- 0
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก การแข่งขันฟุตบอลรายการสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก คือรายการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ซึ่งประกอบไปด้วยสโมสรที่เป็นสมาชิกของ เอเอฟซี นั่นเอง ซึ่งวันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพามาทำความรู้จักกับรายการ เอซีแอล ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับ รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของทางฝั่ง ยุโรป โดยเราจะแบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ อธิบายกันแบบเข้าใจง่ายๆ กันครับ
ประวัติของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก
รายการนี้เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2510 โดยมีทีมแชมป์จากลีก 8 ประเทศ เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งจัดให้ชิงชัยกันทุกปี จนถึงปี พ.ศ. 2514 ได้เว้นการแข่งขันและเว้นไปหลายปี เนื่องจากไม่ค่อยได้รับความนิยม
แต่ต่อมาก็ได้รับการจัดแข่งขันกันอีกครั้ง แต่แบ่งแยกถึงสามรายการ มีชื่อว่า แชมเปี้ยนส์เอเชียนคัพ, ฟุตบอลเอเชียนคัพวินเนอร์ส, และเอเชียซูเปอร์คัพ โดยปี 2546 ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันมาเป็นรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งรวมสามรายการเข้าด้วยกัน
โดยครั้งนี้ยังเอาทีมที่ได้แชมป์ลีกและแชมป์ฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศ เข้ามาแข่งขัน โดยมี 16 ทีมเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเจ้าภาพในแต่ละสนามจะเป็น หนึ่งสโมสรจากแต่ละกลุ่ม แข่งแบบพบกันหมดในกลุ่มรอบเดียว
โดยแข่งภายใน 1 สัปดาห์ 4 ทีมที่มีคะแนนสุงสุดของแต่กลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะเป็นการแข่งแบบ 2 นัด เหย้า-เยือน
ต่อมาปี 2003/04 ถูกเลื่อนการแข่งขัน ต่อมาได้เปลี่ยนระบบใหม่ มีเพิ่มเป็น 28 สโมสรจาก 14 ประเทศ แบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แบ่งการแข่งขันตามโซนเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันตก เพื่อลดการใช้จ่ายสำหรับค่าเดินทาง แบ่งเป็นการเจอกันเหย้า-เยือน เอาแชมป์กลุ่มเข้าไปเตะรอบต่อไป
โดยรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ เตะกันสองนัด หากเสมอกันทั้งสองนัด จะนับกฏประตูทีมเยือน ถ้ายังเสมอกันอีก จะต่อเวลาพิเศษ และ ดวลลูกจุดโทษ ต่อมาปี 2009 เพิ่มเป็น 32
ซึ่งตรงนี้ เอเอฟซี ได้ตั้งกฏหลายอย่าง ทั้งความพร้อมของแต่ละทีม คลับไลเซ่น ความแข็งแกร่งของลีก สถานะการเงิน คิดเป็นคะแนนค่าสัมประสิทธิ์ ในการให้โควต้าแต่ละประเทศเพื่อเข้ามาทำการแข่งขัน
ส่วนรูปแบบการแข่งขันจะคล้ายเดิม โดยเอาสองทีมคะแนนดีจากทุกกลุ่ม เข้ามาในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปและเตะกันในระบบ เหย้า-เยือน ยันนัดชิงชนะเลิศ ต่อมาปี 2010 ได้เอาทีมที่เข้า 8 ทีมสุดท้ายมาจับฉลาก โดยไม่เอาสโมสรจากประเทศเดียวกันมาเจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ แข่งขันกัน 2 นัดแบบเหย้าเยือนเช่นเคย
ส่วนรอบชิงชนะเลิศ เตะสนามกลาง แข่งนัดเดียว หาก 90 นาทีทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ จะทำการต่อเวลาพิเศษและดวลจุดโทษตามลำดับ โดย ทีมแชมป์จะได้เงินรางวัล 1.5 ล้านดอลล่าร์ และจะได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันในรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ ฟีฟ่าคลับเวิลด์ คัพ ซึ่งเป็นรายการชิงแชมป์ระหว่างทีมสโมสรของแต่ละสมาพันธ์ลูกหนังจาก 6 ทวีปทั่วโลก
ซึ่งนับว่าเป็นรายการชิงแชมป์ระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีโอกาสพบกับยอดทีมของแต่ละทวีปด้วยกัน
สโมสรไทย ใน เอซีแอล
สโมสรแรกในไทยที่ได้ไปลุยรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็คือ บีเอซี เทโรศาสน ในฤดูกาล 2002/03 ซึ่งครั้งแรกก็เกือบก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์ แต่ดันพ่ายให้กับ อัล-อิน สโมสรจาก ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเจอกันเหย้า-เยือน สกอร์สองนัดพ่ายไป 1-2 อดคว้าแชมป์อย่างน่าเสียดาย ซึ่งก็เป็นสถิติที่ดีที่สุดของสโมสรไทยนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ส่วนอีกสโมสรที่เคยไปได้ไกลสุดในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นั่นก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2012/13แต่อกหักด้วยน้ำมือของ เอสเตกัลห์ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-3 ส่วนโควต้าของตัวแทนสโมสรจากไทย เอเอฟซี ได้ปรับโควต้าใหม่ ให้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 2 ทีม
โดยเอา แชมป์ลีก และ แชมป์เอฟเอ คัพ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอีก 2 ทีม จะได้เข้ารอบเพย์ออฟ ซึ่งยกโควต้าให้กับ ทีมรองแชมป์และทีมอันดับที่ 3 ของลีก ทว่าปีนี้พิเศษหน่อย สโมสรจากไทย ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 4 ทีม
เนื่องจาก สมาคมฟุตบอลประเทศออสเตรเลีย ได้ขอถอนทีมออกจากรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2021 เนื่องจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 และสโมสร เจียงซู เอฟซี ได้ยุบทีม ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่สโมสรจากประเทศไทยได้ไปลุยในรายการนี้ถึง 4 ทีมเต็มโควต้า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
โดยฤดูกาลนี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้เข้าไปแข่งขันกับศึกแชมป์จ้าวลูกหนังแห่งทวีปเอเชีย เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย นันทวัฒน์ แทนโสภา เคยคว้ารางวัลดาวซัลโวของรายการนี้มาครอง ในฤดูกาล 2008 ด้วยการซัดไป 9 ประตูจาก 6 นัดที่ลงสนาม โดยเจ้าตัวค้าแข้งให้กับสโมสร ธนาคารกรุงไทย