ทำเนียบ แชมป์บอลยูโร รอบสุดท้าย มีใครกันบ้าง

ข้าสู่มหกรรมลูกหนัง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ซึ่งกำลังทำการแข่งขันกันตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม ใครจะเป็นจ้าวแห่งลูกหนังชาติยุโรป แฟนๆ ฟุตบอล และ นักเดิมพัน สามารถติดตามได้ทางช่องฟรีทีวี ซึ่งได้ซื้อลิขสิทธิ์มาอย่างฉิวเฉียด ทันคู่เปิดสนามกันไปแล้ว ส่วนวันนี้ ทีมงาน ufa.soccer มีเรื่องราวเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่น่าสนใจ นำฝากเพื่อนๆ โดยจะเป็นเรื่องราวของ ทำเนียบ แชมป์บอลยูโร ชาติไหน เคยลิ้มรสสัมผัสโทรฟี่นี้กันมาแล้วบ้าง มาดูกันเลยครับ

ทำเนียบ แชมป์บอลยูโร

ยุคแข่งขันกัน 4 ทีม

1. ฟุตบอลยูโร 1960 – การแข่งขันฟุตบอลยูโร เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ส. 1960 หรือ พ.ศ. 2503 ตอนแรกรายการมีชื่อว่า ฟุตบอลยูโรเปี้ยน เนชั่นส์ คัพ รูปแบบการแข่งขันเป็นระบบเหย้า-เยือน ในรอบแรกๆ ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ เป็นระบบน็อคเอาต์ โดยเจ้าภาพครั้งนั้นเป็นประเทศฝรั่งเศส สุดท้ายตำแหน่งแชมป์ครั้งแรกของรายการนี้ ก็คือ สหภาพโซเวียต โดยสามารถเอาชนะ ยูโกสลาเวีย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ครับ ซึ่งครั้งนี้มีการแข่งขันกันทั้งหมด 4 ทีมเท่านั้น

2. ฟุตบอลยูโร 1964 – 4 ปีต่อมาครั้งนี้ ประเทศสเปนเป็นเจ้าภาพกันบ้าง โดยแข่งขันในปี ค.ส. 1964 หรือ พ.ศ. 2507 ครั้งนี้จำนวนชาติที่เข้าแข่งขันมี 4 ทีมเช่นเคย โดยแชมป์ครั้งนี้ ตกเป็นของชาติเจ้าภาพ ประเทศสเปน สามารถล้มแชมป์เก่า สหภาพโซเวียต ด้วยสกอร์ 2-1 เป็นครังแรกที่ชาติเจ้าภาพสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

3. ฟุตบอลยูโร 1968 – ครั้งนี้การเปลี่ยนแปลงพอสมควร โดยเปลี่ยนชื่อรายการเป็น ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ รอบคัดเลือกนั้น เอาแชมป์ของแต่ละกลุ่มเข้าไปคัดรอบสอง ซึ่งแข่งกัน 2 นัด ก่อนผู้ชนะของแต่ละคู่จะเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย และแชมป์ครั้งนี้คือเจ้าภาพ อิตาลี สามารถเอาชนะ ยูโกสลาเวีย 2-0 หลังจากเกมแรกเสมอ 0-0

4. ฟุตบอลยูโร 1972 – ยังคงใช้การแข่งขันระบบแบบครั้งที่แล้ว โดยรอบนี้ เบลเยี่ยม รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยแชมป์ตกเป็นของ เยอรมันตะวันตก ถล่ม สหภาพโซเวียต แบบไม่มีอะไรต้องลุ้น โดยชนะนิ่มๆ ได้ 3-0 คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่

5. ฟุตบอลยูโร 1976 – ครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศยูโกสลาเวียกันบ้าง โดยรอบชิงชนะเลิศ เช็กโกสโลวาเกีย เสมอกับ เยอรมันตะวันตก 2-2 แต่ครั้งนี้พิเศษมากขึ้น โดยไม่ต้องแข่งใหม่ ใช้การดวลจุดโทษตัดสินแชมป์ ซึ่ง เช็กโกสโลวาเกีย สามารถ เอาชนะ เยอรมันตะวันตก 5-3 คว้าแชมป์ได้ในที่สุด

ยุคแข่งขันกัน 8 ทีม

6. ฟุตบอลยูโร 1980 – ครั้งนี้ปรับระบบกันใหม่ โดยเพิ่มทีมเป็น 8 ทีม โดยมี 7 ทีมจากรอบคัดเลือก บวกกับ อิตาลี ทีเป็นเจ้าภาพ ทีมที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม นำแชมป์กลุ่มมาเล่นรอบชิงชนะเลิศ โดยแชมป์ตกเป็นของ เยอรมันตะวันตก อีกครั้ง สามารถเอาชนะ เบลเยี่ยม 2-1

7. ฟุตบอลยูโร 1984 – มาถึงปีนี้ ฝรั่งเศส รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ เปลี่ยนระบบการแข่งขันโดยเอา 2 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดจากสองกลุ่ม รวมเป็นสี่ทีม เข้ามาเล่นรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศ โดยท้ายที่สุด เจ้าบ้าน ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ไปได้ โดยเอาชนะ สเปน 2-0

8. ฟุตบอลยูโร 1988 – การแข่งขันรอบนี้ จัดขึ้นที่ เยอรมันตะวันตก โดยยึดระบบจาก 1984 มาใช้ โดยตำแหน่งจ้าวยูโรในครั้งนี้ ตกเป็นของ ฮอลแลนด์ สามารถเอาชนะ สหภาพโซเวียต 2-0 ซึ่งเป็นครั้งแรกของทัพอัศวินสีส้ม ที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้มาครอง

9. ฟุตบอลยูโร 1992 – รอบนี้ สวีเดน รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยยึดการแข่งขันจากครั้งก่อนเช่นเคย ไฮไลท์ของการแข่งขันครั้งนี้ ก็คือ เดนมาร์ก ที่ได้ส้มหล่นหลังจาก ยูโกสลาเวีย ถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน โดย เดนมาร์ก สามารถคว้าแชมป์หลังจากล้ม เยอรมัน ได้ในนัดชิงชนะเลิศ 2-0

ยุคแข่งขันกัน 16 ทีม

10. ฟุตบอลยูโร 1996 – ครั้งนี้เจ้าภาพมาอยู่ที่เกาะอังกฤษ ได้มีการเปลี่ยนระบบการแข่งขันใหม่ โดยเพิ่มเป็น 16 ทีมเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และนำสองอันดับแรกของแต่ละกลุ่ม นำเข้ามาเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย อีกทั้งยังใช้กฏ โกลเด้นโกล์อีกด้วย ซึ่ง ทีมชาติเยอรมัน ชนะโกลเด้นโกล์ ต่อ ทีมชาติเช็ก ไปได้ 2-1

11. ฟุตบอลยูโร 2000 – รอบนี้เป็นครั้งแรกที่ มีเจ้าภาพร่วม โดย เบลเยี่ยม และ ฮอลแลนด์ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยยังยึดรูปแบบการแข่งขันจากปี 1996 มาใช้ และครั้งนี้ ฝรั่งเศส เอาชนะ อิตาลี 2-1 ซึ่งประตูชัยยังใช้กฏโกลเด้นโกล์

12. ฟุตบอลยูโร 2004 – ยังยึดระบบ 16 ทีมสุดท้ายเช่นเคย แต่ยกเลิกระบบโกลเด้นโกล์ โดยหากยังเสมอกันในช่วงเวลาต่อพิเศษ จะใช้การดวลลูกจุดโทษตัดสิน โดยรอบนี้ประเทศกรีซ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ และสามารถสร้างตำนานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากสามารถเอาชนะ โปรตุเกส 1-0 คว้าแชมป์ในบ้านได้อย่างยิ่งใหญ่

13. ฟุตบอลยูโร 2008 – ครั้งนี้ใช้ระบบจากปี 2004 แบบถอดด้าม โดยการแข่งขันครั้งนี้ ทีมชาติออสเตรีย และ สวิสเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพ โดย สเปน ทำได้สำเร็จอีกครั้ง สามารถเฉือนชนะ ทีมชาติ เยอรมัน 1-0

14. ฟุตบอลยูโร 2012 – ครั้งนี้ยังใช้สองประเทศเป็นเจ้าภาพ โดย ยูเครน และ โปแลนด์ รับหน้าที่นั้นไป และอีกครั้งที่แชมป์ครั้งนี้ ตกเป็นของ สเปน โดยถล่มเอาชนะ อิตาลี เละเทะ 4-0 นับว่าเป็นการชนะที่มากที่สุดในทัวร์นาเม้นต์นี้อีกด้วย

ยุคแข่งขันกัน 24 ทีม

15. ฟุตบอลยูโร 2016 – การแข่งขันรอบนี้เปลี่ยนจาก 16 ทีมมาเป็น 24 ทีม เป็นครั้งแรก แข่งกันที่ฝรั่งเศส โดยเพิ่มจาก 4 กลุ่มเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยเอา 2 ทีมคะแนนดีที่สุดแต่ละกลุ่มไปเล่นรอบต่อไป รวมถึงนำสามอันดับที่ดีที่สุด เข้ารอบต่อไป 4 ทีม โดยแชมป์ครั้งนี้ตกเป็นของ โปรตุเกส หลังเอาชนะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ได้ 1-0

ส่วนยูโรรอบนี้ ยังใช้ 24 ทีมเหมือนปี 2016 ใช้เจ้าภาพร่วมถึง 11 ประเทศและชิงชนะเลิศกันที่ ประเทศอังกฤษ โดยเรามาติดตามกันว่า ใครจะได้เป็นแชมป์

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *