นักฟุตบอลอาชีพหลายคน มีทั้งตำนาน ซูเปอร์สตาร์ ที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตและในปัจจุบันอย่างมากมาย โดยแข้งเหล่านั้น ล้วนทำผลงานอย่างทรงคุณค่า จนได้รับกล่าวขาน ทั้งคำชม คำชื่นชม จนบางรายถึงขั้นมีรูปปั้นเลยทีเดียว ปัจจุบันการถ่ายทอดสดฟุตบอล สามารถรับชมได้ง่ายอย่างมากและสำหรับแฟนบอล จะได้ยลโฉมนักเตะทีมโปรดประจำ แต่จะมีนักเตะบางราย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากแฟนบอล ว่าเป็นมหาเทพ ซึ่งไม่ใช่ประโยคที่เป็นคำชมเท่าไหร่ มาดูกันว่า ฉายา มหาเทพ ของนักเตะรายนั้นๆ ทำไมถึงได้รับฉายานี้ เพราะสาเหตุใด พวกเรา วิเคราะห์บอล UFA จะพาไปดูกันครับ

ฉายา มหาเทพ ได้แต่ใดมา

ขอเน้นไปที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกฟุตบอลที่ชาวไทยและทั่วโลกให้ความนิยมมากที่สุด เป็นลีกที่แฟนบอล ทั้งขาหลัก ขาจร รวมถึงสายเดิมพัน พนันออนไลน์ ต่างตั้งตารอคอย ที่จะรับชม รับเชียร์ และ เดิมพัน โดยทำให้ที่ผ่านมา ชาวไทย ผูกพันกับพรีเมียร์ลีก อย่างมาก

โดยเฉพาะทีมใหญ่ๆ ที่มีแฟนบอลเชียร์กันอย่างแน่นขนัด ตามขอบจอและผ่านทางการถ่ายทอดสดต่างๆ ซึ่งก็จะได้เห็นนักเตะมากหน้าหลายตา ผ่านสายตากันมาก

ทั้ง นักเตะธรรมดาทั่วไป นักเตะฟอร์มดี นักเตะตัวหลักคนสำคัญของทีม นักเตะซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของลีก และนักเตะที่สามวันดีสี่วันไข้ หรือ มีฟอร์มการเล่นอันแปลกประหลาด ที่เล่นไปเล่นมา โดนแฟนบอลจับจ้อง ซึ่งไม่รู้ว่าจะกร่นด่าหรือชมดี

จนพวกเขาเหล่านั้น ได้รับคำนิยามว่าเป็น มหาเทพ หรือ ท่านมหาเทพ ซึ่งที่มาของประโยคนี้ ก็เกิดจาก นักเตะที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ชอบโชว์ฟอร์มแปลกๆ หนักออกไปทางแย่ แต่เมื่อดูบ่อยๆ เข้า ก็เกิดอาการฮาปนหัวร้อน ว่าแข้งรายนั้น เขาทำอะไรของเขา

และส่วนมาก นักเตะที่จะได้รับฉายานี้ มักจะเป็นแข้งของทีมใหญ่ ซึ่งได้รับการจับตามองอย่างสูงอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อได้เห็น ฟอร์มของนักเตะฉายามหาเทพแบบนี้ ยิ่งเกาหัวกันแกกๆ พร้อมกับงงงวยในการเล่นของพวกเขา ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีแข้งหลายรายที่ได้รับฉายานี้

No.1 จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก แดนนี่ เวลเบ็ค ศูนย์หน้าระดับจักรวาล อดีตเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สร้างชื่อกันตั้งแต่ตอนนั้น จากจังหวะ เลี้ยงบอลสุดแสนอันงงงวย ยึกๆ ยักๆ พร้อมกับจังหวะจับบอลที่ลั่นจนไม่รู้จะลั่นอย่างไรดี

โดยเขาเป็นกองหน้าที่ชื่นชอบการสร้างเสียงฮา แม้จะเจ้าตัวจะดูมุ่งมั่นอย่างมากก็ตามที โดยกลายเป็นมีมอันโด่งดังไปทั่วโลกฟุตบอลช่วงนึงเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังไม่พอ ยังไปสร้างเสียงฮา ในการย้ายไป อาร์เซนอล

ซึ่งมีคลิปอันโด่งดังในยูทูป รวมจังหวะที่ท่านมหาเทพ โชว์หลอกจับบอลลั่น วืด หรือ ลื่น เพื่อหลอกล่อให้ทีมฝั่งตรงข้ามงงงวย พร้อมเปิดพื้นที่ว่างให้เพื่อนที่ประตูได้ อันที่จริงแล้ว เราพิมพ์เอาฮาไปแบบนั้น

เพราะความเป็นจริง เจ้าตัวกะจะซัดประตูด้วยตัวเอง แต่กลับพลาดและวืดอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม การย้ายไป อาร์เซนอล ทำให้เขามีอาการบาดเจ็บติดตัวเป็นประจำ ทั้งที่ตอนอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวแทบไม่เป็นอะไรเลย

แถมยังมีชื่อวนเวียนอยู่ทีมชุดใหญ่และม้านั่งสำรอง จนแฟนบอลปีศาจแดง ขอร้องว่าช่วยเจ็บหรือไม่มีชื่อทีเถอะ โดย ปัจจุบัน เวลเบ็ค ค้าแข้งให้กับ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไปสร้างตำนานบทใหม่ที่นั่นต่อ

ต่อมาก็มีแข้งหลายราย ที่มีคุณสมบัติเป็น มหาเทพ ซึ่งเป็นนักเตะที่โด่งดังไปยันนอกจักรวาล เมื่อช่วงเกือบสิบปีก่อน นั่นก็คือ ท่านลอร์ด นิคลาส เบนท์ดเนอร์ โคตรกองหน้าแดนโคนม ของอาร์เซนอล ที่ประกาศว่าเจ้าตัวจะคว้ารางวัลบัลลงดอร์ให้ได้

ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันดี เจ้าตัวไม่เคยเฉียดรางวัลนี้สักนิดเดียว ทั้งที่เป็นศูนย์หน้าตัวใหญ่และดูเหมือนมีความแข็งแกร่งและความเร็ว แต่เอาเข้าจริงแล้ว เจ้าตัวท่าดีทีเหลว เหมือนมีความมุ่งมั่นไม่มากพอ เลยไปไม่ได้ไกลเท่าที่ควร กลายเป็นโดนแฟนบอลตั้งฉายาและล้อกันไปตามระเบียบ

ส่วนต่อมาก็เป็นทาง ดิว็อค โอริกี้ ซึ่งเอาเข้าจริง แข้งรายนี้ไม่มีคุณสมบัติในการเป็น มหาเทพ เพราะฟอร์มโดยรวม แม้จะไม่ค่อยได้โอกาสลงสนาม แต่เมื่อได้ลงแล้ว ในช่วงหลัง เจ้าตัวทำผลงานได้ไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว

แถมยังเป็นตัวโจ๊กเกอร์ ที่พา ลิเวอร์พูล เถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2019 ได้อีกด้วย จากการทำประตูใส่ บาร์เซโลน่า และ ประตูย้ำชัยชนะเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้าแชมป์ถ้วยหูใหญ่ไปครอง

นอกจากนี้ เมื่อได้รับโอกาสลงสนาม แม้จะไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับเกม แต่จังหวะจบสกอร์ถือว่าทำได้ดี ดังนั้น หากแฟนบอล เดอะ ค็อปส์ คิดว่า ทีมตัวเองมีมหาเทพ บอกเลยว่าคิดผิด ซึ่งดีแล้วที่ไม่มีมหาเทพในทีม ดีแล้วล่ะ

ส่วนทีมที่น่าจะมีตำแหน่งมหาเทพในทีมมากมาย ก็ต้องย้อนไปในช่วง 10 กว่าปีก่อน นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เรียกว่ามีมหาเทพหลายราย ถึงขนาดที่แฟนบอล เร้ด เดวิลล์ ขนานนามให้พวกเขาเป็น จตุรเทพเลยทีเดียว

ทั้ง เบเบ้, เวส บราวน์, มิคาเอล ซิลแวส, นานี่ เป็นต้น ซึ่งมองตามผืนผ้า ในการทำทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขามักจะมีแผนการเล่นหลักๆ อยู่แล้ว เพียงแต่บางครั้ง นักเตะตัวหลักเจอปัญหาอาการบาดเจ็บ เขาจึงปรับเปลี่ยนพันธุกรรม ดึงแข้งสำรองหรือแข้งดาวรุ่ง มาเปลี่ยนบทบาทใหม่ กลายเป็นจับฉ่ายให้กับทีมหลายตำแหน่ง

ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับฟอร์มในสนาม ทีมสามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ผลเสียก็ส่งตรงต่อนักเตะ ที่ได้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดและงงงวยว่าตัวเองจะเล่นอย่างไร จะปรับมาเล่นแบบไหนดี จนไปได้ไม่สุดสักทางนี่เอง ถ้าในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็จะมีประมาณนี้

แต่ถ้าข้ามมาในไทยลีก ก็มีมหาเทพอยู่เช่นกัน จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก กีรติอุส หรือ กีรติ เขียวสมบัติ ศูนย์หน้าร่างยักษ์อดีตทีมชาติไทย ซึ่งเอาเข้าจริงเขาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่แน่นอนว่า แสงสีเสียง สิ่งบันเทิงต่างๆ เป็นปัญหาสำหรับแข้งที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งของทีมชาติไทยตลอด แต่ปัจจุบันเขาก็ยังทำผลงานได้พอตัว อยู่ในช่วงปลายค้าแข้ง

ตามมาด้วยอีกรายนึง ที่อีกไม่นานก็จะได้รับตำแหน่ง มหาเทพ เต็มตัว นั่นก็คือ ปีโป้ สิโรจน์ ฉัตรทอง ศูนย์หน้าร่างใหญ่ชาวไทย ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งทว่าล้มง๊ายง่าย ไม่แข็งแรงเหมือนกับร่างกายที่เขามี รวมถึงดูเหมือนเบสิคพื้นฐาน ยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควร มีจังหวะ เก้ๆ กังๆ ให้เป็นประจำ จนโดนแฟนบอลขนานนามว่าให้เป็นอีกหนึ่ง มหาเทพ อีกราย

สุดท้ายแล้วตำแหน่ง มหาเทพ ในความเข้าใจของทีมงาน เชื่อว่า ไม่ได้เป็นคำที่บูลลี่หรืออะไรแต่อย่างใด เชื่อว่าแฟนบอลทุกคนพร้อมเอาใจช่วยให้แข้งของสโมสรที่ตัวเองรัก โชว์ฟอร์มกันให้ได้ดีทุกราย แต่อาจจะแตกต่างกับแฟนบอลทีมอื่น ที่รอหัวเราะเยาะอยู่ก็เป็นได้ เพราะเป็นเป้าให้พวกเขาโจมตีได้โดยง่ายนั่นเอง

Posted in บทความฟุตบอล