จูด เบลลิงแฮม

เกมที่ ทีมชาติอังกฤษ เฉือนชนะ ทีมชาติโครเอเชีย ด้วยสกอร์ 1-0 ด้วยรูปเกม คงไม่มีอะไรที่ต้องพูดถึงกันมากนัก เพราะไม่ค่อยมีอะไรให้ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ทว่าเกมนี้ มีประวัติศาสตร์เกิดขึ้น นั่นก็คือ จูด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์จากสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทนที่ แฮร์รี เคน ในนาทีที่ 82 ได้กลายเป็นสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงสนามในศึก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร รอบสุดท้าย ด้วยวัย 17 ปี 349 วัน ทำลายสถิติเดิมของ เยโทร วิลเล่มส์ ดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ ที่เคยทำไว้ด้วยวัย 18 ปี 71 เมื่อในยูโร 2012

เจ้าหนูรายนี้ เป็นใครกัน มีใครเคยได้ยินเรื่องของเขาแว่วๆ หรือไม่? ประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้ย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วันนี้ทีมงาน ufa.soccer มีคำตอบให้ครับ

รู้จักกับ จูด เบลลิงแฮม

จูด เบลลิงแฮม เกิดในเมืองสตัวร์บริดจ์ ในเทศมณฑลเวสต์ มิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ เกิดวันที่ 29 มิถุนายน ค.ส. 2003 ปัจจุบันอายุ 17 ปี โดยเจ้าตัวเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่การเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสร เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ตั้งแต่อายุไม่ถึง 8 ปีและได้ประเดิมเกมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี

เจ้าตัวอยู่กับทีมอย่างยาวนานและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ฟอร์มก้าวกระโดดจนสามารถติดทีมชุดใหญ่ ได้ในฤดูกาล 2019/2020 ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ 44 นัด ทำได้ 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ ว่าง่ายๆ แถมยังลงสนามในลีกให้กับ เบอร์มิ่งแฮม ไปถึง 41 นัด

ยึดตัวหลักได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ เบอร์มิ่งแฮม อีกต่างหาก และยังเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำประตูให้กับทีมชุดใหญ่ ฟอร์มดีจน แกเร็ธ เซาท์เกต เรียกติดทีมชาติในช่วงปลายปีก่อน

ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าตัวติดทีมชาติชุดเล็กแทบทุกรุ่นมาแล้ว ส่วนเรื่องการย้ายทีมหลังจากจบฤดูกาล 2019/2020 มีกระแสข่าวลืออย่างหนัก บรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่างต้องการจะคว้าลายเซ็นต์นักเตะรายนี้ไปร่วมทีม

ครั้งนึง เจ้าตัว เคยได้รับเชิญให้มาเยี่ยมศูนย์ฝึกของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย ทว่าท้ายที่สุด จูด เบลลิงแฮม ตกลงข้ามประเทศย้ายไปร่วมทัพกับสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวประมาณ 26 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญายาว 5 ปี

สไตล์การเล่นของเขาเป็นนักเตะประเภทห้องเครื่องของทีม ที่พร้อมจะวิ่งควบคุมแดนกลาง ทั้งเกมรับและเกมรุก การจ่ายบอลก็ถือว่าทำได้ดี รวมถึงเกมรับการเข้าสกัด ก็ทำผลงานได้ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่

ฤดูกาลแรกของเขากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลงสนามทั้งสิ้น 46 นัด รวมทุกรายการ ถือว่าได้รับโอกาสอย่างมากกับการลงสนามด้วยวัยเพียง 17 ปีกับสโมสรระดับโลก ยอดทีมจากบุนเดสลีกา โดยยิงได้ 4 ประตูและแอสซิสต์อีก 5 ลูกด้วยกัน

เส้นทางกับทีมชาติอังกฤษ

ส่วนการประเดิมทีมชาติชุดใหญ่นัดแรก เจ้าตัวได้ลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 73 กับเกมอุ่นเครื่อง ทีมชาติอังกฤษ พบ ทีมชาติไอร์แลนด์ โดยเกมนั้น อังกฤษ ชนะ 3-0 ก่อนที่จะได้รับโอกาสติดทัพชุดใหญ่มาเรื่อยๆ

และท้ายที่สุด แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้เรียกตัวเขา ติดทีมชุดลุยศึกฟุตบอล ยูโร 2020 โดยกุนซือให้สัมภาษณ์ ความว่า คุณได้เห็นฝีเท้าของเจ้าหนูรายนี้แล้ว ทั้งบุนเดสลีกา และ แชมเปี้ยนชิพ เจ้าหนูรับมือกับความกดดันได้อย่างดี

โดยเขายังเป็นนักเตะที่มุ่งมั่นทั้งสนามจริงและสนามซ้อม เขาจะไม่ได้เข้ามาแค่เพิ่มประสบการณ์เท่านั้น แต่จะได้มีส่วนร่วมกับรายการนี้แน่นอน ซึ่งก็จริงอย่างที่กุนซือทีมชาติอังกฤษกล่าวขึ้น

เพราะเกมนัดแรกของ ทีมชาติอังกฤษ ที่พบกับ ทีมชาติโครเอเชีย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา จู้ด เบลลิงแฮม ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองแทนที่ แฮร์รี เคน ในนาทีที่ 82 ซึ่งกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ของรายการ ฟุตบอลยูโร ที่ได้ลงสนาม

แม้ฟอร์มยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ก็กลายเป็นผู้เล่นที่สร้างสถิติใหม่ให้กับ ยูโร 2020 ท้ายที่สุด ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีกว่าๆ เจ้าตัวน่าจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของทีมชาติอังกฤษ อย่างแน่นอน

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *