สรุปผลบอล ยูซีแอล เลกแรก วันอังคาร

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ที่ลงฟาดแข้งกันไปแล้ว เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีด้วยกัน 4 คู่ ซึ่งเป็นการโรมรัน ระหว่างยอดทีมจากทวีปยุโรป ซึ่งทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พร้อมจัดเต็มกับการ สรุปผลบอล ยูซีแอล เลกแรก วันอังคาร แบบจัดเต็มทุกคู่ มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพันออนไลน์ ที่ครบวงจรมากที่สุด เปิดให้บริการร่วม 20 ปี คร่ำหวอดในวงการอย่างยาวนาน มีให้เล่นทั้ง ฟุตบอล กีฬา เกม และ คาสิโน ครบวงจร สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Ufabet โปรดระวังของเลียนแบบ

สรุปผลบอล ยูซีแอล เลกแรก วันอังคาร

เมื่อคืนวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก 4 คู่ด้วยกัน ซึ่งมาดูกันว่า จะเป็นเป็นทีมไหน ที่ได้ฟาดแข้งกัน แล้วผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ใครเป็นฝ่ายชนะในเลกแรก แข่งขันกันที่ไหน สถิติหลังเกมเป็นอย่างไร โดยมาเริ่มกันที่

สปอร์ติ้ง ลิสบอน 0 – 5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอดทีมจากประเทศโปรตุเกส เปิดสนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาเด้ พ่ายแพ้ให้กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างท่วมท้น 0-5

โดยเกมนี้ เจ้าบ้านสู้ไม่ได้โดยประการทั้งปวง แม้จะได้บุกสวนกลับบ้าง แต่ก็ทำอันตรายอะไรไม่ได้ แตกต่างกับทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า คุณภาพผู้เล่นเหนือกว่ากันชัดเจน

จนในนาทีที่ 7 เควิน เดอ บรอยน์ จัดการแอสซิสต์ ให้ ริยาด มาห์เรซ ซัดเข้าไปนิ่มๆ ไม่เหลือ ประตูนี้ไม่ล้ำหน้า ผู้ตัดสินเช็ค VAR ให้ทีมเยือน เป็นฝ่ายได้ประตูนำไปก่อน 0-1

หลังจากนั้นทีมเยือนยิ่งเล่นยิ่งดีกว่า มาได้ประตูที่สอง จาก แบร์นาโด้ ซิลวา ยิงนิ่มๆ เข้าไป ในนาทีที่ 17 และต่อมานาทีที่ 32 ฟิล โฟเด้น ทำประตูด้วยเท้าขวา จากการแอสซิสต์จาก ริยาด มาห์เรซ ตอนนี้ทีมเยือนนำห่างเป็น 0-3

ช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 44 แบร์นาโด้ ซิลวา ซัดประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ โดย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นผู้แอสซิสต์ จบครึ่งแรก สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำไปถึง 0-4

ครึ่งหลัง ทีมเยือนยังคงเล่นได้อย่างเหนือกว่า และ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทำประตู ยิ่งเล่นยิ่งดุดัน จนมาได้ประตูที่ 5 จาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จากการแอสซิสต์ ของ แบร์นาโด้ ซิลวา หลังจากนั้น ไม่มีทีมไหนทำประตูได้ แม้ว่าทางทีมเยือนจะโหมกระหน่ำบุกมากก็ตาม

เกมนี้จบลงด้วย สปอร์ติ้ง ลิสบอน แพ้คาบ้านเละเทะต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-5 โดยทาง แมนฯ ซิตี้ แทบจะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบไม่พลิกโผ ซึ่งเกมนี้น่าแปลกใจตรงทาง นักเตะและกุนซือเจ้าบ้าน รับสภาพว่าสู้ไม่ได้ หลังเกม กุนซือเจ้าถิ่นอย่าง รูเบน อโมริม ยิ้มรับสภาพ แต่ทว่ากับ เป็ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของทีมเยือน ออกอาการเคร่งเครียดผ่านสีหน้าชัดเจน แถมยังให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ลูกทีมของพวกเขาควรทำได้ดีกว่านี้

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

สปอร์ติ้ง ลิสบอน : 5-2-3-1 : อันโตนิโอ อาดาน (ประตู) : เปโดร ปอร์โร, เซบาสเตียน โคอาเตส, กอนคาโล อินาคิโอ, มาเตอุส รีส, ริคาร์โด้ เอสกาลิโอ, ชูเอา ปาลลินญ่า, มาเตอุส นูเนส, เปโดร กอนคัลเวส, เปาลินญ่า, ปาโบล ซาราเบีย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 4-3-3 : เอแดร์ซอน (ประตู) : จอห์น สโตน, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ก, ชูเอา คานเซโล่, แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

สถิติเกมนี้

อัตราการครองบอล : สปอร์ติ้ง ลิสบอน ครองบอล 37% แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอล 63%

โอกาสทำประตู : สปอร์ติ้งลิสบอน 3 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 15 ครั้ง

เตะมุม : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6 ครั้ง

ฟรีคิก : สปอร์ติ้ง ลิสบอน 16 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 9 ครั้ง

ทำฟาวล์ : สปอร์ติ้ง ลิสบอน 9 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 16 ครั้ง

ล้ำหน้า : สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 ครั้ง

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1 – 0 เรอัล มาดริด

“เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดสนาม ปาร์ค เดอ แปร็งส์ เฉือนชนะ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แบบหืดจับ ทุลักทุเล ด้วยสกอร์ 1-0 เก็บชัยชนะได้ตามเป้า

โดยเกมนี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จัดเต็มผู้เล่นที่ดีที่สุดที่มี ลงสนาม หวังคว้าชัยชนะให้ได้ ก่อนที่จะออกไปเยือน โดยเกมนี้ เต็มไปด้วยความอึดอัดตลอดทั้งเกม

เจ้าบ้านโหมเกมรุกบุกใส่ทีมเยือนแบบไม่ลดละ เพราะว่าคุณภาพนักเตะดูดีกว่าในแนวรุก แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้สักที ได้แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา

ส่วนทีมเยือน ก็เล่นได้อย่างเหนียวแน่นรับกุม ไม่ได้ก็ขอไม่เสีย เหมือนจะหวังรักษาสกอร์เสมอเอาไว้ ก่อนจะไปจัดการเกมในบ้าน ซึ่งเกมนี้ทีมเยือนก็ทำได้ดีเหลือเกิน พวกเขาเล่นเกมรับ รอจังหวะสวนกลับ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่าไหร่ จบครึ่งแรก เสมอกันไป 0-0

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งกดดันตัวเอง แม้จะได้โอกาสบุก แต่ก็ขาดๆ เกินๆ ไปเสียหมด แตกต่างกับทีมเยือน ที่ยิ่งยันอยู่ ยิ่งเล่นได้ดียิ่งขึ้น และแล้วโอกาสทองของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้จุดโทษ แต่ทว่า ลิโอเนล เมสซี่ กับซัดจุดโทษไม่ผ่านมือของ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ทำให้สถานการณ์ของเจ้าบ้านแย่ไปกันใหญ่ ทำให้ทีมเยือนมั่นใจมากขึ้น

เกมทำท่าเหมือนจะจบลงด้วยผลเสมอแบบสุดจืดชืด แต่สุดท้ายแล้ว เจ้าบ้านก็มาได้ประตูที่ต้องการ เมื่อ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ โชว์ความสามารถเฉพาะตัวหลบกองหลังซัดเข้าไปแบบสุดสวย เกมนี้จบลงด้วย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านเฉือนชนะ เรอัล มาดริด 1-0

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง : 4-3-3 : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (ประตู) : อัชราฟ ฮาคิมี่, มาร์ควินญอส, เพรสเนล คิมเพมเบ้, นูโน่ เมนเดส, ดานิโล่ เปเรย์ร่า, เลอันโดร ปาเรเดส, มาร์โก้ แวร์รัตติ, อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี่, คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้

เรอัล มาดริด : 4-3-3 : ติโบต์ กูร์ตัวส์ (ประตู) : ดาเนี่ยล ฆาร์บาคัล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาบิด อลาบา, แฟร์ล็อง เมนดี้, ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, มาร์โก้ อเซนซิโอ้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์

สถิติเกมนี้

อัตราการครองบอล : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 57% เรอัล มาดริด ครองบอล 43%

โอกาสทำประตู : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 21 ครั้ง เรอัล มาดริด 3 ครั้ง

เตะมุม : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 7 ครั้ง เรอัล มาดริด 2 ครั้ง

ฟรีคิก : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 12 ครั้ง เรอัล มาดริด 12 ครั้ง

ทำฟาวล์ : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 14 ครั้ง เรอัล มาดริด 12 ครั้ง

ล้ำหน้า : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1 ครั้ง

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *