- 0
ระบบอคาเดมี่ พื้นฐานของสโมสรฟุตบอล ที่ไม่ควรถูกมองข้าม
รากฐานที่มั่นคง จะพาให้ต่อยอดไปได้ไกล คำนี้สามารถใช้ได้กับทุกอย่าง ซึ่งเราจะตีวงแคบมาอีกหน่อย นั่นก็คือรากฐานที่สำคัญของวงการฟุตบอล อย่าง ระบบอคาเดมี่ หรือ สถาบันลูกหนัง ซึ่งเป็นจุดแรกเริ่มของนักเตะ ในการพัฒนาไปสู่ระดับโลก ระบบอคาเดมี่ทำไมถึงมีความสำคัญมาก กับวงการฟุตบอล ทำไมถึงได้เป็น จุดน่าสนใจน้อยที่สุดในวงการฟุตบอล แต่ก็ไม่สามารถขาดได้
ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พามาดูกันว่าระบบอคาเดมี่ พื้นฐานของวงการฟุตบอล มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ระบบอคาเดมี่ พื้นฐานของสโมสรฟุตบอล
แสงไฟ สปอตไลท์ ต่างจับจ้องไปที่ นักเตะซูเปอร์สตาร์ดาวดัง ที่วาดลวยลายบนฟลอร์หญ้าให้ผู้ชม ได้ตื่นตาตื่นใจกับประสบการณ์ที่จะได้เห็น ดาวเตะผู้นั้นลงสนาม หากแต่ว่าแฟนฟุตบอลหลายท่าน ลืมความเป็นมาว่า ก่อนที่เหล่าซุปตาร์จะมีชื่อเสียงได้ทุกวันนี้ จุดเริ่มต้นมาจากอะไร คำตอบที่ว่านั่นก็คือ ระบบอคาเดมี่นั่นเอง
ไม่มีใครที่มาเตะบอลปุ๊บเก่งปั๊บ หรือจะทำกิจกรรมอื่นๆ แล้วประสบความสำเร็จได้ชั่วพริบตา โดยไม่มีการเรียนรู้ทักษะ ฝึกฝน กันมาก่อน ยกตัวอย่างวงการฟุตบอลอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็ไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด
แต่หากว่าตัวเขามีพรสวรรค์ และพร้อมจะเรียนรู้ ฟูมฟักฝีเท้ากับทีมเยาวชน ตั้งแต่อ้อนแต่ออดนั่นเอง กว่าที่นักเตะมากฝีเท้าหลายรายจะก้าวมาสู่จุดนี้ พวกเขาต้องฝ่าฟันอย่างหนัก ทั้งการฝึกซ้อม เรียนรู้อะไรต่างๆ อย่างมากมาย
ซึ่งพวกเขาเองไม่สามารถกำหนดการซ้อม การเรียนรู้แทคติก และ การพัฒนาฝีเท้า เองได้ ทุกแข้ง ย่อมผ่านสถาบันเยาวชนเพื่อเรียนรู้พื้นฐานของฟุตบอลมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งอันดับแรกก่อนที่จะมีฟอร์มการเล่นและแววที่จะไปเตะตา แมวมอง บรรดาอคาเดมี่ของสโมสรต่างๆ ได้ พวกเขาเหล่านั้นต้องมีฝีเท้าที่น่าสนใจเสียก่อน
ซึ่งบรรดาแมวมองจะควานหานักเตะที่มีอนาคต มาร่วมทีมเยาวชนต่อไป ซึ่งก็หลากหลากสโมสร ก็มีระบบเครือข่าย ชุดทีมเยาวชน ที่แตกต่างกัน บางสโมสรจะมีระบบการเป็นพาร์ทเนอร์ระหว่างโรงเรียนท้องถิ่นต่างๆ ควานหานักเตะตัวชูโรงของโรงเรียนนั้นๆ เห็นแววก็ดึงตัวมาร่วมทีม
บางสโมสรก็มี แมวมอง ตาเพชร คอยหานักเตะทั่วพื้นที่ตามทวีปต่างๆ อีกทั้งบางสโมสร ยังมีสโมสรลูก หรือ สโมสรพาร์ทเนอร์ในการคอยป้อนนักเตะฝีเท้าดี มาทดสอบฝีเท้ากันต่อไป ซึ่งการหานักเตะดาวรุ่งตั้งแต่อายุน้อยในปัจจุบัน ได้รับความนิยมอย่างมาก
ยิ่งนักเตะต่างแดนแววดี หากทีมไหนเจอได้ก่อน ก็มีโอกาสก่อน หากนักเตะรายนั้นฟอร์มดีจนเตะตาหลายทีม ก็ต่างแย่งกันตาเป็นมัน ในส่วนระบบอคาเดมี่ ก็จะมีการคว้านักเตะมาร่วมทีมตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบขึ้นไป นักเตะบางรายเรียนรู้ทักษะลูกหนังกับสโมสรตั้งแต่อายุยังน้อยกันเลยทีเดียว
โดยอคาเดมี่ จะมีระบบการฝึกซ้อมพื้นฐานฝึกบอลที่แตกต่างกันบ้าง ตามพื้นทวีปและสไตล์การเล่นของทีมนั้นๆ อย่าง ในประเทศสเปน ส่วนใหญ่จะเน้นการฝึกซ้อมพื้นฐานเน้นเทคนิค ความสามารถ เฉพาะตัว การเอาตัวรอด เป็นหลัก รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเตะใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่
ซึ่งเห็นได้ชัดจากเกมการแข่งขันของทีมชาติสเปน นักเตะความสามารถเฉพาะตัวดีทุกคน หากในส่วนอเมริกาใต้อย่าง บราซิล เน้นซ้อมทักษะความสามารถเฉพาะตัว สไตล์แซมบ้าเป็นหลัก เราจะได้เห็นชัดเลยว่า นักเตะของบราซิล ลีลาไม่เคยธรรมดา ตำแหน่งกองหน้าถือว่ามีป้อนเข้าระบบสโมสรได้ตลอด
นี่คือตัวอย่างง่ายๆ ที่พอเห็นภาพ ว่าทีมระบบอคาเดมี่ มีความสำคัญมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามการฝึกซ้อม จะแบ่งไปตามเกณฑ์อายุ ยิ่งชุดอายุปีมากขึ้น ยิ่งมีการฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เริ่มเพียงแค่พื้นฐานเบสิค การเริ่มซ้อมแบบทีมเวิร์ค การอ่านเกม การเข้าใจเกม การเพิ่มความสามารถทางร่างกาย หรือ ความเข้มข้นของแทคติกต่างๆ จะถูกนำมาป้อนตามอายุรุ่น
ซึ่งเป็นลำดับขั้นตอนจากพื้นฐานขึ้นไป ดังนั้น จะไม่มีการข้ามขั้นอย่างแน่นอน แม้กระทั่งดาวรุ่งที่น่าจับตามอง เมื่อย้ายมาอยู่กับสโมสรที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น บางทีก็ต้องมาเรียนรู้พื้นฐานใหม่กันตั้งแต่เริ่ม ซึ่งก็อยู่กันที่ ระบบอคาเดมี่ นโยบายของสโมสร จะเน้นย้ำให้ทีมเล่นสไตล์แบบไหน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน นั่นก็คือ บาร์เซโลน่า ทีมทุกชุดจะใช้ระบบเดียวกับทีมชุดใหญ่ จะเล่นในสไตล์เดียวกัน จะให้นักเตะดาวรุ่งเรียนรู้และซึมซับในรูปแบบการเล่นของสโมสร ซึ่ง ลา มาเซีย เองก็เป็นสถาบันลูกหนังที่ได้ยอมรับไปทั่วโลก หลังจากเคยปั้นนักเตะระดับโลกอย่างมากมาย
ในปัจจุบัน สโมสรชั้นนำ เริ่มที่จะเน้นในเรื่องระบบอคาเดมี่กันมากขึ้น พร้อมที่กวาดหาดาวรุ่งมีแววดีมาฟูมฟักบ่นเพาะ สร้างพื้นฐานที่สำคัญของสโมสรฟุตบอล ลองคิดดูว่า นักเตะในอคาเดมี่ ไต่เต้าขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มูลค่าของตัวนักเตะมีมากขึ้น และ สามารถสร้างผลกำไรให้สโมสรอีกด้วย
หากมีการซื้อ-ขายกันเกิดขึ้น รวมถึง ตัวนักเตะ ก็มีความผูกพันกับแฟนบอลท้องถิ่นไปโดยปริยาย ดังนั้น ระบบอคาเดมี่ จึงมีความสำคัญและเป็นรากฐานอันหนักแน่นของสโมสร เพราะคงไม่มีทีมไหน กล้าทุ่มซื้อนักเตะแบบบ้าคลั่งไปตลอดได้
ดังนั้น การเน้นสร้างระบบอคาเดมี่ พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ดึงนักเตะมาบ่มเพาะมากขึ้น ย่อมเป็นผลดีให้กับสโมสรอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ระบบอคาเดมี่ นักเตะที่จะฝ่าฟันมาถึงทีมชุดใหญ่และทำผลงานจนเป็นที่ยอมรับ นั้นเกิดขึ้นได้ยาก
อย่างเช่นในพรีเมียร์ลีก มีนักเตะดาวรุ่งหลายรายแหกโค้งกันมาแล้ว หรือจะเอาใกล้ตัวก็ฟุตบอลไทย ที่ดาวรุ่งมีแววหลายคน แต่ไม่กี่ปีผ่านไป ก็เหลือแต่ชื่อ แต่ในมุมมองของสโมสร หากมีดาวรุ่งสักแข้งที่ขึ้นมาเจิดจรัสในทีมชุดใหญ่ ก็เท่ากับว่าพวกเขาได้กำไรมหาศาลแล้ว
ดังนั้นแล้ว พูดได้เต็มปาก ว่าระบบอคาเดมี่ คือพื้นฐานของสโมสรฟุตบอล อย่างแท้จริง