รีวิว ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2020 2021

สุดท้ายแล้วแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2020-2021 ก็รู้ผลกันแล้ว ซึ่งก็เป็นทาง “เรือดำน้ำสีเหลืองบียาร์เรอัล จากศึกลาลีกา สเปน สามารถดวลจุดโทษเอาชนะ “ปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด 11-10 (ช่วงเวลาปกติ เสมอ 1-1) คว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งแรกเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร วันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จึงขอย้อนรอยเส้นทางสู่แชมป์ของสโมสรจากประเทศสเปน กว่าจะคว้าถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก มาครอง พวกเขาเจออะไรมาบ้าง ซึ่งมีสถิติน่าสนใจอย่างมาก

ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

บียาร์เรอัล โดยการคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ กุนซือสัญชาติสเปนที่กลับมาคุมสโมสรบ้านเกิดอีกครั้ง มีฉายา เจ้าพ่อยูโรป้าอีกด้วย ซึ่งเพิ่งเข้ามาคุมก่อนซีซั่น 2020/21 จะเริ่มต้นขึ้น โดยรายการนี้พวกเขาอยู่กับกลุ่ม H สายเดียวกับ ชีวาสสปอร์ ทีมจากประเทศตุรกี, มัคคาบี้ เทล อาวีฟ ทีมจากประเทศอิสราเอล และ คาราบัค ทีมจากประเทศอาเซอร์ไบจาน โดย บียาร์เรอัล จบอันดับแชมป์กลุ่ม โดยชนะ 5 นัด และ เสมอ 1 นัด ด้วยกัน มี 16 แต้ม ยิงได้ 17 ประตู เสีย 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในรอบนี้และของทีม ซึ่งแม้อยู่ในสายที่ไม่แข็งมากแต่พวกเขาก็ไม่พ่ายให้กับใครแม้แต่นัดเดียว อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่ใช่ทีมเต็งในเวลานี้

เส้นทางในรอบน็อคเอาท์

รอบ 32 ทีม

พวกเขามีคิวเจอกับ เร้ดบลู ซัลบวร์ก โคตรทีมครองลีกแห่งประเทศออสเตรีย แต่ทว่า บียาร์เรอัล ก็ยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย โดยเกมแรกบุกไปสร้างความได้เปรียบอย่างมาก ด้วยการชนะถึงถิ่น 2-0 ก่อนที่จะกลับมาเล่นในบ้าน เน้นเล่นแบบรัดกุมเอาตัวรอดชนะไปได้ 2-1 อย่างสวยงาม รวมสกอร์ 2 นัด ชนะ 4-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

รอบ 16 ทีม

รอบนี้พวกเขาเจอทีมจากประเทศยูเครน ดินาโม เคียฟ ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มา แต่พลพรรคเรือดำน้ำสีเหลือง ก็สามารถผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็น โดยเกมแรก บุกไปชนะถึงถิ่นต่อหน้าแฟนบอล 12751 คน ด้วยสกอร์ 2-0 และ กลับมาเล่นในบ้านก็ชนะได้อย่างง่ายดาย 2-0 รวมผลสกอร์สองนัด 4-0 ดูเหมือนว่าพวกเขาเริ่มเป็นหนึ่งทีมที่จะคลาดสายตาไปไม่ได้เสียแล้ว

รอบ 8 ทีม

พวกเขาเจอทีมม้ามืดจากโครเอเชีย อย่าง ดินาโม ซาเกร็บ ที่เพิ่งล้ม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกหนึ่งทีมเต็งมาหมาดๆ แต่ด้วยแทคติกของ อูไน เอเมรี่ และ ขุนพลนักเตะที่เล่นตามโค้ชแบบเป๊ะๆ ทำให้ เกมนัดแล้วพวกเขาบุกไปเฉือนชนะในบ้าน ซาเกร็บ 1-0 และกลับมาชนะในบ้านตัวเองชิลล์ๆ 2-0 ณ รวมผลสองนัด 3-0 ตอนนี้ บียาร์เรอัล ขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมเต็งอย่างเต็มตัว

รอบรองชนะเลิศ

ในรอบนี้ อูไน เอเมอรี่ ได้เจอทีมเก่า ที่ทำให้เขาเสียสถิติแพ้นัดชิงชนะเลิศรายการนี้ นั่นก็คือ อาร์เซน่อล นั่นเอง โดยเกมแรกพวกเขาได้เล่นในบ้าน ทำได้ดีกว่า เบียดเอาชนะไปได้ 2-1 ก่อนที่จะไปเยือนถิ่นลอนดอนและยันเสมอแบบไร้สกอร์ ผลสองนัดรวม 2-0 ทำเอาสโมสรเก่าเจ็บช้ำขั้วหัวใจ เข้าไปชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจุดนี้ จะเรียกว่าพวกเขาเป็นเต็งหนึ่งก็ยังได้

รอบชิงชนะเลิศ

ที่สนาม สตาดิโอน เอเนอร์ก้า กดังส์ค ณ ประเทศ โปแลนด์ ซึ่งเป็นเกมสำคัญของทั้ง บียาร์เรอัล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมเริ่มมา แน่นอนว่าเป็น ปีศาจแดง ได้ครองบอลมากกว่า ทว่านาทีที่ 29 เคราร์ด โมเรโน่ ทำประตูจากลูกเตะมุมทำให้ เรือดำน้ำสีเหลืองออกนำไปก่อน ทว่าหลังจากนั้น เป็น ปีศาจแดง บุกได้มากกว่า จนมาได้ประตูในครึ่งหลังจากการซ้ำจังหวะเก็บตกของ เอดิสัน คาวานี่ ในนาทีที่ 55 จากนั้น แมนยูฯ บุกได้มากกว่า แต่ไม่สามารถทำอะไร บียาร์เรอัล ได้เลย เพราะเล่นตามแทคติกอย่างเหนียวแน่น ยันต่อเวลาพิเศษ 120 นาทีก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ที่สำคัญ บียาร์เรอัล ยิงประตูตรงกรอบครั้งเดียวตลอดทั้งเกม จนมาถึงจังหวะดวลจุดโทษ ดาบิด เด เกอา ยิงไปติดเซฟ เกโรนิโม รุลลี ทำให้ บียาร์เรอัล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษที่ 11-10 ส่วนช่วงเวลาปกติเสมอกัน 1-1 คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เป็นสมัยแรกของสโมสร แถมยังมีสถิติสุดเหลือเชื่อ เพราะ บียาร์เรอัล ไม่แพ้ให้ใครเลยในรายการนี้ คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่และเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ของ อูไน เอเมอรี่ เป็นสมัยที่ 4 จากการเข้าชิงชนะเลิศ 5 นัดอีกด้วย ทำให้ บียาร์เรอัล ได้สิทธิ์ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกแบบอัตโนมัติในซีซั่นหน้าอีกด้วย

Posted in วิเคราะห์บอลวันนี้


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *