สิ้นสุดการรอคอย เหลือแค่เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเท่านั้น สำหรับ จาดอน ซานโช่ กับ แมนยู เพราะเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เหยี่ยวข่าวเทียร์ 1 ได้เปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ปิดดีลการคว้าตัว จาดอน ซานโช่ เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าสมดั่งใจกันเลยทีเดียวสำหรับสาวกปีศาจแดง ที่รอคอยปีกตัวจี๊ดรายนี้ร่วมทีม หลังจากมีข่าวคราวอย่างยาวนานตั้งแต่ตลาดการซื้อ-ขายช่วงซัมเมอร์เมื่อปีก่อน ที่เกือบจะคว้าตัวได้มาแล้ว

วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะเผยแพร่เรื่องนี้ กว่าที่ แมนยูฯ จะได้ตัว ซานโช่ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา

มหากาพย์ จาดอน ซานโช่ กับ แมนยู

ย้อนไปตอนที่ ซานโช่ ยังอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทางแยกเกิดขึ้นเมื่อเจ้าตัวอายุ 17 ปี ได้มูฟออนจากอังกฤษ แม้จะมีข้อเสนอจากสโมสรต้นสังกัดที่พร้อมให้ค่าเหนื่อย 3 หมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งก็มากโขอยู่แล้วสำหรับดาวรุ่งที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองกับทีมชุดใหญ่ได้

แต่เจ้าตัวมูฟออนข้ามฝากย้ายไปร่วมทัพ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดสโมสรจอมปั้นจากบุนเดสลีกา ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ พร้อมรับค่าเหนื่อย 4 หมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์ เวลานั้นทีมงานของเสือเหลือง มั่นใจว่า ซานโช่ จะแจ้งเกิดกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน

แม้ช่วงนั้น เป็ป กวาร์ดิโอล่า จะพยายามรั้งเจ้าหนูรายนี้ไว้ก็ตาม แต่ไม่เป็นผล เนื่องจาก ซานโช่ ต้องการโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง แถมช่วงนั้นตำแหน่งที่เขาเล่น มีแต่สตาร์รุ่นพี่เต็มชุดใหญ่ไปหมด

หลังจากนั้น ซานโช่ พัฒนาตัวเองขึ้นมามาก โดยเฉพาะฤดูกาลที่สองกับ ดอร์ทมุนด์ เจ้าตัว ยิงไป 13 ประตูกับแอสซิสต์ 20 ลูกเลยทีเดียว ทั้งความพริ้วไหวและการจ่ายบอลที่เฉียบคม รวมถึงยังชงเองกินเองได้อีกด้วย ทำให้เจ้าตัวเนื้อหอมสุดๆ ถูกคาดการณ์ว่าจะย้ายไปยังสโมสรที่ใหญ่กว่านี้แน่นอน

ซึ่งแน่นอนว่า ปี 2019 ซานโช่ ได้ตกเป็นข่าวครั้งแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีข่าวเขียนถึงความเชื่อมโยงของ ซานโช่ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่เป็นพักๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมผู้บริหารของสโมสรก็ออกมายืนยันว่า ซานโช่ ไม่ได้มีไว้ขาย จึงทำให้ข่าวลือเงียบไป

ทว่าหลังจากนั้นปลายปี 2019 ฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มีการสอบถามไปถึงเอเย่นต์ส่วนตัวของ ซานโช่ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการซื้อตัว แต่เอเย่นต์ก็ได้บอกไปว่าสโมสรไม่ต้องการขายเขาในช่วงนี้

ฤดูกาลที่ 3 ของซานโช่ เจ้าตัวยังฉายแสงออกมาไม่หยุดหย่อน พร้อมเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ทีมชาติชุดใหญ่ก็ติด เล่นก็ดี สโมสรก็เป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้ คือแข้งคนสำคัญมากๆ ไม่ต่างจาก มาร์โก้ รอยส์ รุ่นพี่กัปตันทีมในสโมสรด้วยซ้ำ จบฤดูกาล 2019/20 ซานโช่ จัดหนักไป 20 ประตูและอีก 20 แอสซิสต์ ซึ่งช่วงหลังล็อคดาวน์ หลายท่านน่าจะได้ยลฟอร์มของเจ้าตัว เพราะช่วงนั้น บุนเดสลีกา เป็นลีกแรกๆ ที่กลับมาทำการแข่งขันได้ แถม ซานโช่ มีความสัมพันธ์อันดีกับ ปอล ป็อกบา และ มาร์คัส แรซฟอร์ด จากที่เล่นเกมด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งเวลา 3 ปี เป็นเวลากำลังสุกงอมของ ซานโช่ ทำให้บรรดาหลากหลายสโมสรต่างให้ความสนใจ โดยทีมที่มีข่าวแรงที่สุดก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แต่ติดที่ว่าค่าตัวของ ซานโช่ ถือว่าแพงหูฉีกในช่วงนั้นและยิ่งบวกกับสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้หลากหลายสโมสรต่างประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่สโมสรใหญ่ๆ ก็เจอผลกระทบเช่นกัน แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่า แมนยูฯ พร้อมจ่ายค่าตัวกับ ซานโช่ ลือถึงว่าจะเซ็นสัญญาในตลาดช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว

แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีทั้งวลี 48 ชั่วโมง รอแล้วรอเล่าอยู่เช่นนั้น ทำให้แฟนๆ ที่ลุ้น ต่างผิดหวังกันไป ทว่า ซานโช่ มีสัญญาใจกับผู้บริหาร หลังจากฤดูกาล 20/21 เขาจะย้ายทีมได้ ซึ่งทีมที่เป็นเต็งหนึ่งก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง ที่นอนมาติดๆ เป็นข่าวแรงที่สุด ลือหนักที่สุด

ส่วนฤดูกาลที่ 4 ของ ซานโช่ เจ้าตัว จัดไป 16 ประตูกับ 20 แอสซิสต์ เรียกว่าฟอร์มยังคงมาตรฐานเช่นเดิม หลังจากจบฤดูกาล 20/21 ข่าวของ ซานโช่ กับ แมนยูฯ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ซึ่ง ปีศาจแดง เร่งเครื่องเต็มสูบรีบปิดดีลเจรจาให้ไวแม้จะติดช่วง ยูโร 2020 ก็ตาม

ข่าวออกมาว่า ทั้งสองสโมสรทำการเจรจากันหลายรอบ ตั้งแต่ค่าตัว 108 ล้านปอนด์ลดมาเหลือ 70 กว่าล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ แมนยูฯ ถูกใจสิ่งนี้ ที่สำคัญ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรเก่าของ ซานโช่ ยังได้ค่าส่วนแบ่งราว 10 ล้านปอนด์อีกค่างหาก ซึ่งการเจรจายังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง

มีผลเห็นได้ชัดจากศึกยูโร 2020 ซานโช่ ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าไหร่ ทั้งที่เขาน่าจะได้เป็นตัวจริงเนื่องจาก มีสถิติเกมรุกดีมากๆ ทำให้มีข่าวลือไปต่างๆ นาๆ สุดท้าย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแถลงว่าได้ปิลดีล คว้าตัว จาดอน ซานโช่ ได้แล้ว

ซึ่งกว่าเจ้าตัวจะได้ลงตัวจริง ก็คือนัดที่ อังกฤษ ถล่มทีมชาติ ยูเครน เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคมที่ผ่านมานี่เอง หลังจบทัวร์นาเม้นต์นี้ ซานโช่ จะเดินทางมาตรวจร่างกายพร้อมกับชูเสื้อเปิดตัวกับสโมสร โดยหมายเลขที่คาดว่าจะสวมใส่ น่าจะเป็น เลข 7 นี่เอง สิ้นสุดมหากาพย์อันยาวนานเป็นเวลาถึง 2 ปีเต็มๆ ชื่นมื่นกันไปทั้งสโมสรและแฟนบอล

หวังว่า ซานโช่ จะรักษาความเก่ง เติมเกมรุกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนที่ทำได้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือหากจะเซอร์ไพรส์กว่านั้น เจ้าตัวจะซัดประตูในเกมที่ แมนยูฯ ปะทะ แมนฯ ซิตี้ ก็เป็นอะไรที่น่าพูดถึงไม่น้อย

Posted in บทความฟุตบอล

ทีมชาติอังกฤษ ชุดศึกลุย รายการ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 เป็นอีกหนึ่งทีมเต็งที่น่าจับตามอง โดยการคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เคยพาทีมชาติอังกฤษ ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลก ปี 2018 มาแล้ว ซึ่งหนึ่งในนักเตะที่น่าสนใจที่สุดของทีมชุดนี้อย่าง จาดอน ซานโช่ ที่โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงกับต้นสังกัดใน บุนเดสลีกา

แต่ประเด็นที่หลายคนสงสัยคือทำไมเจ้าตัวถึงไม่ได้ลงสนามเลยจาก 2 นัดแรก ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันพอสมควร โดยทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุนี้ ให้เพื่อนลองอ่านกันเพลินๆ

ทำไม จาดอน ซานโช่ ถึงไม่ถูกส่งลงสนามจาก 2 นัดแรก

เป็นเรื่องที่มึนงง ที่ จาดอน ซานโช่ ไม่ได้ลงสนาม ทั้งที่ทำผลงานกับสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงสนามทั้งหมด 38 นัด ยิงได้ 16 ประตูและจัดไปอีก 20 แอสซิสต์ แถมยังเป็นนักเตะตัวรุกของทีมชาติอังกฤษที่ทำผลงานส่วนตัวได้ดีที่สุดในฤดูกาล 2020/21 น่าจะเป็นตัวเลือกเบอร์ 1 ในตำแหน่งปีกขวาทีมชาติอังกฤษ

ทว่า แกเร็ธ เซ้าท์เกต ไมได้ตัดสินใจส่งลงสนาม โดยเกมแรกเจ้าตัวไม่มีชื่อแม้กระทั่งม้านั่งสำรอง ในเกมที่ อังกฤษ เอาชนะ รัสเซีย 1-0 ต่อมาเกมที่สอง เกมที่เสมอกับ สก็อตแลนด์ แบบไร้สกอร์ โดย ซานโช่ นั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง แต่ยังไม่รับโอกาสให้ลงสนาม ซึ่งทำให้แฟนบอลและนักวิจารณ์งงเข้าไปใหญ่

แม้แต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังออกมาวิจารณ์ความว่า “ผมไม่เคยสงสัยเลยว่า เรามีผู้เล่นในแนวรุกที่สามารถพลิกเกม และใช้ประโยชน์จากพวกเขาได้ แต่ ซานโช ยังไม่ได้ลงสนามเลย เขาพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่นักเตะที่มีฟอร์มมหัศจรรย์แค่ฤดูกาลเดียว แต่เขาทำมันมากแล้วถึง 3 ฤดูกาล”

“ผมมีความรู้สึกว่า เราสามารถเปลี่ยนรูปเกมได้ด้วยตัวสำรอง แต่เรากลับตัดสินใจช้าเกินไป (เกมกับสกอตแลนด์) ขณะที่หนึ่งในผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่สุดของทีม ตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมากับต้นสังกัด เกมแรกไม่มีชื่ออยู่ในทีม

ส่วนเกมที่สองรองเท้าของเขาไม่เปียกเลยด้วยซ้ำ” “ผมแค่คิดว่า เรามีนักเตะที่มีความคิดสร้างสรรค์บางคน ที่แฟนบอลกำลังเรียกร้องและอยากเห็นพวกเขาบนสนาม เราจะสามารถเอาชนะทุกอย่างได้ พวกพวกเขาเล่นในพื้นที่ด้านกว้างมากขึ้น” ริโอ กล่าวอย่างมีอารมณ์อ่อนๆ

ไม่เว้นแม้แต่ซานโช่ แต่อย่าง มาร์คัส แรซฟอร์ด เกมที่สองก็เป็นเพียงตัวสำรอง รวมถึง แจ็ค กริลิช ก็เพิ่งได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมที่เจอกับ สก็อตแลนด์ การที่ ซานโช่ ยังไม่ได้ลงสนาม ส่วนนึงสาเหตุอาจเกิดจากเกมแรก เจ้าตัวยังไม่ฟิตพอหรือร่างกายยังไม่สมบูรณ์ ยังต้องพักฟื้นเสียหน่อย

พอเกมที่สองที่อยู่บนม้านั่งสำรองเจ้าตัวอาจจะอาการดีขึ้นแล้ว แต่ตัวกุนซืออยากให้ ซานโช่ ฟิตเต็มที่ อาจจะได้ลงสนามในเกมนัดที่สามก็เป็นได้ หรือไม่ก็ ซานโช่ ยังเล่นไม่เข้าแผนของ แกเร็ธ เซ้าท์เกต โดยปกติ ซานโช่ จะปักหลักในเกมรุกไม่ค่อยลงมาช่วยเกมรับทางกราบข้างเสียเท่าไหร่ นั่นอาจเป็นเหตุผลนึงให้เจ้าตัวยังอยู่บนม้านั่งสำรองก็เป็นได้

ด้วยฟุตบอลสมัยนี้ ผู้เล่นในตำแหน่งเกมรุกมักจะต้องลงมาช่วยเกมรับอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริงแผนของ เซ้าท์เกต ยังไม่แน่นอนเสียเท่าไหร่ รูปแบบการเล่นเหมือนจะดี แต่ก็ยังงงๆ อยู่พอสมควร จากสถานการณ์นี้ทำให้มีคำถามมากมาย ถามถึงตัวกุนซือ ว่าทำไมไม่ส่งแข้งที่น่าจะเพิ่มมิติเกมรุกของทีมชาติให้ดียิ่งขึ้นลงสนาม

ซึ่ง แกเร็ธ เซ้าท์เกต ได้ออกมากล่าวว่า “ในกลุ่มนักเตะเกมรุก เรามีตัวเลือกให้ใช้งานมากมาย เรามีนักเตะดาวรุ่งหลายคน แต่พวกเขามีประสบการณ์ในการเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรก ดังนั้นในฐานะสตาฟฟ์โค้ชเรามีความคาดหวังพวกเขาเป็นการส่วนตัว จาดอน มีส่วนผสมหลายๆ อย่าง เขาฝึกซ้อมได้ดีเยี่ยมในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และแน่นอนว่าเรามีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการตัดสินใจว่าจะให้ใครลงสนามในเกมนั้นๆ” เซ้าท์เกต กล่าว แต่จากที่ว่ามา เป็นการตอบคำถามที่กว้างเหลือเกิน

แต่อย่างใดก็ตาม โอกาสที่ จาดอน ซานโช่ ได้ลงสนามอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะเป็นเกมไหน เพราะทัวร์นาเม้นต์สำคัญแบบนี้ ส่วนมากกุนซือจะให้ลงสนามในเกมนัดที่สาม ให้โอกาสผู้เล่นที่ติดทีมมาลงสนาม แต่ก็ยังงงอยู่ดี ว่าทำไม ปีกขวาที่น่าจะเป็นเบอร์ 1 ของทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้ลงสนามเสียที

บทสรุป

แม้จะค่อนข้างน่าแปลกใจ ที่ ซานโช่ ยังไม่ได้ลงสัมผัสเกม ยูโร หนนี้ แม้แต่วินาทีเดียว แถมเกมรุกของ สิงโตคำราม ในปัจจุบันถือว่าน่าอึดอัด สองตัวจริงอย่าง โฟเด้น และ สเตอร์ลิง ไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมบุกของพวกเค้าได้เท่าไหร่นัก จึงทำให้เชื่อว่า โอกาสของเจ้าตัว น่าจะใกล้เข้ามาทุกที

และพวกเรายังมีบทความฟุตบอล และบทวิเคราะห์อื่นๆ มากมาย ไม่อยากให้เพื่อนๆ พลาดสิ่งดีๆ จากพวกเรา จึงขอให้ทุกท่านติดตาม ufa.soccer กันต่อไปเรื่อยๆ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน ขอบคุณครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้