ใกล้เข้ามาทุกที สำหรับศึกชิงถ้วยระดับสโมสร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป นั่นก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่กำลังเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ได้เตรียมข้อมูลน่าสนใจ เรียกน้ำย่อยโหมโรง กันก่อนที่ รอบ 4 ทีมสุดท้าย จะเปิดฉากทำการแข่งขันขึ้น เริ่มจากการ วิเคราะห์ ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ เรอัลมาดริด ซึ่งจะเป็นการหยิบยก การ วิเคราะห์ ทุกทีมที่ได้เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย แบบละเอียดและจุใจ มาฝากทุกท่านกันครับ

เช่นเคย ก่อนจะไปดูกันว่า เกมนัดดังกล่าว จะมีข้อมูลด้านไหนที่น่าสนใจ ทางทีมงานของแนะนำ เวปไซต์ เดิมพัน ที่มั่นคง ปลอดภัย ฝากง่ายถอนไว Ufabet เวปไซต์เดิมพัน กีฬา คาสิโน เกม ที่คร่ำหวอดวงการมาตลอด 20 ปี สนใจเสิร์ชได้เลยที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียว โปรดระวังของเลียนแบบกันด้วย

วิเคราะห์ ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ เรอัลมาดริด ก่อนทำศึกสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งลาลีกา สเปน เจ้าของสถิติแชมป์ 13 สมัย ทำผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ ได้อย่างยอดเยี่ยมตามคาด แม้ขุมกำลังของพวกเขาจะดูน้อย แต่ก็มากในเรื่องของผลงาน สามารถเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายได้แบบพลิกความคาดหมายเหมือนกัน

ส่วนโอกาสการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริด ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้แชมป์เช่นกัน เพราะพวกเขามีแข้งระดับซีเนียร์ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน มาดูกันว่า เรอัล มาดริด มีข้อมูลและผลงานถ้วยหูใหญ่ในซีซั่นนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง

ผลงานยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ เรอัล มาดริด ฤดูกาลนี้

เรอัล มาดริด อยู่กลุ่ม ดี ร่วมกับ อินเตอร์ มิลาน, เชอร์รีฟฟ์ และ ชัคตาร์ โดเน็คกส์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ง่ายเลย

แต่พวกเขาก็สามารถเก็บได้ 15 คะแนน จาก 6 นัด จบด้วยการเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ชนะ 5 นัดและแพ้ 1 นัด ยิงได้ 14 ประตู เสียประตูเพียงแค่ 3 ลูกเท่านั้น ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาจะทำผลงานได้อย่างสุดยอด ด้วยการล้ม “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วยสกอร์รวม 3-2

ต่อด้วยรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาก็ยังทำได้ยอดเยี่ยม โดยสามารถเอาชนะ เชลซี ด้วยสกอร์สองนัด 5-4 เข้ารอบได้อย่างเหลือเชื่อ โดยรอบสุดท้ายเหนื่อยยากเลยทีเดียว แต่ก็ผ่านเข้ารอบได้อย่างยอดเยี่ยม

ขุมกำลังของ ผลงานยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้

ขุมกำลังชุดนี้ของ เรอัล มาดริด แข้งคนสำคัญ ก็คือเหล่ากลุ่มผู้เล่นซีเนียร์ ที่มีประสบการณ์สูง แถมผ่านการเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว

ไล่ตั้งแต่ กองหน้า แน่นอนว่า จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าจอมเก๋า ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงทุกรายการ กดไปแล้ว 12 ประตูจาก 9 นัดที่ลงสนามในรายการนี้

ตามมาด้วย วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ซีซั่นนี้ทำผลงานได้อย่างน่าจับตามอง รวมถึง โรดริโก้ ก็ด้วย อีกทั้งยังมี แกเร็ธ เบล, มาร์โก้ อเซนซิโอ้ และ เอเด็น อาซา แต่รายหลังไม่น่าช่วยอะไรทีมได้เท่าไหร่

กองกลาง แน่นอนว่าเป็น สามประสานระดับโคตรแข้งจอมเก๋า นั่นก็คือ ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่ และ โทนี่ โครส ที่ถ้าไม่เจ็บก็ได้เห็นพวกเขาลงพร้อมกัน แข้งสำรองมี อิสโก้, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และ เอดูอาร์โด้ กาแมงแว็งก้า แข้งดาวรุ่งที่น่าจับตามอง

แนวรับ ตรงนี้อาจดูเป็นจุดอ่อนของทีม โดยแข้งที่เล่นได้ดีที่สุดเป็น ดาบิด อลาบา แข้งที่เพิ่งย้ายมาเมื่อซัมเมอร์ นอกนั้น ไม่มีแข้งรายไหนโดดเด่นเลย มาร์เซโล่า ก็โรยราย แถม ดาเนี่ยล การ์บาฆัล ก็ชอบเจ็บประจำ

ปิดท้ายกับผู้รักษาประตู ติโบต์ กูร์ตัวส์ รับสัมปทานแบบไม่มีใครแย่ง เพราะโชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบแน่นดีเหลือเกิน เป็นนายทวารที่ไว้ใจอย่างยิ่ง

อัตราการเป็นแชมป์ของ เรอัล มาดริด

อัตราการเป็นแชมป์ของ เรอัล มาดริด โดยราคา อัตราต่อรอง ทางทีมงานได้อิงจาก Ufabet เวปไซต์เดิมพันออนไลน์ที่คุณแม่มั่นใจ ให้อัตราการต่อรอง ในการเป็นแชมป์ของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่

ราคา แทง 1 จ่าย 595 ไม่รวมทุน ซึ่งนับเป็นทีมอันดับที่ 3 เลยทีเดียว ที่จะมีโอกาสเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้

ซึ่งดูแล้วโอกาสที่พวกเขาจะไปไกลถึงแชมป์ ดูจะยากพอสมควร เมื่อเทียบกับราคาแล้ว นอกจากนี้ ขุมกำลังของพวกเขา ที่แข้งสำรองทดแทนตัวจริงไม่ค่อยได้ แม้จะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ดูมีแต่เท่านั้น แต่ใช้งานจริงฟอร์มผีเข้าผีออก ซึ่งลองคิดดูว่า ถ้าแดนหน้า คาริม เบนเซม่า เจ็บ แล้วใครจะยิง แค่นี้ก็เป็นปัญหาหนักอย่างยิ่งแล้ว

ส่วนท่านไหนสนใจเดิมพันว่า เรอัล มาดริด จะเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สามารถ สมัครสมาชิกได้ที่ Ufabet ฝากเงินและเข้าไปเดิมพันกันได้เลยครับ

โปรแกรมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ ของ เรอัล มาดริด

โปรแกรมแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย ของ “เรอัล มาดริด” เรอัล มาดริด จะพบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก

โดยแข่งขันกันวันที่ 27 เมษายน เลกแรก เรอัล มาดริด ต้องออกไปเยือนที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนวันที่ 5 พฤษภาคม เลกสอง เรอัล มาดริด เปิดสนาม ซานติเอโก้ เบร์นาเบว ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน รอเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แข่งกัน 2 นัด ไม่มีกฏอเวย์โกล ทีมไหนทำประตูได้มากกว่าเป็นฝ่ายเข้ารอบกันไปเลย แต่ถ้าเสมอกันสองนัดจะต่อเวลาพิเศษในเกมนัดที่สองเพื่อหาผู้ชนะกันต่อไป ซึ่งถ้ายังเสมอกันอีก ก็จะตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ

สถิติและประวัติที่น่าสนใจของ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุด โดยคว้าแชมป์ได้ไปถึง 13 สมัย

ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เก็บคลีนชีทได้ 4 นัด จาก 6 นัดที่ลงเฝ้าเสา ให้กับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้

คาริม เบนเซม่า เป็นดาวซัลโวของทีม ยิงได้ 23 ประตูจาก 9 นัดที่ลงสนามในกับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้

คาริม เบนเซม่า เป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ณ ปัจจุบัน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเขามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8.10

เรอัล มาดริด เป็นหนึ่งในสองทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเสียแค่ 3 ประตู เท่ากับ บาเยิร์น มิวนิค

Posted in บทความฟุตบอล

อีกไม่นาน สำหรับศึกชิงถ้วยระดับสโมสร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป นั่นก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่กำลังเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ได้เตรียมข้อมูลน่าสนใจ เรียกน้ำย่อยโหมโรง กันก่อนที่ รอบ 4 ทีมสุดท้าย จะเปิดฉากทำการแข่งขันขึ้น เริ่มจากการ วิเคราะห์ ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งจะเป็นการหยิบยก การ วิเคราะห์ ทุกทีมที่ได้เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย แบบละเอียดและจุใจ มาฝากทุกท่านกันครับ

เช่นเคย ก่อนจะไปดูกันว่า เกมนัดดังกล่าว จะมีข้อมูลด้านไหนที่น่าสนใจ ทางทีมงานของแนะนำ เวปไซต์ เดิมพัน ที่มั่นคง ปลอดภัย ฝากง่ายถอนไว Ufabet เวปไซต์เดิมพัน กีฬา คาสิโน เกม ที่คร่ำหวอดวงการมาตลอด 20 ปี สนใจเสิร์ชได้เลยที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียว โปรดระวังของเลียนแบบกันด้วย

วิเคราะห์ ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ซิตี้

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกรีรองแชมป์ฤดูกาลก่อน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสมราคาหนึ่งทีมเต็งแชมป์ในปีนี้ โดยผลงานรอบแบ่งกลุ่มเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ชนะ 4 นัดแพ้ 2 นัด ก่อนจะมาเจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมดังจากโปรตุเกส โดยพวกเขาเอาชนะได้อย่างง่ายดายสกอร์รวม 5-0

ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย เจอของแข็ง จับฉลากเจอกับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากแดนกระทิงดุ ลีก ลาลีกา สเปน แต่ดูแล้วพวกเขาก็ถูกยกให้เป็นทีมเต็ง ที่มีโอกาสจะได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้

ผลงานยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาลนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอ ก่อนที่จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้เจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และสามารถล้มไปได้อย่างสบายใจเฉิบ ด้วยสกอร์รวม 5-0 เข้ารอบอย่างสวยงามตามท้องเรื่อง

ต่อมาด้วยรอบ 8 ทีมสุดท้ายของพวกเขา ก็สามารถเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-0 เข้ารอบได้แบบยากลำบากพอสมควร แต่ก็ถือว่าทำผลงานได้ตามเป้าหมาย

ขุมกำลังของ ผลงานยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้

ขุมกำลังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยล่าสุด และ รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ถือว่าครบเครื่องอย่างมาก มีแต่แข้งดังเต็มไปหมด นำโดย

กองหน้า ช่วงนี้พวกเขาเล่นเป็น ฟอลส์ ไนน์ โดยมีทั้ง กาเบรียล เฆซุส, แจ็ค กริลิช และ ราฮีม สเตอร์ริ่ง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป รวมถึง ฟิล โฟเด้น ก็ขยับมาเล่นตรงนี้เป็นประจำ

แดนกลาง นำโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพย์เมกเกอร์โนหนึ่งของทีม ตามมาด้วย แบร์นาโด้ ซิลว่า ส่วนตำแหน่งต่ำลงมาหน่อย เป็น อิคาย กุนโดกัน, โรดรี้ และ เฟร์นานดินโญ่

ตำแหน่งกองหลัง แอเมอริค ลาปอร์ก, รูเบน ดิอาส และ จอห์น สโตนส์ จะลงเล่นเป็นกองหลังตัวกลางค่อนข้างบ่อย ส่วนตำแหน่งแบ็คจะมี ชูเอา คานเซโล่, ไคลน์ ว็อกเกอร์, โอเล็กซานดร์ ซินเชนโก้ จะได้ลงเล่นกันแบบหมุนเวียนอยู่เนืองๆ

ผู้รักษาประตูเป็น เอแดร์ซอน รับหน้าที่ตรงนี้ไป แบบไม่มีใครมาแย่งได้ เพราะโชว์ฟอร์มได้คงเส้นคงวาที่สุดแล้ว ทีเด็ดนอกจากเซฟก็คือการจ่ายบอลที่แม่นยำ

ดูขุมกำลังแล้ว เป็นทีมที่นักเตะสามารถทดแทนกันได้ดีพอสมควร ใช้โควต้าไม่เปลืองเลยทีเดียว เพราะสามารถเล่นกันได้หมด และ เข้าใจแท็กติกส์ของโค้ช เป็ป กวาร์ดิโอล่า กันได้หมดเลย

อัตราการเป็นแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อัตราการเป็นแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยราคา อัตราต่อรอง ทางทีมงานได้อิงจาก Ufabet เวปไซต์เดิมพันออนไลน์ที่คุณแม่มั่นใจ ให้อัตราการต่อรอง ในการเป็นแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่

ราคา แทง 1 จ่าย 2.3 ไม่รวมทุน ซึ่งพวกเขาหลุดโผมาเป็นเต็งสอง ที่จะมีโอกาสเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้

ซึ่งดูแล้วโอกาสที่พวกเขาจะไปไกลถึงแชมป์ มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับราคาแล้ว เพราะผลงานของพวกเขายังดูไม่หลุดฟอร์มและทำได้ดีพอสมควร

เพราะขุมกำลังของพวกเขาสุดยอดอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมราคาการเป็นเต็งแชมป์ของพวกเขา ถึงออกมาเช่นนี้

ส่วนท่านไหนสนใจเดิมพันว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สามารถ สมัครสมาชิกได้ที่ Ufabet ฝากเงินและเข้าไปเดิมพันกันได้เลยครับ

โปรแกรมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

โปรแกรมแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะพบกับ เรอัล มาดริด ยอดทีมจาก ลาลีกา สเปน

โดยแข่งขันกันวันที่ 27 เมษายน เลกแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม รอรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด ต่อด้วยวันที่ 5 พฤษภาคม เลกสอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องออกไปเยือน เรอัล มาดริด ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาบิว

แข่งกัน 2 นัด ไม่มีกฏอเวย์โกล ทีมไหนทำประตูได้มากกว่าเป็นฝ่ายเข้ารอบกันไปเลย แต่ถ้าเสมอกันสองนัดจะต่อเวลาพิเศษในเกมนัดที่สองเพื่อหาผู้ชนะกันต่อไป ซึ่งถ้ายังเสมอกันอีก ก็จะตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ

สถิติและประวัติที่น่าสนใจของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ริยาด มาห์เรซ เป็นดาวซัลโว ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ใน ขณะนี้ โดยยิงได้ 6 ประตูจาก การลงสนามไปแล้ว 10 นัด

ริยาด มาห์เรซ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ใน ขณะนี้ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.75

ชูเอา คานเซโล่ เป็นนักเตะที่ทำแอสซิสต์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่เคยได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยไปได้ไกลที่สุดคือเป็นรองแชมป์

Posted in บทความฟุตบอล

ผ่านไปแล้วสำหรับการแข่งขันศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกสอง ซึ่งก็ซัดกันไปแล้วครบทุกคู่ ก็รู้ผลไปแล้ว ว่าแต่ละทีมผลงานเป็นกันอย่างไรบ้าง ส่วนวันนี้ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA มานำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจกับ ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง ทุกนัด จนถึงล่าสุดว่ามีใครติดโผเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแต่ละสัปดาห์ การแข่งขันกันบ้าง

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง

แต่ก่อนที่จะไปดูกันว่า มีนักเตะรายไหน ติดโผนี้เข้ามา ซึ่งเป็นนักเตะที่ได้ถูกมองว่าเป็นนักเตะ ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในการแข่งขันรอบนั้นๆ ทางทีมงานขอแนะนำ เวปเดิมพันฟุตบอลออนไลน์ ที่มาแรงที่สุด มั่งคงปลอดภัยแบบ 100% นั่นก็คือ Ufabet เวปไซต์เดิมพันออนไลน์ ครบรูปแบบ

ที่คร่ำหวอดวงการ มาอย่างยาวนาน การันตีคุณภาพ ฝาก-ถอน ไม่ต้องรอนาน การเงินอุ่นใจได้เลย พร้อมให้ราคาอัตราการต่อรอง ที่มากกว่าใคร สัมผัสประสบการณ์โดยตรง ได้ที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียว

แมตช์ที่ 1

เซบาสเตียน อัลแลร์ กองหน้าสัญชาติฝรั่งเศส เป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์ของ นัดแรก โดยเขาโชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรง

ในนัดที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม บุกไปถล่มใส่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ราบคาบถึงถิ่น 5-1 โดยเจ้าตัวซัดไปถึง 4 ประตู คนเดียว สมแล้วที่เป็น ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์ที่ 1

แมตช์ที่ 2

จอร์จอส อตานาเซียดิส ผู้รักษาประตูชาวกรีซ ได้ติดเป็น ผู้เล่นประจำสัปดาห์ของการแข่งขัน นัดที่สอง

โดยมือกาวรายนี้ ช่วยทีมเซฟช็อตสำคัญ พาทีมสร้างประวัติศาสตร์ พา เชอร์รีฟฟ์ ทีมสมันน้อย จากประเทศมอลโดว่า บุกไปชนะ เรอัล มาดริด ถึงถิ่น 2-1

แมตช์ที่ 3

ดาลี่ย์ บลินด์ กองหลังจอมเก๋า สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ติดมาเป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์ ของการแข่งขัน นัดที่สาม

โดยกองหลังรายนี้ ทำไปได้ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ในเกมที่ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เปิดบ้าน ถล่มใส่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ท่วมท้น 4-0

แมตช์ที่ 4

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าตัวเป้ารุ่นใหญ่ สัญชาติโปแลนด์ ติดเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ นัดที่ 5 จากการที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ในเกมที่ บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านถล่มใส่ เบนฟิก้า ท่วมท้น 5-2

โดย เขา สังหารไป 3 ประตู ทำแฮทริกได้ในเกมนี้ แถมยังแอสซิสต์อีก 1 ครั้งอีกด้วย

แมตช์ที่ 5

เปโดร กอนคาลเวส ปีกตัวจี๊ดดาวรุ่ง ชาวโปรตุเกส ติดเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ นัดที่ 5

โดยเจ้าตัวมีส่วนสำคัญ พาต้นสังกัด สปอร์ติ้ง ลิสบอน เปิดบ้านถล่มเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยสกอร์ 3-1 โดยเจ้าตัว ซัดไป 2 ลูกและทำอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมดังกล่าว

แมตช์ที่ 6

คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ กองหน้าดาวดัง ชาวฝรั่งเศส ติดมาเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ นัดที่ 6

โดยเขาเป็นกำลังหลักที่ทำให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านถล่มใส่ คลับ บรูช ยับเยิน 4-1 ซึ่งเจ้าตัว จัดการยิงไป 2 ประตูและจัดการทำ 1 แอสซิสต์ให้กับเพื่อน ในเกมนัดดังกล่าว

รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันที่ 15-16 กุมภาพันธ์

คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ กองหน้าระดับโลก ชาวฝรั่งเศส ติดโผเป็นอันดับหนึ่งของผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก

หลังจากที่เขาเป็นคนสำคัญ ที่พังประตูชัยช่วงท้ายเกม ให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้าน เฉือนชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 1-0

รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันที่ 22-23 กุมภาพันธ์

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ตัวรับสามปอด ชาวฝรั่งเศส ติดโผในการเป็นผู้เ่ล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรก อย่างไม่ต้องสงสัย

เนื่องจากผลงานของเขาทำได้ดีอย่างมาก เป็นกำลังสำคัญของทีมในแดนกลาง วิ่งไม่มีหมด ปัดกวาดแนวรับได้อย่างเนียนกริบ แถมช่วงหลังมีบทบาทกับเกมรุกอีกด้วย โดยเขาโดดเด่นอย่างมากในเกมล่าสุด ที่ เชลซี เอาชนะ ลีลล์ แบบนิ่มๆ 2-0

รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง วันที่ 8-9 มีนาคม

คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศส ติดโผเป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกที่สอง อย่างสวยสดงดงามอย่างมาก

เพราะเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้ เรอัล มาดริด พลิกนรกแซงเข้ารอบเหนือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวเป็นผู้ทำแฮทริกได้ในเกมที่ เรอัล มาดริด ถล่มเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยสกอร์ 3-1

รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง วันที่ 15-16 มีนาคม

เคโรนีโม่ รูยี่ ผู้รักษาประตูจอมหนึบ ของบียาร์เรอัล ติดเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกที่สอง ได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยประตูมือดีรายนี้ ช่วยเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม พาทีมเก็บคลีนชีท เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ บียาร์เรอัล เอาชนะ ยูเวสตุส แซงเข้ารอบได้อย่างยอดเยี่ยม

รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันที่ 05-06 เมษายน

คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศส ติดโผเป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกแรก อย่างสวยสดงดงาม สมกับรางวัลนี้อย่างมาก

เพราะเขาเป็นเดอะแบก ของเรอัล มาดริด อย่างแท้จริง ด้วยการทำแฮทริกได้อีกแล้ว ในนัดที่ เรอัล มาดริด บุกไปชนะ เชลซี ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสกอร์ 3-1 สร้างความได้เปรียบมากโขในเกมนัดถัดไป แถมยังเป็นคนแรกที่ทำแฮทริกในรายการนี้ ใส่ เชลซี ได้อีกด้วย

รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันที่ 13-14 เมษายน

ลูก้า โมดริช ยอดมิดฟิลด์ระดับโลก ที่แม้อายุอานามจะมากแล้ว แต่ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยติดโผยื่นหนึ่งเป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกสอง ได้อย่างยอดเยี่ยม

เป็นฟันเฟืองสำคัญในแดนกลาง แถมแอสซิสต์ช่วยให้เพื่อนทำประตูได้อีกด้วย มีส่วนสำคัญที่ทำให้ เรอัล มาดริด เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ แม้จะแพ้ในเกมเลกที่สองก็ตาม แต่สกอร์รวมยังถือว่าเข้ารอบได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน

หากเพื่อนๆ ไม่อยากพลาดบทความดีๆ รวมถึงเกล็ดความรู้มากมาย อย่าลืมติดตามพวกเรา UFA.soccer ที่จะมาพร้อมกับบทความฟุตบอล มาฝากเพื่อนๆ ทุกวัน เป็นประจำเช่นเคย

Posted in บทความฟุตบอล

ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ยังอยู่กับ รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นเคย โดยวันนี้ จะพูดถึง ประกบคู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ซึ่งผ่านกันไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทีมเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ครบแล้ว มาดูกันว่า ทีมไหนได้จับฉลากมาดวลแข้งกันบ้าง

ก่อนจะไปถึง ผลจับฉลาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพัน ที่ดีที่สุด พร้อมโปรโมชั่น สุดคุ้ม ไม่ว่าจะ ฟุตบอล กีฬา คาสิโน มีครบถ้วน ทุกวงจร สนใจ เสิร์ชเลยที่ Ufabet

ประกบคู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันกันที่ 27 และ 28 เมษายนนี้ เป็นเกมเลกแรก ครบทั้งสองคู่ ส่วนวันที่ 4 พฤษภาคมและ 5 พฤษภาคม จะเป็นการแข่งขันเลกที่สอง มาดูกันว่าทีมไหนจะเจอกันบ้าง เริ่มตั้งแต่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ เรอัล มาดริด

เลกแรก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกรีรองแชมป์เก่าในรายการนี้ในฤดกาลก่อน เปิดบ้านเจอกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยุโรป 13 สมัย แข่งขันกันที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม วันที่ 27 เมษายน เวลา 02:00 น.

ส่วนเลกที่สอง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เปิดสนาม ซานติเอโก้ เบร์นาเบว ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แข่งขันกันวันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 02:00 น.

โดยผลงานของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกรีรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยล่าสุด ทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ถูกยกให้เป็นเต็งสองของรายการนี้ในซีซั่นนี้ นักเตะต่างช่วยกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงกึ๋นของกุนซือที่สุดจัดกันตลอดทุกเกม

โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาอยู่กลุ่ม เอ ร่วมกลุ่มกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แอร์เบ ไลป์ซิก และ คลับ บรูช โดยพวกเขา ชนะ 4 นัด และ แพ้ 2 นัด เก็บได้ 12 คะแนน เข้ารอบได้ตามเป้า

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจองานไม่ยาก จับฉลากเจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมดังจากโปรตุเกส โดยพวกเขาสามารถเข้ารอบได้อย่างสบายๆ โดยสกอร์รวมสองนัด พวกเขาชนะ 5-0

ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน แต่พวกเขาก็สามารถผ่านถึงรอบรองชนะเลิศได้ตามคาด แม้จะเหนื่อยลำบากพอสมควร โดยเฉือนชนะด้วยสกอร์สองนัด 1-0

ส่วนทาง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด โคตรทีมจากศึกลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยุโรป 13 สมัย ซึ่งผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ ถือว่าทำได้เกินคาด

หากนับดูกลุ่มผู้เล่นที่คุณภาพอาจจะไม่ระดับพระกาฬทุกตำแหน่งเหมือนเดิม แต่แข้งที่มีอยู่เรียกได้ว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างไร้เทียมทาน

โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาอยู่กลุ่ม ดี ร่วมกับ อินเตอร์ มิลาน, ชักตาร์ โดเน็กต์ และ เอฟซี เชอร์รีฟ โดยพวกเขา ชนะได้ 5 นัดและแพ้ 1 นัด เก็บได้ 15 คะแนน เข้ารอบได้ตามคาด

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาเจอของแข็ง อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส สโมสรที่อุดมไปด้วยสตาร์ แต่พวกเขาสามารถแซงเข้ารอบได้อย่างน่าจดจำ ด้วยสกอร์รวม 3-2

ต่อมารอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาได้ล้างตากับ เชลซี ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยพวกเขาสามารถเข้ารอบได้อย่างทุลักทุเล ด้วยสกอร์รวม 5-4 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ลิเวอร์พูล พบกับ บียาร์เรอัล

เลกแรก “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล ยอดทีมจากลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เจอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก แข่งขันกันที่ เอล มาดริกัล วันที่ 28 เมษายน เวลา 02:00 น.

ส่วนเลกสอง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ รอรับการมาเยือนของ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล แข่งขันกันวันีท่ 4 พฤษภาคม เวลา 02:00 น.

โดยผลงานของ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล สโมสรจากศึกลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก สมัยล่าสุด ซึ่งผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ พวกเขาคือม้ามืดอย่างแท้จริง เรียกว่าหักปากกาเซียนกันเลยทีเดียว

ไล่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม อยู่กลุ่ม เอฟ ร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อตาลันต้า และ ยัง บอยส์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย แต่พวกเขาก็สามารถ ชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 2 นัก เก็บได้ 10 คะแนน เข้ารอบได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็จับฉลากเจองานหนัก เมื่อต้องเจอกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยอดทีมจาก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี แต่การแข่งขันทั้งสองเลก พวกเขาสามารถ เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-1 เข้ารอบได้อย่างสวยสดงดงาม

ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็เจองานหนักกันอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีพัก โดยพบเจอกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน แต่ทว่า พวกเขาหักปากกาเซียนกันอีกรอบ ด้วยการ เอาชนะด้วยสกอร์รวม 2-1 เข้ารอบรองชนะเลิศได้อย่างโคตรสุดยอด

ส่วนผลงานของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ ถือว่าโดดเด่นอย่างมาก นักเตะและกุนซือช่วยกันสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ เอซี มิลาน, ปอร์โต้ และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งถือว่าเป็นกรุ๊ป ออฟ เดท แต่ทว่าพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยชนะรวด 18 คะแนนจาก 6 นัด เข้ารอบเป็นจ่าฝูง

ส่วนผลงานในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจองานหนักไม่เบา เมื่อต้องดวลกับ อินเตอร์ มิลาน ดีกรีแชมป์ศึกกัลโช่ เซเรีย อา สมัยล่าสุด แต่ก็เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-1

ต่อมาที่ผลงานในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เจองานเบา ดวลกับ เบนฟิก้า สโมสรจากแดนฝอยทอง ประเทศโปรตุเกส แต่ก็สามารถเข้ารอบได้ตามเป้า ด้วยสกอร์รวม 6-4

Posted in บทความฟุตบอล

ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ยังอยู่กับ รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นเคย โดยวันนี้ จะพูดถึง เต็งแชมป์ ยูซีแอล หลังผ่าน รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งผ่านกันไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทีมเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ครบแล้ว มาดูกันว่า ทีมใด มีโอกาส เป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุด ตั้งแต่อันดับ 4 – 1

ก่อนจะไปถึง ทีม เต็งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ล่าสุด หลังผ่าน รอบ 8 ทีม เลกสอง ทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพัน ที่ดีที่สุด พร้อมโปรโมชั่น สุดคุ้ม ไม่ว่าจะ ฟุตบอล กีฬา คาสิโน มีครบถ้วน ทุกวงจร สนใจ เสิร์ชเลยที่ Ufabet

เต็งแชมป์ ยูซีแอล หลังผ่าน รอบก่อนรองชนะเลิศ

หลังจากผ่านไปแล้ว สำหรับ เลกสอง กับสัปดาห์ที่ผ่านมา ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ฟาดแข้งครบทุกคู่ มาดูกันว่า ทีมเต็งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มีการเปลี่ยนอันดับกันบ้างหรือไม่ โดยทางทีมงาน ได้เทียบเคียงจากเวป Ufabet มาดูกันว่า จะเป็นทีมไหนกันบ้าง

อันดับที่ 4 : บียาร์เรอัล

“เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล สโมสรจากศึกลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก สมัยล่าสุด ซึ่งผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ พวกเขาคือม้ามืดอย่างแท้จริง

ไล่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม อยู่กลุ่ม เอฟ ร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อตาลันต้า และ ยัง บอยส์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย แต่พวกเขาก็สามารถ ชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 2 นัก เก็บได้ 10 คะแนน เข้ารอบได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็จับฉลากเจองานหนัก เมื่อต้องเจอกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยอดทีมจาก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี แต่การแข่งขันทั้งสองเลก พวกเขาสามารถ เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-1 เข้ารอบได้อย่างสวยสดงดงาม

ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็เจองานหนักกันอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีพัก โดยพบเจอกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน แต่ทว่า พวกเขาหักปากกาเซียนกันอีกรอบ ด้วยการ เอาชนะด้วยสกอร์รวม 2-1 เข้ารอบรองชนะเลิศได้อย่างโคตรสุดยอด

ส่วนรอบรองชนะเลิศ พวกเขาก็เจอของหนักของแข็งจากแดนอังกฤษ กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากศีกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยจะแข่งขันกันสองเลก ในวันที่ 27 เมษายน และ วันที่ 4 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

ส่วนอัตราการต่อรองของ บียาร์เรอัล ในการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาอยู่ที่เต็งที่อันดับสุดท้าย โดยอัตราการเดิมพันอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 19 ไม่รวมทุน ซึ่งก็น่าสนใจเลยทีเดียวครับ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ สนใจใส่เดิมพันกันได้เลย มีโอกาสรวยกันเวอร์ๆ

อันดับที่ 3 : เรอัล มาดริด

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด โคตรทีมจากศึกลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยุโรป 13 สมัย ซึ่งผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ ถือว่าทำได้เกินคาด หากนับดูกลุ่มผู้เล่นที่คุณภาพอาจจะไม่ระดับพระกาฬทุกตำแหน่งเหมือนเดิม แต่แข้งที่มีอยู่เรียกได้ว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างไร้เทียมทาน

โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาอยู่กลุ่ม ดี ร่วมกับ อินเตอร์ มิลาน, ชักตาร์ โดเน็กต์ และ เอฟซี เชอร์รีฟ โดยพวกเขา ชนะได้ 5 นัดและแพ้ 1 นัด เก็บได้ 15 คะแนน เข้ารอบได้ตามคาด

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาเจอของแข็ง อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส สโมสรที่อุดมไปด้วยสตาร์ แต่พวกเขาสามารถแซงเข้ารอบได้อย่างน่าจดจำ ด้วยสกอร์รวม 3-2

ต่อมารอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาได้ล้างตากับ เชลซี ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยพวกเขาสามารถเข้ารอบได้อย่างทุลักทุเล ด้วยสกอร์รวม 5-4 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ส่วนรอบรองชนะเลิศรอบนี้ พวกเขาต้องเจอกับทีมแดนผู้ดีอีกครั้งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักอย่างมาก โดยจะแข่งขันกันวันที่ 26 เมษายน และ 5 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

ส่วนอัตราการต่อรองของ เรอัล มาดริด ในการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาอยู่ที่เต็งที่ 3 โดยอัตราการเดิมพันอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 6.5 ไม่รวมทุน ซึ่งก็น่าสนใจเลยทีเดียวครับ เพราะรอบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ

อันดับที่ 2 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกรีรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยล่าสุด โดยผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ดีวันดีคืนขึ้นทุกซีซั่น นักเตะต่างช่วยกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงกึ๋นของกุนซือที่สุดจัดกันตลอดทุกเกม

โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาอยู่กลุ่ม เอ ร่วมกลุ่มกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แอร์เบ ไลป์ซิก และ คลับ บรูช โดยพวกเขา ชนะ 4 นัด และ แพ้ 2 นัด เก็บได้ 12 คะแนน เข้ารอบได้ตามเป้า

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจองานไม่ยาก จับฉลากเจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมดังจากโปรตุเกส โดยพวกเขาสามารถเข้ารอบได้อย่างสบายๆ โดยสกอร์รวมสองนัด พวกเขาชนะ 5-0

ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน แต่พวกเขาก็สามารถผ่านถึงรอบรองชนะเลิศได้ตามคาด แม้จะเหนื่อยลำบากพอสมควร โดยเฉือนชนะด้วยสกอร์สองนัด 1-0

ส่วนรอบรองชนะเลิศ พวกเขาเจอกับ เรอัล มาดริด ยอดทีมจากศึกลาลีกา สเปน ดีกรีแชมป์ยุโรปสูงที่สุด โดยจะแข่งขันกันวันที่ 26 เมษายน และ 5 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

ส่วนอัตราการต่อรองของ เรอัล มาดริด ในการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาอยู่ที่เต็งที่ 2 โดยอัตราการเดิมพันอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 2.3 ไม่รวมทุน ซึ่งถือว่าราคาไม่สูงมากเท่าไหร่ สำหรับผลตอบแทน แต่ถ้าใส่ไปก็ถือว่ามีลุ้นมากเลยทีเดียว เพราะพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด

อันดับที่ 1 : ลิเวอร์พูล

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ ถือว่าโดดเด่นอย่างมาก นักเตะและกุนซือช่วยกันสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ เอซี มิลาน, ปอร์โต้ และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งถือว่าเป็นกรุ๊ป ออฟ เดท แต่ทว่าพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยชนะรวด 18 คะแนนจาก 6 นัด เข้ารอบเป็นจ่าฝูง

ส่วนผลงานในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจองานหนักไม่เบา เมื่อต้องดวลกับ อินเตอร์ มิลาน ดีกรีแชมป์ศึกกัลโช่ เซเรีย อา สมัยล่าสุด แต่ก็เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-1

ต่อมาที่ผลงานในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เจองานเบา ดวลกับ เบนฟิก้า สโมสรจากแดนฝอยทอง ประเทศโปรตุเกส แต่ก็สามารถเข้ารอบได้ตามเป้า ด้วยสกอร์รวม 6-4

ส่วนรอบรองชนะเลิศก็ถือว่าเจองานเบาที่สุดจากทีมที่เหลือ เมื่อต้องดวลแข้งกับ บียาร์เรอัล สโมสรจากศึกลาลีกา สเปน แข่งขันกันวันที่ ในวันที่ 27 เมษายน และ วันที่ 4 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

ส่วนอัตราการต่อรองของ ลิเวอร์พูล ในการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาอยู่ที่เต็งที่ 1 โดยอัตราการเดิมพันอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 2.25 ไม่รวมทุน ซึ่งถือว่าอัตรการจ่ายอาจจะไม่มาก แต่ก็ถือว่าได้กำไรดี โดยพวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง ซึ่งก็สมราคา เพราะที่ผ่านมาเจองานไม่ยากมากนัก แต่นักเตะและทีมกำลังทำผลงานแบบยากจะหยุด หากชื่นชอบก็ใส่กันได้เลย

Posted in บทความฟุตบอล

จบกันไปแล้วสำหรับการแข่งขันในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวันนี้จะมาพูดถึง ทีมยอดเยี่ยม ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง วันที่ 12-13 เมษายน 65 ซึ่งประกอบไปด้วย นักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุด คัดมาจากยูฟ่าโดยตรง ซึ่งนักเตะ ทั้ง 11 รายจะเป็นใคร และ เป็นนักเตะจากสโมสรไหน กันบ้าง

โดยทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA ก็จะนำข้อมูล ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือฟุตบอลยุโรป ถ้วยหูใหญ่ มาฝากทุกท่าน ก่อนที่รายการนี้จะกลับมาแข่งขันกันในปีหน้า

ทีมยอดเยี่ยม ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง

แต่ก่อนที่จะไปดูกันว่า มีเรื่องราวอะไร ที่น่าสนใจกันบ้าง ทางทีมงานขอแนะนำ เวปเดิมพัน ฟุตบอลออนไลน์ ที่มาแรงที่สุด มั่งคงปลอดภัยแบบ 100% นั่นก็คือ Ufabet เวปไซต์เดิมพันออนไลน์ ครบรูปแบบ

ที่คร่ำหวอดวงการ มาอย่างยาวนาน การันตีคุณภาพ ฝาก-ถอน ไม่ต้องรอนาน การเงินอุ่นใจได้เลย พร้อมให้ราคาอัตราการต่อรอง ที่มากกว่าใคร สัมผัสประสบการณ์โดยตรง ได้ที่ Ufabet ที่นี่ที่เดียว

โดยทีมยอดเยี่ยม รอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทางทีมงานได้อ้างอิงจากยูฟ่า โดยตรง มาดูกันว่าจะมีแข้งรายไหน ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ติดโผเข้ามาบ้าง

ผู้รักษาประตู – แอแดร์ซอน – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แอร์แดร์ซอน ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ติดโผเข้ามายืนหนึ่งเป็นนายทวารที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบนี้ โดยเขาเก็บคลีนชีทได้ทั้งสองนัด โดยเฉพาะเกมออกไปเยือน ที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว

กองหลัง – ไคล์ วอล์กเกอร์ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ไคล์ วอล์กเกอร์ แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ จากสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากไม่มีปัญหาอะไร เขาจะยืดทางด้านเกมรับกราบขวาอยู่เสมอ แถมสกิลเกมรุกก็ทำได้ดีเหลือเกิน ขึ้นสุดลงสุด เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างมาก

กองหลัง – จอห์น สโตน – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

จอห์น สโตน ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ จากสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาลนี้ ได้สัมผัสเกมมากขึ้นและยิ่งโชว์ฟอร์มได้ดียิ่งขึ้น จุดเด่นของเขาทั้งเกมรับก็ทำได้ดี เกมรุกก็สามารถขึ้นบอลได้ดีอีกด้วย ไม่แปลกใจที่จะติดลิสต์นี้เข้ามา

กองหลัง – อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – เชลซี

อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังตัวรุกจากสโมสรเชลซี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ทีมจะไม่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ แต่เจ้าตัวเล่นได้อย่างดุดันและสามารถทำประตูได้อีกด้วย

กองหลัง – เรย์นิลโด้ มันดาวา – แอตเลติโก มาดริด

เรย์นิลโด้ มันดาวา แม้เพิ่งจะย้ายมา แต่ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับแบ็ครายนี้ ที่มีจุดเด่นทั้งเกมรับที่เล่นได้อย่างดุดันกัดไม่ปล่อย ส่วนเกมรุกก็มีพัฒนาการเล่นอย่างต่อเนื่อง

กองหลัง – คอสตาส ซึมิกาส – ลิเวอร์พูล

คอสตาส ซึมิกาส แบ็คชาวกรีซ ที่แม้ไม่ค่อยจะได้ลงสนามมากมายนัก แต่ยามใดที่ได้โอกาส เขาก็ไม่เคยทำให้สโมสรต้องผิดหวัง เล่นได้อย่างดี โดยเฉพาะเกมรุกจากลูกครอสสุดอันตรายและการเติมเกมอย่างเมามันส์ แถมยังทำแอสซิสต์ได้ 2 ครั้งอีกด้วย

กองกลาง – เมสัน เมาท์ – เชลซี

เมสัน เมาท์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ จากสโมสรเชลซี แข้งรายนี้ เรียกได้ว่าเป็นกำลังสำคัญของทีมก็ไม่ผิดนัก เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังยิงประตูในเกมล่าสุดได้อีกด้วย แม้จะไม่สามารถช่วยทีมไปถึงการป้องกันแชมป์ได้ก็ตาม

กองกลาง – ลูก้า โมดริช – เรอัล มาดริด

หากใครบอกว่า แดนกลางของเรอัล มาดริด นั้นหมดน้ำยาแล้ว ขอให้คิดดูใหม่ เพราะผลงานในรอบก่อนรองชนะเลิศของ ลูก้า โมดริช ร้อนแรงทั้งสองนัด แถมยังทำแอสซิสต์สุดสวยให้เพื่อนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าขิงแก่ของจริง พาทีมพลิกแซงเข้ารอบได้อย่างสวยสดงดงาม

กองหน้า – กอนคาโล่ รามอส – เบนฟิก้า

กอนคาโล่ รามอส กองหน้าดาวรุ่งวัยแค่ 20 ปี ชาวโปรตุเกส จากสโมสรเบนฟิก้า ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นอย่างมาก แถมเกมล่าสุดบุกไปยิงใส่ ลิเวอร์พูล ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ทีมใหญ่ๆ คงยื่นข้อเสนอเข้ามาในอนาคตแน่นอน

กองหน้า – โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ – ลิเวอร์พูล

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ กองหน้าชาวบราซิล คืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังจากโชว์ซัลโวสองประตูในเกมล่าสุด ทำให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ เข้ารอบไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

กองหน้า – ติโม แวร์เนอร์ – เชลซี

ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าชาวเยอรมัน จากสโมสรเชลซี ที่จุดเด่นคือเรื่องจมูกไว หาจังหวะในการจบสกอร์ค่อนข้างดี โดยเกมล่าสุดช่วยสโมสรเต็มที่ แถมยังยิงประตูได้อีกด้วย แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันในการเข้ารอบ แต่ฟอร์มส่วนตัวของเขา สามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้ไม่มากก็น้อย

Posted in บทความฟุตบอล

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง ที่ลงฟาดแข้งกันไปแล้ว โดยมีด้วยกัน 2 คู่ ซึ่งเป็นการโรมรัน ระหว่างยอดทีมจากทวีปยุโรป ซึ่งหลายท่านก็ทราบถึงผลการแข่งขันกันไปแล้ว แต่วันนี้ ทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พร้อมจัดเต็มกับการ ดาวซัลโวและแอสซิสต์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง วันที่ 12-13 เมษายน 2565 แบบจัดเต็ม มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพันออนไลน์ ที่ครบวงจรมากที่สุด เปิดให้บริการร่วม 20 ปี คร่ำหวอดในวงการอย่างยาวนาน มีให้เล่นทั้ง ฟุตบอล กีฬา เกม และ คาสิโน ครบวงจร สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Ufabet โปรดระวังของเลียนแบบ

ดาวซัลโวและแอสซิสต์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง วันที่ 12-13 เมษายน 2565

ซึ่งอันดับดาวซัลโว และ แอสซิสต์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตอนนี้ มีการอัพเดทพอสมควร ซึ่งก็แข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ กันครบสองเลกแล้ว โดยมาดูกันว่า ใครติดโผอันดับ ดาวซัลโว และ ยอดแอสซิสต์ กันบ้าง จะเป็นแข้งในดวงใจของท่านกันหรือไม่ และจะมีผู้เล่นหน้าใหม่รายไหน มีชื่อเข้ามาในอันดับ ดาวซัลโว และ ยอดแอสซิสต์ มาดูกันเลยครับ

ดาวซัลโว ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

1.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ – บาเยิร์น มิวนิค ทำได้ 13 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด

2.คาริม เบนเซม่า – เรอัล มาดริด ทำได้ 12 ประตู จากการลงสนาม 9 นัด

3.เซบาสเตียน อัลแลร์ – อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทำได้ 11 ประตู จากการลงสนาม 8 นัด

4.โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ – ลิเวอร์พูล ทำได้ 8 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด

5.คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู – แอร์เบ ไลป์ซิก ทำได้ 7 ประตู จากการลงสนาม 6 นัด

6.คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ – ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 8 นัด

7.ดาวิน นูเนซ – เบนฟิก้า ทำได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด

8.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 7 นัด

9.อาเนา์ ดานยูม่า – บียาร์เรอัล ทำได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด

10.เลรอย ซาเน่ – บาเยิร์น มิวนิค ทำได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด

จอมแอสซิสต์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

1.บรูโน่ แฟร์นานเดส – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ 7 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 7 นัด

2.เลรอย ซาเน่ – บาเยิร์น มิวนิค ทำได้ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัด

3.วินิซิอุส จูเนียร์ – เรอัล มาดริด ทำได้ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัด

4.แอนโธนี่ – อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทำได้ 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 7 นัด

5.ลูก้า โมดริช – เรอัล มาดริด ทำได้ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัด

6.ชูเอา มาริโอ – เบนฟิก้า ทำได้ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 8 นัด

7.คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ – ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำได้ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 8 นัด

8.เคราร์ด โมเรโน่ – บียาร์เรอัล ทำได้ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัด

9.ดานี่ ปาเยโฆ่ – บียาร์เรอัล ทำได้ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัด

10.เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ – ลิเวอร์พูล ทำได้ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 6 นัด

มาดูกัน ในการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ผลการแข่งขัน จะเป็นอย่างไร จะสนุกสนานและตื่นเต้นมากแค่ไหน และ อันดับดาวซัลโว และ ยอดแอสซิสต์ จะเป็นอย่างไร โปรดรอใจรอกันต่อไป

Posted in บทความฟุตบอล

ผ่านการแข่งขันเลกแรก ครบทุกคู่ไปแล้ว สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เรียกว่าระเบิดความมันส์กันไปแบบสุดทีน โดยแต่ละคู่ที่แข่งขันกัน ร่วมเข้มข้นทั้งนั้น ในระหว่างรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้ โดยทางทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA จะพูดถึง แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง วันที่ 12-13 เมษายน ว่าจะเป็นนักเตะแข้งทองรายไหน ทำได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้

แมนออฟเดอะแมตช์ ยูซีแอล รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง วันที่ 12-13 เมษายน

มาดูกันว่า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ยูซีแอล รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันที่ 12 ถึงวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา จะมีใครกันบ้าง แต่ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ ก่อนอื่น ทางทีมงาน ขอแนะนำ Ufabet เวปเดิมพันออนไลน์ ที่ครบวงจรมากที่สุด เปิดให้บริการร่วม 20 ปี คร่ำหวอดในวงการอย่างยาวนาน มีให้เล่นทั้ง ฟุตบอล กีฬา เกม และ คาสิโน ครบวงจร สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Ufabet โปรดระวังของเลียนแบบ

แอตเลติโก มาดริด 0 – 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ตราหมีแอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน เปิดสนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ เสมอกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์เก่า ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก แบบไร้สกอร์ แต่มีเหตุการณ์ดราม่าสุดมันส์ท้ายเกม รวมสกอร์สองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

โดยเกมนี้ เริ่มต้นเกมมา กลายเป็นทีมเยือนที่ครองบอลมากกว่าตามสไตล์ แต่ก็หาจังหวะบุกได้ยากพอสมควร เพราะทีมเจ้าบ้าน แนวรับเล่นได้แข็งแกร่งเช่นเดิม แถมเจ้าบ้านยังมีโอกาสได้ครองบอล และ ได้บุกมากขึ้นกว่าเกมนัดแรก

ครึ่งแรกยังไม่มีอะไรมากมายนัก ทั้งสองฝ่ายต่างมีโอกาสทำประตู แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบครึ่งแรก ทีมเยือนครองบอลได้มากกว่า แต่เจ้าบ้านก็ได้บุกเหมือนกัน

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านพยายามโหมบุกมากขึ้น เพราะสกอร์รวมยังตามหลัง ซึ่งก็ได้บุกมากขึ้นจริงๆ และพยายามเพิ่มดีกรีความดุดันเข้าไปด้วย แต่ก็ได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น

ช่วงปลายครึ่งหลัง เจ้าบ้านได้บุกมากขึ้นและเกมก็เดือดขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้น เจ้าบ้านก็ได้บุกมากขึ้นและมีจังหวะสับไกลพอสมควร แต่กลายเป็นว่าทีมเยือน ที่ผลสกอร์นำอยู่จากเลกแรก พวกเขาต้องการรักษาผลสกอร์เอาไว้ให้ได้ เลยเล่นแบบชวนอึดอัด

ทำให้ช่วงท้ายเกม เกมตึงเครียดอย่างมาก จนมีการปะทะกระทบกระทั่งกันต่อเนื่อง จนช่วงท้ายเกม จังหวะ ฟิล โฟเด้น บาดเจ็บนอกสนามแต่เข้ามาล้มตัวในสนาม ทำให้ทั้งสองทีมกระทบกระทั่งกันอย่างหนักหน่วง ผลสุดท้าย เฟลิเป้ กองหลังทีมเจ้าบ้าน โดนใบแดนไล่ออกจากสนาม

หลังจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 รวมผลสกอร์สองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จตามคาด

ซึ่งแมนออฟเดอะแมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง จอห์น สโตนส์ กองหลังชาวอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเกมรับที่โชว์ฟอร์มได้เหนียวแน่น ช่วยทีมเก็บคลีนชีท และ เกมรุกที่ช่วยขึ้นบอลตั้งแต่แดนหลัง รับรางวัลนี้ไป

ลิเวอร์พูล 3 – 3 เบนฟิก้า

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสนาม แอนฟิลด์ โดน “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า ยอดทีมจากโปรตุเกส ไล่เจ๊าด้วยสกอร์สุดมันส์ 3-3 แต่รวมผลสกอร์สองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยสกอร์ 6-4 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล โรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่ง แต่ก็ยังแกร่งอยู่ดียามเล่นในบ้านยิ่งเก่ง โดยเกมนี้เริ่มต้นมาไม่ทันไร เจ้าบ้านก็ครองเกมได้ทันที จนมาได้ประตูนำในนาทีที่ 21 จากลูกโหม่งจาก อิบราฮิม่า โกนาเต้ ทำให้ ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อน 1-0

แต่ทว่านาทีที่ 32 ทีมเยือนได้ประตูตีเสมอ จากลูกยิงจาก กอนคาโล่ รามอส ทำประตูอย่างสุดสวยให้ทีมเยือน เบนฟิก้า ไล่เจ๊ามาเป็น 1-1 หลังจากนั้นครึ่งแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สกอร์อยู่ที่ 1-1 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านเน้นมากขึ้นและยังครองเกมได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนทีมเยือนก็ได้สวนกลับบ้าง จนในนาทีที่ 55 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 51 จาก โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และในนาทีที่ 65 โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ก็ทำประตูที่สองของตัวเอง ทำให้ ลิเวอร์พูล ออกนำ เบนฟิก้า 3-1

ทว่าหลังจากนั้นทีมเยือนก็ยังไม่ยอมแพ้จนมาได้สองประตูรวดในช่วงท้ายเกม ในนาทีที่ 73 จาก โรมัน ยาเร็มชุค และ ดาวิน นูเนซ ในนาทีที่ 82 หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไปได้ สกอร์จบลงด้วยผล 3-3 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบรองชนะเลิศ

ซึ่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง กอสตาส ซิมิกาส แบ็คชาวกรีซที่ได้รับรางวัล แมนออฟเดอะแมตช์ ในเกมนี้ หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมรุก ที่เติมได้สนุกตลอดเกม

เรอัล มาดริด 2 – 3 เชลซี

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เกือบตกรอบ เปิดสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ณ กรุงมาดริด แพ้คาบ้านให้กับ แชมป์เก่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ด้วยสกอร์ 2-3 ช่วงต่อเวลาพิเศษ แบบสุดดราม่า ยังเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4

โดยเกมนี้ เริ่มมาถึงไม่ทันไร ทีมเยือน เชลซี ก็ทำเกมได้ดีกว่า จนมาได้ประตูขึ้นนำจาก เมสัน เมาท์ มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม ซัดด้วยเท้าขวา ในนาทีที่ 15

หลังจากนั้น เจ้าบ้านยังทรงไม่ดี ยังดูตั้งเกมไม่ได้ และ กลายเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูแรกไปแล้ว ก็ยิ่งฮึกเหิม บดต่อเนื่อง แต่ครึ่งแรกก็ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม เชลซี นำไปก่อนหนึ่งลูก

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยังไม่ทันได้ทำอะไร กลายเป็น เชลซี ที่มาได้ประตูที่ต้องการ จากการโหม่งสุดสวยจาก อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยอดกองหลังจอมถล่มประตูของทีม ในนาทีที่ 51 ทำให้ เชลซี นำ เรอัล มาดริด 2-0 แถมสกอร์รวมสองนัดกลายเป็น 3-3 ตอนนี้โอกาสเข้ารอบเปิดกว้างสำหรับสองทีม

หลังจากนั้น เชลซี บุกอย่างต่อเนื่อง และมีจังหวะที่ มาร์กอส อลอนโซ่ ทำประตูได้ แต่ถูก Var จับว่าแฮนด์บอล หลังจากนั้นทีมเยือนยังทำได้ดีกว่า แม้เจ้าบ้านจะมีโอกาส แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก และในที่สุดประตูที่ เชลซี ต้องการก็มาถึง เมื่อ ติโม แวร์เนอร์ หลุดไปทำประตูอย่างสุดสวย ในนาทีที่ 75 ทำให้ เชลซี นำห่าง 3-0

เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ เชลซี ที่สกอร์รวมนำอยู่ 4-3 แต่สุดท้าย ทีมเจ้าบ้าน เรอัล มาดริด ก็มาได้ประตูที่ต้องการ จาก โรดดริโก้ ดาวยิงตัวสำรอง ในนาทีที่ 83 ทำให้สกอร์เป็น 1-3 สกอร์รวม เป็น 4-4 เท่า เสมอกันไปต้องต่อเวลาพิเศษ

ช่วงต่อเวลาพิเศษกลายเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีขึ้น ดูเหมือนทีมเยือนจะเสียกำลังใจไปพอสมควร และในที่สุดเจ้าบ้านก็มาได้ประตูสำคัญในนาทีที่ 96 จากการโหม่งของ คาริม เบนเซม่า สกอร์อยู่ที่ 2-3 สกอร์รวมอยู่ที่ เรอัล มาดริด นำ 5-4

ช่วงเวลาหลังจากนี้ เจ้าบ้านเล่นอุ่นใจมากขึ้นและเน้นผลการแข่งขันเต็มที่ ยันรักษาสกอร์ไว้ให้ได้ ส่วนทีมเยือน เชลซี ก็พยายามแล้วพยายามเล่า แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย จบเกม กลายเป็น เรอัล มาดริด ที่แพ้ 2-3 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4 แซง เชลซี เข้ารอบได้อย่างสุดยอด

ซึ่งแมนออฟเดอะแมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง ลูก้า โมดริช โคตรมิดฟิลด์ขิงแก่ ที่เล่นได้อย่างเวิร์ลคลาส มีส่วนช่วยในเกมรุกของทีมอย่างสม่ำเสมอ แถมทำแอสซิสต์สุดสวยได้อีกด้วย รับรางวัลนี้อย่างสุดยอด

บาเยิร์น มิวนิค 1 – 1 บียาร์เรอัล

“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดสนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ทำได้เพียงแค่เสมอกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล ทีมจากลาลีกา สเปน ด้วยสกอร์ 1-1 รวมผลสกอร์สองนัด บียาร์เรอัล ชนะ 2-1 เข้ารอบได้อย่างหักปากกาเซียนอีกครั้ง

โดยเกมนี้ บาเยิร์น มิวนิค จัดเต็ม ไล่ตั้งแต่แนวรุกนำโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โคตรกองหน้าตัวหมายระดับเบอร์ต้นๆ ของโลก นำทัพ ซึ่งตั้งแต่เริ่มเกมมา เจ้าบ้าน โหมเกมรุกบุกหนักแบบไม่มีพักไม่มีผ่อน ส่วนทีมเยือนก็เน้นขึ้นเกมกันตั้งแต่ผู้รักษาประตู ส่วนเกมรับยังเหนียวแน่นเหมือนเกมนัดแรก

ซึ่งเกมนัดนี้คล้ายกับนัดแรก แต่เจ้าบ้านก็ยิ่งเพิ่มดีกรีเกมรุกบุกใส่ต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามาำพาบอลเข้าประตูไปได้เลย ส่วนทีมเยือนเล่นอย่างชวนอึดอัด ไม่ได้ก็ไม่เสีย รอจังหวะโต้กลับ ครึ่งแรก สกอร์ยังเสมออยู่ 0-0

ครึ่งหลังเจ้าบ้านแก้เกมมาใหม่ แล้วก็มาได้ประตูที่ต้องการจนได้ในนาทีที่ 52 และไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือเจ้าเก่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซัดตุงตาข่าย สกอร์ตอนนี้ บาเยิร์น มิวนิค นำ 1-0 สกอร์รวม เสมออยู่ที่ 1-1

หลังจากนั้นเจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง แต่ทีมเยือนยังไม่เสียทรง ยังยันเอาไว้ แต่ก็เกือบจะยวบเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สุดดราม่าก็เกิดขึ้น เมื่อทีมเยือน บียาร์เรอัล ได้จังหวะสวนกลับ และกลายเป็น ซามูเอล ชุควูเซ่ ได้ยิงเต็มข้อตุงตาข่ายในนาทีที่ 89 ซึ่งเป็นนาทีบาปเหลือเกิน ทำให้ บียาร์เรอัล ตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิค เป็น 1-1

หลังจากนั้นไม่มีทีมไหนทำประตูได้ กลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค จอดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำได้เพียงแค่เสมอกับ บียาร์เรอัล 1-1 สกอร์รวม บียาร์เรอัล แซงเข้ารอบด้วยสกอร์ 2-1 แบบเหลือจะเชื่อ

ซึ่งแมนออฟเดอะแมตช์ ของเกมนี้ เป็นทาง ราอูล อัลบิโอล ปราการหลังของ บียาร์เรอัล ที่เล่นโดดเด่นตลอดทั้งเกม รับรางวัลนี้ไปครองอย่างยอดเยี่ยม

Posted in บทความฟุตบอล

จบการแข่งขันกันไปแล้ว สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยมีด้วยกัน 4 คู่ ซึ่งเป็นการโรมรัน ระหว่างยอดทีมจากทวีปยุโรป ซึ่งทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พร้อมจัดเต็มกับการ สรุปผลบอล ยูซีแอล 13 เมษายน รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง แบบจัดเต็มทุกคู่ มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

สรุปผลบอล ยูซีแอล 13 เมษายน รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง

เมื่อคืนวันพุธที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา มีการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก 2 คู่ด้วยกัน ซึ่งมาดูกันว่า จะเป็นเป็นทีมไหน ที่ได้ฟาดแข้งกัน แล้วผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ใครเป็นฝ่ายชนะ และ ทีมไหนได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ มาดูกันเลย เริ่มตั้งแต่

แอตเลติโก มาดริด 0 – 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ตราหมีแอตเลติโก มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน เปิดสนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ เสมอกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์เก่า ยอดทีมจากพรีเมียร์ลีก แบบไร้สกอร์ แต่มีเหตุการณ์ดราม่าสุดมันส์ท้ายเกม รวมสกอร์สองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

โดยเกมนี้ เริ่มต้นเกมมา กลายเป็นทีมเยือนที่ครองบอลมากกว่าตามสไตล์ แต่ก็หาจังหวะบุกได้ยากพอสมควร เพราะทีมเจ้าบ้าน แนวรับเล่นได้แข็งแกร่งเช่นเดิม แถมเจ้าบ้านยังมีโอกาสได้ครองบอล และ ได้บุกมากขึ้นกว่าเกมนัดแรก

ครึ่งแรกยังไม่มีอะไรมากมายนัก ทั้งสองฝ่ายต่างมีโอกาสทำประตู แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบครึ่งแรก ทีมเยือนครองบอลได้มากกว่า แต่เจ้าบ้านก็ได้บุกเหมือนกัน

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านพยายามโหมบุกมากขึ้น เพราะสกอร์รวมยังตามหลัง ซึ่งก็ได้บุกมากขึ้นจริงๆ และพยายามเพิ่มดีกรีความดุดันเข้าไปด้วย แต่ก็ได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น

ช่วงปลายครึ่งหลัง เจ้าบ้านได้บุกมากขึ้นและเกมก็เดือดขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้น เจ้าบ้านก็ได้บุกมากขึ้นและมีจังหวะสับไกลพอสมควร แต่กลายเป็นว่าทีมเยือน ที่ผลสกอร์นำอยู่จากเลกแรก พวกเขาต้องการรักษาผลสกอร์เอาไว้ให้ได้ เลยเล่นแบบชวนอึดอัด

ทำให้ช่วงท้ายเกม เกมตึงเครียดอย่างมาก จนมีการปะทะกระทบกระทั่งกันต่อเนื่อง จนช่วงท้ายเกม จังหวะ ฟิล โฟเด้น บาดเจ็บนอกสนามแต่เข้ามาล้มตัวในสนาม ทำให้ทั้งสองทีมกระทบกระทั่งกันอย่างหนักหน่วง ผลสุดท้าย เฟลิเป้ กองหลังทีมเจ้าบ้าน โดนใบแดนไล่ออกจากสนาม

หลังจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 รวมผลสกอร์สองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จตามคาด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

แอตเลติโก มาดริด : 3-4-2-1 : ยาน โอบลัค (ประตู) : ไรย์นิลโด้ มานดาว่า, เฟลิปเป้, สเตฟาน ซาวิซ, มาร์กอส ยอเรนเต้, จอร์ฟฟรี่ย์ กอนด็อกเบีย, โกเก้, เรนาน โลดี้, อ็องตวน กรีซมันน์, โธมัส เลอมาร์, ชูเอา เฟลิกซ์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 4-3-3 : เอแดร์ซอน (ประตู) : ไคล์ ว็อกเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์ก, ชูเอา คันเซโล่ , อิคาย กุนโดกัน, โรดริ, เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, ฟีล โฟเด้น, แบร์นาโด้ ซิลวา

สถิติเกมนี้

อัตราการครองบอล : แอตเลติโก มาดริด ครองบอล 39% แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 61%

โอกาสทำประตู : แอตเลติโก มาดริด 14 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 ครั้ง

เตะมุม : แอตเลติโก มาดริด 2 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 ครั้ง

ทำฟาวล์ : แอตเลติโก มาดริด 8 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7 ครั้ง

ล้ำหน้า : แอตเลติโก มาดริด 4 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 ครั้ง

ลิเวอร์พูล 3 – 3 เบนฟิก้า

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสนาม แอนฟิลด์ โดน “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า ยอดทีมจากโปรตุเกส ไล่เจ๊าด้วยสกอร์สุดมันส์ 3-3 แต่รวมผลสกอร์สองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยสกอร์ 6-4 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล โรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่ง แต่ก็ยังแกร่งอยู่ดียามเล่นในบ้านยิ่งเก่ง โดยเกมนี้เริ่มต้นมาไม่ทันไร เจ้าบ้านก็ครองเกมได้ทันที จนมาได้ประตูนำในนาทีที่ 21 จากลูกโหม่งจาก อิบราฮิม่า โกนาเต้ ทำให้ ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อน 1-0

แต่ทว่านาทีที่ 32 ทีมเยือนได้ประตูตีเสมอ จากลูกยิงจาก กอนคาโล่ รามอส ทำประตูอย่างสุดสวยให้ทีมเยือน เบนฟิก้า ไล่เจ๊ามาเป็น 1-1 หลังจากนั้นครึ่งแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สกอร์อยู่ที่ 1-1 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านเน้นมากขึ้นและยังครองเกมได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนทีมเยือนก็ได้สวนกลับบ้าง จนในนาทีที่ 55 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 51 จาก โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และในนาทีที่ 65 โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ก็ทำประตูที่สองของตัวเอง ทำให้ ลิเวอร์พูล ออกนำ เบนฟิก้า 3-1

ทว่าหลังจากนั้นทีมเยือนก็ยังไม่ยอมแพ้จนมาได้สองประตูรวดในช่วงท้ายเกม ในนาทีที่ 73 จาก โรมัน ยาเร็มชุค และ ดาวิน นูเนซ ในนาทีที่ 82 หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไปได้ สกอร์จบลงด้วยผล 3-3 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบรองชนะเลิศ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : 4-3-3 : อลิซอน เบ็คเกอร์ (ประตู) :โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, อิบราฮิม่า โกนาเต้, คอสตาส ซิมิกาส, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, หลุยส์ ดิอาซ, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ดิโอโก้ โชต้า

เบนฟิก้า : 4-2-3-1 : โอดิสเซอัส วลาโฮดิมอส (ประตู) : กิลแบร์โต้, นิโคลัส โอตาเมนดี้, ยาน แฟร์ต็องเก้น, อเลฮานโดร กริมัลโด้, อดีล ทารับต์, ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล, ดิโอโก้ กอนคัลเวส, กอนคาโล่ รามอส, เอเวอร์ตัน, ดาร์วิน นูเนส

สถิติเกมนี้

อัตราการครองบอล : ลิเวอร์พูล ครองบอล 67% เบนฟิก้า ครองบอล 33%

โอกาสทำประตู : ลิเวอร์พูล 17 ครั้ง = เบนฟิก้า 6 ครั้ง

เตะมุม : ลิเวอร์พูล 8 ครั้ง เบนฟิก้า 0 ครั้ง

ทำฟาวล์ : ลิเวอร์พูล 9 ครั้ง เบนฟิก้า 11 ครั้ง

ล้ำหน้า : ลิเวอร์พูล 1 ครั้ง เบนฟิก้า 5 ครั้ง

Posted in บทความฟุตบอล

จบการแข่งขันกันไปแล้ว สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีด้วยกัน 4 คู่ ซึ่งเป็นการโรมรัน ระหว่างยอดทีมจากทวีปยุโรป ซึ่งทีมงาน วิเคราะห์บอล UFA พร้อมจัดเต็มกับการ สรุปผลบอล ยูซีแอล 12 เมษายน รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง แบบจัดเต็มทุกคู่ มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

สรุปผลบอล ยูซีแอล 12 เมษายน รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง

เรอัล มาดริด 2 – 3 เชลซี

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เกือบตกรอบ เปิดสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ณ กรุงมาดริด แพ้คาบ้านให้กับ แชมป์เก่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ด้วยสกอร์ 2-3 ช่วงต่อเวลาพิเศษ แบบสุดดราม่า ยังเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4

โดยเกมนี้ เริ่มมาถึงไม่ทันไร ทีมเยือน เชลซี ก็ทำเกมได้ดีกว่า จนมาได้ประตูขึ้นนำจาก เมสัน เมาท์ มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม ซัดด้วยเท้าขวา ในนาทีที่ 15

หลังจากนั้น เจ้าบ้านยังทรงไม่ดี ยังดูตั้งเกมไม่ได้ และ กลายเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูแรกไปแล้ว ก็ยิ่งฮึกเหิม บดต่อเนื่อง แต่ครึ่งแรกก็ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม เชลซี นำไปก่อนหนึ่งลูก

ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยังไม่ทันได้ทำอะไร กลายเป็น เชลซี ที่มาได้ประตูที่ต้องการ จากการโหม่งสุดสวยจาก อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยอดกองหลังจอมถล่มประตูของทีม ในนาทีที่ 51 ทำให้ เชลซี นำ เรอัล มาดริด 2-0 แถมสกอร์รวมสองนัดกลายเป็น 3-3 ตอนนี้โอกาสเข้ารอบเปิดกว้างสำหรับสองทีม

หลังจากนั้น เชลซี บุกอย่างต่อเนื่อง และมีจังหวะที่ มาร์กอส อลอนโซ่ ทำประตูได้ แต่ถูก Var จับว่าแฮนด์บอล หลังจากนั้นทีมเยือนยังทำได้ดีกว่า แม้เจ้าบ้านจะมีโอกาส แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก และในที่สุดประตูที่ เชลซี ต้องการก็มาถึง เมื่อ ติโม แวร์เนอร์ หลุดไปทำประตูอย่างสุดสวย ในนาทีที่ 75 ทำให้ เชลซี นำห่าง 3-0

เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ เชลซี ที่สกอร์รวมนำอยู่ 4-3 แต่สุดท้าย ทีมเจ้าบ้าน เรอัล มาดริด ก็มาได้ประตูที่ต้องการ จาก โรดดริโก้ ดาวยิงตัวสำรอง ในนาทีที่ 83 ทำให้สกอร์เป็น 1-3 สกอร์รวม เป็น 4-4 เท่า เสมอกันไปต้องต่อเวลาพิเศษ

ช่วงต่อเวลาพิเศษกลายเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีขึ้น ดูเหมือนทีมเยือนจะเสียกำลังใจไปพอสมควร และในที่สุดเจ้าบ้านก็มาได้ประตูสำคัญในนาทีที่ 96 จากการโหม่งของ คาริม เบนเซม่า สกอร์อยู่ที่ 2-3 สกอร์รวมอยู่ที่ เรอัล มาดริด นำ 5-4

ช่วงเวลาหลังจากนี้ เจ้าบ้านเล่นอุ่นใจมากขึ้นและเน้นผลการแข่งขันเต็มที่ ยันรักษาสกอร์ไว้ให้ได้ ส่วนทีมเยือน เชลซี ก็พยายามแล้วพยายามเล่า แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย จบเกม กลายเป็น เรอัล มาดริด ที่แพ้ 2-3 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4 แซง เชลซี เข้ารอบได้อย่างสุดยอด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด : 4-5-1 : ติโบต์ กูร์ตัวส์ (ประตู) : ดาเนี่ยล คาร์บาฆัล, นาโช่ เฟอร์นานเดซ, ดาวิด อลาบา, แฟร็กลอง เมนดี้, เฟเดริโก้ บัลเบรเด้, ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า

เชลซี : 4-4-2 : เอดูอาร์ด เมนดี้ (ประตู) : รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มัตเตโอ โควาซิซ, เมสัน เมาท์, ไค ฮาเวิร์ตซ์, ติโม่ แวร์เนอร์

สถิติเกมนี้

อัตราการครองบอล : เรอัล มาดริด 44 เชลซี ครองบอล56%

โอกาสทำประตู : เรอัล มาดริด 10 ครั้ง เชลซี 28 ครั้ง

เตะมุม : เรอัล มาดริด 1 ครั้ง เชลซี 10 ครั้ง

ทำฟาวล์ : เรอัล มาดริด 17 ครั้ง เชลซี 20 ครั้ง

ล้ำหน้า : เชลซี 1 ครั้ง

บาเยิร์น มิวนิค 1 – 1 บียาร์เรอัล

“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดสนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ทำได้เพียงแค่เสมอกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล ทีมจากลาลีกา สเปน ด้วยสกอร์ 1-1 รวมผลสกอร์สองนัด บียาร์เรอัล ชนะ 2-1 เข้ารอบได้อย่างหักปากกาเซียนอีกครั้ง

โดยเกมนี้ บาเยิร์น มิวนิค จัดเต็ม ไล่ตั้งแต่แนวรุกนำโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โคตรกองหน้าตัวหมายระดับเบอร์ต้นๆ ของโลก นำทัพ ซึ่งตั้งแต่เริ่มเกมมา เจ้าบ้าน โหมเกมรุกบุกหนักแบบไม่มีพักไม่มีผ่อน ส่วนทีมเยือนก็เน้นขึ้นเกมกันตั้งแต่ผู้รักษาประตู ส่วนเกมรับยังเหนียวแน่นเหมือนเกมนัดแรก

ซึ่งเกมนัดนี้คล้ายกับนัดแรก แต่เจ้าบ้านก็ยิ่งเพิ่มดีกรีเกมรุกบุกใส่ต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามาำพาบอลเข้าประตูไปได้เลย ส่วนทีมเยือนเล่นอย่างชวนอึดอัด ไม่ได้ก็ไม่เสีย รอจังหวะโต้กลับ ครึ่งแรก สกอร์ยังเสมออยู่ 0-0

ครึ่งหลังเจ้าบ้านแก้เกมมาใหม่ แล้วก็มาได้ประตูที่ต้องการจนได้ในนาทีที่ 52 และไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือเจ้าเก่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซัดตุงตาข่าย สกอร์ตอนนี้ บาเยิร์น มิวนิค นำ 1-0 สกอร์รวม เสมออยู่ที่ 1-1

หลังจากนั้นเจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง แต่ทีมเยือนยังไม่เสียทรง ยังยันเอาไว้ แต่ก็เกือบจะยวบเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สุดดราม่าก็เกิดขึ้น เมื่อทีมเยือน บียาร์เรอัล ได้จังหวะสวนกลับ และกลายเป็น ซามูเอล ชุควูเซ่ ได้ยิงเต็มข้อตุงตาข่ายในนาทีที่ 89 ซึ่งเป็นนาทีบาปเหลือเกิน ทำให้ บียาร์เรอัล ตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิค เป็น 1-1

หลังจากนั้นไม่มีทีมไหนทำประตูได้ กลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค จอดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำได้เพียงแค่เสมอกับ บียาร์เรอัล 1-1 สกอร์รวม บียาร์เรอัล แซงเข้ารอบด้วยสกอร์ 2-1 แบบเหลือจะเชื่อ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

บียาร์เรอัล : 4-3-2-1 : เคโรนีโม่ รูยี่ (ประตู) : ฮวน ฟอยธ์, ราอูล อัลบิโอน, เปา ตอร์เรส, เปร์วิส เอสตูปินญาน, ดานี่ ปาเญโฆ่, ฟรานซิส ก็อกโกแลง, เอเตียน กาปู, โจวานนี่ โล เซลโซ่, อาเนาท์ ดานยูม่า, เคราร์ด โมเรโน่

บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ (ประตู) : เบ็นจาแม็ง ปาวาร์, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, ลูคัส เอร์น็องเดซ, อัลฟอนโซ่ ดาวี่ส์, จามาล มูเซียล่า, โจชัว คิมมิช, คิงสลี่ย์ โกม็อง, โธมัส มูลเลอร์, แซร์จ กนาบรี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

สถิติเกมนี้

อัตราการครองบอล : บาเยิร์น มิวนิค ครองบอล 68% บียาร์เรอัล ครองบอล 32%

โอกาสทำประตู : บาเยิร์น มิวนิค 23 ครั้ง บียาร์เรอัล 4 ครั้ง

เตะมุม : บาเยิร์น มิวนิค 6 ครั้ง บียาร์เรอัล 0 ครั้ง

ทำฟาวล์ : บาเยิร์น มิวนิค 11 ครั้ง บียาร์เรอัล 8 ครั้ง

ล้ำหน้า : บาเยิร์น มิวนิค 5 ครั้ง บียาร์เรอัล 1 ครั้ง

Posted in บทความฟุตบอล