แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกแรก วันที่ 5-6 เมษายน 2565

ผ่านการแข่งขันเลกแรก ครบทุกคู่ไปแล้ว สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เรียกว่าระเบิดความมันส์กันไปแบบสุดทีน โดยแต่ละคู่ที่แข่งขันกัน ร่วมเข้มข้นทั้งนั้น ในระหว่างรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้ โดยทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกแรก วันที่ 5-6 เมษายน ว่าจะเป็นนักเตะแข้งทองรายไหน ทำได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้

แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกแรก วันที่ 5-6 เมษายน

มาดูกันว่า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ยูซีแอล รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันที่ 5 ถึงวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา จะมีใครกันบ้าง แต่ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพันออนไลน์ ที่ครบวงจรมากที่สุด เปิดให้บริการร่วม 20 ปี คร่ำหวอดในวงการอย่างยาวนาน มีให้เล่นทั้ง ฟุตบอล กีฬา เกม และ คาสิโน ครบวงจร สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Ufabet โปรดระวังของเลียนแบบ

บียาร์เรอัล 1 – 0 บาเยิร์น มิวนิค

เรือดำน้ำสีเหลืองบียาร์เรอัล ยอดทีมจากลาลีกา สเปน โชว์ฟอร์มทีเด็ด เปิดบ้านพลิกล็อคเอาชนะ “เสือใต้บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยสกอร์ 1-0 สร้างความได้เปรียบได้อย่างมากโข

โดยในเกมนี้ เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-2-1 เน้นเกมรับเต็มที่ นำโดย อาเนาท์ ดานยูม่า แข้งตัวเด่นในแผงรุก ส่วนทีมเยือนมาในระบบ 4-2-3-1 นำโดยแข้งระดับพระกาฬล้นทีม แต่เอาหลักๆ ก็เป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของโลก ณ เวลานี้

โดยเกมนี้เริ่มมาไม่ทันไร บียาร์เรอัล ก็ขึ้นนำแบบสุดช็อค โดยเป็นทาง อาเนาท์ ดานยูม่า ซัดด้วยเท้าซ้าย เข้าไปแบบสวยงาม ทำให้เจ้าบ้านออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 ของการแข่งขัน

หลังจากนั้นทีมเยือนพยายามบุกมากขึ้น แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเจ้าบ้านพอได้ผลประตูที่ต้องการ พวกเขาก็เน้นเกมรับเต็มที่ มาในสไตล์ตีหัวเข้าบ้าน นั่นเอง เกมนี้ทีมเยือนเลยทำอะไรได้อุึดอัดเหลือเกิน

แถมช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านได้ประตูออกนำไปอีก แต่ถูก Var จับล้ำหน้า ทำให้ครึ่งแรก สกอร์อยู่ที่ บียาร์เรอัล ออกนำไปก่อน 1-0 แบบที่ผิดคาด

ครึ่งหลัง ทีมเยือนยังพยายามทำประตูให้ได้ แต่ก็ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เจ้าบ้านยังช่วยกันในเกมรุกได้ดี และ ก็พอมีโอกาสสวนกลับได้บ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบเกม บียาร์เรอัล เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไปได้ 1-0

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง โจวานนี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์จอมขยันของ บียาร์เรอัล ที่เล่นโดดเด่นตลอดทั้งเกม รับรางวัลนี้ไปครองอย่างยอดเยี่ยม

เชลซี 1 – 3 เรอัล มาดริด

สิงโตน้ำเงินครามเชลซี ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกรีแชมป์เก่า เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ แพ้คาบ้านให้กับ “ราชันชุดขาวเรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 1-3

โดยเกมนี้ เชลซี จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดในการลงสนาม เว้นแต่ พวกเขาไม่มีกองหน้าตัวเป้าธรรมชาติลงในเกมนี้ ใช้ระบบ ฟอลส์ ไนน์ แทน โดยให้ โรเมลู ลูกากู และ ติโม แวร์เนอร์ นั่งเป็นสำรอง ส่วนทีมเยือน ใช้ชุดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม สามประสานรุ่นลุง และ แข้งทีเด็ดอย่าง คาริม เบนเซม่า

โดยเกมนี้เริ่มต้นมา กลายเป็นทีมเยือนที่ทำผลงานได้ดีกว่าพอสมควร จนมาได้สองประตูรวดที่ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ คาริม เบนเซม่า โคตรกองหน้าที่เหมาคนเดียวสองลูก ในนาทีที่ 21 และ 24 ซึ่งสองประตูนี้ มาจากลูกโหม่งล้วนๆ

หลังจากนั้นทีมเยือนเริ่มผ่อนเกม เพราะได้ประตูที่ต้องการมาแล้ว ทำให้เจ้าบ้านได้สติและโหมเกมรุกบุกเข้าใส่ จนท้ายช่วงครึ่งแรก ไค ฮาเวิร์ตซ์ ที่รับบทบาทเป็นฟอลส์ ไนน์ ทำประตูตีตื้นให้ เจ้าบ้าน ไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 40 จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลัง เริ่มเกมมาไม่ทันไร ทีมเยือนได้ประตูทิ้งห่างไปอีก จาก คาริม เบนเซม่า ที่ลากตะลุยไปยิงเองอย่างเหนือชั้น ทำให้ทีมเยือน นำห่าง 1-3

หลังจากนั้นแม้ว่าเจ้าบ้านจะพยายามหาจังหวะทำประตูให้ได้ แต่ทีมเยือนก็ยังเล่นกันได้ดี จนสุดท้ายแล้ว สกอร์ก็จบลงที่ เรอัล มาดริด บุกมาชนะ เชลซี ได้สกอร์ 3-1

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก คาริม เบนเซม่า ยอดกองหน้า ของ เรอัล มาดริด ที่ตะบันไปสามประตู รับรางวัลนี้ไปครองอย่างสมเกียรติ

เบนฟิก้า 1 – 3 ลิเวอร์พูล

“เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า ยอดทีมจากโปรตุเกส เปิดสนาม อิชตาดีอูดาลุช พ่ายคาบ้านให้กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก ด้วยสกอร์ 1-3

โดยเกมนี้ เจ้าบ้านจัดเต็มในระบบ 4-2-3-1 นำโดยศูนย์หน้าเบอร์ 9 ดาร์วิน นูเนซ ลงค้ำแดนหน้า ส่วนทีมเยือน ลิเวอร์พูล ใช้ผู้เล่นที่ดีที่สุดในการลงสนาม มาในระบบ 4-3-3 ตามถนัด ส่วนผู้เล่น นำโดยสามประสานอย่าง หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลงประจำการ

โดยเกมเริ่มมาไม่เท่าไหร่ ก็กลายเป็นทีมเยือนที่นักเตะดูดีกว่า บุกพยายามเจาะพังตาข่ายให้ได้ จนมาในนาทีที่ 17 ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุม โดย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดลูกโด่งถึง อิบราฮิม่า โกนาเต้ โหม่งสวยงามทำประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 0-1

หลังจากนั้นทีมเยือนที่ได้ประตูนำไปแล้ว ยิ่งเล่นยิ่งได้ มาบวกเพิ่มได้ประตูที่สอง จาก ซาดิโอ มาเน่ จากการแอสซิสต์ของ หลุยส์ ดิอาซ ตอนนี้เกมเป็นของ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว เพราะพวกเขานำไปแล้ว 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลังทีมเยือนที่เล่นอย่างสบายใจ ก็พยายามครองเกมและเซฟพลังนักเตะ เพราะมีโปรแกรมสำคัญในเกมลีกรออยู่ในสุดสัปดาห์ ทำให้พวกเขาปล่อยปะละเลยไปหน่อย เลยเจอทีมเจ้าบ้านไล่ฮึดมาได้ประตูจาก ดาร์วิน นูเนซ ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม ซัดให้ เบนฟิก้า ตีตึ้นมาเป็น 1-2

หลังจากนั้นเกมสนุกขึ้นมาทันที เจ้าบ้านจะได้ประตูตั้งหลายรอบ แต่ก็ยังทำไม่ได้ ส่วนทีมเยือนเจียนอยู่เจียนไปเหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของทีมเยือน ในจังหวะสวนกลับ ก็มาได้ประตูตอกฝาโลงจาก หลุยส์ ดิอาซ ในนาทีที่ 87 ทำให้ ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ เบนฟิก้า ถึง 3-1

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง หลุยส์ ดิอาซ กองหน้าตัวใหม่ของ ลิเวอร์พูล ที่ยิงหนึ่งและแอสซิสต์หนึ่ง รับรางวัลนี้ไปครองได้อย่างยอดเยี่ยม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 – 0 แอตเลติโก มาดริด

เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก ดีกรีรองแชมป์เก่า มาในระบบ 4-3-3 ตามถนัด นำโดย เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ริ่ง และ ริยาด มาห์เรซ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เฉือนชนะ “ตราหมีแอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน ด้วยสกอร์ 1-0 แบบสุดหืดจับ

โดยเกมนี้ เจ้าบ้าน เริ่มพยายามครองบอลและหาจังหวะทำประตู อย่างต่อเนื่อง แต่เกมนี้ ทีมเยือนรับลึกเหลือเกิน ทำให้เจ้าบ้านต้องเน้นเล่นบอลกลางอากาศ พยายามโยนข้ามแนวรับของทีมเยือน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดมากนัก

ซึ่งช่วงครึ่งแรก เป็นเจ้าบ้านได้ครองเกมต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเหน่งๆ ในจังหวะการพาบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายของทีมเยือน ได้แค่วูบวาบแต่จังหวะสุดท้าย เจอวินัยเกมรับของทีมเยือน ที่ทำได้ดีเหลือเกิน ทำให้ครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำอะไรไม่ได้ สกอร์อยู่นิ่งที่ 0-0

ครึ่งหลัง ก็ยังเป็นหนังม้วนเดิม ซึ่งเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็โหมบุกหนักมากขึ้น จังหวะเสียบอล ก็รีบไล่เพรสซิ่ง บีบเอาบอลคืนมาให้ได้ ซึ่งก็ได้ผลพอสมควร เพราะวันนี้ทีมเยือนนอกจากทำเกมรับได้ดี แต่ทว่าการออกบอล จ่ายบอล และ จังหวะสวนกลับ พวกเขาทำอะไรทีมเจ้าบ้านไม่ได้เลย

สุดท้ายแล้วความพยายามของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นผล มาได้ประตูจากจังหวะบุกและการจ่ายสุดคมของ ฟิล โฟเด้น แข้งตัวสำรองที่ลงมาเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง แทงบอลใ่ห้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดไปทางกราบขวาและซัดเรียดเสียบเสาผ่านมือของ ยาน โอบลัค ที่จังหวะนี้ต้านไม่ไหว ส่งผลให้ เจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0 ได้ประตูที่ต้องการ

หลังจากนั้น เจ้าบ้านพยายามเอาประตูเพิ่ม และมีการเปลี่ยนตัวเพื่อให้แข้งสำรองลงมาโชว์ความสด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนทีมเยือนก็ทำอะไรไม่ได้เลยในเกมนี้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เฉือนชนะ แอตเลติโก มาดริด ไปได้ 1-0

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง เควิน เดอ บรอยน์ เพย์เมกเกอร์แก้มแดง ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ซัดประตูชัย พาทีมคว้าชัยชนะได้ในเกมนี้ รับรางวัลไปครองอย่างหล่อเท่

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *