ดาวซัลโว ยูโร 2020

ปิดฉากกันไปแล้วสำหรับรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 แม้ครั้งนี้กระแสจะเงียบเหงาไปบ้างจากสถานการณ์อันย่ำแย่ในช่วงนี้ แต่หากทัวร์นาเม้นต์รอบนี้ ยังคงความสนุกสุดมันกันอย่างเช่นเคย พร้อมกับมีการทำประตูเกิดขึ้นอย่างมากมาย วันนี้ทีมงาน ufa.soccer จะกางทำเนียบ ดาวซัลโว ยูโร 2020 ว่ามีใครกันบ้าง โดยจะนับเฉพาะนักเตะที่ยิงเกิน 3 ประตูขึ้นไป

ดาวซัลโว ยูโร 2020

3 ประตู

  • จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม

จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์แข้งใหม่ป้ายแดงของ สโมสรบาร์เซโลน่า วัย 30 ปี สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ พร้อมกับบัญชาเกมแดนกลางได้อย่างสนุกสนาน แถมยังซัดไป 3 ประตูตลอดทัวร์นาเม้นต์นี้

โดยยิงนัดที่ ฮอลแลนด์ ชนะ ยูเครน 3-2 ในรอบแรกของกลุ่มซี ต่อด้วยซัดอีก 2 ประตู ในเกมนัดที่สามของกลุ่มซี ที่ ฮอลแลนด์ เอาชนะ นอร์ธ มาเซโดเนีย 3-0

  • โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

โคตรกองหน้าวัย 32 ปี เจ้าของดาวซัลโวบุนเดสลีกา ฤดูกาลล่าสุด สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติโปแลนด์ ลุยศึกยูโร 2020 ครั้งนี้ น่าเสียดายที่เจ้าตัวลงเล่นเพียงสามนัดเท่านั้นและจอดอยู่แค่เพียงรอบแรก ฝากไว้กับผลงาน 3 ประตู

โดยประตูแรกยิงในเกมที่ โปแลนด์ เสมอกับ สเปน 1-1 ต่อมาเกมที่สอง ทำได้สองประตูในเกมที่ โปแลนด์ พ่ายให้กับ สวีเดน 2-3

  • แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก

อีกหนึ่งกำลังสำคัญของทีมชาติเดนมาร์กชุดนี้ กองหน้าของสโมสรนีซ วัย 23 ปี ดอลเบิร์ก โชว์ฟอร์มในทัวร์นาเม้นต์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นส่วนสำคัญยิ่งกับการเล่นเกมรุกของชาติ ลงสนาม 4 นัด จัดไป 3 ลูก

โดยทำได้ในเกมที่ เดนมาร์ก ชนะ เวลส์ 4-0 ซึ่ง ดอลเบิร์ก ซัดไป 2 ประตู ส่วนอีกเกมคือนัดที่ เดนมาร์ก คว่ำ สาธารณเช็ก 2-1 ยิงได้ 1 ประตู

  • อัลบาโร โมราต้า

ศูนย์หน้าทรงผมเท่ห์ วัย 28 ปีรายนี้ ยังเป็นที่ครหาของแฟนบอล อย่างไรก็ตาม ทัวร์นาเม้นต์นี้ จัดการทำประตูไปได้ 3 ประตู จากนัดที่ลงสนาม แม้ว่าสถิติจะดูไม่แย่ แต่จากโอกาสที่มี ถือว่าน่าผิดหวัง

ทำประตูได้ในเกมที่ สเปน เสมอ โปแลนด์ 1-1 ต่อมา ยิงได้ในเกมที่ เอาชนะ โครเอเชีย และ ปิดท้ายอีก 1 ประตู กับเกมที่พบกับ ทีมชาติอิตาลี ก่อนที่จะไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ

  • ฮาริส เซเฟโรวิช

ศูนย์หน้าประสบการณ์สูงวัย 29 ปี ของสโมสรเบนฟิก้า ทำผลงานได้ดีพอสมควร พาทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ไปไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจัดการยิง 3 ประตูจาก 5 นัดที่ลงสนาม

เกมแรกยิงได้ในเกมที่ สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ ตุรกี 3-1 และ เซอร์ไพรส์ในเกมที่ สวิสเซอร์แลนด์ เอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ โดย เซเฟโรวิช ยิงได้ 2 ประตูในเกมนั้น

  • เซอร์ดาน ชากีรี่

ปีกสำรองอดทนของสโมสรลิเวอร์พูล วัย 29 ปี เป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญที่ช่วยให้ สวิตเซอร์แลนด์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไปไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ชากีรี่ ลากเลื้อยและทำประตูได้ 3 ลูก

เกมแรก ที่ สวิตเซอร์แลนด์ เสมอกับ เวลส์ 1-1 เจ้าตัวแอสซิสต์ไป 1 ลูก ส่วนเกมที่ ชนะ ตุรกี ชากีรี่โชว์ฟอร์มโหด ซัดไป 2 ประตูและเกมที่พ่ายให้กับ สเปน เจ้าตัวสวมปลอกแขนกัปตันทีม ยิงได้ 1 ประตู

  • ราฮีม สเตอร์ริ่ง

ปีกซ้ายวัยจี๊ดของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ วัย 26 ปี เป็นขุมกำลังสำคัญแบบไม่เคยขาด ลงสนาม 6 นัด ยิงได้ 3 ประตู โดยเกมแรกยิงได้ในนัดที่ อังกฤษ เฉือนชนะ โครเอเชีย 1-0 ต่อมาก็ยิงประตูได้ในเกมที่ชนะ สาธารณเช็ก 1-0 โดยสองเกมแรกเจ้าตัวเป็นผู้ซัดประตูชัย ต่อมารอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็ยิงได้ ในเกมที่ชนะ เยอรมัน

และปิดท้ายกับการแอสซิสต์ 1 ลูก ในเกมที่ชนะ ยูเครน น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่สามารถช่วยชาติคว้าแชมป์ยูโรไปครอง หลังพ่ายอิตาลี

4 ประตู

  • คาริม เบนเซม่า

กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง ก็โชว์ฟอร์มได้สุดปังปุริเย่ สำหรับ เบนเซม่า โคตรกองหน้าวัย 33 ปี จากเรอัล มาดริด ระเบิดฟอร์มทัวร์นาเม้นนี้ ลงสนาม 3 นัด ยิงได้ 4 ประตู โดยทำได้ในเกมที่ ฝรั่งเศส เสมอ โปรตุเกส 2-2 เบนเซม่า กดไป 2 ตุงและอีกเกมที่พลิกล็อคพ่ายให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ ยิงได้ 2 ประตู

น่าเสียดายที่ เขาและเพื่อนๆ ไม่สามารถพา ฝรั่งเศส ไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้งที่เป็นทีมเต็งแชมป์

  • แฮร์รี่ เคน

ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด วัย 27 ปี รายนี้ รับหน้าที่สมปลอกแขนทีมชาติ พาทีมไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ไม่อาจช่วยชาติให้เป็นแชมป์ได้ ทำได้เพียงเป็นรองแชมป์อย่างน่าเจ็บปวด โดยยิงไป 4 ประตู เครื่องมาร้อนเอารอบน็อคเอ้าท์

โดยเกมแรก ยิงได้ในนัดที่ อังกฤษ ชนะ เยอรมัน 2-0 เคน ยิงได้ 1 ประตู ต่อมากับเกบ ยูเครน ทำไป 2 ประตูและนัดเจอกับ เดนมาร์ก ยิงไปได้ 1 ประตูด้วยกัน

  • โรเมลู ลูกากู

ดาวยิงจากสโมสรอินเตอร์ มิลาน วัย 28 ปีรายนี้ เขาไม่ได้มาเล่นๆ สถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว ทัวร์นาเม้นต์นี้ ทำได้ 4 ประตูจาก 5 นัดที่ลงสนาม โดยเกมแรกที่เอา เบลเยี่ยม ชนะ รัสเซีย 3-0 เจ้าตัวซัดไป 2 ลูก

ต่อมา เกมที่ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 ลูกากู ยิงไปได้ 1 ประตูและปิดท้ายในเกมที่ เบลเยี่ยม แพ้ อิตาลี 1-2 ลูกากู ซัดไป 1 ตุงด้วยกดัน

  • เอมิล ฟอร์สเบิร์ก

แข้งสารพัดประโยชน์ในเกมรุกของสโมสรแอร์เบ ไลป์ซิกและทีมชาติสวีเดน วัย 29 ปี ผู้ซึ่งเป็นเดอะแบกของเกมรุกทีมชาติอย่างแท้จริง โดยเจ้าตัว ซัดไป 4 ประตู จาก 4 นัดที่ลงสนาม ยิงได้ในนัดที่ สวีเดน เฉือนชนะ สโลวาเกีย 1-0

ต่อมาเครื่องร้อน ยิงได้ 2 ประตูในเกมที่ สวีเดน เฉือนชนะ โปแลนด์ สุดมัน 3-2 และปิดท้ายด้วยเกมที่แพ้ ยูเครน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-2 ฟอร์สเบิร์ก ยิงได้ 1 ประตู เท่ากับว่ากองหน้ารายนี้ ซัดประตูติดต่อกันสามนัด

5 ประตู

  • แพทริค ชิค

ศูนย์หน้าวัย 25 ปี ของสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นและสาธาณรัฐเช็ก ยิงได้ 5 ประตูจาก 5 นัดที่ลงสนาม ถือว่าจมูกไวและเป็นแข้งที่เซอร์ไพรส์ในการติดโผดาวซัลโวทัวร์นาเม้นต์นี้ โดย เกมที่ สาธารณรัฐเช็ก ชนะ สก็อตแลนด์ 2-0 เจ้าตัวเหมาคนเดียว

ต่อมา ซัด 1 ประตู ในเกมที่ เสมอกับ โครเอเชีย 1-1 ตามด้วยการทำเซอร์ไพรส์เอาชนะ ทีมชาติฮอลแลนด์ 2-0 โดยยิงได้ 1 ประตู ปิดท้ายกับเกมที่แพ้ เดนมาร์ก 1-2 ชิค ยิงได้ 1 ประตูด้วยกัน

  • คริสเตียโน่ โรนัลโด้

อายุ 35 ทำอะไรกองหน้าในประวัติศาสตร์รายนี้จะฟอร์มแผ่วลงได้เลยสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยกองหน้าของสโมสรยูเวนตุสและทีมชาติโปรตุเกส เป็นเดอะแบกในแผงเกมรุกของชาติ ยิงได้ 5 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จาก 4 นัดที่ลงสนาม

โดยยิง 2 ประตูในเกมที่ โปรตุเกส เอาชนะ ฮังการี 3-0 ต่อมายิง 1 จ่าย 1 ในเกมที่ โปรตุเกส พ่าย เยอรมัน 2-4 และปิดท้ายกับเกมที่เสมอกับ ฝรั่งเศส 2-2 แผงฤทธิ์จัดไป 2 ลูก น่าเสียดายที่พวกเขาจอดเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น ไม่แน่ว่า โรนัลโด้ อาจจะยิงเยอะกว่านี้ก็เป็นได้

Posted in บทความฟุตบอล


Leave a Comment:

Your email address will not be published. Required fields are marked *