แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบ16ทีม เลกสอง วันที่ 8-9 มีนาคม

ผ่านการแข่งขันเลกสอง ครบทุกคู่ไปแล้ว สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เรียกว่าระเบิดความมันส์กันไปแบบสุดทีน โดยแต่ละคู่ที่แข่งขันกัน ร่วมเข้มข้นทั้งนั้น ได้ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปก่อนแล้ว 4 ทีม โดยทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบ16ทีม เลกสอง วันที่ 8-9 มีนาคม ว่าจะเป็นนักเตะแข้งทองรายไหน ทำได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้

แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบ16ทีม เลกสอง วันที่ 8-9 มีนาคม

มาดูกันว่า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ยูซีแอล รอบ 16 ทีมเลกสอง วันที่ 8 ถึงวันที่ 9 มีนาคม 22 ถึง 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จะมีใครกันบ้าง แต่ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพันออนไลน์ ที่ครบวงจรมากที่สุด เปิดให้บริการร่วม 20 ปี คร่ำหวอดในวงการอย่างยาวนาน มีให้เล่นทั้ง ฟุตบอล กีฬา เกม และ คาสิโน ครบวงจร สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Ufabet โปรดระวังของเลียนแบบ

ลิเวอร์พูล 0 – 1 อินเตอร์ มิลาน

หงส์แดงลิเวอร์พูล ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก เปิดสนามแอนฟิลด์ พ่ายแพ้คาบ้านให้กับ “งูใหญ่อินเตอร์ มิลาน ยอดทีมจากกัลโช่ เซเรีย อา ด้วยสกอร์ 0-1 แต่เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 4-1

โดยเกมนี้ เจ้าบ้านเหนือกว่าตามคาดเพราะเล่นในบ้าน แต่ก็ยังเล่นได้ไม่ปะติดปะต่อ จังหวะสุดท้ายทำได้ดีแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำพาบอลไปสู่ก้นตาข่ายได้

แม้เจ้าบ้านจะพยายามอย่างหนัก แต่ด้วยสกอร์ที่ตุนไว้แบบเหลือกินเหลือใช้ ทำให้อย่างไร พวกเขาก็ไม่ต้องเร่งอะไรกันมากมาย ครึ่งแรกเสมอกันอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านเน้นมากขึ้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถทำอะไรทีมเยือนได้ ส่วนทีมเยือนก็มีโอกาสในจังหวะสวนกลับเหมือนกัน

แต่ทว่านาทีที่ 61 ทีมเยือนได้ประตูนำไปก่อนจากการยิงของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ทำให้ทีมเยือนนำไปก่อน 0-1 แต่หลังจากนั้นนาทีที่ 63 ทีมเยือนเหลือผู้เล่นสิบคน เมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ทว่าช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมไหนทำประตูเพิ่มได้ จบลงด้วยชัยชนะของ อินเตอร์ มิลาน แต่ทว่า ต้องตกรอบเพราะสกอร์รวม ลิเวอร์พูล ชนะ 4-1

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง มิลาน สคริเนียร์ กองหลังตัวหลักแนวรับหัวใจสำคัญของ อินเตอร์ มิลาน ที่โชว์ผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง เก็บคลีนชีทได้ในเกมนี้

บาเยิร์น มิวนิค 7 – 1 เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก

เสือใต้บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา คืนฟอร์มโหด เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ถล่มยับใส่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ยอดทีมจากออสเตรีย ด้วยสกอร์ 7-1 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 8-2

โดยเกมนี้ เจ้าบ้านเหนือกว่าตามคาดเพราะเล่นในบ้าน แล้วพวกเขาไม่รู้กินอะไรมาเกมนี้คึกเหลือเกิน จนมาได้ประตูในครึ่งแรกถึงสี่ลูกรวดจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซัดจุดโทษ นาทีที่ 12 และ 21 ตามมาด้วย กองหน้าคนดีคนเดิม ซัดแฮทริกในนาทีที่ 23 และปิดท้ายจาก แซร์จ กนาบรี้ นาทีที่ 31

จบครึ่งแรก เจ้าบ้าน บาเยิร์น มิวนิค เปิดสกอร์นำไปแบบสุดอุ่นใจด้วยสกอร์ 4-0 ในครึ่งแรก โอกาสเข้ารอบสดใสทีเดียวเชียว

ครึ่งหลัง เจ้าบ้าน บาเยิร์น มิวนิค ยังไม่เลิกดุ มาได้ประตูที่ 5 จาก โธมัส มุลเลอร์ ในนาทีที่ 54 หลังจากนั้น ทั้งสองทีมก็เปลี่ยนตัวผู้เล่นมากหน้าหลายตา โดยเจ้าบ้านเก็บตัวหลักไว้ชนเกมลีก ส่วนทีมเยือนส่งแข้งหวังมาเปลี่ยนเกม

จนในนาทีที่ 70 ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตกจาก เมาริตซ์ เคียร์การ์ด ในนาทีที่ 70 ทว่าท้ายเกม เจ้าบ้านได้ประตูเพิ่มสองลูกจาก โธมัส มุลเลอร์ นาทีที่ 83 และ เลรอย ซาเน่ นาทีที่ 85 จบเกม เจ้าบ้านชนะไปได้ด้วยสกอร์ 7-1 เข้ารอบรวมด้วยสกอร์ 8-2

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โคตรกองหน้าที่ดีที่สุดของโลก ณ เวลานี้ โดยสามารถทำแฮทริกให้กับ บาเยิร์น มิวนิค เหมาะสมกับรางวัลนี้ด้วยประการทั้งปวง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 – 0 สปอร์ติ้ง ลิสบอน

เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก รองแชมป์เก่าซีซั่นที่แล้ว เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เสมอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอดทีมจากโปรตุเกส ด้วยสกอร์ 0-0 แต่ผลรวมสกอร์สองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-0

โดยเกมนี้ เจ้าบ้านเหนือกว่าพอสมควร แต่น่าเหลือเชื่อ ที่พวกเขาเล่นแบบไม่เน้นอะไรเลย ทั้งที่ปกติ พวกเขาจะฮึดกันทั้งเกม ทำให้ไม่มีจังหวะอะไรให้ตกใจมากนัก

มีจังหวะที่เจ้าบ้านทำประตูได้ แต่ถูก VAR ริบประตูคืน จากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยังเล่นแบบเดิม ไม่เน้นอะไรมากมาย มีโอกาสก็ทำ ไม่มีโอกาสก็ไม่เร่ง ส่วนทีมเยือนก็พยายามหาจังหวะทำประตูในจังหวะสวนกลับ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบเกมเสมอกันไป 0-0 แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-0

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง แฟร์นานดินโญ่ กองกลางเชิงสูงมากประสบการณ์ ชาวบราซิล ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้รับรางวัลนี้ไปครอง จากการคุมแดนกลางได้อย่างน่าประทับใจ

เรอัล มาดริด 3 – 1 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน เจ้าของแชมป์ยุโรป 13 สมัย เปิดสนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว พลิกชนะ “เปแอสเชปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากลีกเอิง ด้วยสกอร์ 3-1 รวมผลสกอร์สองนัด เรอัล มาดริด พลิกเข้ารอบได้อย่างสุดยอดด้วยสกอร์ 3-2

โดยเกมนี้ ทั้งสองทีมใส่กันเต็มที่ แต่เป็นทางทีมเยือนที่เหนือกว่าชัดเจน โดยเฉพาะเกมรุก และ ในนาทีที่ 39 คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ทำสกอร์เบิกร่องให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง นำไปก่อน 1-0 ในครึ่งหลัง

ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับอย่างสนุกสนาน แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนใกล้เคียงจะได้ประตู ซึ่งเกมก็ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทว่านาทีที่ 61 จานลุยจิ ดอนนารุมม่า แจกงาน เสียบอลในกรอบเขตโทษ โดน คาริม เบนเซม่า ซัดประตูแบบชิลๆ ทำให้สกอร์เท่ากันที่ 1-1

หลังจากนั้น ทีมเยือน รวนทันที และก็เป็น คาริม เบนเซม่า ได้ซัดตุงตาข่าย พา เรอัล มาดริด นำ 2-1 ชนิดที่เฮกันทั่วสนาม หลังจากนั้นความชิบหายก็มาเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อย่างต่อเนื่อง จากจังหวะเขี่ยบอลและเสียบอลให้ผู้เล่นเจ้าถิ่น และก็เป็น คาริม เบนเซม่า ซัดสวยงามเบียดเสา เป็นแฮทริกของเจ้าตัว และ เป็นประตูให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 3-1 สกอร์รวมเป็น 3-2

หลังจากนั้นทั้งสองทีม ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด ทำได้ 100% ด้วยการชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-1 รวมสกอร์สองนัด เป็น 3-2 เข้ารอบได้อย่างสวยสดงดงาม ส่วนทีมเยือนตกรอบกลับบ้านไปแบบสุดเศร้า

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก คาริม เบนเซม่า โคตรกองหน้าตัวแบกของ เรอัล มาดริด ที่เป็นหัวใจสำคัญ ระเบิดฟอร์มกดแฮทริก พา เรอัล มาดริด แซงเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างเป็นหนึ่งในตำนานของถ้วยนี้ ที่จะถูกกล่าวขานไปอีกยาวนาน

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *