ศึกยูโร 2020 เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว โดยมีทีมที่น่าสนใจแข่งขันกันหลายคู่ ให้ติดตามรับชมกันอย่างสนุกจุใจ กันเช่นเคย แต่คู่ที่น่าสนใจมากที่สุด ก็คือคู่ของ อังกฤษ vs เยอรมัน โดยทาง ทีมชาติอังกฤษ จะเปิดสนามเวมบลีย์ ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติเยอรมัน โดยคู่นี้มองผิวเผินคือสองชาติยักษ์ใหญ่มาเจอกัน

แต่เรื่องราวลึกลงกว่านั้น มีความน่าสนใจและดราม่าอย่างมากมายในอดีต ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพาเพื่อนๆ มาเจาะลึก ถึงเรื่องราวนี้ ว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

ก่อนที่จะไป ขอแนะนำ เวป ufabet เวปพนันออนไลน์ที่มั่นคง ปลอดภัย มากที่สุด พร้อมบริการ ตลอด 24 ชั่วโมง มีให้เล่นทุกอย่าง มาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้ครับ

ย้อนรอย อังกฤษ vs เยอรมัน คู่อาฆาตประจำทวีปยุโรป

อังกฤษ และ เยอรมัน คือโปรแกรมที่น่าจับตามองมากที่สุดในรอบ 16 ทีม เพราะดราม่าและความแค้นในอดีต ยังไม่เคยเลือนหายไป จุดกำเนิดเริ่มต้นจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งสองชาติอยู่กันคนละฝั่ง มีเรื่องราวกันมากมาย แต่จะขอข้ามตรงนั้นไป เน้นแต่เรื่องของฟุตบอล

โดยขอเริ่มตั้งแต่ที่ ศึกฟุตบอลโลกปี 1966 รอบชิงชนะเลิศ อังกฤษ ถล่ม เยอรมัน 4-2 แบบดราม่า เนื่องจากประตูที่ 3 ที่อังกฤษ ยิงได้ ฝั่งเยอรมัน ได้ทำการประท้วงเพราะคิดว่าลูกบอลยังไม่ได้เข้าสู่ตาข่าย แต่เถียงอย่างไรก็ไม่เป็นผล

อย่างไรก็ตาม ประตูที่ 4 ตามมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ อังกฤษ ผงาดคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จและเป็นสมัยเดียวที่ อังกฤษ เคยได้จนถึงปัจจุบัน ทว่าในรายการทัวร์นาเม้นต์หลังจากนั้น เยอรมัน จัดการล้างแค้นได้สำเร็จ โดยที่ อังกฤษ ไม่สามารถแก้แค้นได้เลยเป็นเวลาหลายสิบปี

ไล่ตั้งแต่ ศึกฟุตบอลโลกปี 1970 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เยอรมัน สามารถเอาชนะ อังกฤษ 3-2 รวมช่วงต่อเวลาพิเศษ เอาคืนได้อย่างทันควัน ต่อมาในปี 1972 ศึกฟุตบอลยูโร รอบเพย์ออฟ เยอรมัน สามารถเอาชนะ อังกฤษ 3-2 พร้อมเบียดแย่งเข้ารอบยูโร สุดท้ายได้สำเร็จ

ทิ้งให้ อังกฤษ เก็บความแค้นเอาไว้เต็มอก เริ่มจากศึกฟุตบอลโลกปี 1990 รอบ 4 ทีมสุดท้าย เยอรมัน ชนะ อังกฤษ จากการดวลจุดโทษ หลังเสมอในเวลาปกติรวมต่อเวลาพิเศษ ด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้อังกฤษนอกจากอดชิงแชมป์ แล้วยังพลาดท่าให้กับ อิตาลี จบเพียงอันดับที่ 4

ในการแข่งขันครั้งนั้น เรียกได้ว่า แฟนบอลอังกฤษ โกรธแค้นเคืองอย่างมาก แถมช่วงนั้นเริ่มมีการปะทะกันนอกสนามพอสมควร ทั้งมีการเย้ยหยัน กันไปกันมา มีเหตุทะเลาะวิวาทกันอีกด้วย ซึ่งปัจุบันอาจจะมีการกระทบกันทั่งกันบ้าง แต่จากสถานการณ์โควิด น่าจะทำให้แฟนบอลน่าจะเพลาๆ มือกันไป

ความแค้น ในยุคปัจจุบัน

ต่อมาในการแข่งขันยูโรป 1996 รอบสี่ทีมสุดท้าย เยอรมัน ยังย้ำแค้นอย่างต่อเนื่อง ชนะ อังกฤษ จากการดวลจุดโทษ 7-6 หลังเสมอในเวลาปกติและเวลาพิเศษ 1-1 แต่หลังจากนี้ เป็นช่วงเวลาของทีมชาติอังกฤษกันบ้าง โดยศึกยูโร 2000 รอบแบ่งกลุ่ม อังกฤษ เฉือนชนะ เยอรมัน 1-0 เรียกว่าเอาคืนได้บ้างเสียที

ส่วนต่อมาในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป อังกฤษ พลาดท่าแพ้คาบ้านให้กับ เยอรมัน 0-1 แต่ต่อจากนี้คือไฮไลท์ แห่งความสะใจ ของพลพรรคสิงโตคำราม ในวันที่ 1 กันยายน ปี 2001 ณ สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม เมืองมิวนิค ประเทศ เยอรมัน

เยอรมัน เปิดบ้าน รับการมาเยือน ของ อังกฤษ โดยพลพรรคของนักเตะชุดนั้นของทั้งสองชาติ มีแต่แข้งระดับพระกาฬ เริ่มจาก ทัพอินทรีเหล็ก นำทีมโดย โอลิเวอร์ คาห์น, โอลิเวอร์ นอยวิลล์ และ มิชาเอล บัลลัค

ส่วน อังกฤษ นำทีมโดยโคตรนักเตะดังอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, สตีเวน เจอร์ราร์ด, พอล สโคลส์ และ ไมเคิล โอเว่น เกมนั้น อังกฤษ บุกมาถล่ม เยอรมัน ราบคาบ 5-1 กองเชียร์อังกฤษเฮสนามแทบแตก แต่ในปี 2010 ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมนี้ก็ดราม่าใช่เรื่อง

โดยเกมนั้น อังกฤษ แพ้ให้กับ เยอรมัน 1-4 แต่ดราม่าเกิดขึ้น ในการทำประตูของ แลมพาร์ด ลูกยิงเสียบคานแต่บอลกระเด้งออกมาข้างนอก ผู้ตัดสินและไลน์แมนข้างสนาม เห็นภาพไม่ชัด เลยไม่ได้ให้ อังกฤษ ได้ประตู ตีเสมอ

ตอนนั้น เยอรมัน นำอยู่ 2-1 สร้างความดราม่ากันยกใหญ่ ชนิดที่ว่า อังกฤษ แทบจะบ้าคลั่ง ซึ่งในช่วงนั้น ยังไม่ได้มีการใช้เทคโนโลยี โกลไลน์ หรือมีคนยืนเส้นหลังประตูและ var ในปัจจุบัน แน่นอนว่า อังกฤษ ยังคงสุมความแค้นไว้รอชำระ

ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน หากไม่นับเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งสองชาติ ก็อุ่นเครื่องเจอกันอยู่บ้าง ผลัดกันแพ้ ชนะ ตามลำดับ แต่ทุกเกมแฟนบอลสนามแตกเช่นเคย ส่วนเกมนี้ในวันที่ 29 มิถุนายน ศึกยูโร 2020 ระหว่าง อังกฤษ และ เยอรมัน แน่นอนว่าต้องมีผู้ที่สมหวังและผิดหวัง

อย่าลืมติดตามรับชมกันครับ รับรองว่าเกมนี้ไม่มีผิดหวัง ความมัน เต็มเปี่ยม ขุมกำลังของทั้งสองทีมในชุดนี้ แลดูว่า อังกฤษ จะเหนือกว่า เยอรมัน บ้าง แต่แน่นอนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ห้ามพลาดกันนะครับ

Posted in บทความฟุตบอล

ในการแข่งขันกีฬาที่ได้รับความิยมที่สุดในโลกอย่างฟุตบอล ในปัจจุบันมีทัวร์นาเม้นที่ผุดขึ้นมาชิงถ้วยแชมป์กันมากยิ่งกว่าดอกเห็ด ซึ่งหากพูดถึงระดับชาติแน่นอนว่าคงไม่มีถ้วยรางวัลไหนยิ่งใหญ่ไปกว่า ฟุตบอลโลก หรือ เวิลด์คัพ แต่เมื่อมองไปที่ระดับสโมสรรายการ ชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ กลับไม่ได้การยอมรับเท่าที่ควร ทว่าทัวร์นาเม้นที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดคือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อนๆเคยสงสัยกันไหมว่าทำไม วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะมาเผยถึงเหตุผลเหล่านั้นกันครับ

จุดเริ่มต้นของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

การแข่งขันชิงแชมป์ระหว่างสโมสรในทวีประดับยุโรปเริ่มต้นครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ. 1955 ในชื่อ ยูโรเปียนคลับ คัพ หรือชื่อย่อที่เราคุ้นหู ยูโรเปียนคัพ จากคำแนะนำของ กาเบรียล อาโน ผู้สื่อของชาวฝรั่งเศสที่ขณะนั้นเป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์เลอ กิ๊บ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1992 ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่างที่คอบอลรู้จักดีในปัจจุบันนี้

เหตุผลที่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นถ้วยที่ดีที่สุดในระดับสโมสร

  • แหล่งรวมยอดสโมสร

แค่เห็นรายชื่อทีมที่เข้าร่วมชิงชัยกันก็แทบไม่ต้องมีข้ออื่นๆ ต่อยังได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส, บาเยิร์น มิวนิค หรือทีมที่ไม่ได้กล่าวมาคือสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตบอล การที่เราจะได้เห็นยอดทีมจากต่างลีกเหล่านี้ลงสนามดวลแข้งกันอย่างเป็นทางการแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากในรายการนี้นั้นเอง

  • มีผู้ติดตามจากทั่วทุกมุมโลก

ทัวร์นาเมนต์ส่วนใหญ่จะได้รับการรับชมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น อย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ก็จะมีผู้ติดตามเฉพาะฝั่งคนเอเชีย หรือโกปาลิเบร์ตาโดเรส จะเป็นผู้รับชมจากฝั่งอเมริกาใต้ แต่รายการชิงแชมป์ระดับยุโรปกลับมีแฟนบอลจากทุกทวีปตั้งหน้าตั้งตารับชม สาเหตุก็ต่อเนื่องจากมาจากเหตุผลข้อแรกก็คือสโมสรที่เข้าร่วมนั้นเอง แค่เพียง เรอัล มาดริด ทีมเดียวก็มีแฟนบอลที่เชียร์ 200 กว่าล้านคนแล้ว หากนับรวมทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันจะมีจำนวนแฟนบอลรวมกันมหาศาลถึงระดับ 1000 ล้านคนแน่นอน

  • ผู้เล่นระดับปีศาจ

ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองนักเตะที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคนี้ รวมไปถึงผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับว่ามีฝีเท้าอยู่ในระดับเวิลด์คลาสต่างลงห้ำหั่นกัน หากนักเตะคนไหนอยากจะได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในตำแหน่งของตัวเอง เวทีนี้ ถือเป็นสังเวียนที่ต้องโชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ดังนั้นบรรดาผู้เล่นที่ดีต่างมุ่งหน้ามารวมกันที่รายการนี้ เราจะเห็นได้จากข่าวอยู่เนืองๆ ว่าหากทีมไหนที่ไม่ได้ตั๋วมาเล่นรายการ UCL โอกาสที่จะพลาดการคว้าตัวตัวนักเตะระดับโลกเข้าร่วมทีมจึงมีความเป็นไปได้สูงมาก

  • ไร้คู่ต่อกร

ต้องยอมรับว่า ณ เวลานี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ที่ตัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ยังไม่มีคู่แข่งที่สูสีโดยตรง หากว่ากันตามจริงถ้ามีรายการอื่นที่รูปแบบการแข่งขันหน้าสนใจ และมีสามารถนำทีมระดับท็อปมารวมตัวแข่งขันกันได้คำสรรเสริญจากแฟนบอลอาจจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆอย่างการพยายามจัดตั้ง ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ก็โดน ยูฟ่า ตัดแข้งตัดขาในทุกๆ ทาง จนไม่เหลือหนทาง ต้องยอมยุบโปรเจคที่วาดฝันเอาไว้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม เกม ยูซีแอล ถึงเป็นรายการระดับสโมสรที่ดีที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้นอกจากเราจะได้โอกาสเห็นทีมระดับหัวแถมของยุโรปเจอกันแล้ว รายการนี้ยังสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้อย่างมหาศาล ดังนั้นทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จึงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือคัด บอลเต็ง บอลสเต็ป มาฝากเพื่อนๆ ในทุกสัปดาห์ หวังว่าทุกท่านที่ติดตามมาตลอดจะรวยๆ ไปด้วยกันนะครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

ฟุตบอลรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ใกล้จะได้บทสรุปเต็มทีแล้ว โดยปีนี้คู่ชิงชนะเลิศเป็นศึก All-English Finals ระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “สิงห์โตน้ำเงินคราม” เชลซี ซึ่งความน่าสนใจคือทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ฝั่งสีฟ้าที่เข้าใกล้เป้าหมายสูงสุดของสโมสรที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยแม้เข้ามาเฉียดได้เลย วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะมาให้ข้อมูลว่าทำไมถ้วยหูใหญ่ใบนี้ถึงสำคัญกับทัพเรือใบสีฟ้านักหนา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเพื่อนบ้านน่ารำคาญ

ในอดีตหากเราพูดถึงทีมจากเมืองใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ แฟนบอลพรีเมียร์ลีกคงนึกออกแค่ชื่อเดียวเท่านั้นคือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้ ส่วนฝั่งสีฟ้าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริเบอร์หนึ่งในเมืองเดียวกันมีสถานะเป็นแค่แมลงหวี่แมลงวันทำได้แค่สร้างความรำคาญได้เท่านั้น อย่าว่าแต่ลุ้นแชมป์ แม้แต่ทำอันดับไปเล่นในเวทียุโรปยังแทบไม่เคยเห็นชื่อ

สู่ผู้มีอิทธิพลสูงสุดบนเกาะอังกฤษ

การเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรของ ชีค มันซูร์ บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน เปลี่ยนแปลงสถานนะของสโมสรเรือใบสีฟ้ามาถึงทุกวันนี้ โดย ซิตี้ เริ่มต้นความยิ่งใหญ่ด้วยการปลดล็อคคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้ในรอบ 44 ปี ในฤดูกาล 2011/12 หลังจากนั้นยุคสมัยก็เป็นของพวกเขาสามารถกวาดแชมป์ในประเทศมาครองได้ทุกรายการที่ลงแข่งขัน พร้อมทั้งสถิติที่มำลายได้อย่างมากมายทั้ง ทำแต้มมากที่สุดในลีก(100 คะแนน), ยิงมากที่สุด (106 ประตู), ชนะมากที่สุด(32 นัด), คว้าแชมป์ลีกคัพติดต่อกัน 4 สมัย

ไม่มีถ้วยรางวัลยุโรป

แม้ผลงานในประเทศ แมน ซิตี้ จะไร้เทียมทานเพียงใด แต่เมื่อออกไปเล่นนอกประเทศกลับเล่นกันได้แย่กว่าที่กูรูบอลหลายคนคาดหวัง มันจริงเป็นเหตุผลที่กุนซือฝีมือดีหลายคนต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งทั้งๆที่ผลงานของทีมในลีกก็ไม่ได้แย่นักโดย โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่พาทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม 2 ปีซ้อน, มานูเอล เปเยกรีนี พาทีมตกรอบ 16 ทีม 2 ปี และตกรอบรองชนะเลิศ 1 ปี จนบอร์ดบริหารของสโมสรต้องนำกุนซือที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของยุคอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามารับหน้าที่ เพื่อหวังว่าความฝันของพวกเขาจะเป็นความจริงขึ้นมาได้เสียที

แม้แต่ เป๊ป ก็โดนสบประมาท

การเข้ามาของกุนซือชาวสเปนพา ซิตี้ ครองเกาะอังกฤษได้แทบจะเบ็ดเสร็จ ทว่าผลงานในเวทียุโรปของพวกเขาก็น่าผิดหวังแบบสุดๆ ฤดูกาลแรกที่เข้ามาในปี 2016/17 เดินทางถึงแค่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้นด้วยน้ำมือของ โมนาโก แบบน่าเจ็บใจด้วยกฎอเวย์โกล, ปี 2017/18 แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 5-1 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย, ปี 2018/19 ตกรอบด้วยกฎอเวย์โกลอีกครั้งต่อ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, ปี 2019/20 ก็ต้องอกหัวพ่ายให้กับ โอลิมปิก ลียง จอดป้ายแค่เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง จนมีหลายคนคิดว่าทีมที่เพียบพร้อมอย่าง ซิตี้ จะขาดสิ่งเดียวที่เรียกว่า “วาสนา”

ความพยายามสัมฤทธิ์ผล

จนกระทั่งในฤดูกาล 2020/21 นี้ ภายใต้การนำทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในปีที่ 5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เดินทางมาไกลจนเกือบจะถึงปลายทาง โดยผลงานลีกของพวกเขายังคงไร้ทางต่อต้านคว้าแชมป์คาราบาว คัพมาครองได้ ส่วนพรีเมียร์ลีก ก็ทำแต้มนำโด่งแทบจะการันตรีแชมป์ได้แล้ว และที่สำคัญที่สุดคือรายการอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ล้างอาภรรพ์ได้แล้ว เข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรหลังผ่านด่าน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค(รอบ 16 ทีม), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (รอบ 8 ทีม) และปารีส แซงแชร์กแมง (รอบรองชนะเลิศ) ต้องมาคอยดูว่าคำสบประมาทที่เคยโดนเหยียดหยามมาจากแฟนทีมอื่นๆว่าพวกเขาเก่งแต่ในลีก หรือข้ออ้างสุดท้ายจากแฟนทีมอื่นว่าพวกเขายังไม่ขึ้นแท่นทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษเนื่องจากยังพิสูจน์ฝีเท้าว่าเป็นจ้าวยุโรปไม่ได้ ทุกคำสบประมาทจะโดนลบออกไป และประวัติศาสตร์ของสโมสรจะโดนจาลึกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในค่ำคืนวันเสาร์ ที่ 29 พฤษภาคม เท่านั้นแน่นอนว่าในรอบชิงชนะเลิศ ของรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของทีมงานวิเคราะห์บอล ufasoccer ก็จะมีทัศนะบอลดีๆก่อนการแข่งขันจะเริ่มมาฝาก หวังว่าเพื่อนๆจะไม่พลาดการติดตามพวกเรา และหากนำเทคนิคการเล่นบอลออนไลน์ที่เคยบอกไปในบทความก่อนหน้านี้มาช่วย โอกาสที่พวกท่านจะทำกำไรได้ย่อมมีมากขึ้นไปอีก หวังว่าทุกคนจะโชคดีมีชัย ครั้งหน้ามาพบกันใหม่นะครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นับเป็นศึกชิงแชมป์บอลถ้วย ที่ใหญ่ที่สุดของ ทวีปยุโรป จัดโดย สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า มีชื่อเดิมคือ ยูโรเปียน คัพ แข่งขันกันมาตั้งแต่ ปี 1955 ซึ่งจะนำเอาทีมในระดับสโมสร ที่เป็นแชมป์ลีกต่างๆ ในยุโรป และทีมที่ได้อันดับที่ดี ตามค่าสัมประสิทธิ์ ที่ปรับเปลี่ยนตามผลงาน ในแต่ละปี หากทีมจากประเทศใด เป็นแชมป์หรือเข้ารอบลึกๆ ค่าสัมประสิทธิ์ จะปรับขึ้น แต่ถ้าผลงานแย่ลงเรื่อยๆ ก็ปรับลง มีการเตะกันหลายรอบ ตั้งแต่รอบคัดเลือก ที่เป็นระบบเหย้า-เยือน แต่ความเข้มข้นของรายการนี้ จะเริ่มในรอบ 32 ทีมสุดท้าย มาเตะกันแบบแบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เอาสองทีมที่ดีที่สุดในแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้ารอบต่อไป ไปเตะแบบเหย้า-เยือนสองนัด จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ที่เตะแบบนัดเดียวจบ ส่วนทีมที่จบอันดับสาม ในรอบแบ่งกลุ่ม โดนปรับลดชั้นไปแข่งในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่เป็นรายการรองลงมา อย่างไรก็ตามตอนนี้ เมื่อสถานการณ์เรื่องเศรษฐกิจ ในโลกฟุตบอลย่ำแย่ลง ทีมชั้นนำในยุโรป ที่มีฐานแฟนบอล และมูลค่าทางการตลาดสูงๆ เกิดความหัวหมอจะจัดทำ Super League Project ขึ้นเอง เนื่องจากมองว่า รายได้จากทางยูฟ่านั้น ให้ผลประโยชน์ กับพวกเขาน้อยเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์จะลงเอยเช่นไร ยังไม่มีบทสรุป บทความนี้ทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะนำเสนอ ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบอลถ้วยรายการนี้ ให้แก่ผู้อ่าน ที่ติดตามเราอย่างเหนียวแน่น เช่นเคย

รายได้หลัก

สโมสรที่เข้าร่วมรายการนี้ จะได้รับเงินรางวัล จากการผ่านเข้ารอบไปเรื่อยๆ ยิ่งเข้ารอบลึกมากเท่าไหร่ เงินรางวัล ก็จะมากขึ้น เป็นเงาตามตัว ศึกยูซีแอล นับว่าเป็นรายการที่คัดเอา ทีมระดับหัวกะทิ ที่เต็มไปด้วยนักเตะที่มีฝีเท้าเอกอุ มาฟาดฟันกัน ดังนั้นรายได้อีกทาง ย่อมเป็นสปอนเซอร์ ที่เข้ามาสนับสนุนรายการนี้ รวมไปถึงค่าลิขสิทธิ์ ในการถ่ายทอดสด ที่มียักษ์ใหญ่ ในแวดวงธุรกิจฟุตบอล ประมูลแย่งชิงกันแบบเดือดดาล แทบทุกปี อย่างที่แฟนบอลผ่านตากัน ก็จะเป็น Goal หรือ Bein Sport ซึ่งเป็นเต้ยของวงการถ่ายทอดสดฟุตบอล พอได้ลิขสิทธิ์แล้วก็จะนำไปขายแต่ละประเทศต่อไป รายได้รวมๆ ของบอลถ้วยรายการนี้ คิดแบบคร่าวๆ แล้วอาจมากกว่าการเป็นแชมป์ลีกในประเทศของตัวเองด้วยซ้ำ

ทีมที่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุด

ทีมที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากครั้งที่สุด คือ “ราชันชุดขาวเรอัล มาดริด ที่ชูถ้วยไปทั้งหมด 13 ครั้ง ซึ่งพวกเขาเป็นขาใหญ่จากศึก ลาลีกา สเปน รองลงมาเป็นยักษ์หลับจากประเทศอิตาลี “ปีศาจแดงดำเอซี มิลาน ที่คว้าแชมป์ไป 7 ครั้ง และอันสามตามมาติดๆ เป็นทีมขวัญใจชาวไทยอย่าง “หงส์แดงลิเวอร์พูล ที่ชูถ้วยไปทั้งหมด 6 ครั้ง โดยสถานการณ์ปัจจุบันในปีนี้นั้นอยู่ในรอบรองชนะเลิศแล้ว กำลังเข้มข้นแบบสุดๆ เมื่อทางแชมป์เก่า “เสือใต้บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งจะตกรอบไปแบบสดๆ ร้อนๆ เหลือทีมฟาดฟันกันแค่ 4 ทีม ประกอบไปด้วย เรอัล มาดริด ที่เจอกับของแข็งอย่าง “สิงโตน้ำเงินครามเชลซี และอีกคู่หนึ่งเป็นรองแชมป์เก่าอย่าง “เปแอสเชปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ต้องเจอกับคู่กัดมหาเศรษฐีระดับเดียวกัน “เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้

รายการที่ใหญ่กว่า

ใช่ว่ารายการนี้จะเป็นที่สุดของการแข่งขันระดับสโมสร เพราะความจริงแล้วยังมีศึก Fifa Club World Cup หรือศึก ชิงแชมป์สโมสรโลก ที่เป็นรายการที่ใหญ่กว่า โดยจะนำเอาแชมป์บอลถ้วยของแต่ละทวีปในโลกมาฟาดฟันกัน เพื่อหาสโมสรที่ดีที่สุดในโลกปีนั้นๆ เป็น “เจ้าโลก” โดยประเทศที่ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจะเปลี่ยนไปตามการคัดเลือกแต่ละปี ดังนั้นรายการนี้เหมือนเป็นการเตะกันที่สนามกลาง ลดความได้เปรียบเสียเปรียบให้เท่าเทียมกันอย่างที่สุด โดยแชมป์รายการนี้ทีมล่าสุดเป็น บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน นั่นเอง

ข้อมูลของบทความนี้เป็นการอัพเดตสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ซึ่งในปีหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนไปแบบไหน หากมีข้อมูลใดเปลี่ยนแปลง ทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ก็จะเอามานำเสนอให้ผู้อ่านอันเป็นที่รักยิ่งของเราเช่นเคย

Posted in ทีเด็ดบอลเต็ง