แมนซิตี้ รอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ฟุตบอลรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2020/21 ใกล้จะได้บทสรุปเต็มทีแล้ว โดยปีนี้คู่ชิงชนะเลิศเป็นศึก All-English Finals ระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “สิงห์โตน้ำเงินคราม” เชลซี ซึ่งความน่าสนใจคือทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ฝั่งสีฟ้าที่เข้าใกล้เป้าหมายสูงสุดของสโมสรที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยแม้เข้ามาเฉียดได้เลย วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะมาให้ข้อมูลว่าทำไมถ้วยหูใหญ่ใบนี้ถึงสำคัญกับทัพเรือใบสีฟ้านักหนา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเพื่อนบ้านน่ารำคาญ

ในอดีตหากเราพูดถึงทีมจากเมืองใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ แฟนบอลพรีเมียร์ลีกคงนึกออกแค่ชื่อเดียวเท่านั้นคือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้ ส่วนฝั่งสีฟ้าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริเบอร์หนึ่งในเมืองเดียวกันมีสถานะเป็นแค่แมลงหวี่แมลงวันทำได้แค่สร้างความรำคาญได้เท่านั้น อย่าว่าแต่ลุ้นแชมป์ แม้แต่ทำอันดับไปเล่นในเวทียุโรปยังแทบไม่เคยเห็นชื่อ

สู่ผู้มีอิทธิพลสูงสุดบนเกาะอังกฤษ

การเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรของ ชีค มันซูร์ บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน เปลี่ยนแปลงสถานนะของสโมสรเรือใบสีฟ้ามาถึงทุกวันนี้ โดย ซิตี้ เริ่มต้นความยิ่งใหญ่ด้วยการปลดล็อคคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้ในรอบ 44 ปี ในฤดูกาล 2011/12 หลังจากนั้นยุคสมัยก็เป็นของพวกเขาสามารถกวาดแชมป์ในประเทศมาครองได้ทุกรายการที่ลงแข่งขัน พร้อมทั้งสถิติที่มำลายได้อย่างมากมายทั้ง ทำแต้มมากที่สุดในลีก(100 คะแนน), ยิงมากที่สุด (106 ประตู), ชนะมากที่สุด(32 นัด), คว้าแชมป์ลีกคัพติดต่อกัน 4 สมัย

ไม่มีถ้วยรางวัลยุโรป

แม้ผลงานในประเทศ แมน ซิตี้ จะไร้เทียมทานเพียงใด แต่เมื่อออกไปเล่นนอกประเทศกลับเล่นกันได้แย่กว่าที่กูรูบอลหลายคนคาดหวัง มันจริงเป็นเหตุผลที่กุนซือฝีมือดีหลายคนต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งทั้งๆที่ผลงานของทีมในลีกก็ไม่ได้แย่นักโดย โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่พาทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม 2 ปีซ้อน, มานูเอล เปเยกรีนี พาทีมตกรอบ 16 ทีม 2 ปี และตกรอบรองชนะเลิศ 1 ปี จนบอร์ดบริหารของสโมสรต้องนำกุนซือที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของยุคอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามารับหน้าที่ เพื่อหวังว่าความฝันของพวกเขาจะเป็นความจริงขึ้นมาได้เสียที

แม้แต่ เป๊ป ก็โดนสบประมาท

การเข้ามาของกุนซือชาวสเปนพา ซิตี้ ครองเกาะอังกฤษได้แทบจะเบ็ดเสร็จ ทว่าผลงานในเวทียุโรปของพวกเขาก็น่าผิดหวังแบบสุดๆ ฤดูกาลแรกที่เข้ามาในปี 2016/17 เดินทางถึงแค่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้นด้วยน้ำมือของ โมนาโก แบบน่าเจ็บใจด้วยกฎอเวย์โกล, ปี 2017/18 แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 5-1 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย, ปี 2018/19 ตกรอบด้วยกฎอเวย์โกลอีกครั้งต่อ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, ปี 2019/20 ก็ต้องอกหัวพ่ายให้กับ โอลิมปิก ลียง จอดป้ายแค่เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง จนมีหลายคนคิดว่าทีมที่เพียบพร้อมอย่าง ซิตี้ จะขาดสิ่งเดียวที่เรียกว่า “วาสนา”

ความพยายามสัมฤทธิ์ผล

จนกระทั่งในฤดูกาล 2020/21 นี้ ภายใต้การนำทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในปีที่ 5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เดินทางมาไกลจนเกือบจะถึงปลายทาง โดยผลงานลีกของพวกเขายังคงไร้ทางต่อต้านคว้าแชมป์คาราบาว คัพมาครองได้ ส่วนพรีเมียร์ลีก ก็ทำแต้มนำโด่งแทบจะการันตรีแชมป์ได้แล้ว และที่สำคัญที่สุดคือรายการอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ล้างอาภรรพ์ได้แล้ว เข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรหลังผ่านด่าน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค(รอบ 16 ทีม), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (รอบ 8 ทีม) และปารีส แซงแชร์กแมง (รอบรองชนะเลิศ) ต้องมาคอยดูว่าคำสบประมาทที่เคยโดนเหยียดหยามมาจากแฟนทีมอื่นๆว่าพวกเขาเก่งแต่ในลีก หรือข้ออ้างสุดท้ายจากแฟนทีมอื่นว่าพวกเขายังไม่ขึ้นแท่นทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษเนื่องจากยังพิสูจน์ฝีเท้าว่าเป็นจ้าวยุโรปไม่ได้ ทุกคำสบประมาทจะโดนลบออกไป และประวัติศาสตร์ของสโมสรจะโดนจาลึกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในค่ำคืนวันเสาร์ ที่ 29 พฤษภาคม เท่านั้นแน่นอนว่าในรอบชิงชนะเลิศ ของรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของทีมงานวิเคราะห์บอล ufasoccer ก็จะมีทัศนะบอลดีๆก่อนการแข่งขันจะเริ่มมาฝาก หวังว่าเพื่อนๆจะไม่พลาดการติดตามพวกเรา และหากนำเทคนิคการเล่นบอลออนไลน์ที่เคยบอกไปในบทความก่อนหน้านี้มาช่วย โอกาสที่พวกท่านจะทำกำไรได้ย่อมมีมากขึ้นไปอีก หวังว่าทุกคนจะโชคดีมีชัย ครั้งหน้ามาพบกันใหม่นะครับ

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *