทคโนโลยี ที่เข้ามาใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ฟุตบอลขาดความสนุกไปจากเดิม

Posted in บทความฟุตบอล