สุดยอดแมตช์ แห่งการคัมแบ็ค ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

สุดยอดแมตช์ แห่งการคัมแบ็ค ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พร้อมนำข้อมูลมาแบ่งปันทุกท่าน เกี่ยวกับแมตช์การแข่งขันสุดประทับใจ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ว่ามีนัดไหนกันบ้าง ที่เป็นสุดยอด แห่งการคัมแบ็ค ของเกมการแข่งขันนัดนั้นก่อนที่จะไปดูกันว่าเกมไหนกันบ้าง

ทีมงานขอแนะนำ Ufabet เวปไซต์เดิมพัน ออนไลน์ ที่มั่นคงปลอดภัย มากที่สุด และ มาแรงที่สุดในช่วงนี้ ด้วยอัตราการต่อรอง และ ค่าน้ำ ที่ไม่มีอั้น ไม่มีกั๊ก พร้อมฝาก-ถอนได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมี เกม คาสิโน และ กีฬา อื่นๆ ให้เดิมพันกันอย่างมากมาย สนใจ สมัครได้เลยที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียว

สุดยอดแมตช์ แห่งการคัมแบ็ค ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ทีมงานได้จัดเต็มข้อมูลเกี่ยวกับ สุดยอดแมตช์ แห่งการคัมแบ็ค ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยมี 6 เกมการแข่งขันด้วยกัน ซึ่งจะเป็นคู่ไหนกันบ้าง และ ยังตราตึงใจทุกท่านหรือไม่ เริ่มกันตั้งแต่

ปาฏิหาริย์ แห่ง อิสตัลบูล – เอซี มิลาน 3 – 3 ลิเวอร์พูล (ลิเวอร์พูล ชนะ จุดโทษ 3-2) 2004/05

เกมนี้เริ่มมาได้เพียงไม่นาน เปาโล มัลดินี่ ทำประตูขึ้นนำให้ เอซี มิลาน อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีแรก และ ดูเหมือนว่า โอกาสการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 7 ของพวกเขาจะใกล้แค่เอื้อม ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากนั้น อังเดร เชฟเชนโก้ และ กาก้า ต่างถวายพาลให้ เอร์นาน เครสโป ทำประตู สองลูกรวด ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล คัมแบ็คได้ในครึ่งหลัง อย่างน่าทึ่งในช่วงเวลาแค่ 7 นาที โดยเป็นช่วงเวลาตั้งแต่นาทีที่ 54 ถึง 60 เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราด, วลาดิเมียร์ สมิเซอร์ และ ชาบี อลอนโซ่ ทำประตู 3 ลูก ตีเสมอไปได้ แถมช่วงต่อเวลาพิเศษ เจอร์ซี่ ดูเด็ค เซฟลูกยิงเผาขนของ อังเดร เชฟเชนโก้

ช่วงตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ดูเด็ค ยังเซฟจุดโทษได้สองครั้ง นำพาให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่

บาร์เซโลน่า ทำปาฏิหารย์ใส่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง – บาร์เซโลน่า 6 – 1 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2016/17

บาร์เซโลน่า กลายเป็นทีมแรกที่คัมแบ็คกลับมาจากสี่ประตูได้ ทำให้เกมนี้ได้รับการกล่าวขานว่า ลา เรมอนตาด้า โดยเกมนี้เป็นการแข่งขันเลกสอง หลังจากที่นัดแรก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านถล่ม บาร์เซโลน่า 4-0

ส่วนเกมนี้เล่นกันที่ คัมป์นู โดยเกมนี้ เจ้าบ้านได้ประตูออกนำไวจาก หลุยส์ ซัวเรส ในนาทีที่ 3 ตามมาด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของ เลย์แว็ง คูร์ซาว่า แบ็คของทีมเยือน ส่วนครึ่งหลัง ลิโอเนล เมสซี่ ซัดจุดโทษนาทีที่ 50 ทำให้เจ้าบ้านนำไปแล้ว 3-0 แต่นาทีที่ 62 เอดิสัน คาวานี่ กองหน้าทีมเยือนทำประตูไล่มาเป็น 3-1

แต่ทว่า ช่วงท้ายเกม ปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อ เนย์มาร์ ทำสองประตูในนาทีที่ 88 และซัดจุดโทษนาทีที่ 90+1 และนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แซร์จี้ โรแบร์โต้ ทำประตู พร้อมกับการเฮลั่นของแฟนบอลและนักฟุตบอลเจ้าถิ่น เป็นการคัมแบ็คได้อย่างยิ่งใหญ่เสียจริงๆ

ลิเวอร์พูล ขโมยชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่เหนือ – ลิเวอร์พูล 4 – 0 บาร์เซโลน่า 2018/19

เกมแรก บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล อย่างง่ายดาย 3-0 ส่วนในแอนฟิลด์นั้นแตกต่างกันออกไปสิ้นเชิง โดย บาร์เซโลน่า นั้นแทบจะก้าวขาไปสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว แต่ทว่าเจอทีเด็ดจาก ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ ดิว็อก โอริกี้ กองหน้าตัวนำโชค ซัดประตูในนาทีที่ 7 ส่วนครึ่งหลัง จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม ซัดสองประตูในนาทีที่ 54 และ 56 หลังจากนั้นทีมเยือนรวนเข้าไปใหญ่และจังหวะทีเผลอ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บรรจงเปิดบอลจากลูกเตะมุมนิ่มๆ ให้ ดิว็อก โอริกี้ ซัดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย เฮ กันลั่นทั้งสนาม จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้ พร้อมกับบรรยากาศในสนามที่ชวนขนลุก พร้อมกับเสียงเพลง You” ever walk alone อันดังกึกก้องทั้งแอนฟิลด์ ก่อนที่นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล จะคว่ำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้อย่างงดงาม

“เฟอร์กี้ ทาร์ม” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดับฝัน บาเยิร์น มิวนิค – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 1 บาเยิร์น มิวนิค 1998/99

บาเยิร์น มิวนิค คุมเกมได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น โดย มาริโอ บาสเลอร์ แข้ง บาเยิร์น มิวนิค ซัดฟรีคิกลูกถนัดเข้าเสาแรกอย่างสวยสดงดงาม หลังจากนั้น บาเยิร์น มิวนิค ขึงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทั้งเกม แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เสียที

จนถึงช่วงท้ายเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สร้างปาฏิหาริย์และเฟอร์กี้ทาร์มได้อย่างตามนัด โดยเป็น เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม ทำประตูตีเสมอไปได้ และดูเหมือนว่าเกมนี้จะต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

แต่ก่อนหมดเวลาการแข่งขันในช่วงไม่กี่อึดใจ จากการเปิดบอลหวังผลของ เดวิด เบ็คแฮม และเป็นทาง เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม โหม่งเช็ด บอลพุ่งไปทางที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กองหน้าซูเปอร์ซับของทีม จมูกไว วิ่งเข้าไปซัดเข้าประตูชัย เป็นประตูที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์อย่างเหลือเชื่อ

โดยที่ นักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ลงไปนอนกองกับพื้น ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเลย สุดท้ายแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ในฤดูกาลนั้นได้อย่างยิ่งใหญ่

เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ทำทีเด็ดใส่ เอซี มิลาน – เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า 4 – 0 เอซี มิลาน 2003/04

“ปาฏิหาริย์ มักเกิดขึ้น ในสิ่งที่คุณไม่คาดหวังอย่างมีเหตุผล” วลีจาก ฆาเบียร์ อิรูเรต้า โค้ชของ ลา คอรุนญ่า กล่าวหลังจากเกมนี้ โดยเกมเลกแรก เอซี มิลาน ชุดผู้เล่นระดับพระกาฬ เปิดบ้านทุบ เดปอร์ติโบ ลา คอรุณญ่า 4-1

ส่วนเกมเลกสอง อดีตทีมดังจากสเปนได้เล่นในบ้าน โดยเกมนี้พวกเขาเริ่มต้นได้อย่างเพอร์เฟ็ค ได้ประตูจาก วอลเตอร์ ปันดิอานี่ ตั้งแต่นาทีที่ 5 ตามด้วย ฆวน การ์ลอส บาเลรอน นาทีที่ 35 และ อัลเบิร์ต ลูเก้ นาทีที่ 44 เท่านั้นยังไม่พอครึ่งหลัง ฟราน ทำประตูได้ในนาทีที่ 76

พาทีม เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า คว้าชัยได้ในเกมนี้ รวมผลสองนัดเป็น 5-4 เข้ารอบได้อย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว

โมนาโก จัดการ เรอัล มาดริด ให้ตกรอบแบบเจ็บปวด – โมนาโก 3 – 1 เรอัล มาดริด 2003/04

นัดแรก เรอัล มาดริด เปิดบ้านถล่ม โมนาโก 4-2 และดูเหมือนว่าเกมนัดที่สอง เรอัล มาดริด จะไม่ได้เจองานยากเท่าไหร่ แต่ทว่ามันเหมือนจะเป็นแบบนั้น

เพราะเกมนัดที่สองในบ้านของ โมนาโก ทางทีมเยือน เรอัล มาดริด ได้ประตูนำไปก่อนจาก ราอูล กอนซาเลซ ทำประตูได้ในนาทีที่ 36 แต่ทว่าหลังจากนั้น โมนาโก ตีเสมอได้ในนาทีที่ 45 จาก ลูโดวิก ชูลี่

โดยหลังจากนั้นครึ่งหลัง เฟร์นานโด โมริเอนเตส ทำประตูในนาทีที่ 48 และ ลูโดวิก ชูลี่ ทำประตูที่ 66 พาเจ้าบ้าน โมนาโก เอาชนะ เรอัล มาดริด และผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยกฏอเวย์โกล

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *